จักรยานปฏิวัติเมือง รวมเรื่องของทางจักรยานและการออกแบบเมือง

ความเข้าใจทำไมน้ำท่วมโคราช

ทำไมน้ำท่วมโคราช


ภาพ : Djjeapzy Happytime



ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ  ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหลาย ทั้งพ่อค้าแม่ขายที่saveone ทั้งคนทำงานที่รถติดแหง่กอยู่บนถนนในหลายพื้นที่  ในกระแสโซเชี่ยลก็เพลิดเพลินกับการกระหน่ำแชร์รูปภาพน้ำท่วมในที่ต่างๆ แล้วมโนกันไปตามใจฉันว่ามันเพราะอะไรน้ำถึงได้ท่วมโคราชง่ายดายปานฉะนี้

และแน่นอน จำเลยที่หนึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเทศบาลนครในฐานะผู้รับผิดขอบโดยตรง หลากหลายข้อความตามอารมณ์เมามันแล้วแต่จะเสกสรรค์ว่าเทศบาลนั้นไร้สมรรถภาพ และทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด  แต่ในขณะที่ผู้รู้หน้าคีย์บอร์ดเหล่านั้นพิมพ์ถ้อยคำลงไปแล้วรอดูว่าใครจะมาlikeกันกี่มากน้อย บุคลากรทั้งหลายของเทศบาลก็วิ่งวุ่น อลหม่านอยู่กับการแก้ปัญหาให้ทุเลา ทำในทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างที่ใครก็คงไม่อยากมาลงมือทำหากว่ามันไม่ใช่"หน้าที่"ที่ต้องรับผิดชอบ

ในเวลาที่มีปัญหามาสู่เมือง สิ่งสำคัญที่ทุกคนในเมืองต้องกระทำเป็นเบื้องแรกคือเราต้องเข้าใจในบทบาทของคนที่เขารับผิดชอบและต้องมีกำลังใจให้คนเหล่านั้นเขาผจญกับปัญหาให้ลุล่วงผ่านไปให้ได้(แม้จะทำไม่ทันใจคนอยากได้ไปบ้างก็ตาม) ไม่ใช่การตำหนิติเตียนว่าโน่นนี่จนคนทำงานหมดกำลังใจ และที่สำคัญเราต้องตอบตัวเราเองให้ได้ด้วยว่า ตัวเรานั้นมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาที่ว่านั้นหรือไม่ หรือว่าเราเป็นผู้เพิ่มปัญหานั้นให้มันซับซ้อนขึ้นเสียเอง  หากเป็นกรณีหลังนั่นหมายความว่าเราคือพลเมืองที่เป็นภาระของเมืองอย่างแท้จริง



ภาพ : อภินันท์  สีม่วงงาม

ลองมาทำความเข้าใจกันดูหน่อยไหมว่าทำไม เมืองโคราช จึงถูกน้ำท่วมได้ง่ายดายหนักหนา ภาพที่ท่านเห็นนี้คือเมืองโคราชในมุมสูง เส้นสีเหลืองที่เห็นในภาพคือแนวเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เส้นสีขาวทั้งหลายคือถนน ตรอก ซอย ที่เกิดจากการพัฒนาบ้านเมือง(สังเกตได้ว่ามันจะมีความถี่มากในเขตเทศบาลเพราะบ้านเมืองตั้งถิ่นฐานหนาแน่น) เส้นสีแดงคือแขนงของร่องน้ำและลำคลองที่มีอยู่ในพื้นที่ ส่วนเส้นสีดำคือระดับความสูงของพื้นที่ต่างกันในแต่ละเส้นๆละ 5 เมตร

เมื่อเห็นภาพนี้และเข้าใจความหมายของแต่ละเส้นที่ปรากฎในภาพ เราจะรู้ได้ทันทีว่าเหตุที่น้ำท่วมโคราชนั้น มันเป็นเพราะการพัฒนาที่ผิดที่ผิดทาง ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจในลักษณะของพื้นที่และความเป็นไปของธรรมชาติในพื้นที่เลย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ผูกพันเกี่ยวเนื่องมายาวนานตั้งแต่สมัยก่อน ปรากฎเป็นภาระลำบากของเมืองขึ้นเรื่อยๆในยุคต่อๆมา และในยุคของเราหากทุกคนยังไม่พยายามเข้าใจถึงต้นเหตุแล้วคิดแก้ปัญหากันไปตามใจอย่างที่เคยเป็นมา ลูกหลานยุคต่อไปจากเรานี้จะยิ่งทวีความลำบากมากขึ้นเพราะปัญหาจะมากขึ้นซับซ้อนขึ้นและแน่นอนความเสียหายก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย

โดยลักษณะภูมิศาสตร์ที่เป็นเนินสูงในด้านล่างตามภาพที่ว่ามาแล้ว เมื่อมีฝนตกน้ำจะไหลไปตามร่องน้ำต่างๆจากบริเวณเนินมทส. หรือสวนสัตว์ เพื่อไหลไปรวมกับลำน้ำในแนวนอน(คือลำตะคอง)ที่อยู่ในที่ต่ำกว่า  แต่ในการพัฒนาเมือง เราตัดถนนมิตรภาพและถนนสายอื่นๆขวางแนวการไหลของร่องน้ำเหล่านี้กลายเป็นเหมือนเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลต่ำลงไป แน่นอนเมื่อมันไหลไม่ได้น้ำเหล่านี้ก็ยกตัวสูงขึ้นกลายเป็นน้ำท่วม น้ำขังอย่างที่เราประสบอยู่ทุกวันนี้อย่างไรเล่า  




ภาพ : อภินันท์  สีม่วงงาม

ลองมาดูภาพนี้กัน จำลองให้เห็นระดับสูงต่ำของพื้นที่เมืองด้วยสีต่างๆ สีเขียวที่เห็นในภาพคือบริเวณที่มีความสูงมากที่สุดของเมืองแล้วไล่ระดับต่ำลงไปตามสีต่างๆที่จางลง จนกระทั่งถึงสีน้ำเงินเข้มคือบริเวณที่ถือว่าต่ำสุดของเมืองนี้ซึ่งในสมัยโบราณเรียกขานกันว่า"ทุ่งทะเล"หรือ"หัวทะเล" ซึ่งเป็นบึงรับน้ำขนาดใหญ่มีพื้นที่มากกว่า 4,000 ไร่  แต่ในปัจจุบันถูกรุกล้ำทำเป็นพื้นที่หาประโยชน์ ที่ไม่เคยเป็นโฉนดก็กลายเป็นโฉนดให้พัฒนาได้ (ใครอยากมีปัญหาชีวิตก็จงลองไปค้นหาดูว่ามันกลายเป็นโฉนดได้อย่างไร) จนพื้นที่รับน้ำกว้างใหญ่ในอดีตเหลืออยู่เพียงแค่ 400 ไร่เท่านั้น ความสามารถในการรับน้ำที่น้อยลงไป การพัฒนาใหม่ที่เพิ่มขึ้นแบบตรงกันข้ามกันเป็นสิบ เป็นร้อยเท่า ตรงไหนเคยเป็นที่ลุ่มก็หาดินมาถมปลูกสร้างอาคารกันไป ใครสร้างทีหลังก็ถมสูงให้มันหนีน้ำห่างจากคนสร้างทีแรก เป็นแบบนี้ทั่วไป เมื่อถึงหน้าฝนมา น้ำทั้งหลายมันก็ได้แต่งงเพราะไม่รู้จะไปหาที่รับน้ำตรงไหน จะแปลกอะไรล่ะที่มันจะท่วมกันสนุกใจอย่างที่เห็นในปัจจุบัน



 ภาพ : อภินันท์  สีม่วงงาม

ภาพนี้จะเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าเราสร้างถนนขวางทางน้ำที่จะไหลลงไปหาลำตะคอง แล้วยังมีการพัฒนาบรรดาอาคารต่างๆทั้งหลายเกิดขึ้นมาตามเวลาที่ผ่านไปอีก เหมือนทยอยสร้างเขื่อนขวางน้ำไว้เรื่อยๆ น้ำไม่ท่วมมันจะไปเหลืออะไรล่ะพี่น้อง




Create Date : 03 สิงหาคม 2558
Last Update : 3 สิงหาคม 2558 16:16:19 น. 20 comments
Counter : 25800 Pageviews.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ปัญหาความไม่รู้ระดับของตัวเอง เส้นระดับที่ปรากฏถึงไม่ละเอียดก็เพียงพอ ท่านผูว่าต้องดูแผนผังนี้ก่อนจะแก้ปัญหาให้ถูกทาง


โดย: ksemsan suwarnarat IP: 1.46.142.206 วันที่: 3 สิงหาคม 2558 เวลา:17:07:37 น.  

 
ขออนุญาติแชร์นะครับ ชอบบทความที่ไม่มุ่งเน้นจะต่อว่าใคร แต่สะท้อนให้เห็นปัญหาโดยรวม


โดย: ภาณุ IP: 202.44.224.39 วันที่: 3 สิงหาคม 2558 เวลา:18:34:03 น.  

 
ดีใจที่เห็นข้อมูลเหล่านี้ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะต้องข้อมูลสารสนเทศแก่ประชาชนทำความเข้าใจ และเกิดการเรียนรู้ปัญหาที่ถูกก่อไว้จากคนรุ่นเก่าส่งผลมาถึงคนรุ่นถัดๆมาและจะเกิดปัญหามากขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปและจำนวนประชากรจะเพิ่มมากขึ้น ข้อมูลที่ถูกต้องจะทำให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้และช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดได้ครับ พฤติกรรมการถมที่ดินก็เป็นปัญหาพฤติกรรมของสังคมไทยที่ก่อตัวมานานตั้งแต่พวกเราเด็กๆจนกลายมาเป็นคนอายุมากในปัจจุบัน และปัญหาน้ำท่วมก็เช่นกันครับ
ดังนั้น ข้อเสนอที่เป็นไปได้ก็ควรที่จะให้ประชาชนรับทราบตัวตนของตัวเองว่าอยู่อย่างไรอย่างเช่นข้อมูลที่นำเสนอมาแล้วนี้ แต่ต้องนำเสนออย่างกว้างขวางแก่ทุกคนเพื่อรับทราบและเห็นภาพเหมือนกัน ผมเชื่อว่าประชาชนจะยินดีให้ความร่วมมือกับทางการมากขึ้น อย่างเช่นกรุงเทพมหานคร เขาก็พอจะมองภาพของบ้านเมืองเขาออกว่ามีลักษณะอย่างไร แต่ชาวโคราชยังขาดข้อมูลอย่างนี้อย่างมากครับ ยิ่งถ้าเป็นผู้ที่เพิ่งย้ายถิ่นเข้ามาก็จะไม่มีภาพเหล่านี้ในใจ จึงสมควรจัดทำโครงการเผยแพร่ข้อมูลให้ปรัชาชนเรียนรู้ต่อไปพร้อมกับการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง


โดย: วุฒิชัย จงคำนึงศีล IP: 49.230.206.167 วันที่: 3 สิงหาคม 2558 เวลา:20:11:30 น.  

 
จากความเร่งรีบในการสร้างถนนมิตรภาพจำต้องถมดินช่วงผ่านลำปรุ ทำให้ลำปรุด้านในไปจนถึงตัวเมืองแห้งขอด และกลายเป็นถนนปรุในเวลาต่อมา


โดย: อภินันท์ IP: 223.205.247.127 วันที่: 3 สิงหาคม 2558 เวลา:22:05:23 น.  

 
จากแผนที่แล้ว น่าจะพัฒนาให้ตัวเมือง มีความเจริญแถวมทส สวนสัตว์ ใช่มั้ยครับ เพื่อหนีปัญหาน้ำท่วม ผิดถูกขออภัยครับ


โดย: ศุภกร IP: 110.77.222.133 วันที่: 5 สิงหาคม 2558 เวลา:0:56:58 น.  

 
ฟองน้ำซับน้ำนั่นคือป่าผืน มทส ที่ตีเป้นป่าสงวนเสื่อมโทรมและนำมาใช้ในที่สุดหายไป ต่อให้ทางน้ำไหลดีก็จะไปท่วมมหาราชอยู่ดี ต้องเวนคืนที่ป่ามันรอบมทส. ทำจุดซับน้ำ จะไปคิดเรื่องขวางทางน้ำชาตินี้ก็แก้ไม่ได้ครับ


โดย: ไพโรจน์ ชัยอมรนุกุล IP: 183.88.253.186 วันที่: 5 สิงหาคม 2558 เวลา:13:21:34 น.  

 
น่าจะเล่าว่า นำอ่างเก็บน้ำเถกิงพล ไปก่อสร้างสนาม 80 พรรษาด้วยนะครับ ในเมื่อคุณนำที่ระบายน้ำกักเก็บน้ำไปทำสนามกีฬาน้ำก้ท่วมสิครับ บริเวณดังกล่าวรับน้ำโดยตรงจากเซฟวัน และเป็นพื้นที่รับน้ำ ปกติระดับก้ต่ำมากอยู่แล้ว อีกทั้งโดยรอบก้มีการถมที่ดินขึ้นระดับสูงเพื่อทำหมู่บ้านจัดสรร ทำไมไม่แจ้งประเด็นนี้ด้วยครับ


โดย: 54321 IP: 58.9.180.210 วันที่: 5 สิงหาคม 2558 เวลา:20:49:21 น.  

 
แล้วเราทำอะไรกลับคลองส่งน้ำที่หลังเคหะครับ...ไม่หลงเหลือเลย
แล้วงบประมาที่ทุ่มกันทำคูเมืองลอดถนนกี่ร้อยล้านไปแล้วครับประสิทธิภาพออกมาเป็นอย่างไรครับ...อย่ามัวแต่ไปตัดลิปบิ้นกันครับ


โดย: ชัยยุทธ IP: 49.230.91.59 วันที่: 5 สิงหาคม 2558 เวลา:21:44:36 น.  

 
เรามีกรมผังเมือง กรมต่างๆ แต่อนุญาติให้สร้างสิ่งต่างๆถมพื้นที่รองรับน้ำ การวางท่อก็วางท่อเล็กก่อนแล้วก็ขุดวางท่อใหม่ๆทำแบบนี้ตลอด ไม่วางท่อใหญ่ทีเดียว ....เยอะ


โดย: ส. IP: 171.96.182.90 วันที่: 5 สิงหาคม 2558 เวลา:22:14:33 น.  

 
กว่า30 ปีมาแล้วสมัยเรียนจบราชสีมาวิทยาลัย เห็นน้ำท่วมประจำถ้าฝนตกหนักๆนานๆ ในตัวเมืองช่วงเลิกเรียนแต่ไม่เดือดร้อนเพราะอยู่บนรถประจำทางครับ


โดย: โคราชในอดีต IP: 118.172.120.137 วันที่: 6 สิงหาคม 2558 เวลา:21:04:04 น.  

 
เห็นด้วยกับคำชี้แจงคาดว่าจะเป็นผู้รู้จริง ท่านเพิ่งจะรู้หรือรู้นานแล้วครับ ผมไม่เคยคิดจะตำหนิเจ้าหน้าที่ที่พบายามทำหน้าที่แก้ไขอยู่แต่เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ แต่ผมตำหนิผู้บริหารที่ผ่านๆมาไม่มีวิสัยทรรศมองอนาคตไปข้างหน้า และเจ้าหน้าที่ผู้วางแผนสร้างถนนหนทางที่เรียนจบสูงๆจากเมืองนอกแต่เสือกคิดไม่เป็นว่าถนนที่กำลังจะสร้างมันเป็นเขื่อนกั้นน้ำในจุดไหนแค่ไหนอย่างไรจึงไม่ได้ทำท่อทางให้น้ำผ่านไปตามธรรมชาติ แต่สิ่งที่น่าห่วงและน่าตำหนิที่สุดคือผู้บริหารและผู้ที่มีอำนาจสั่งการปัจจุบันที่ยังตั้งหน้าตั้งตาทำผิดพลาดซ่ำเติมแบบเก่าๆอยู่ต่อไป อีกทั้งถนนหนทางอีกเรื่องหนึงที่การจราจรติดขัดแต่ยังไม่คิดถึงว่าจ่องแก้ไขให้ถนนมันใหญ่ขึ้นโดยการเวณคืนที่ดินขยายถนนโดยเฉพาะถนนที่จะสร้างใหม่ได้เตรียมเวณคินที่ดินที่ยังไม่มีบ้านคนหรือมีสิ่งปลูกสร้างยังน้อยอยู่เผื่อถนนที่จะต้องขยายในอนาคตหรือยัง นี่ต่างหากเล่าที่ควรคิดแก้ไขกัน อบต.อบจ.ต้องตั้งงบค่าเวณคืนที่ดินเพื่อขยายถนนทุกสายที่ทำได้รวมทั้งถนนที่จะสร้างขึ้นใหม่รวมทั้งวางแผนให้นำไหลผ่านไปได้โดยไม่ท่วม นี่ต่างหากเล่า.....


โดย: เพิ่มศักดิ์ ละออจันทร์ (มทส.) IP: 171.100.158.148 วันที่: 7 สิงหาคม 2558 เวลา:7:47:54 น.  

 


โดย: nueng94 (สมาชิกหมายเลข 2483157 ) วันที่: 9 สิงหาคม 2558 เวลา:9:22:07 น.  

 
บทความนี้ลืมเรื่องอ่างเก็บน้ำเถกิงพลไปแล้วเหรอ อ่างนี้เสมือนแก้มลิงเพื่อบรรเทาน้ำท่วมได้ในระดับหนึ่งเลย จัดการที่ต้นเหตุเลย
เหมือนเดิมเป็นผลงานที่เน่าทิ้งไว้ของนักการเมืองโคราช

//www.manager.co.th/local/viewnews.aspx?NewsID=9580000087814


โดย: W IP: 134.196.242.80 วันที่: 1 กรกฎาคม 2560 เวลา:8:42:46 น.  

 
เห็นได้ชัดว่าคนเราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่มองดูว่าตัวเองช่วยหรือยัง พอเกิดปัญหาขึ้นมาก็โทษคนนั่นโทษคนนี้ ไม่เคยมองตัวเองว่าช่วยอะไรใครหรือยัง


โดย: นายสมาร์ท จันทรสาขา Up:60182110212-7 IP: 183.89.74.167 วันที่: 18 มกราคม 2562 เวลา:21:25:53 น.  

 
จำเลยที่หนึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเทศบาลนครในฐานะผู้รับผิดขอบโดยตรง หลากหลายข้อความตามอารมณ์เมามันแล้วแต่จะเสกสรรค์ว่าเทศบาลนั้นไร้สมรรถภาพ และทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด และเห็นได้ชัดว่าคนเราเห็นแก่ประโยชน์ส่วนได้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่มองดูว่าตัวเองช่วยหรือยัง พอเกิดปัญหาขึ้นมาก็โทษคนนั่นโทษคนนี้ ไม่เคยมองตัวเองว่าช่วยอะไรใครหรือยัง ในเวลาที่มีปัญหามาสู่เมือง สิ่งสำคัญที่ทุกคนในเมืองต้องกระทำเป็นเบื้องแรกคือเราต้องเข้าใจในบทบาทของคนที่เขารับผิดชอบและต้องมีกำลังใจให้คนเหล่านั้นเขาผจญกับปัญหาให้ลุล่วงผ่านไปให้ได้(แม้จะทำไม่ทันใจคนอยากได้ไปบ้างก็ตาม) ไม่ใช่การตำหนิติเตียนว่าโน่นนี่จนคนทำงานหมดกำลังใจ และที่สำคัญเราต้องตอบตัวเราเองให้ได้ด้วยว่า ตัวเรานั้นมีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาที่ว่านั้นหรือไม่ หรือว่าเราเป็นผู้เพิ่มปัญหานั้นให้มันซับซ้อนขึ้นเสียเอง หากเป็นกรณีหลังนั่นหมายความว่าเราคือพลเมืองที่เป็นภาระของเมืองอย่างแท้จริง


โดย: นายสกุลชายเชื้อไชย up.60182110184-3 IP: 183.88.53.44 วันที่: 19 มกราคม 2562 เวลา:20:08:51 น.  

 
พื้นที่ส่วนใหญ่ ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นพื้นที่ที่ราษฎรใช้ทำการเกษตรนั้น ประกอบด้วยพื้นที่ลุ่ม มีแอ่งน้ำ หนอง บึง และลำคลองธรรมชาติ เพื่อรับน้ำเข้า และระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้อย่างสะดวก หรือมีความสมดุลตามสภาพธรรมชาติดี โดยไม่มีน้ำท่วมขัง ครั้นเมื่อมีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นชุมชน แหล่งอุตสาหกรรม หรือที่อยู่อาศัย จึงมีการถมดินปรับพื้นที่ สร้างถนน สิ่งก่อสร้างต่างๆ ขยายตัวออกไปเป็นบริเวณกว้าง เป็นเหตุให้แอ่งน้ำ หนอง บึง และลำคลองธรรมชาติทั้งหลาย ต้องถูกทำลายหมดไป และมูลเหตุสำคัญก็คือ ภายในเขตชุมชนที่ตั้งขึ้นใหม่หลายแห่ง มักไม่ได้สร้างระบบการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เหมาะสม และมีประสิทธิภาพขึ้นแทน ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่มีฝนตกหนัก จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังนาน และความเสียหายย่อมบังเกิดติดตามมา


โดย: นายณัฐวัตร ชูศักดิ์ธนาเดช up.60182110159-9 IP: 183.89.73.83 วันที่: 24 มกราคม 2562 เวลา:15:03:45 น.  

 
เมืองโคราชเป็นทางผ่านของน้ำ เวลามีฝนตกหนัก น้ำก็จะไหล่มาจากที่สูงแล้วลงไปลำตะคลอง ซึ่งโคราชเป็นทางน้ำ แล้วเมืองมีการขยาดตัวอย่างไม่มีขอบเขตทำให้เกิดอาคารบ้านเรือนมากมายเส้นทางต่างๆ ทำให้ไม่มีพื้นดินที่น้ำจะซึมลงไป และท่อระบายน้ำก็เล็กมากจนทำให้น้ำเอ๋อขึ้นจึงเกิดปัญหาน้ำท่วมหรือน้ำท่วมขัง


โดย: นางสาวกติกา คงกลาง up60182110116-8 IP: 223.205.97.75 วันที่: 25 มกราคม 2562 เวลา:1:05:24 น.  

 

เพราะการพัฒนาที่ผิด ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจในลักษณะของพื้นที่และความเป็นไปของธรรมชาติในพื้นที่เลย ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์เมืองโคราช ที่เป็นเนินสูง เมื่อมีฝนตกน้ำจะไหลไปตามร่องน้ำต่างๆจากบริเวณเนินแต่ในการพัฒนาเมือง มีการตัดถนนมิตรภาพและถนนสายอื่นๆขวางแนวการไหลของร่องน้ำ การพัฒนาเหล่านี้กลายเป็นเหมือนเขื่อนกั้นน้ำไม่ให้ไหลต่ำลงไป ทำให้น้ำไหลไม่ได้น้ำเหล่านี้ก็ยกตัวสูงขึ้นกลายเป็นน้ำท่วม น้ำขังอย่างที่เราประสบอยู่ทุกวันนี้ และการทิ้งขยะมูลฝอยทำให้เวลาฝนตกจะทำให้ระบายน้ำได้ช้าจึงเกิดน้ำท่วม


โดย: นายปฏิภาณ จิตต์ตรง up60182110279-4 IP: 182.232.4.1 วันที่: 25 มกราคม 2562 เวลา:21:02:31 น.  

 
เห็นด้วย คนส่วนมากคำนึงถึง ตัวเองเป็นตัวตั้งต้นไม่มองภาพโดยรวมที่คนอื่นเดือดร้อน ควรจะมีมาตรการแก้ไขน้ำท่วมโคราชอย่างจริงจัง


โดย: พลอยไพลิน ทูลสูงเนิน การจัดการผังเมือง AUP (60182110285-2) IP: 184.22.237.89 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:12:05:25 น.  

 
เราต้องตระหนักและเข้าใจถึงบทบาทของผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบ นึกถึงใจเขาใจเรา และ เข้าใจถึงความจริงของพื้นที่


โดย: ศิรภัสสร เกยสันเทียะ การจัดการผังเมือง 60182110266-6 IP: 182.232.171.203 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:11:16:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bicycleman
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




บุคคลหนึ่งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาพอสมควร วันหนึ่งค้นพบว่าเรากำลังตกอยู่ในอิทธิพลของเจ้าเครื่องจักรบริโภคน้ำมันที่ชื่อว่ารถยนต์ จนหลงลืมทำลายเมืองและวิถีวัฒนธรรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้มัน ตั้งแต่นั้นก็มุ่งมั่นที่จะปฏิวัติเมืองด้วยจักรยาน จึงสร้างบล็อคนี้มาเพื่อหาแนวร่วม
[Add bicycleman's blog to your web]