จักรยานปฏิวัติเมือง รวมเรื่องของทางจักรยานและการออกแบบเมือง

ขนส่งมวลชนแบบพอเพียง2






 

Create Date : 10 สิงหาคม 2551   
Last Update : 10 สิงหาคม 2551 1:07:08 น.   
Counter : 1021 Pageviews.  

ขนส่งมวลชนแบบพอเพียง

มีโครงการขนส่งมวลชนพอเพียงแบบไทยๆมาให้เพื่อนๆได้รู้จักกันครับผม








 

Create Date : 10 สิงหาคม 2551   
Last Update : 10 สิงหาคม 2551 1:02:37 น.   
Counter : 979 Pageviews.  

ปั่นไปเที่ยวป้อมอันผิง2




บันไดสำหรับขึ้นไปดูวิวด้านบนของป้อมอันผิงครับ เดินขึ้นซะเมื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน



บันไดจากในภาพแรกอยู่ในหอคอยตัวนี้แหละครับ ยังไงก็มาถึงแล้วขอขึ้นไปเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตละกันถึงเพื่อนๆจะบอกว่ามันไม่ค่อยมีอะไรให้ดูหรอก



ห้องน้ำในบริเวณป้อมครับ ถ่ายมาให้ดูเล่นๆ เค้าทำรูปทรงอาคารให้ใกล้เคียงกับรูปทรงอาคารทั่วไปของบริเวณนี้ แต่โลโกมันดูแบ่งแยกกันเกินไปนะผมว่า(แบบว่าคิดมาก) ผู้หญิงซ้าย ผู้ชายขวา ผู้หญิงมาจากโลกพระจันทร์ ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ไรงี้ แต่สุดท้ายก็คือผู้หญิงผู้ชาย พระเจ้าก็สร้างให้มาคู่กัน จะได้ร่วมกันสร้างโลกให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน(ว่าไปนั่น)



จักรยานคู่ใจครับ จ่ายเป็นเงินไต้หวันไปสี่พันแปดร้อยเหรียญจึงได้คันนี้มา เมื่อวานก่อนตื่นขึ้นมาไม่เห็นมัน....ใจหายเลย(ปนดีใจลึกๆ...แบบว่าได้ซื้อของใหม่อีกแล้ว) ที่ไหนได้เพื่อนแอบเอาไปขี่แล้วไม่มาจอดที่เก่า (มันน่าฆ่าทิ้งนะครับ)



อันนี้เป็นที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งอยู่ต่อมาจากป้อมอันผิง พอดีว่ามาถึงตอนเย็นๆแล้วเลยไม่ได้เข้าไปดู ได้แต่ถ่ายภาพจากข้างนอกเพราะเห็นว่าเค้าให้สีอาคารได้แสบสันต์ดี


href="//www.bloggang.com/data/bicyclecity/picture/1207463478.jpg" target=_blank>


ซุ้มทางเข้าด้านหน้าออกแบบได้สวยดี เป็นทั้งที่เก็บตังค์เป็นทั้งที่นั่งพักรอ



ข้างๆเค้ามีบึงริมทะเลที่เป็นที่อยู่อาศัยของพวกนกน้ำ เค้าก็เลยทำเป็นทางจักรยานรอบๆบึง ไว้สำหรับให้คนมาขี่จักรยานดูนก รวมทั้งให้คนที่อยู่ในบริเวณนี้ใช้เป็นที่ออกกำลัง เอาไว้วิ่งออกกำลังตอนเช้าตอนเย็น






มีถนนเข้ามาถึงพืนที่แต่เป็นถนนปลายตัน แล้วก็ทำเป็นทางสำหรับมอเตอร์ไซด์ให้อยู่ด้านล่าง ทางสำหรับจักรยานและคนเดินเท้าให้อยู่ริมบึงเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวนนก








ได้เห็นทั้งป้อม ทั้งนก ทั้งทะเล แล้วก็เดินทางกลับครับ ระหว่างเดินทางกลับก็ใช้ทางจักรยานริมแม่น้ำของเค้านั่นแหละ พอดีว่าเป็นช่วงค่ำแล้วถ่ายภาพจะไม่เห็นรายละเอียดมาก ก็เอามาให้ดูแค่บรรยากาศแล้วกัน แล้วโอกาสหน้าผมจะเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดของทางจักรยานริมแม่น้ำเส้นนี้





 

Create Date : 06 เมษายน 2551   
Last Update : 6 เมษายน 2551 13:53:58 น.   
Counter : 1257 Pageviews.  

ปั่นไปเที่ยวป้อมอันผิง

ป้อมอันผิง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเมืองไทหนานประเทศไต้หวัน วันนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวด้วยจักรยานเพื่อทดสอบเส้นทางจักรยานของประเทศไต้หวันกัน


ที่ไต้หวันนี่เค้าขับรถชิดขวากันครับ ต่างจากบ้านเราที่ชิดซ้าย และถนนของเค้าก็ลำดับการจัดการคือจากด้านขวามือมาจะเป็นที่จอดรถ แล้วก็เป็นเลนของรถที่วิ่งช้าก็คือรถจักรยานและมอเตอร์ไซด์ ต่อมาถึงเป็นรถยนต์ครับ นี่เป็นมาตรฐานในทุกๆถนนไป ส่วนจะมีขนาดใหญ่ เล็กแตกต่างกันไปในรายละเอียด เช่นถ้าเป็นถนนขนาดเล็กก็จะมีแค่เลนรถยนต์อยู่ซ้ายสุด เลนมอเตอร์ไซด์กับจักรยานอยู่รวมกัน แล้วก็เป็นที่จอดรถอยู่ติดกับอาคารด้านขวาสุดของถนน ถ้าเป็นถนนใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะมีเลนจักรยานแยกต่างหากจากมอเตอร์ไซด์ครับ



ที่พื้นถนนก็จะมีข้อความและสัญลักษณ์บอกไว้อย่างชัดเจน ถนนที่นี่มีการจัดการเรื่องสัญลักษณ์จราจรอย่างครอบคลุม คือทุกจุดที่เป็นทางแยกทางข้ามต้องมีทางม้าลายกำกับไว้หมด ตรงไหนเป็นสัญญาณไฟจราจรก็ต้องมีสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามถนนประกอบไว้ด้วย บริเวณที่จอดรถริมถนนก็จะมีการปลูกต้นไม้ไว้บนผิวถนนเลย เพื่อเป็นร่มเงาให้กับรถที่จอดและกำหนดขอบเขตของที่จอดรถให้เห็นได้ชัดเจน


แต่บางครั้งคนขับรถยนต์ก็ไม่เคยคิดถึงคนใช้พาหนะอื่นอย่างภาพนี้ที่เค้ามีที่จอดไว้ให้แต่พี่แกก็จอดซ้อนคันเสียอย่างนั้น กลายเป็นภาระของคนขี่จักรยานที่ต้องเลี่ยงไปเสี่ยงชีวิตกับรถเลนในที่ใช้ความเร็ว



มาถึงแล้วครับป้อมอันผิง เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ ในสมัยโบราณใช้เป็นที่สำหรับป้องกันการบุกรุกจากข้าศึกที่จะเข้ามารุกรานในสมัยทีฮอลันดาครอบครองพื้นที่ตรงนี้ อาศัยความเป็นนักศึกษาครับพอแสดงบัตรนักศึกษาเค้าก็ให้เราเข้าฟรีเลย





ปืนใหญ่ของป้อม จำลองให้เห็นว่าวางในตำแหน่งเดิมสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวใครผ่านมาก็ชอบถ่ายภาพกับปืนใหญ่อันนี้


มองลงไปจากบริเวณด้านบนของป้อมเห็นอนุสาวรีย์ของเจิ้งเฉิงกง ผู้ปกครองเกาะไต้หวันสมัยโบราณ เป็นผู้ขับไล่ฮอลันดาออกไปแล้วสถาปนาตัวเองเป็นผู้ปกครองเกาะนี้แทน



ด้านในป้อมก็จะมีการจัดแสดง อาวุธ ของฮอลันดา และอาวุธของจีน แล้วก็ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความเป็นมาของป้อม สองภาพนี้เป็นตัวอย่างการจัดแสดงครับ


เนื่องจากเดินทางมาถึงนี่ก็ประมาณสี่โมงกว่าแล้วครับ เดินได้ไม่นานก็ทำท่าว่าจะมืด ที่นี่สักห้าโมงกว่าๆก็ฟ้ามืดแล้ว ภาพที่ได้เลยไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร ก็ถ่ายให้มันเป็นมืดๆซะเลย มีนกบินมาช่วยให้ภาพนี้ดูสมบูรณ์ ขึ้นในการแสดงเรื่องราวว่าเป็นยามเย็นย่ำจวนค่ำแล้ว เอ แต่ผมว่าดูๆให้เป็นตอนกำลังจะเช้าก็ได้เหมือนกันนา แล้วแต่ใครจะจินตนาการแล้วกันครับ




 

Create Date : 04 เมษายน 2551   
Last Update : 4 เมษายน 2551 1:25:28 น.   
Counter : 2967 Pageviews.  

เมืองจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว6









มีสะพานข้ามแม่น้ำที่เป็นทางรถไฟเก่าที่ถูกยกเลิก ก็ถูกปรับปรุงให้เป็นทางจักรยานเสีย พอดีต่อจากสะพานก็เป็นอุโมงค์ยาวลอดผ่านภูเขาอีก จุดนี้เลยเป็นเหมือนไฮไลท์ของเส้นทาง เวลาปั่นผ่านพื้นที่ตรงนี้ต้องมีการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันจนบางครั้งมีคนขี่กันเยอะจักรยานก็ติดยังกะรถยนต์ในกรุงเทพฯ




ด้านในอุโมงค์ก็จะมีการใส่ภาพเก่าสมัยเริ่มก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ให้ดูด้วย แต่ก็ไม่เห็นมีใครหยุดดูกันสักเท่าไร อาจเป็นเพราะว่ามีคนปั่นตามหลังมาเยอะแล้วก็ในอุโมงค์มันแคบ ถ้าหยุดก็กลายเป็นภาระคนอื่นต้องชะลอรถจักรยานให้ เลยไม่มีใครหยุดดูกัน


หลังจากปั่นจักรยานท่องเที่ยวจนพอจะครบเกือบทั้งพื้นที่ของเค้าแล้วก็ได้ข้อสรุปว่า เค้าช่างมีไอเดียในการจัดการแหล่งท่องเที่ยวคือรู้จักสร้างกิจกรรมให้มันเกิดทำให้นักท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ได้นานขึ้น(อย่างน้อยก็ต้องเป็นวันละครับกว่าจะปั่นไปได้ทุกจุด) สิ่งที่น่าชมเชยก็คือการรู้จักใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ไร้ประโยชน์เช่นทางรถไฟเก่าที่ร้างไปแล้วแต่เค้าสามารถเอามาปรับปรุงเป็นเส้นทางจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวได้ ตรงไหนที่มันยังไม่น่าสนใจพอก็หาวิธีออกแบบเพิ่มคุณค่าให้มันเกิดความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่คิดว่าเป็นรองบ้านเราอยู่หลายขุมก็คือบรรดาทิวทัศน์และวิถีชีวิตตลอดสองข้างของเส้นทางนั้น บ้านเราดูเป็นธรรมชาติมากกว่าและวิถึชีวิตในชนบทของบ้านเราก็ดูมีเสน่ห์มากกว่า

แต่สิ่งที่เราขาดก็คือ ระบบการจัดการ และวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเหมือนดังเช่นเค้า หลายท้องถิ่นในบ้านเรานั้นมีเรื่องราว มีทิวทัศน์ที่น่าสนใจกว่าเค้าเยอะแต่ว่าเราไม่เคยคิดถึงเรื่องเส้นทางจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวเลย ท้องถิ่นส่วนใหญ่มักจะมองว่าทางจักรยานนั้นเป็นเรื่องเกินความจำเป็น มักจะมุ่งพัฒนาแต่เรื่องเส้นทางถนน กว่าจะรู้ว่าถนนนั้นมันคือฆาตกรฆ่าวิถีชีวิตของชุมชนก็สายไปแล้ว เรียกวิถีชีวิตเดิมกลับมาไม่ได้ บางท้องถิ่นมุ่งแต่จะพัฒนาให้ถนนทุกสายในท้องถิ่นเค้าเป็นถนนคอนกรีตหรือถนนลาดยางให้ครอบคลุมทั้งพื่้นที่ ด้วยเหตุผลว่านั่นคือการแสดงให้เห็นว่าท้องถิ่นมีการพัฒนา แต่สิ่งที่ได้มาจากการมีถนนก็คือชาวบ้านที่ทุกวันไม่เคยเดือดร้อนหรือต้องการอะไรเพิ่มกลับเกิดความอยากมีรถมอเตอร์ไซด์มีรถยนต์กันขึ้นมา แล้วก็มีกันได้ง่ายๆเสียด้วย แต่ต้องแลกมาด้วยรายจ่ายเป็นค่าผ่อนส่ง ค่าน้ำมันในแต่ละเดือน(แต่รายได้ยังเท่าเดิม)

หากอบต.บ้านเรารู้จักนำแนวคิดเส้นทางจักรยานไปใช้พัฒนาพื้นที่บ้างจะช่วยให้สวัสดิการในชีวิตของชาวบ้านดีขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาระบบรถยนต์จนเกินตัวเช่นทุกวันนี้ ถนนสายสำคัญในท้องถิ่นก็ควรจะปรับปรุงให้รถยนต์เดินทางได้สะดวก แต่ก็ต้องมีการจัดพื้นที่สำหรับจักรยานให้ชาวบ้าน(ที่ไม่มีตังค์ซื้อรถยนต์)แยกออกจากแนวถนนลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยเดิม(เพราะจักรยานไม่ต้องการถนนกว้าง)ทำให้สัญจรหากันได้ง่ายและนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นๆได้ง่ายกว่าด้วย อาจจะนำมาทำเป็นเส้นทางจักรยานท่องเที่ยวอย่างเค้าก็ได้ เป็นการเพิ่มมูลค่า และสร้างโอกาสให้ประชากรในท้องถิ่นมีหนทางหารายได้เพิ่มขึ้น


นาข้าวแบบนี้ บ้านเราก็มี แถมมโหราฬอลังการกว่าเยอะ



ถ้าบ้านเรามีทางจักรยานอย่างนี้มั่ง พวกบรรดาร้านค้าเหล่านี้ก็จะเป็นที่ที่ชาวบ้านได้มาค้าขายหารายได้เพิ่มจากการทำงานภาคเกษตร ของอย่างนี้มันอยู่ที่วิสัยทัศน์ของผู้บริหารท้องถิ่น หากรู้จักแต่ก่อสร้างอาคารกับทำถนนชาวบ้านก็ยากจนกันต่อไป



ถนนแอสฟัลท์เล็กๆแคบๆอย่างนี้ ถามว่าผู้รับเหมาบ้านเราทำได้หรือเปล่า รับรองไม่ว่าอบต.ไหนก็มีผู้รับเหมาทำให้ได้ทั้งนั้นแหละ แถมยังถูกเงินกว่าถนนสำหรับรถยนต์อีกด้วยซ้ำเพราะไม่ได้รับน้ำหนักอะไรมากมาย


นอกจากจะเป็นที่ขี่จักรยานของเด็กโตกับผู้ใหญ่แล้ว เด็กๆเล็กๆอย่างนี้ก็พลอยได้ประโยชน์กะเค้าไปด้วย ถือโอกาสวิ่งเล่นตามแนวเส้นทางเสียเลย แม่ก็คอยวิ่งตามระวังไป





ตรงไหนที่เป็นถนนสำหรับรถยนต์หรือที่จอดรถบัสนักท่องเที่ยวก็จะมีอาสาสมัครคอยจัดระบบการจราจร (คนที่ใส่เสื้อกั้กสีส้มในภาพนั่นแหละครับ)ดูแลความปลอดภัยให้ในทุกจุดที่มีทางแยกทางข้าม นี่คือการจัดการที่เรายังไม่มี แต่ก็ไม่เกินความสามารถของท้องถิ่นไทยหากจะตั้งใจทำเสียอย่าง




บรรดาเสือฮาร์ดคอร์ทั้งหลายที่ไม่สบายใจหากจะต้องใช้จักรยานเช่า ก็เอามาเองได้จะขี่มาจากบ้าน หรือใส่รถยนต์มาเค้าก็ทำลานจอดรถเอาไว้ให้ ลานจอดรถอย่างนี้ดูซิว่ามันมีอะไรพิเศษกว่าหรือต้องใช้เทคนิคพิเศษตรงไหน ทำไมเราจะทำไม่ได้

ผู้บริหารท้องถิ่นท่านใดหลงทางเข้ามาอ่านบล๊อคนี้ แล้วเกิดไอเดียอยากจะทำ ก็ต้องขอร้องท่านไว้เป็นเบื้องต้นเสียก่อนว่า ท่านอย่าได้ไปออกแบบเองนะครับ ให้ปรึกษาผู้รู้ด้วย ไม่ใช่ท่านนึกอยากได้ตรงไหนท่านก็กำหนดด้วยความคิดท่านไปเลย(ถึงท่านจะเป็นนายกเทศมนตรีหรือนายกอบต. ท่านก็ไม่รู้ไปทุกเรื่องหรอกครับ) สถาปนิก ภูมิสถาปนิก มีอยู่ทั่วไปครับ ใช้งานเค้าเหล่านั้นเถิด อาจจะเสียเวลาเพิ่มค่าใช้จ่าย ในช่วงออกแบบ ช่วงเตรียมการ แต่มันก็ช่วยให้ท่านประหยัดงบประมาณที่จะเกิดจากการทำไปทุบไป(หากท่านเล่นออกแบบเสียเอง)ได้มากโข




 

Create Date : 02 เมษายน 2551   
Last Update : 2 เมษายน 2551 21:26:13 น.   
Counter : 1858 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

bicycleman
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




บุคคลหนึ่งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร วันหนึ่งค้นพบว่าเรากำลังตกอยู่ในอิทธิพลของเจ้าเครื่องจักรบริโภคน้ำมันที่ชื่อว่ารถยนต์ จนหลงลืมทำลายเมืองและวิถีวัฒนธรรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้มัน ตั้งแต่นั้นก็มุ่งมั่นที่จะปฏิวัติเมืองด้วยจักรยาน จึงสร้างบล็อคนี้มาเพื่อหาแนวร่วม
[Add bicycleman's blog to your web]