อดีตครูสกลนครถูกจำคุกในคดีประมาทขับรถชนคนอื่นตาย เป็นแพะรับบาปหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอก็จะรู้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวคราวของครูสาวใหญ่วัย 54 ที่กระหึ่มว่าเป็นแพะรับบาป ต้องถูกจำคุกนาน 1 ปี 6 เดือน ในข้อกล่าวหาขับขี่รถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กระทำความผิดตามที่ตำรวจได้กล่าวหา อดีตข้าราชการครู อ.โคกศรีสุพรรณ จว.สกลนคร ออกเดินสายบอกกล่าวไปทั่วว่า เพิ่งจะพ้นโทษออกมาเมื่อปี พ.ศ. 2558 ได้รับทุกข์ทรมานเป็นอันมากทั้งๆ ที่ไม่ได้กระทำความผิดแม้แต่น้อย หมายเลขทะเบียนก็คนละหมวดจังหวัด,สีรถก็คนละสี คนขับรถวันเกิดเหตุก็เป็นผู้ชายแต่มาจับผู้หญิง และวันเวลาที่เกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปเพ่นพ่านบริเวณที่เกิดเหตุ ครูคนนี้ได้ไปแจ้งความเพื่อร้องขอความเป็นธรรมทั้งให้ตำรวจได้ตรวจสอบใหม่ และก็ขอกลับเข้าไปเพื่อรับราชการครูใหม่ พอความของเรื่องนี้กระฉ่อน ครูคนนี้ก็ได้ชื่อทันทีเลยว่า "ครูแพะ" และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เงียบอยู่ไม่ได้แล้วเหมือนกัน ตำรวจท้องที่เกิดเหตุต่างรื้อหากากสำนวนการสอบสวนมาตรวจอีกครั้ง ติดตามหาตัวพนักงานสอบสวนเดิมมาซักไซร้ไล่เลียง สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบให้จเรตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ไปหาข้อเท็จจริงให้ได้ความกระจ่าง ขืนตั้งรับอย่างเดียวมีสิทธิโดนสังคมโดยเฉพาะสื่อโซเชียล มีเดีย ลงกระหน่ำโจมตีว่า จับแพะ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาบอกว่า พบพิรุธหลายประเด็น อาทิ รถคันที่เกิดเหตุ แจ้งยกเลิกทะเบียนตั้งแต่ปี 2552 แต่เพื่อนครูแพะกลับสืบพบในปี 2557 ประการต่อมาทุกครั้งที่ครูแพะเดินสายไปออกอากาศที่ใดมีลักษณะของการเตรียมการไว้ก่อนและมีคนคอยกำกับ จึงมั่นใจว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังที่จะต้องค้นหาต่อไปให้ได้ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา ตั้งข้อสังเกตกรณีครูไม่นำพยานที่ไปด้วยในวันเกิดเหตุรถชนคนเสียชีวิตมาให้การในชั้นศาลว่า เรื่องนี้ถ้าครูไม่ผิดจะเอาใจช่วยให้ชนะคดี แต่ถ้าไม่ใช่ก็ผิดหวังกับคนหลายกลุ่ม รวมทั้งคนที่ออกมาวิจารณ์กระบวนการยุติธรรมไทย ล่าสุดจเรตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเมื่อได้ตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการไปอย่างถูกต้องทั้งกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องน่าชมเชยด้วยซ้ำที่กระทำไปอย่างตรงไปตรงมา สามารถที่จะให้ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ทั้งนี้ได้บอกด้วยว่า มีความพยายามของกลุ่มบุคคลที่จะสร้างพยานขึ้น,มีการไปติดต่ออดีตวุฒิสมาชิกเพื่อให้เป็นทนายความดำเนินการ เพื่อให้เห็นว่า ตำรวจจับคนผิดไปติดคุก เพื่อให้ศาลรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ข้างฝ่ายรองปลัดกระทรวงยุติธรรมให้สัมภาษณ์หลายครั้งหลายคราวเหมือนกัน แต่มีความเห็นตรงกันข้ามว่า เมื่อได้ลงไปตรวจสอบยังพื้นที่แล้ว ได้พยานหลักฐานใหม่ทั้งที่เป็นวัตถุและที่เป็นบุคคล เพียงพอที่จะให้ศาลรื้อคดีขึ้นพิจารณาใหม่ซึ่งได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้แล้ว พร้อมทั้งบอกด้วยว่า หากศาลพิจารณาแล้วว่า"ครูแพะ" ไม่ผิด กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพก็จะได้เข้าไปเยียวยาตามระเบียลต่อไป เรื่องนี้ก็กระหึ่มกันในสังคมไทยไม่แพ้เรื่องทุจริตสมัครสอบนายสิบตำรวจที่กำลังทยอยให้ศาลออกหมายจับ "ครูแพะ" ที่พ้นคุกและพ้นทุกข์มาไม่นาน ย่อมมีสิทธิตามกฏหมายการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ ที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2526. เพื่อให้บุคคลผู้ต้องรับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุด มีสิทธิขอรื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่ในภายหลัง หากปรากฏหลักฐานขึ้นใหม่ว่าบุคคลนั้นมิได้เป็นผู้กระทำความผิด อีกทั้งยังกำหนดให้มีสิทธิที่จะได้รับค่าทดแทน และได้รับบรรดาสิทธิที่เสียไปเพราะผลแห่งคำพิพากษานั้นคืน หากปรากฏตามคำพิพากษาของศาลที่พิจารณาคดีที่รื้อฟื้นขึ้นพิจารณาใหม่ว่าบุคคลผู้นั้นมิได้กระทำความผิด สังคมก็ต้องอดใจรออีกนิดเดียวว่า ผลสุดท้ายครูคนนี้ จะเป็นแพะตามที่เล่าลือกันหรือมีการสร้างเรื่องเพื่อให้เห็นกันว่าเป็นแพะ เรื่องนี้ คงไม่ได้จบแต่เพียงว่าครูคนนี้เป็นแพะหรือไม่เป็นแพะ แต่คงไปกระทบกับความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมชั้นต้น ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ยืนยันอย่างมั่นคง ว่าพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการไปอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ในขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ยืนยันหนักแน่นว่า พยานหลักฐานใหม่ที่จะพิสูจน์นั้นเพียงพอที่ จะระบุว่าครูคนนี้ไม่ได้กระทำความผิด ที่มา thaitribune
Create Date : 22 มกราคม 2560 | | |
Last Update : 22 มกราคม 2560 18:21:51 น. |
Counter : 268 Pageviews. |
| |
|
|
|