---

การเริ่มธุรกิจถ้าตามทฤษฎี คุณก็ต้องวาง โมเดล ธุรกิจของคุณ อันนั้นผมคิดว่า มันอาจจะยุ่งยากไป.. เลยอยากให้คุณมองอย่างนี้...

1. ลูกค้าของคุณ คือ ใคร ? คุณต้องวิเคราะห์ แยกเป็น กลุ่มเป้าหมายย่อยๆ ไม่ใช่ใหญ่ๆ

คนตกปลาในเรือยอร์จส่วนใหญ่ คิดว่า ปลามีอยู่ทั่วไปในท้องทะเล ไปไหนก็ตบปลาได้ ตกปลาอะไรก็ได้ ต้องตกปลาได้แน่นอน ใช้แค่เบ็ดหรูหลาก็พอ

ชาวเลฯ ที่หาปลา เขาจะดูว่า แต่ละช่วงเวลาควรจะหาปลาอะไร แล้ว ค่อยไปในที่ๆมีแหล่งปลาเหล่านั้น ใช้เครื่องมือให้เหมาะกับชนิดของปลาด้วย

คนสองกลุ่มนี้ คุณคิดว่า ใครจะตกปลาได้ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอย่างไร แต่จากสถิติแล้ว ชาวเลฯ จะหาปลาในทะเลได้จำนวน 200 เท่า เมื่อเทียบคนตกปลาในเรื่อยอร์จทั่วไป...

ดังนั้น ผมจึงอยากให้คุณมองว่า ลูกค้าของคุณในกลุ่มย่อยๆ เป็นใครก่อน.. มองว่า คุณจะขายให้ใคร ?

เหมือนกับ ชาวเลฯ ที่เมื่อรู้ว่า ฤดูนี้ต้องตกปลาอะไร เขาก็จะไปยังแหล่งที่มีปลาประเภทนั้นชุกชุม ชาวเลฯมือใหม่ ก็จะสอบถาม ชาวเลฯที่มีประสบการณ์ว่าสังเกตุอย่างไร หรือ ไปหาใกล้ๆกับชาวเลฯมือเก่า หรือ เทียบแล้ว ก็ลอกเลียนแบบเขาเลยก็ได้...

สถานที่ อาจจะไม่ใช่สถานที่จริงๆ อาจจะเป็นสถานที่ใน Internet หรือ หนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสารที่ พวกเขาอ่าน ก็ได้ แล้ว เอาตัวคุณให้เข้าไปยังสถานที่นั้นๆ เพื่อที่จะเจอกัน

3. สินค้าและบริการของคุณ ดีอย่างไร เจ๋งอย่างไร ดีกว่าคนอื่นอย่างไร อะไรเป็นจุดแข็ง

แน่นอนว่า ชาวเลฯ ก็ยังต้องเลือกหาอุปกรณ์ที่เหมาะกับการจับปลาในแต่ละประเภท คุณก็ต้องรู้ว่า สินค้าและบริการของคุณ มีดีอย่างไร เพื่อให้คุณใช้สินค้าและบริการของคุณ สื่อสารออกไปยัง กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ให้โดนใจ ตรงใจ ตรงความต้องการ หรือ แก้ไขปัญหาให้กับเขาได้ตรงๆ

นี่เป็นจุดหลักที่คุณต้องเข้าใจสินค้าของคุณ

4. สื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และ ตรงใจ ตอบสนองความต้องการ ตอบสนองการแก้ไขปัญหาของลูกค้า

ชาวเลฯ แม้นมีอุปกรณ์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ อุปกรณ์ไม่จำเป็นต้องแพง ก็สามารถจับปลาได้ ต้องเน้นเรื่องการใช้งานที่คล่องแคล่ว และมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ก็จะสามารถจับปลาได้จำนวนมาก  คุณเองก็ต้องเลือกสรร คำพูด ข้อความ เพื่อสื่อสาร ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า สามารถกระตุ้นการซื้อสินค้าให้ได้ คุณก็จะสามารถขายสินค้าได้ แม้นสินค้าอาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นกว่าคนอื่น แต่เมื่อมีข้อแตกต่าง และ ตรงใจ โอกาสที่จะขายได้ก็จะมีสูงครับ