คำถาม : ถ้ามีเด็กคนนีงมีโปรไฟล์แบบนี้ เป็นคุณ คุณจะรับเค้าเข้าทำงานมั๊ยครับ
คำถาม ถ้ามีเด็กคนนีงมีโปรไฟล์แบบนี้ เป็นคุณ คุณจะรับเค้าเข้าทำงานมั๊ยครับ
วิบูลย์ จุง // Wiboon Joong (wbj)
จากที่ทำงานมานาน สัมภาษณ์งานน้องๆมาก็นับไม่ถ้วน ส่วนมากก็ตัดสินใจได้ไม่ยากเย็นนัก แต่มาคราวนี้เพิ่งเจอ Candidate คนนึงที่ทำให้ผมคิดหนักจนคิดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย
น้องคนนี้จบมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง ภาษาอังกฤษดีมาก(TOEIC 800+) ทำกิจกรรมเพียบ( เรียน 4 ปีทำกิจกรรมไป 30 กว่ากิจกรรม แต่ละกิจกรรมนี่คือไม่ใช่กิจกรรมเล็กๆนะครับ ไม่ใช่แบบรับน้อง ห้องเชียร์อะไรแบบนี้ พวกนั้นไม่นับ แต่กิจกรรมที่ว่านี่เป็นพวกงานสำคัญๆระดับมหาวิทยาลัย ระดับประเทศ มีระดับอาเซียนด้วยอีกต่างหาก) วิชาการก็ดี จบเกียรตินิยม ก่อนสัมภาษณ์มีทำ IQ test น้องเค้าได้ 141 !!! และเท่าที่สัมภาษณ์ เป็นคนที่ฉลาดมาก เก็ทเร็ว เรียนรู้ได้ไว รู้จักพูด เจรจาต่อรองเก่ง ตอบคำถามเป็น เรียกได้ว่าสกิลการพูดขั้นเทพอ่ะครับ มนุษสัมพันธ์ดี เพื่อนฝูงเยอะ แต่....
-ทำงานที่แรก ==> 2 เดือนออก เพราะได้ที่ที่สอง ซึ่งสมัครไปพร้อมกับที่แรกแต่เพิ่งมาเรียก และให้รายได้สูงกว่า บ.ใหญ่กว่า -ทำงานที่สอง ==> 3 เดือนออก เพราะไม่ชอบงานที่ทำ -ทำงานที่สาม ==> 5 เดือนออก เพราะที่ทำงานไกลบ้านมาก เดินทางไป-กลับเกือบสี่ชั่วโมง แต่ที่ตอนแรกเอาก็เพราะงานใช่ เงินเดือนดี -ทำงานที่สี่ ==> 4 เดือนออก เพราะมีปัญหากับเจ้านายทุกวัน คือน้องเค้าเล่าว่า เจ้านายเป็นคนfix idea หัวโบราณ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ Challenge เผด็จการ จุกจิก คิดเล็กคิดน้อย ประมาณนั้น
คือผมก็ชื่นชมในความซื่อสัตย์ของน้องเค้านะครับ ที่กล้าบอกว่าเปลี่ยนงานบ่อยขนาดนี้ และบอกเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา แต่ที่กลัวคือคนที่เก่งกาจขนาดนี้แต่เปลี่ยนงานบ่อยขนาดนี้ รับเข้ามานี่ไม่รู้จะยังไงเลยนะครับ คือตอนนี้ยังไม่อยากปฏิเสธน้องเค้าไป เพราะคนที่มี potential ขนาดนี้น่ารับเข้ามาแล้วให้ทำอะไรซักอย่าง คือบ.ผมทำด้านการให้บริการอ่ะครับ ไม่ได้มีสายการผลิต ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ มีคนนี่แหละครับที่เอาไว้ขาย (คงเข้าใจนะครับ) ซึ่งคนแบบนี้ถ้าได้ทำอะไรที่ถูกทาง น่าจะพาบ.ผมไปได้ไกลเลยนะ แต่ถ้าออกมาอีกทางนึงผมอาจจะเสียเงินจ้างไปซัก 4-5 เดือนโดยที่ไม่ได้อะไรกลับมา แถมต้องมีปัญหากระทบกระทั่งตามมากันอีกต่างหาก
คิดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆครับ เพิ่งเคยเจอเคสแรกที่เป็นแบบนี้ เป็นท่านอื่นจะรับ/ไม่รับครับ เพราะอะไรครับ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
เท่าที่อ่าน ผมเดาว่า น้องเขาเป็นคนมีความต้องการ ความโดดเด่น มากเป็นพิเศษ งานที่เหมาะกับเขา ก็น่าจะเป็นงานสำคัญๆ ที่คนอื่นทำได้ยาก สั่งงานแล้วให้เขาไปรับผิดชอบ ตามงานเฉพาะงานสำคัญๆ ชมในสิ่งที่เขาทำได้ดี และ หากเขาทำผิดให้คุยกับเขาว่า คุณคิดว่า น่าจะทำอย่างนี้... เป็นต้น ถ้าลักษณะนี้ ผมคงให้เขาติดต่อกับลูกค้า ใหญ่ๆ ยากๆ ใช้ภาษามากๆ และเมื่อเชื่อมติด ก็หาคนเข้าไปประกบ แยกงานออกมา และ ให้เขารับงานใหม่ ใหญ่ขึ้น...
วิบูลย์ จุง // Wiboon Joong (wbj) ;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ ไิ่ "ฺ๋
| Create Date : 01 มิถุนายน 2557 |
| Last Update : 1 มิถุนายน 2557 18:38:29 น. |
|
1 comments
|
| Counter : 1728 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [
ผมขออนุญาตร่วมเสนอความคิดเห็นในประเด็นนี้ด้วยคนครับ
ถึงแม้ว่าจะมาตอบช้าไปหน่อยนะครับ
ผมเองทำงานด้านที่ปรึกษา ได้ติดตามความรู้ที่อาจารย์ได้เผื่อแผ่มา ณ ที่นี้ มาตลอดครับ อยากจะกล่าวคำขอบคุณมากๆครับ
....สำหรับน้องคนนี้ ผมมีมุมมองดังนี้ครับ (จากข้อมูลเท่าที่มี)
จุดดี
ผมเดาได้เลยว่าเด็กคนนี้เก่งการจัดการ แถมเก่งคนอีกด้วย
ถ้าเขาได้บริหาร Project อาจจะค่อยๆ ลองให้เริ่มจากงานเล็กไปก่อน แล้วค่อยให้งานที่ใหญ่ขึ้น และวันข้างหน้าเขาจะสามารถเป็นที่ปรึกษาได้ (ขึ้นอยู่กับว่าจะอยู่ในสายงานไหน)
เด็กคนนี้ คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น เป็นคนคิดเชิงบวก
มีพลังความคิดสร้างสรรค์อยู่มาก และแน่นอนด้วยว่าเขาคิดเชิงกลยุทธ์เป็น
ถ้าให้เขานำ ตั้งเป้าหมายให้ ปูทางให้ เป็นที่ปรึกษาให้ หรือบางครั้งช่วยแก้ปัญหาบางอย่างให้เขา
มีโอกาสรุ่ง จะเป็นยอดขุนพลคนหนึ่งเลยทีเดียวครับ และอาจจะเป็นกุนซือที่ดีในอนาคตได้
ดูๆแล้ว มีความกล้าหาญ อายุแค่นี้ผ่านอะไรมาเยอะพอสมควร
เพียงแต่ว่า........
จุดอ่อน
เขาเองจะเป็นเหมือนเด็กรุ่นใหม่ส่วนมาก ที่เป็นเมนูจานด่วนครับ ขาดความอดทน และในเบื้องต้นอาจจะต้องกระเสือกกระสนต่อการปรับตัวเข้ากับทีม
อาจจะเป็นมุมมองเล็กๆนะครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
ฐานสิริ