กรมอุตุนิยมวิทยาเผยฝนยังตกหนัก-หนักมากมีลมแรงภาคใต้ทั่วประเทศเย็นฉ่ำถึง 13 เมษายนวันสงกรานต์
กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศ ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2560 ส่วนภาคอื่นๆมีฝนบางแห่งลมแรง เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2560 กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 17 เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคใต้ ระบุว่าในวันที่ 7-8 เมษายน 2560 บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ หลังจากนั้นภาคใต้จะมีฝนลดลง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงทะเลอันดามันในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.60) ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนบนมีฝนตกหนักบางพื้นที่ พยากรณ์ระหว่างวันที่ 7 เมษายน - 13 เมษายน 2560 การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 7 - 8 เม.ย. ภาคใต้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ สำหรับบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนบริเวณประเทศไทยตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 9 - 10 เม.ย. ภาคใต้เริ่มมีฝนลดลง สำหรับประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 11 - 13 เม.ย. ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 7 - 8 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ช่วงวันที่ 11 - 13 เม.ย.ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ได้ ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 7 - 8 เม.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคใต้และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังมีฝนต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังมีฝนฟ้าคะนองได้ ในช่วงวันที่ 9 - 10 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าว รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ในช่วงวันที่ 11 - 13 เม.ย. คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 7-11 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวันกับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-41 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-13 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม. /ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 7-10 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 11-13 เม.ย. มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 7-11 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 12-13 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 7-8 และ 12-13 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 เม.ย.มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 7-8 เม.ย.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 9-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 7-9 เม.ย.มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 10-13 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 7-8 และ 12-13 เม.ย. มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 9-11 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม. /ชม. ประกาศ ณ วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.00 น. ศรีราชาอ่วม พายุฝนกระหน่ำ 2 ชั่งโมง ทำถนนหลายสายน้ำท่วมขังสูงกว่า 50 ซม. //www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000035634 ที่มา thaitribune
Create Date : 08 เมษายน 2560 |
Last Update : 8 เมษายน 2560 5:11:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 176 Pageviews. |
|
|