|
|
เนเธอร์แลนด์ แดนสวรรค์ของจักรยาน ตอนที่ 1
เคยอ่านแต่ในเว็บ ในหนังสือ ในตำรา ว่าประเทศเนเธอร์แลนด์นั้น เป็นประเทศที่มีจักรยานจำนวนเท่าๆกับประชากร เป็นประเทศที่มีทางจักรยานที่ถือว่าสวยที่สุด เป็นประเทศที่ผู้คนนิยมที่จะขี่จักรยานมากกว่ารถยนต์ เป็นประเทศที่มีนโยบายการพัฒนาด้วยการทำให้รถยนต์ใช้งานสะดวกน้อยกว่าจักรยานและค่าใช้จ่ายก็สูงกว่าเพื่อคนจะได้ใช้จักรยานกันเยอะๆ
แล้วในที่สุดผมก็ได้มาเห็นกับตาตัวเองในแบบสามมิติ ได้ยินเสียง ได้กลิ่นของเมือง ไม่ใช่แค่อย่างที่เห็น หรือรับรู้เพียงแค่ภาพจำลองผ่านเทคโนโลยี โอ้ สวรรค์ ที่นี่มันช่างเป็นสุขาวดีสำหรับคนขี่จักรยานจริงๆ มองไปทางไหนก็มีแต่การอำนวยความสะดวกให้คนขี่จักรยานทั่วไปหมด
อยู่เมืองไทยจักรยานที่มีกระเป๋าใส่สัมภาระข้างหลังอย่างนี้เป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะหาเจอได้ง่ายนัก แต่สำหรับบ้านนี้เมืองนี้แล้ว นี่คือภาพที่คุ้นตา และไม่ต้องใช้ความพยายามในการมองหาแต่อย่างใด ที่ไหนๆก็มีอยู่ทั่วไปหมด
นอกจากระบบขนส่งสาธารณะที่ดีเลิศแล้ว ประเทศนี้เค้ายังจัดลำดับให้คนขี่จักรยานเป็นการเดินทางที่สำคัญเป็นอันดับสองรองลงมาจากการเดินเท้าที่เค้าจะต้องอำนวยความสะดวกให้มากที่สุด ดังนั้นไม่ว่าจะมองไปทางใดเราจะได้เห็นสภาพแวดล้อมของเมืองที่เอื้อต่อการเดินเท้า และขี่จักรยานเป็นอย่างมาก ใครที่เป็นคนชอบขี่จักรยานถ้าได้มาเหยียบที่ประเทศนี้แล้วรับรองว่ากว่าจะสะกดใจห้ามไม่ให้เคลิ้มไปกับบรรยากาศจนอยากจะขี่จักรยานนั้น ช่างแสนลำบากนัก
แต่หากลองสังเกตุดูบรรดาจักรยานของเค้าที่จอดเรียงรายมหาศาลตามด้านข้างของเส้นทางนั้น เราจะเห็นว่าจักรยานแต่ละคันนั้นไม่ใช่แบบกระป่อง บุโรทั่ง ราคาถูกอย่างที่พบได้ทั่วไป แต่มันเป็นจักรยานแบบมีสกุลรุนชาติเลยทีเดียว เป็นจักรยานที่เมื่อขึ้นไปขี่แล้วคนขี่ดุมีสง่าราศรีจริงๆ (อาจจะเป็นเพราะมันคันใหญ่ก็ได้)
เมกะโปรเจ็คของประเทศเล็กๆแต่ร่ำรวยและมีสติปัญญาประเทศนี้ครับ ลองดูในรายละเอียดดีๆนะครับ จะเห็นว่ามันคือที่จอดจักรยานใต้ดินครับ สร้างชนาดใหญ่โตมาก(คิดดูเถิดว่าจะรองรับจักรยานมากมายเพียงใด) เค้าเอามาโชว์ไว้บริเวณสถานที่ก่อสร้างอย่างภาคภูมิใจครับ แตกต่างกับโคราชบ้านผมเสียเหลือเกิน ที่กำลังถกเถียงกันเรื่องอุโมงค์ทางลอดสำหรับรถยนต์ ที่อยู่ดีๆกรมทางหลวงท่านก็กรุณาเอามายัดใส่มือชาวโคราช(โดยที่ไม่มีใครไปเรียกร้องให้ท่านเอามาเลย)ในงบประมาณสี่ร้อยล้านบาท เพื่อทำให้รถยนต์ที่ผ่านเมืองโคราชวันละกว่าแสนคันได้เดินทางสะดวก(คนโคราชจะข้ามถนนแล้วโดนรถชนตาย..ช่างหัวมัน...เสือกจนเอง)
ฝ่ายที่อยากได้ก็บอกว่าถ้ามีมันโคราชบ้านเราจะดูทันสมัยเหมือนกทม. เชียงใหม่ ขอนแก่นที่เค้ามีกันแล้ว ถ้าใครไม่เอาโครงการนี้พวกนั้นก็ไม่รักโคราช ฝ่ายที่ไม่อยากได้ก็บอกว่าเอามันมาแล้วชาวบ้านร้านช่องที่เคยอยู่ริมถนนเดิมเค้าจะอยู่กันอย่างไรหากรถยนต์มันวิ่งได้ไหลลื่นตลอดแนวหน้าบ้านเค้า แล้วใครจะมาจับจ่ายซื้อของ ผู้คนกลายเป็นแตกเป็นสองฝ่าย
แต่หากพินิจพิจารณาให้ดีจะเห็นประเด็นว่า คนที่ใช้รถยนต์และไม่มีส่วนในความเดือนร้อน(คือคนที่อยู่นอกพื้นที่)ก็จะยินดีไปกับโครงการนี้ โดยไม่ได้นึกพิจารณาว่า การเอาอุโมงค์ลอดของรถยนต์มาใส่ไว้กลางเมืองนั้น มันก็คือการฆาตกรรมวิถีชีวิตเดิมของเมืองนั่นเอง....เฮ้ออออ
เทคโนโลยีน่ะ ต่อให้มันซับซ้อนหรือว่าแพงอย่างไร มีเงินก็ซื้อหามาได้ แต่สติปัญญา ความระลึกรู้ถึงปัญหาร่วมกันของชาวเมืองนี่...........มันต้องให้การศึกษาสถานเดียวครับ
ว่าเรื่องเนเธอร์แลนด์อยู่ดีๆ ถเลไปถึงโคราชได้อย่างไรนี่ แต่เอาไว้มีโอกาสผมจะชำแหละเจ้าโครงการอุโมงค์ทางลอดของโคราชฝากไว้ในบล๊อคนี้ให้คนได้รู้เท่าทันกับเล่ห์กลของเจ้าชนเผ่านิยมรถยนต์กันสักหน่อย
สาระพัดรูปแบบของที่จอดจักรยานครับ ที่จอดจักรยานเหล่านี้จะอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟมากๆ เพียงแค่เดินไม่กี่ก้าวก็ไปถึงได้ เรียกว่าอำนวยความสะดวกให้คนขี่จักรยานมาใช้รถไฟได้แบบสุดๆ ส่วนใครมี่เอารถยนต์มาก็ไปหาที่จอดอื่น ที่อาจจะอยู่ไกลออกไป อย่างที่บอกล่ะครับประเทศนี้เค้าถือว่าถ้าหากคุณมีเงินมากพอที่จะเอาไปซื้อรถยนต์ คุณก็ต้องรับภาระในเรื่องของที่จอดที่อาจจะอยู่ไกลจากขนส่งสาธารณะ ค่าจอดรถที่แพงพอสมควร เส้นทางที่วกวนกว่าจักรยานกว่าจะถึงที่หมาย เพราะเค้ามีทางจักรยานและขนส่งสาธารณะที่ดีสะดวกให้แล้ว คุณไม่เลือกเอง ในขณะที่คนส่วนใหญ่เค้าเลือกจักรยาน ดังนั้นเมืองเค้าก็จะอำนวยความสะดวกให้เฉพาะคนส่วนใหญ่ ว่ากันว่าควีนส์ของประเทศนี้ยังใช้จักรยานในการเดินทางเลยครับ
ที่จอดจักรยานแบบไฮโซครับ ก็อยู่ใกล้ๆกันกับบรรดารูปภาพก่อนๆนั่นแหละครับ แต่เจ้าตัวนี้มันมีระบบควบคุมแบบไฮเทค ใช้ระบบรหัสดิจิตัลในการเปิดปิด โห...ไฮโซสุดๆ เข้าใจว่ามันจะเป็นจักรยานระบบเช่านะครับ
นี่สำหรับบรรดาจักรยานที่จอดเฉพาะตอนเช้า แล้วเจ้าของมาขี่กลับในตอนเย็นหลังเลิกงาน ส่วนใหญ่ก็คือจักรยานของผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้ เรียกว่าจะทำงานอยู่ไกลแค่ไหนก็แค่ขี่จักรยานมาถึงสถานีรถไฟแล้วนั่งรถไฟไปที่ทำงาน เย็นก็กลับมาตามเส้นทางเดิม ขี่จักรยานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียเงินไปผ่อนรถยนต์ไว้เดินทาง มีเงินเก็บเอามาผ่อนบ้านอยู่ได้ ถ้าบ้านเมืองเรานักเลือกตั้งเห็นแก่ตัวน้อยกว่านี้หน่อย และมีสติปัญญาพอสู้กับสากลเค้าได้สักนิด พวกเราหลายคนก็คงไม่ต้องมีรถยนต์ด้วยความจำเป็นในการเดินทางบังคับเช่นนี้กันหรอกครับ
Create Date : 06 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 11:06:24 น. |
|
8 comments
|
Counter : 3768 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ลัคกี้ เหมียว (dev_ex ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2552 เวลา:11:27:27 น. |
|
|
|
โดย: พูล bkbike.com IP: 222.123.71.200 วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:57:01 น. |
|
|
|
โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:29:00 น. |
|
|
|
โดย: อารีรัตน์ IP: 118.172.198.132 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:18:46:19 น. |
|
|
|
โดย: .. IP: 77.249.235.5 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:41:53 น. |
|
|
|
โดย: แม่บ้านฮอลแลนด์ IP: 87.208.13.219 วันที่: 22 ตุลาคม 2553 เวลา:16:29:32 น. |
|
|
|
| |
|
|
bicycleman |
|
|
|
Location :
นครราชสีมา Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]
|
บุคคลหนึ่งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร วันหนึ่งค้นพบว่าเรากำลังตกอยู่ในอิทธิพลของเจ้าเครื่องจักรบริโภคน้ำมันที่ชื่อว่ารถยนต์ จนหลงลืมทำลายเมืองและวิถีวัฒนธรรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้มัน ตั้งแต่นั้นก็มุ่งมั่นที่จะปฏิวัติเมืองด้วยจักรยาน จึงสร้างบล็อคนี้มาเพื่อหาแนวร่วม
|
|
|
... ของผมหายไป 2 คันแล้ว ใช้โซ่อย่างใหญ่ กุญแจ Solo อย่างดี มันก็เอาไปได้ ทิ้งเศษโซ่กับกุญแจไว้เป็นของที่ระลึก