Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
กรณีพื้นที่ "วังน้ำเขียว" ความจริงของคนในพื้นที่...




วันนี้ขออัปฯ บล็อคด้วยเรื่องเครียด ๆ หน่อยเหอะ...
กรณีพื้นที่วังน้ำเขียว ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ เรื่องมันเริ่มตั้งแต่หลังจบการเลือกตั้ง
ถ้าจะมีใครสักคนถามว่า เป็นเรื่องทางการเมืองไหม สำหรับนัท คิดว่ามันใช่...การเมืองมีส่วนในเรื่องนี้
ถ้าใครอยู่ที่นี่จะคิดแบบเดียวกับนัททั้งนั้น

พื้นที่วังน้ำเขียว บูมมาได้ไม่กี่ปี และกำลังจะประกาศเป็นเขตท่องเที่ยวพิเศษ อยู่ในช่วงดำเนินการ
แต่พอมามีข่าวแบบนี้ ข่าวลงติด ๆ กันมาสองอาทิตย์กว่า ไม่มีหยุด ทุกช่อง อาจจะถูกเบรคด้วยข่าว ฮ. ไประยะหนึ่ง
พอหมดข่าว ฮ. ตก ก็มาเล่นข่าวพื้นที่วังน้ำเขียวต่อ

จากข่าวที่ออกมา ตลอดเวลาทั้งทางทีวี หรือ ทางหนังสือพิมพ์ เหมือนประชาชนชาววังน้ำเขียวเป็น "ฆาตกรต่อเนื่อง"
บุกรุกพื้นที่ป่า ฆ่ากระทิง...สารพัดที่จะออกข่าวกัน

ประเด็นแรก การบุกรุกพื้นที่ป่า...คนในพื้นที่อย่างนัท บอกเลยว่ามันมี และไม่ใช่แค่วังน้ำเขียวที่มีกรณีนี้ แต่ที่วังน้ำเขียวกำลังดัง
เพราะตอนนี้วังน้ำเขียวกำลังบูม + กับ เรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง

การสร้างรีสอร์ตที่ผุดขึ้นอย่างกับดอกเห็นไม่ใช่เพิ่งสร้างกันมา 1-2 วัน หรือ 1-2 อาทิตย์ เสร็จ แต่มันเริ่มตั้งแต่ การท่องเที่ยวของวังน้ำเขียวบูม ประกอบกับเหตุผลหลาย ๆ อย่างของเจ้าของที่ดิน
บางรายมีความจำเป็นต้องขาย เพื่อส่งลูกเรียน บางรายมีปัญหาหนี้สิน มันเลยทำให้มีคนนอกพื้นที่มาเป็นเจ้าของพื้นที่อยู่เป็นจำนวนมาก
หากทางอธิบดี กรมป่าไม้บอกว่า มันสร้างไม่ได้ มันผิด ทำไมคุณไม่สั่งให้มันหยุดสร้างตั้งแต่มันเริ่มขึ้นล่ะ จะมาอ้างว่า
เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอคงไม่ใช่ เพราะเจ้าหน้าที่ของทับลานมีหน่วยย่อยอยู่ที่นี่ตั้งกี่หน่วย จะไม่มีการรายงานกันเชียวหรือ...
คำตอบที่คุณตอบนักข่าวมันไม่เคลียร์ มันเหมือนแก้ผ้าเอาหน้ารอด

วันนี้ทางบ้านนัทถูกถ่ายออกทีวีช่อง 7 ข่าว 5โมงเย็น เป็นข่าวแรก ตอนนักข่าวมาถ่ายนัทยืนหัวโด่อยู่ในบ้าน ยืนมองและบอกตัวเองว่า งานเข้าแล้วกรู
ก็จริง เพราะหัวหน้าป่าไม้ทับลานปราจีนมาชี้ให้ถ่ายภาพบ้านกลางเกาะ แต่ไม่คิดจะถามสักคำว่าที่บ้านทำอะไร
พอออกข่าวก็โชว์หลาว่า บ้านนัทเป็นรีสอร์ต เออ...โรงสวนหน้าวัว สองโรงก็ตั้งอยู่ให้เห็น มันเป็นรีสอร์ตตรงไหนมิทราบ ถามสักคำไหม...ไม่มี
เป็นเจ้าหน้าที่นอกพื้นที่มาชี้มั่ว ไม่อยากจะว่าเลยว่า "เอาหน้า" แต่มันจริง
บ้านนัท ถ้าทำเป็นรีสอร์ตจริงก็คงถูกจับไปนานแล้วละ เพราะแดนติดอยู่กับหน่วยอุทยานเลย จะทำอะไรสักทีต้องเข้าไปขออนุญาตกันทุกครั้งร่ำไป
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่คุยกันรู้เรื่องว่าอะไรคืออะไร มันมีขอบข่ายสิทธิกันอยู่แล้วว่าทำอะไรได้บ้างกับพื้นที่ติดแนวอุทยาน แต่เจ้าหน้าที่ "นอกพื้นที่"
ดันชี้มั่วซั่วให้ นักข่าวถ่ายภาพ แล้วบอกว่านี่คือรีสอร์ต เฮ้ย...มันใช่ไหมนั่น แม่ก็คิดมาก เพื่อนก็จิตตก โทรถามว่าเกิดไรขึ้น คนรู้จักต่างพากันถามว่า
เกิดไรขึ้นบ้านถึงถูกออกข่าว...นี่นะหรือคนมีสีเขาทำกัน นึกว่ามีสีมีตำแหน่งแล้วจะชี้นกเป็นไม้ได้หรือไง
คนกินข้าวนะไม่ได้กินหญ้า...นัทโทรไปที่ช่องเจ็ด และอธิบายให้เขาฟังว่า ที่คุณถ่ายออกมาคืออะไร...นักข่าวจะขอสัมภาษณ์
นัทก็โอเคนะ ...เพราะเรื่องอะไรที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำมาหากินในพื้นที่ตามปกติ ก่อนจะบูมเสียอีก แล้วจู่ ๆ คุณมาชี้มั่วแบบนี้ไม่ใช่..

จะมาเบี่ยงประเด็นว่าบุกรุกพื้นที่ป่า ...ขอโทษเหอะ ป๋านัทมีที่ ที่นี่ก่อนที่ป่าไม้จะมาตั้งหน่วยอุทยานเสียอีก ป๋ากะแม่จะไป ๆ มา ๆ ที่นี่เป็นประจำ
เพราะลุงอยู่ที่นี่จำได้เมื่อก่อนตอนไม่มีถนน ไม่มีอุทยาน เวลามาทีไรต้องจอดรถไว้ตรงสะพานไม้เก่าๆ แล้เดินข้ามเข้ามาเพราะไม่มีถนน
และสะพานก็น่ากลัวมามาย เวลาจะไปน้ำตกต้องเดินเข้าไป เป็นน้ำตกของคนสวนห้อมคนเก่า ๆ จะรู้
สภาพดีว่าอะไรคืออะไร..ตอนแรก ๆ ไม่ได้ทำอะไรกับพื้นที่มากนัก( ก่อนป่าไม้จะเข้ามาอยู่) เพราะเมื่อพยายามปลูกอะไรลงไป
ก็จะมีไฟป่า ลงมาเผามันเสียทุกครั้งไป จนกระทั่ง เมื่อ 7-8 ปีก่อน แม่ตัดสินใจจะทำสวนดอกหน้าวัว
เราเลยย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่แบบเต็มตัว ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
ชาวบ้านที่นี่ก็ทำมาหากิน ด้วยการปลูกมัน ปลูกข้าวโพด ตามประสาคนต่างจังหวัด (จนกระทั้งวังน้ำเขียวบูม จึงมีอาชีพอื่นเข้ามาประกอบการในพื้นที่)

วันนี้พอป๋ารู้ว่าโทรไปช่องเจ็ด ป๋าบ่นมากมายว่าหาเรื่อง ...แต่สำหรับนัท นัทคิดว่ามันไม่ใช่การหาเรื่องเข้าตัวนะ แต่มันเป็นการบอกให้รู้ว่า สิ่งที่คุณนำเสนอไป
มันบิดเบือน มันไม่ใช่ แต่ไม่โทษนักข่าว เพราะเห็นจะ ๆ ว่า ป่าไม้ทับลาน ชี้ให้ถ่ายภาพบ้าน (เจริญจริง ๆ พ่อคุณ) ก็ท่านผู้มียศท่านไม่ใช่คนในพื้นที่ คิดอยากจะชี้ก็ชี้
คิดว่าชาวบ้านเป็นควายหรือไงไม่ทราบ...เผอิญเป็นคน ๆ หนึ่งที่ถือคติว่า ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็คือถูก แต่ที่ออกข่าวไปมันไม่ใช่ไง...

วังน้ำเขียววันนี้ เงียบยังกะป่าช้า...ชาวบ้านที่ทำมาหากินกันจริง ๆ ต่างคิดมาจิตตกกันเป็นแถว ๆ ซึ่งชาวบ้านส่วนมากไม่ใช่คนมีการศึกษาสูง ๆ จึงไม่ค่อยเข้าใจ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนัก กังวลและวิตกว่า บ้านจะถูกรื้อเมื่อไหร่ จะถูกไล่ออกจากพื้นที่เมื่อไหร่..และเกิดอะไรขึ้นกับวังน้ำเขียวที่เคยสงบ

นัทเคยไม่ชอบใจเวลาช่วงไฮซีซั่น ที่คนหลั่งไหลเข้าสู่วังน้ำเขียว เพราะไม่ว่าจะกระดิกตัวไปไหนก็มีแต่คนแต่รถเต็มไปหมด หาอะไรกินก็ลำบากออกไปตลาดยังไม่มีที่จอดรถ
แต่ส่วนหนึ่งก็เข้าใจว่า การที่วังน้ำเขียวบูม ทำให้ชาวบ้านเงยหน้าอ้าปากได้ มีอาชีพเสริมนอกจากทำการเกษตร แต่ตอนนี้เหตุการณ์มันกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว
ออกไปนอกจากร้านอาหารจะว่าง ตลาดจะไม่ค่อยมีของแล้ว ชาวบ้านยังหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะข่าวที่ออกจากสื่อไม่ได้หยุดมาหลายอาทิตย์นี่แหละ

บอกตรง ๆ ว่า "ประสาทจะแด๊ก" อยู่แล้ว ต่อให้คนประสาทแข็งที่สุดก็เหอะ...ทุกคนได้แต่หวังว่าเรื่องยุ่ง ๆ มันจะจบเสียที

ประเด็นที่สอง
ข่าว ฆ่ากระทิง ที่วังน้ำเขียว ตอนแรกว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ แต่อยากให้คนรู้ความจริงว่า ข่าวที่ออกนั้น คนในพื้นที่รู้สึกอย่างไร..
กระทิงที่ออกมาแล้วถูกฆ่า หรือทำให้บาดเจ็บนั้น เป็นเพราะมันออกมานอกพื้นที่ มากินพืชไร่ของชาวบ้าน สิ่งที่ชาวบ้าน ทำได้คือ ไล่ อาจเลยเถิดไปถึงการทำให้กระทิงบาดเจ็บหรือตาย
แต่....

หลายครั้งที่ป่าไม้ บอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่พอที่จะดูแลตรงจุดนี้ พอกระทิงเจ็บ คนถูกประนาม แต่พอ กระทิง ลงมาควิดคนตาย ข่าวเงียวกริบ...
หากจะโทษว่าใครสักคนผิด นัทว่า ผิดทั้งสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมีหน้าที่ดูแล แต่หละหลวม ส่วนอีกฝ่ายก็ผิดที่ใช้ความรุนแรงกับสัตว์
ปัญหานี้ ถ้าเถียงกันก็เหมือนพายเรืองในอ่าง เพราะต่างฝ่ายต่างมีข้ออ้าง...
แต่อย่าลืมว่า ....คนกับสัตว์ต่างกัน...
สัตว์มันไม่รู้หรอกว่า ตรงนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรม มันรู้แค่ว่ามันหิว มันก็หากิน
ในขณะที่คน...
ทำเกษตรกรรม หวังเงินจากการทำงานหนัก เพื่อให้ได้ผลผลิตมาใช้เลี้ยงครอบครัว เมื่อเห็นผลผลิตถูกทำลาย เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะมีโทสะ...
คนกับสัตว์จึงต่างกันไง...

ทุกครั้งที่เข้าประชุม เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะอ้าง เจ้าหน้าที่ไม่พอ
ส่วนชาวบ้านก็บอกว่าก็ต้องทำมาหากิน ...

ก็ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมป่าไม้ไม่หางบประมาณมาทำลวดไฟฟ้ากั้นเขตมันให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ในเมื่อบอกป่าว ๆ ว่าอนุรักษ์กระทิง...อย่าบอกนัทว่า งบไม่มี
แต่ทำไมงบอย่างอื่นมีล่ะ...เรื่องอย่างนี้บอกแต่ปากว่าอนุรักษ์ไม่ได้ มันต้องปฏิบัติด้วย มันไม่ใช่ปัญหาเพิ่งเกิดขึ้น แต่มันเกิดมานานแล้ว เพียงแต่เพิ่งดัง เพราะวังน้ำเขียวกำลัง "ขึ้นหม้อ"
จะดีจะเลว คนที่เข้ามา แล้วก็จะออกไป ส่วนคนในพื้นที่ก็รับกรรมกันต่อไป

คนวังน้ำเขียวทุกวันนี้หน้าดำคร่ำเครียดกับข่าวที่ออกไป ชาวบ้านรากหญ้าส่วนใหญที่ทำกสิกรรมในพื้นที่ พืชผัก ขายไม่ออก เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว
รถไถดิน รถตัดหญ้า รถแทรกเตอร์ ถูกสั่งระงับไม่ให้ทำงาน แล้วคนทำงานรายวัน จะกินอะไรกัน
พวกคุณสร้างข่าว เข้าจับกุม ออกคำสั่ง ในขณะที่ประชาชนตาดำ ๆ ระดับรากหญ้ากำลังจะตาย พวกคุณเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่า คุณทำอะไรกับพื้นที่นี้...
ชาวบ้านพวกนี้ กินข้าวเหมือนพวกคุณนั่นแหละ ไม่ได้กินหญ้าเป็นอาหาร ..

ลองคิดกลับกันว่า ถ้าคุณเป็นชาวบ้านในพื้นที่และถูกทำอย่าางนี้ คุณจะเครียดไหม จะกังวลไหม คนใหญ่คนโตที่นั่งตากแอร์เย็น ๆ ในสำนักงาน หรือนั่ง ฮ. ตรวจการ บอกตรงนั้น
ตรงนี้ถูกบุก ถูกรุก เคยแหกตาลงมาดูความเป็นจริง ไหมว่าอะไรคืออะไร ...อันไหนคือพื้นที่บุกรุก อันไหนคือพื้นที่ดังเดิม
ใช่แต่นั่งตากแอร์เย็น ๆ สั่งงาน ใช่แต่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่นอกพื้นที่มา แล้วมาชี้เอามั่วซั่วเอาผลงาน หน้าตา
มันถูกแล้วหรือ...
แบบนี้มันเรียกว่า "รังแกประชาชน" หรือเปล่า...
คำก็บุกรุก คำก็ตัดไม้ทำลายป่า....ด
แล้วไอ้ที่ปลูกป่าทดแทนกันโครม ๆ โครงการปลูกป่าที่เกิดขึ้นในวังน้ำเขียวทำไมไม่เห็นพูดถึง..

ตกลงว่า คุณจะให้ประชาชนชาววังน้ำเขียว ย้ายออกจากพื้นที่ไปทั้งหมดใช่ไหมคุณถึงจะพอใจ!!!!

นี่คือความรู้สึกของคนในพื้นที่..ที่อยากให้คนฟังข่าวทุกคนได้รับรู้ ...ใช่แต่ฟังแต่ข่าวที่บิดเบือน และเจ้าหน้าที่บางคนชี้มั่วซั่ว...แล้วเอาไปทำข่าว

ปล. นั่งดูข่าวอยู่ เลขาธิการ ฯ อะไรสักคน กำลังให้สัมภาษณ์ ได้มั่วจริง ๆ ว่าเรื่องนี้ทำมาสองสามเดือนแล้ว ห่วยยย มันเพิ่งหลังเลือกตั้งนี่แหละที่มีปัญหาเซ็งว้อยยย

ปล.อีกอันหนึ่ง รบกวนคนอ่านที่อ่านบทความนี้แล้วสนใจ ช่วยส่งให้พื่อน ๆ อ่านกันด้วยนะคะ คนวังน้ำเขียจิตตกจะแี่ย่แล้วค่ะ







Create Date : 27 กรกฎาคม 2554
Last Update : 31 กรกฎาคม 2554 9:09:07 น. 3 comments
Counter : 752 Pageviews.

 
ป๋านัทมีที่ ที่นี่ก่อนที่ป่าไม้จะมาตั้งหน่วยอุทยานเสียอีก ป๋ากะแม่จะไป ๆ มา ๆ ที่นี่เป็นประจำ
เพราะลุงอยู่ที่นี่จำได้เมื่อก่อนตอนไม่มีถนน ไม่มีอุทยาน เวลามาทีไรต้องจอดรถไว้ตรงสะพานไม้เก่าๆ แล้เดินข้ามเข้ามาเพราะไม่มีถนน
และสะพานก็น่ากลัวมามาย เวลาจะไปน้ำตกต้องเดินเข้าไป เป็นน้ำตกของคนสวนห้อมคนเก่า ๆ จะรู้
สภาพดีว่าอะไรคืออะไร..ตอนแรก ๆ ไม่ได้ทำอะไรกับพื้นที่มากนัก( ก่อนป่าไม้จะเข้ามาอยู่) เพราะเมื่อพยายามปลูกอะไรลงไป
ก็จะมีไฟป่า ลงมาเผามันเสียทุกครั้งไป จนกระทั่ง เมื่อ 7-8 ปีก่อน แม่ตัดสินใจจะทำสวนดอกหน้าวัว
เราเลยย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่แบบเต็มตัว ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร
ชาวบ้านที่นี่ก็ทำมาหากิน ด้วยการปลูกมัน ปลูกข้าวโพด ตามประสาคนต่างจังหวัด
ที่ป๋าได้มาเป็นที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือว่าได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ครับ


โดย: หมาบ้า IP: 192.168.2.109, 180.183.210.204 วันที่: 31 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:23:25 น.  

 
เพิ่งมาเห็น ขอตอบคุณ "หมาบ้า" นะคะ

ก็ได้มาเหมือนที่ชาวบ้านที่นี่ได้รับมานั่นล่ะคะ...


โดย: เปียร์รุส วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:13:08:11 น.  

 
ช่ายค่ะ พ่อแม่ ไปซื้อที่ที่วังน้ำเขียว มาร่วม 15 ปี เมื่อก่อนเรานอนกระท่อม นอนเต้นท์ ปลูกต้นไม้ ปลูกพืช ทำสวน ไม่มีใครมาสนใจ จนเก็บหอมรอมริบ สร้างบ้านขึ้นมา จู่ ๆ มาออกข่าว เราบุกรุกป่า ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้น้ำท่วม เมื่อก่อน ยังไม่มีต้นไม้ใหญ่ พ่อแม่เราเนี้ยละ เป็นคนซื้อ ไม้ใหญ่ไปปลูก หมดเงินไปเยอะ คำก็ว่าทำลายป่า สองคำก็ว่าบุกรุกป่า


โดย: pam IP: 110.169.143.52 วันที่: 27 เมษายน 2555 เวลา:23:02:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เปียร์รุส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




In Rememberกองความทกข์ทับถมกองพะเนินเหมือนกองหิมะขาวโพลนตรงหน้าแต่..มันจะแตกต่างกันตรงที่ เมื่ออากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น กองหิมะก็จะละลายกลายเป็นน้ำไป...แต่ความทุกข์ที่เกาะกุมแนบแน่นอยู่ชิดติดเนื้อใจนั้น...วันใดถึงจะหายเจ็บปวดและ...ทรมานเสียที



:::คำเตือน:::ขอสงวนสิทธิ์ใด ๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยาย เรื่องสั้น ในบล็อคแห่งนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์

:::แจ้งข่าว:::
10 ส.ค. 57 อัปฯ นิยาย

เรื่อง : ตราบเวลามิอาจกั้นรัก บทที่ 1

สวัสดีค่ะ หล้งจากห่างหายไปนานมากกกับ การเขียนนิยายในบล็อค พยายามเจียดเวลามาจัดการงานค้างในไหดองค่ะเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คนไหนยังคงจำกันได้และแวะเวียนมาอ่าน ลงคอมเม้นให้ด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจล่วงหน้าค่า... ^_^

ขอบคุณค่ะ
นัท
เปียรุส / ปรานต์ปัณฑ์
วังน้ำเขียว โคราชค่ะ




:::บอกเล่า::: ห้องที่งดการให้กุญแจ คือ

ฝากฟ้าถามดาวถึงข่าวคราวความรัก

เกลียวใจใยรัก (หัวใจที่ปลายฝัน)

ก็แค่ใครคนหนึ่งซึ่งคิดถึงเธอ

ทะเลทรายลายดาว

เรื่องสั้นขนาดยาว Season Of Love

เรื่องสั้นขนาดยาว Project Love & Kiss

ริ้วทรายใต้ตะวัน

เรื่องสั้นขนาดยาว Silver Fall's รสรักกรุ่นหัวใจ

หัวใจเพื่อรักความรักเพื่อลืม

มหรรณพแสงจันทร์

นิยายที่อยู่ในห้องที่ใส่กุญแจหาอ่านได้ตามร้านหนังสือนะคะ

ขอบคุณค่ะ

นัท...เปียรุส /ปัณณธร


รวมผลงานของเปียรุส , ปรานต์ปัณฑ์

ผลงานเดี่ยว



รวมเล่มกับนักเขียนท่านอื่น



Season Of Love

โดย ปัณณธร (เปียร์รุส)



Friends' blogs
[Add เปียร์รุส's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.