จากตอนที่แล้วเราพาคุณๆชมเมืองหลวงของประเทศสโลวาเกีย หลังจากที่ลงเครื่องวันแรกที่กรุงเวียนนาแล้วต่อมาที่เมืองนั้น วันนี้เราจะพาเข้าสู่ประเทศฮังการรี ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรีย โดยมีโปรแกรมทานมื้อเที่ยงซึ่งเป็นอาหารจีนที่ร้านในใจกลางเมืองบูดาเปสต์ ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ฮีโร่ที่เราจะไปชมมากนัก

ระยะทางจากบราติสลาวาไปที่เมืองบูดาเปสต์ก็ประมาณ 220 กม. เป็นทางค่อนข้างเรียบ และเป็นเป็นเส้นทางสายยุโรป น่าจะเป็นสาย E58 สองข้างทางเป็นทุ่งโล่ง (น่าจะเรียกว่าไร่มากกว่า) ปลูกหญ้าและมาสตาร์ทสลับกันไป ดอกมาสตาร์ทสีเหลืองอร่ามบนแปลงสี่เหลี่ยมเรขาคณิตสลับด้วยสีเขียวของทุ่งหญ้าทำให้เห็นภาพตัดกันที่สวยงามมากๆ จนหลายๆคนต้องยกกล้องเก็บภาพไปตลอดทาง

เส้นทางช่วงเข้าใกล้บูดาเปสต์

วันนี้ท้องฟ้าไม่ยอมเป็นสีฟ้าเหมือนที่อยากให้เป็น แต่ก็ได้เจ้าดอกเหลืองๆของมาสตาร์ทนี่แหละทำให้นั่งชมเพลินไปบนรถได้ แม้ว่าจะรู้สึกเพลียๆกับการปรับเวลาอยู่บ้าง แต่ทำไงได้เมื่อมาถึงที่ก็ต้องชมบรรยากาศให้คุ้มกันหละ

พักกลางทางเข้าห้องน้ำ

มีเรื่องอยากจะบอกว่า ห้องน้ำระหว่างทางในประเทศยุโรปแถบนี้หายากมากๆ กว่าจะได้เข้าห้องน้ำทีก็ต้องภาวนาให้เห็นเจ้าร้านแมคโดนอลล์โน่นแหละ แต่ก็ยังเป็นการโชคดีอยู่บ้างที่กฏหมายสำหรับการขับรถทางไกลของเจ้ารถทัวร์เขานี่ต้องมีระยะเวลาที่ต้องพักระหว่างทาง ส่วนจำนวนครั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะทางที่จะไปครับ

บ้านเรือนชาวฮังการีปลูกตามไหล่เขา

การเข้าห้องน้ำนั้นใช่ว่าจะเข้าฟรีเหมือนปั๊มน้ำมันในบ้านเรานะครับ เพราะห้องน้ำส่วนใหญ่เขาสร้างไว้ในร้านสดวกซื้อหรือแมคโดนอลล์ ส่วนค่าเข้าห้องน้ำนั้นส่วนมากจะคิดตังค์ 50 ยูโรเซ็นต์หรือประมาณ 22 บาทบ้านเรา แต่ตั๋วหรือใบเสร็จ (แล้วแต่จะว่ากัน) ก็มีส่วนลดเมื่อเอาไปแลกซื้อสินค้าในร้านครับ

ข้ามสะพานไปฝั่งเปสต์

บางเสี้ยวในบูดาเปสต์

บูดาเปสต์ (Budapest)

เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี และเป็นศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่งของประเทศ มีประชากรมากกว่า 1.7 ล้านคน มีจำนวนลดลงจากกลางทศวรรษ 1980 ซึ่งมีประชากรถึง 2.07 ล้านคน

บูดาเปสต์กลายเป็นเมืองเดี่ยวที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบหลังจากการรวมกันในพ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873) ของเมืองทางฝั่งขวา ได้แก่ เมืองบูดอ (Buda) และโอบูดอ (Óbuda) เข้ากับเมืองเปชต์ (Pest) ทางฝั่งซ้าย (ฝั่งตะวันออก)

ปัจจุบันบูดาเปสต์เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรปบางคนยังเรียกเมืองนี้ว่า "ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ" อีกด้วย

สถานีรถไฟ..เหมือนกับหัวลำโพงบ้านเรา

เราเข้าไปทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านอาหารจีนในใจกลางเมือง ไม่ไกลจากฮีโร่สแควร์มากนัก น่าจะซัก 300 เมตรได้รสชาติอาหารจีนที่นี่ก็ใช้ได้ครับ ถึงแม้จะไม่เหมือนในเมืองไทย (เพราะดัดแปลงให้เข้ากับลิ้นเราแล้ว) ทานมื้อเที่ยงเสร็จ เลยถือโอกาสลุกออกมาเก็บภาพบริเวณนั้นมาฝากกันครับ

Museum อยู่อีกด้านของจตุรัส

อนุสาวรีย์แห่งสหัสวรรษ (Millennium Memorial)

ประตูตรงด้านหลังเสาสูงระหว่างระเบียงเสา

ฮีโร่สแควร์ (Hero Square)
สถานที่แห่งนี้เป็นลานโล่งกว้างขนาดใหญ่ ที่มีอนุสาวรีย์แห่งสหัสวรรษ (Millennium Memorial) ตั้งตระหง่านอยู่กลางลานฮีโร่สแควร์ อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งอาณาจักรฮังการีครบรอบ หนึ่งพันปี เสาสูงตระหง่านของอนุสาวรีย์ เป็นที่ตั้งของรูปหล่อเทวทูตกาเบรียล อันเป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่เป็นดั่งหลักของอาณาจักร ฮังการี รอบเสาสูงเป็นที่ตั้งของรูปหล่อผู้นำของชนเผ่าทั้ง 7 ที่ร่วมกันก่อตั้งอาณาจักรฮังการีขึ้นเมื่อคริสตศวรรษที่ 9

นอกจากนี้ยังมีเสาระเบียงโดยรอบที่ประดับประดาไปด้วยรูปหล่อของบุคคล สำคัญของฮังการี ไม่ว่าจะเป็นอดีตกษัตริย์ นักปราชญ์ และบุคคลในประวัติศาสตร์ของฮังการี ซึ่งในช่วงที่มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งนี้ขึ้น ฮังการียังคงอยู่ภายใต้จักรวรรดิออสเตรีย ดังนั้นรูปหล่อบางรูปในขณะนั้น จึงเป็นบุคคลจากราชวงศ์ฮับสบวร์กแห่งออสเตรีย แต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก การบูรณะหลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนรูปหล่อของบุคคลจากราชวงศ์ฮับสบวร์กทั้ง หมดให้เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ฮังการี สอดคล้องกับสภาพการเมืองในขณะนั้นที่จักรวรรดิออสเตรียล่มสลายลง และฮังการีได้แยกตัวออกมาเป็นประเทศเอกราช

บนยอดคือทูตสวรรค์นิมิตของกษัตริย์สตีเฟนคริสต์

เดินถ่ายภาพบริเวณฮีโร่สแควร์พอประมาณ เราก็เดินทางต่อเพื่อไปชมสถานที่สำคัญของเมืองบนเชิงเขาคือ ป้อมชาวประมง (Fishermen's Baston) และโบสถ์ ซึ่ง จขบ. จะนำภาพเหล่านั้นมาให้ชมในคราวต่อไป ... วันนี้เดินทางมาเหนื่อยมากๆ ขอพักแค่นี้ก่อนครับ.

ลาด้วยภาพจากจตุรัสฮีโร่ภาพนี้ครับ