ไร้สาระ
17 ต.ค. 2549
งานยุ่งจนไม่มีเวลาพักเลยครับ เบียดบังเวลาตัวเองมาได้หน่อยหนึ่งก็เลยแวะมาเล่นบล็อกสักครู่
เห็นข่าวเรื่อง การสั่งห้ามโฆษณาเหล้า-บุหรี่ ในสื่อทุกชนิด ทุกรูปแบบ ตลอดเวลาแล้ว ก็รู้สึกว่ามันชักเพี้ยนๆ ไปนะ อะไรที่มันสุดโต่งเกินไปมักจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี
คราวที่แล้วที่มีม็อบมาไล่ไม่ให้เบียร์ช้างเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นก็ทีหนึ่งแล้ว ผมว่ามันไร้สาระ สุดท้ายก็เอาเงินไปป้อนให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์เสียฉิบ
ถ้าผมเอาอารมณ์ของการที่ดูหนังมากเกินไปมาจับเรื่องเบียร์ช้าง ผมก็จะคิดว่าสิงคโปร์เอาเงินมาจ้างให้ม็อบเหล่านี้ออกมาต่อต้าน โดยเอาเรื่องศีลธรรมและเรื่องการมอมเมาเยาวชนมาชูเป็นประเด็น ซึ่งก็ได้ผลเพราะคนไทยก็บ้าจี้ตามม็อบเสียด้วย ยิ่งได้นักจิตวิทยามวลชนมือเอกมาเป็นผู้นำ ก็รับประกันความสำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง
จะเรียกว่าทฤษฎีสมคบคิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็อย่ามาเอาประสีประสาอะไรกับผมเลย ก็แค่คนที่ดูหนังมากจนอาจจะคิดอะไรเพี้ยนๆ ไปคนหนึ่ง
ผมว่าเรื่องห้ามโฆษณาเหล้า-บุหรี่เป็นเรื่องที่ไร้สาระพอๆ กับการไม่ให้เบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น
มันไม่เกี่ยวกันหรอกครับ คนที่จะมันจะกิน-จะสูบ จะมีหรือไม่มีโฆษณา จะอยู่ในตลาดหุ้นเมืองไทยหรือเมืองนอก มันก็ต้องหามากินมาเสพจนได้ แล้วมันเรื่องอะไรที่จะเสียประโยชน์ที่จะได้มาจากสินค้าเหล่านี้ล่ะครับ
หัวหน้าพรรคเก่าแก่ท่านก็ยังบอกเลยว่า มีงานวิจัยที่บอกว่าการห้ามโฆษณาไม่มีผลต่อยอดขายของสินค้าประเภทนี้ ในทางกลับกัน ถ้าเขาเลิกเป็นผู้สนับสนุนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม มันน่าเป็นผลเสียมากกว่า
ถ้าห้ามโฆษณาในเชิงชักชวน เช่น ดื่มแล้วเท่ สูบแล้วหญิงติด ก็ว่าไปอย่าง
ไม่รู้ว่าคุยกับกระทรวงอื่นๆ แล้วหรือยัง โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งวงการนี้มีสินค้าเหล่านี้เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่
ไม่รู้ว่าคุยกับคนในต่างจังหวัดที่กำลังรอรับ "ผ้าห่ม" เพื่อรับมือกับหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึงแล้วหรือยัง
ว่าจะเข้ามาแค่แวะไปเยี่ยมที่บล็อกของเพื่อนฝูง แต่ก็อดที่จะบ่นเรื่องนี้ไม่ได้
ก่อนจาก...
ช่วงนี้ผมกำลังอ่าน ความสุขของกะทิ อยู่ ซื้อมาเพราะเห็นว่าได้รับรางวัลซีไรท์นั่นแหละ ผมค่อยๆ อ่านวันละสองสามบท ค่อยๆ ให้มันซึมซาบเข้าไปทีละน้อยๆ
จริงๆ ก็ไม่ใช่เหตุผลนั้นเสียทีเดียวหรอกครับ มันไม่ค่อยมีเวลาต่างหาก
อีกอย่างหนึ่งคือ เสียดายเงินถ้าอ่านจบเร็วเกินไป เพราะหนังสือเล่มบางเหลือเกิน อ่านจริงๆ ไม่เกินชั่วโมงสองชั่วโมงก็คงจบแล้ว ยังไม่ทันคุ้มค่าหนังสือเลย
ผมชอบบรรยากาศนิ่งๆ เนิบๆ และเรียบง่ายของหนังสือนะ รวมทั้งประโยคสั้นๆ ที่ขึ้นต้นแต่ละบทเรื่องแม่ของกะทิ กำลังติดตามอยู่ว่าผู้เขียนจะขมวดเรื่องในตอนท้ายอย่างไร
อ่านแล้วเป็นอย่างไร ผมอาจจะเข้ามาคุยให้ฟังทีหลัง
ถ้าดี ก็จะต้องไปซื้อภาคต่อ เข้าใจว่าชื่อ ความสุขของกะทิ: ตามหาพระจันทร์ มาอ่านอีก
Create Date : 17 ตุลาคม 2549 |
|
17 comments |
Last Update : 17 ตุลาคม 2549 19:45:12 น. |
Counter : 1082 Pageviews. |
|
|
|
เรื่องห้ามโฆษณาเหล้าเบียร์ผมก็ไม่ได้ว่าว่ามันจะไร้สาระซะทีเดียวหรอกนะครับ มันก็ดีอยู่ที่สนับสนุนไม่ให้ของพวกนี้มากเกินไป แต่วิธีการแก้ไขมันไม่ค่อยจะได้ผลเท่านั้นเอง
อยากหาหนังสือใหม่ๆ อ่านเหมือนกัน แต่ช่วงนี้ทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ เอาไว้ปิดเล่มรายงานก่อนจะขอพักทำอะไรที่อยากทำซะที
จขบ. สบายดีนะครับ