เรื่องนี้เกิดขึ้นจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แจ้งกรมสรรพากรให้เรียกเก็บภาษีจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 16,000 ล้านบาท  ในฐานะที่นายทักษิณเป็นเจ้าของบริษัทชินคอร์ป จากนั้นก็เล่นแร่แปรธาตุไปยังบริษัทแอมเพิล ริช (Ample Rich) ก่อนที่จะขายหุ้นให้กับบริษัทเทมาเส็กเป็นเงิน 73,000 ล้านบาทโดยไม่เสียภาษีสักบาทให้กับประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของนายทักษิณและครอบครัว เหตุเกิดก่อนปี 2549 และอายุความจะหมดลงในวันที่ 31 มีนาคม 2560  เรื่องนี้รัฐบาลชุดปัจจุบันดำเนินการให้กรมสรรพากรจัดการแล้ว โดยที่รัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ไม่มีรัฐบาลชุดไหนลงมือทำ

ต่อมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แจ้งให้กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีนักการเมือง 60 คน ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และน.ส.ยิ่งลักษณ ชินวัตร ที่เสียภาษีไม่ถูกต้องด้วยโดยเสนอไปตั้งแต่ปี 2559 สาเหตุเพราะหลังจากตรวจสอบแล้วนักการเมืองหลายรายเมื่อเข้ามาทำงานการเมืองมีเงินเพิ่มหลายล้านบาท บางรายอาจเป็นร้อยล้าน แต่เมื่อแจ้งเสียภาษีกลับแจ้งเฉพาะเงินเดือน  ทั้งที่จริง“เงินได้”ที่เพิ่มขึ้นตัวอย่างเช่นได้มาจากเงินฝากบัญชีธนาคารก็จะต้องแจ้งส่วนที่เป็นเงินได้จาก“ดอกเบี้ย”เป็นต้น ดังนั้นการจะจัดเก็บภาษีที่ยังไม่เสียเหล่านี้ กลับทำให้ถูกมองว่าอาจส่งผลต่อการสร้างความปรองดองของรัฐบาล 

ประเด็นนี้จะต้องทำความเข้าใจกับผู้หวั่นเกรงว่าประเทศจะไม่ปรองดองเสียก่อน คนเหล่านี้จะต้องทำความเข้าใจว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมีหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน เมื่อพบว่าส่วนไหนไม่ถูกต้องจะต้องเรียกเก็บคืนเข้าแผ่นดินหรือเข้าประเทศเช่น กรณีการเสียภาษี ทุกคนจะต้องเสียแก่รัฐให้ถูกต้องและถ้าเสียอย่างถูกต้องตามอัตราที่กฎหมายกำหนดก็จะไม่มีใครมาเรียกจัดเก็บซ้ำซ้อนจากเราได้เพราะเรามีหลักฐานที่ออกให้โดยกรมสรรพากรเอง หากพบว่านักการเมือง,บริษัทธุรกิจห้างร้าน,นิติบุคคล,บุคคล ฯลฯชำระภาษีไม่ถูกต้องก็จะต้องส่งเรื่องให้กรมสรรพากรผู้มีหน้าที่จัดเก็บภาษีดำเนินการ ถ้าบุคคลถูกเรียกเก็บเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ยังมีศาลภาษีอากรให้ยื่นฟ้องร้องสู้คดีกันได้

การหวั่นเกรงว่าเมื่อเรียกเก็บภาษีนักการเมือง 60 คนจะเสียบรรยากาศของการปรองดองจึงเป็นคำถามหรือวิธีคิดที่ไม่ถูกต้อง จะนำคน 60 คนที่เสียภาษีไม่ถูกต้องมาวัดกับคน 65 ล้านคนทั้งประเทศที่เขาเสียภาษีถูกต้องได้อย่างไร เป็นธรรมหรือไม่  เราเห็นว่าคน 60 คนที่เป็นนักการเมืองนี้ตั้งใจฉ้อโกงการเสียภาษี นักการเมืองควรเป็นแบบอย่างของการสร้างความถูกต้องให้เกิดขึ้นกับประเทศ หากเป็นสมัยโบราณก็จะมีกฎหมายให้นำทั้ง 60 คน “ไปฆ่าเสียให้ตาย”

ดังนั้นก่อนตั้งคำถาม ก่อนเขียน ก่อนที่จะหวาดกลัวเรื่องการปรองดอง ควรมองว่าประเทศต้องการปฎิรูปไปด้วยในคราวเดียวกัน อะไรที่ผิดพลาดจะต้องชี้ทางแก้ไขเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับสังคมโดยรวม ไม่ใช่ทำผิดกฎหมาย แล้วจะมาขอปรองดอง แล้วจะมาขอนิรโทษกรรม แล้วจะมีกฎหมายไว้ทำไม ?

ที่มา thaitribune

Create Date : 18 มีนาคม 2560
Last Update : 18 มีนาคม 2560 10:27:24 น.		0 comments
Counter : 349 Pageviews.
Share Tweet