~*-* ความสับสน*-*-~
ทุบคอมฯทิ้งไปได้ไหม ไปนอนที่บ้านได้เปล่า อีกสองประโยคที่เธอพูดออกมาทำให้ฉันหงุดหงิดและทำให้ฉันเหมือนรู้สึกผูกมัดทั้ง ๆ ที่เราเองก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันแม้กระทั่งแฟนฉันเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะรู้ไหมว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ระหว่างคำว่าเพื่อนกับแฟนแต่เธอไม่ได้เป็นทั้งสองอย่างฉันรู้ว่าตัวเธอกำลังพยายามจะเดินล้ำเส้นนั้นเข้ามา โดยที่ฉันไม่เต็มใจและยิ่งไม่เต็มใจใหญ่เมื่อได้ยินสองประโยคนั้นประโยคแรก ก็ทำให้รู้สึกแย่แล้วทำไมชั้นจะต้องทุบคอมฯทิ้งเพื่อมีเวลาคุยกับเธอด้วย ปกติกับคนอื่น ฉันก็คุยไปทำคอมฯไปไม่เห็นมีใครบอกให้ฉันทุบคอมฯทิ้งเลย ประโยคที่สองยิ่งแย่ใหญ่ ฉันอึ้งไป พร้อม ๆ กับเสียความรู้สึกมันเหมือนกับว่าฉันเป็นอะไรสักอย่างที่เธอจะไปจะมาก็ได้ทุกเมื่อฉันรู้สึกว่ามันมากไปสำหรับประโยคนี้ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็มีบ้านเพื่อนอยู่ที่นี่ ทำไมต้องเป็นบ้านชั้น ซึ่งมีพ่อกับแม่อยู่ด้วยหรือถึงแม้ไม่มี ฉันก็ไม่คิดจะให้เธอมาอยู่แล้วมันเหมือนไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกันและยิ่งฉันรู้ว่าเธอพูดในตอนที่เธออยู่พร้อม ๆ กับเพื่อน ๆ เธอด้วยแล้วละก็ มันเป็นคำพูดของความคะนองอยากอวดเพื่อนหรือเปล่าฉันไม่แน่ใจแต่....ฉันเสียความรู้สึกไปมากๆๆปกติถ้าบ้านเราเปิดต้องรับเพื่อนเสมอแต่สำหรับเธอมันไม่ใช่ถ้าเป็นเพื่อนกันตามปกติ ถ้ามันพูดคำพูดประโยคนี้ฉันจะตอบไปว่าเออ ก็มาดิ ที่นอนเยอะแยะแต่เธอ..... ฉันพูดประโยคนั้นไม่ได้คำพูดของเธอทำให้เรารู้สึกเหมือนโดนดูถูก!!!!เธออาจจะไม่ได้คิดอะไรแต่เราคิด และคิดมากด้วยวันนี้เราจึงไม่รับโทรศัพท์ทั้งวันเพราะเราไม่รู้จะพูดอะไร เราอยากให้เธอมีเวลาทบทวนตัวเองแต่เธอจะรู้หรือเปล่าเราก็ไม่รู้นะแต่ที่รู้ เรากำลังอึดอัดและเหมือนถูกผูกมัดอยู่ทุกขณะ ตอนนี้ไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแย่กับเธอมากไปกว่านี้ไม่อยากอธิบายเหตุผลที่ไม่รับสายและเหตุผลที่คะแนนเธอติดลบจวนจะตกลงไปใต้คำว่าเพื่อนเราอาจจะเป็นคนคิดมากและมีโลกส่วนตัวสูงมากคนที่ไม่เข้าใจ ก็จะไม่เข้าใจไปตลอดเหมือนเธอไง... อีกคำหนึ่งที่ฉันไม่ชอบและบอกเธอตั้งแต่ต้นที่เริ่มคบกัน ...อย่าตัดสินใจโดยเอาเราเข้าไปมีส่วนในการตัดสินใจนั้นเหตุผล เพราะว่า....ถ้าในวันหนึ่งเราไปไม่ถึงในจุดที่เราหวังฉันก็ไม่อยากได้ยินเธอโทษว่าเป็นเพราะฉันมีส่วนในการตัดสินใจนั้นเหมือนเรื่องซื้อรถเธอบอกว่าซื้อเพื่อจะได้ขับมาหาฉันแต่ฉันไม่ต้องการถ้าเธอจะซื้อก็เพราะเธอต้องใช้ ไม่ใช่เพราะฉัน ๆ ไม่ต้องการอุตส่าห์คิดถึงคำนี้อีกคำ....ถ้ามันลำบากมากมายนักก็ไม่ต้องก็ได้ฉันไม่เคยบังคับใครให้มาคิดถึงและเรื่องการเสียสละที่เธอพูดถึงถ้ามันลำบากมากมายเพราะอยากมาอยู่ใกล้ ๆ กันก็ไม่ต้องก็ได้ การเสียสละของเธอถ้ามีเราเป็นส่วนในการตัดสินใจทิ้งชีวิตที่เคยชินของเธอเพื่อมาอยู่ที่นี่เราบอกได้คำเดียว ว่าไม่ต้องและจะให้เราเสียสละไปอยู่ที่นั่นเราก็คงไม่ทำชีวิตเราคุ้นชินกับที่นี่แล้วถึงแม้ว่า กทม จะเป็นที่เกิดและเติบโตมาเกือบยี่สิบกว่าปีก็เหอะ...เราจะไม่เปลี่ยนตัวเราเพื่อใครและเราก็ไม่ต้องการให้ใครเปลี่ยนตัวเองเพื่อนเราด้วย สิ่งที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ สิ่งที่เธอเรียกว่า ความรักของเธอแต่มันเป็นเพียง ความชอบ สำหรับความรู้สึกของฉันฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันเป็นคนชอบคนง่าย แต่รักคนยากเธอหัวเราะ....มีสิ่งหนึ่งที่ฉันเชื่อมาเสมอในการคบใครสักคนแรก ๆ ที่คนสองคน คบกันมันเป็นความหลงซึ่งกันและกันนานไปสักหน่อยมันอาจจะพัฒนาเป็น ความรักและคนสองคนจะพยายามเรียนรู้ซึ่งกันและกันสุดท้ายพอเรียนรู้ซึ่งกันและกันแล้วรู้ซึ้งถึงการเป็นตัวตนของคนสองคนก็หมดความน่าสนใจที่จะศึกษาซึ่งกันและกันในวันนั้นความรักและความหลงก็จะหมดลงไปด้วยและสิ่งเดียวที่จะทำให้คนสองคนเดินต่อไปด้วยกันได้สิ่งเดียวที่จะยึด คนสองคนไว้ด้วยกันสิ่งนั้นเรียกว่า ความเข้าใจและความเข้าใจนี่แหละที่จะพาคนสองคนให้ไปตลอดรอดฝั่งได้แต่สำหรับฉันตอนนี้ตอนที่ความรู้สึกที่มีต่อเธอ ความรู้สึกที่เรียกว่ามากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟนขนาดตอนนี้ฉันยังรู้สึกแย่ขนาดนี้เธอยังไม่มีความเข้าใจขนาดนี้ความรู้สึกมันจะพัฒนาไปกว่านี้หรือเปล่าฉันก็ไม่รู้ .....แต่ที่ฉันรู้...เธอไม่เข้าใจในความที่เป็นฉัน และฉันเป็น...
เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ดีจัง