sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
4 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ ๙ เกลือจิ้มเกลือ




สามวันต่อมาที่ห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์หลังใหญ่กำลังระอุไปด้วยความร้อนรนของคนอีกหลายฝ่าย สีหน้าของเจ้าสัวรุ่งโรจน์เริ่มเครียดขรึมเมื่อได้รับข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีนักจากคู่สนทนาทางโทรศัพท์

“อะไรนะ! พวกนั้นจะส่งลงใต้งั้นเหรอท่านนายพล”

อะไรกัน...พวกนั้นกล้าเล่นถึงขนาดนี้เลยเหรอ...ไม่ได้นะคะเก็จไม่ยอม”
เสียงเจ้าสัวใหญ่ถามย้ำเพื่อความแน่ใจที่ดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงแทรกของเก็จแก้วที่แหวอย่างฉุนเฉียวหยุดคนที่กำลังจะเดินผ่านหมุนตัวเดินเข้าไปหา

“ใครจะมาขอดาวอีกเหรอคะคุณแม่...”

พริบพันดาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นมารดากำลังนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ข้างบิดาที่ยังคุยโทรศัพท์ค้างอยู่

“มาแล้วเหรอลูก...”

เก็จแก้วละสายตาที่กำลังจ้องหน้าสามีหันไปถามแล้วลดอาการเกรี้ยวกราดลงเมื่อเห็นบุตรีเดินใกล้เข้ามา

“สงสัยเตี่ยคุยอยู่กับอีหนูล่ะซีคุณแม่ถึงได้มานั่งกรี๊ดๆ อยู่ข้างๆ แบบนี้”

พริบพันดาวยังมีแก่ใจกระเซ้ามารดาทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าสาเหตุของเสียงกรี๊ดคืออะไร

“ยังจะมาปากดีอีกนะแม่ตัวดี...ทำหน้าระรื่นแบบนี้สงสัยยังไม่รู้ชะตาตัวเองล่ะสิ”

เก็จแก้วหันไปค้อนขวับใส่บุตรีอย่างหมั่นไส้

“มีอะไรเหรอคะแม่...ดูหน้าเตี่ยสิคิ้วชนกันจนจะเป็นโบกี้รถไฟแล้วนั่น”
พริบพันดาวทรุดลงนั่งพร้อมกับสอดมือกอดเอวมารดาแล้วพยักพเยิดไปทางบิดาสีหน้าขบขัน

“รอเตี่ยวางสายดาวก็ถามเอาสิ...อย่าให้แม่พูดเลยบอกตรงๆ อารมณ์มันปรี๊ด”

พริบพันดาวเลิกคิ้วอย่างทะเล้นแต่พอเห็นประกายตาขุ่นเขียวของมารดาฉายชัดออกมาหญิงสาวจึงรีบเปลี่ยนความทะเล้นเป็นรอยยิ้มหวานหยดเพราะเริ่มหวั่นเล็กๆ กับแรงโทสะที่กำลังจะตามมา

“ว่าไงเตี่ย...พวกนั้นมันทำอย่างนั้นจริงเหรอ”

พอเจ้าสัวรุ่งโรจน์วางสายเสียงเขียวๆ ของภรรยาก็ถามขึ้น

“ตอนนี้ท่านนายพลกับท่านนายกฯ กำลังพยายามหาทางกันออกอยู่...เฮ้อ! ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้...”

เจ้าสัวใหญ่หันไปจ้องหน้าภรรยาสีหน้าหนักใจ

“ยังไงก็อย่าไปยอมเขานะคะไม่รู้ล่ะถ้าคำสั่งบ้าๆ นั่นออกมาเก็จจะเล่นงานพวกนั้นเอง”

เก็จแก้วบอกด้วยระดับเสียงที่คนเป็นสามีแทบสะดุ้ง

“คุณแม่ขาปล่อยพวกเขาเถอะค่ะ...”

“ยัยดาวหนูจะบ้าเหรอ...พวกนั้นกำลังบีบท่านนายกฯ ให้เซ็นหนังสือย้ายหนูไปสามจังหวัดชายแดนนะ...แม่ไม่ปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ แน่”

เก็จแก้วเข่นเขี้ยวอย่างเหลืออดเมื่อเห็นชัดว่าอีกฝ่ายกำลังใช้อำนาจของผู้บริหารระดับประเทศกลั่นแกล้งบุตรี

“หนูรู้ว่าพวกนั้นยังไงก็ต้องทำแบบนี้อยู่แล้ว...คุณแม่ขาอย่าไปเต้นตามพวกเขาซีคะปล่อยให้พวกเขาบ้าอำนาจไปเถอะ...แค่ย้ายไปอยู่ใต้แค่นี้เล็กน้อยจะตายไปจริงไหมเตี่ย”

พริบพันดาวเกยคางลงบนบ่าของมารดาแล้วยิ้มร่าออกมา ก่อนจะหันไปพยักพเยิดกับบิดาอย่างทะเล้น

“เห็นไหมม๊าลูกเราน่ะมันธรรมดาเสียที่ไหน...เตี่ยชักสนุกไปกับแกแล้วสิอาดาว...เฮ้อ! ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจที่เขาจะส่งลื้อไปชายแดน”

“นี่แน่ะ...เรื่องคอขาดบาดตายถึงขนาดนี้เตี่ยยังจะมีแก่ใจมานั่งขำอีกเหรอ...ฮึตกลงไม่มีใครเดือดร้อนเลยใช่ไหม...ไม่ได้ดังใจสักคน”

เจ้าสัวพูดไปขำไปจนคนเป็นภรรยาลุกขึ้นไปบิดพุงที่ยื่นออกมาอย่างเหลืออดก่อนจะกระแทกสะโพกลงบนโซฟาแรงๆ อย่างมีอารมณ์

“อูย...ม๊าทำไมมาลงไม้ลงมือกับเฮียแบบนี้ล่ะ...เฮียก็แค่ภูมิใจที่อาดาวอีไม่ใช่คนใจเสาะ”

เจ้าสัวใหญ่ลูบพุงที่ถูกประทุษร้ายไปมาสีหน้าขบขัน

“เขาจะส่งลูกไปตายเตี่ยยังจะภูมิใจอีกเหรอ”

“ถึงตายอย่างน้อยก็ได้ธงชาติคลุมหน้าให้เป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลล่ะน่า...ใช่ไหมอาดาว”

เจ้าสัวยังมีแก่ใจเย้าแหย่ภรรยา

“พูดอีกก็ถูกอีก...และไม่ใช่แค่นั้นนะเตี่ย...ดาวจะได้เลื่อนยศแบบแล่นฉิว...เผลอๆ ได้เป็นพลเอกหญิงในพริบตาเชียวนะ”

ร้อยเอกหญิงยกมือร่วมสนับสนุนคำพูดของบิดา

“ต๊าย! สองพ่อลูกนี่เป็นยังไงทำไมพูดจาอัปมงคลแบบนั้น...โอย...ได้ยินแล้วลมจะใส่”

เก็จแก้วถลึงตาไปทางสามีทีทางบุตรีทีด้วยสีหน้าที่บ่งบอกชัดว่ากำลังไม่พอใจสุดๆ

“ใจเย็นๆ น่าม๊าเราต้องให้เวลาผู้ใหญ่บ้าง...ตอนนี้ท่านนายกฯ กำลังพยายามหาทางออกอยู่เรื่องนี้เฮียบอกแล้วไงว่ายังไงก็ไม่ยอมให้เสียเปรียบพวกเขาหรอก...”

“เสียเปรียบไม่เสียเปรียบตอนนี้เราก็แทบจนตรอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...เก็จจะให้เวลาเฮียแก้ปัญหาแค่ชั่วโมงเดียว...ถ้าคำตอบยังออกมาเหมือนเดิมเก็จจะลุยเอง”

เก็จแก้วปรายตาจ้องหน้าสามีพร้อมกับออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด

“เตี่ย...ถ้าเรื่องนี้มันทำให้เป็นปัญหาใหญ่ขนาดนั้นก็อย่ารบกวนใครให้ยุ่งยากเลยค่ะ...คุณแม่ขาถ้าต้องไปอยู่ชายแดนจริงๆ มันก็ไม่ได้แย่อะไรนัก...วันนี้ดาวโทรไปสอบถามเพื่อนที่ประจำการอยู่ทางโน้น...เขาก็บอกมาว่าทุกอย่างไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด...มันจะมีจุดที่รุนแรงแค่บางจุดเท่านั้น...หนูอยู่ได้ค่ะ”
พริบพันดาวพยายามพูดไกล่เกลี่ยเพื่อลดความตึงเครียดของผู้ใหญ่

“หนูอยู่ได้แต่แม่อยู่ไม่ได้...พริบพันดาวแม่รู้ว่าหนูเก่งและแกร่ง...แต่หนูหันมามองแม่หน่อยสิหัวใจแม่ไม่ได้แกร่งถึงขนาดทนมองลูกไปมีชีวิตแขวนอยู่บนความขัดแย้งที่รุนแรงแบบนั้น...เห็นใจแม่เถอะลูกลาออกมาทำงานของเราซะให้แม่ตายมันยังดีเสียกว่าให้แม่ต้องนอนผวาเพราะห่วงหนู”

เก็จแก้วบอกเสียงเครือขณะโอบร่างอรชรของบุตรีเข้ามาในอกด้วยความรักอันมหาศาล

“คุณแม่!...”

พริบพันดาวถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นดวงตาของมารดารื้อคลอจนเต็มเบ้า
“เตี่ย...เก็จไม่ยอม...ถ้าคำสั่งนั่นออกมาเก็จจะให้ลูกลาออกทันที”



เก็จแก้วบอกเสียงสั่นเครือ

“เอาน่าม๊าทุกอย่างมันต้องมีทางแก้...เรื่องลาออกใจเตี่ยก็อยากให้มันง่ายแบบนั้น...แต่ม๊าลองหันไปถามลูกหน่อยสิว่าจะยอมให้เป็นแบบนั้นไหม”
แม้จะรู้สึกรักและห่วงลูกไม่ต่างจากภรรยาแต่เจ้าสัวก็ยังเลือกให้เจ้าตัวเป็นผู้ตัดสินใจ

“คุณแม่ขาดาวคงเป็นลูกที่อกตัญญูมากถึงทำให้คุณแม่เสียใจแบบนี้”
พริบพันดาวขยับลงนั่งคุกเข่าต่อหน้ามารดาแล้วก้มกราบลงบนตักอย่างสำนึกหญิงสาวเงยหน้ามองดวงตาที่รื้อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยวก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังและฉะฉาน


“ดาวอาจจะเป็นลูกที่ไม่ดีแต่คุณแม่ขาที่ดาวเลือกเป็นทหารเพราะคุณตาเป็นทหารที่สง่างามและตระกูลส่วนหนึ่งของคุณแม่ต่างก็เดินอยู่บนทางสายนี้ หนูรู้ว่าชีวิตทหารไม่ได้เกิดมาเพื่อความสุขสบายพวกเราพร้อมที่จะตายเพื่อชาติได้ทุกเวลา”

“แต่หนูเลือกได้นี่...ทำไมงานของเราก็มีออกเยอะแยะทำงานที่เป็นของเรามันดีกว่าต้องไปก้มหัวให้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรมพวกนั้นเป็นไหนๆ”
เก็จแก้วยังมิวายโต้แย้ง

“ใช่ค่ะตอนนี้เรามีทางเลือก แต่ถ้าให้ดาวเลือกลาออกเพื่อหนีปัญหาดาวก็ขอเลือกที่จะไปตายในหน้าที่ค่ะแม่ ไม่ใช่ดาวไม่รักแม่หรือเห็นแก่ตัวแต่ชีวิตดาวได้มอบให้แผ่นดินนับตั้งแต่วันที่ปฏิญาณตน...คุณแม่ขาเห็นใจดาวสักนิดได้ไหมคะอย่าให้ดาวถอยเพื่อรับเสียงเย้ยหยันจากพวกนั้นเลยค่ะ”
ร้อยเอกหญิงพริบพันดาวบอกอย่างเด็ดเดี่ยว

“ตกลงหนูจะไม่ถอยให้แม่ใช่ไหม...ยังไงหนูก็จะเดินไปทั้งๆ ที่เห็นว่ามันเป็นหุบเหวใช่ไหม...โธ่!...ทำไมถึงทำร้ายหัวใจแม่แบบนี้”

เก็จแก้วโอดครวญออกมาอย่างร้าวราน

“ใช่ค่ะคุณแม่...หนูจะไปชายแดน...แต่ไม่ใช่สามจังหวัดที่พวกนั้นต้องการ”
พริบพันดาวอมยิ้มบางๆ พร้อมกับเริ่มเปิดเผยแผนการตลบหลังกลุ่มคนที่หวังเล่นงานเธอ

“หนูพูดอะไร?...มันหมายความว่ายังไงฮึ”

ถึงจะยังไม่เข้าใจแต่เก็จแก้วก็เริ่มเปิดใจรับฟังบ้าง

“โธ่! คุณแม่ขาประเทศไทยมันมีชายแดนอยู่ที่เดียวเสียเมื่อไหร่...เหนือใต้ตะวันออกตะวันตกชายแดนทั้งนั้นและหนูก็เลือกชายแดนอันแสนจะสุขสันต์ไว้แล้วด้วย...”

ร้อยเอกหญิงยิ้มพรายแล้วบอกอย่างร่าเริง

“ชายแดนไม่ว่าที่ไหนมันก็ไม่ได้สวยงามทั้งนั้น...ไม่ยอมแม่ไม่ให้หนูไป...เตี่ยเราต้องทำอะไรสักอย่างเก็จไม่ให้ลูกไปไหนทั้งนั้นต่อให้ต้องบาดหมางกับใครเก็จก็ไม่สน”

เก็จแก้วยังคงใช้สิทธิของมารดาเข้าขวางหนทางที่จะพรากลูกไปจากอก

“อาดาว...ไหนลื้อลองบอกเตี่ยมาหน่อยซิว่าลื้อคิดรับมือพวกนั้นยังไง...”
เจ้าสัวจ้องดวงหน้าหวานละมุนของบุตรีสีหน้าจริงจังก่อนจะหันไปปรามภรรยาที่ทำท่าจะอ้าปากทัดทาน “ม๊าอย่างเพิ่งขัดเฮียอยากฟังลูกก่อน”

เก็จแก้วที่กำลังจะอ้าปากท้วงจำใจต้องล่าถอยแล้วหันไปจ้องหน้าบุตรีด้วยสีหน้าที่บอกกรายๆ ว่าไม่เห็นด้วยในทุกกรณี

“พวกนั้นยังไงก็ไม่หยุดแค่นี้แน่ถ้าดาวยังไม่ได้เด้งไปไหน...จริงๆ สามจังหวัดชายแดนมีที่ปลอดภัยเยอะแยะไปแต่ดาวว่ามันไม่สนุกถ้าจะยืนเป็นหมากให้พวกเขาจับไปวางตรงไหนก็ได้ตามใจชอบ วันก่อนนายดนุเดชไปหาดาวที่กรมอีตานั่นบอกว่าถ้าดาวยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วเดินหน้าไม่ล่าถอยเขาจะยอมยุติเรื่องทั้งหมด”

“อะไรนะ! มันกล้าไประรานหนูถึงกรมเลยเหรอเนี่ย...กำแหงไปแล้ว”

เก็จแก้วเริ่มเดือดดาลเมื่อเห็นว่าเจ้าอันธพาลออกระรานไม่เลือกที่

“ดาวเลยยอมรับข้อเสนอเขาค่ะแม่ดาวจะไปที่ไหนก็ได้ตามคำสั่งแต่...มันจะเป็นคำสั่งที่ออกจากเราไม่ใช่พวกเขา”

“มันหมายความว่ายังไงอาดาว”

เจ้าสัวถึงกับงุนงงเมื่อเห็นว่าตนเริ่มตามไม่ทัน

“แหมเตี่ย...ดาวก็ให้คนออกคำสั่งส่งตัวเองไปอยู่ชายแดนตามความประสงค์ของเจ้านั่นโดยไม่กระทบกระทั่งกับผู้ใหญ่ของฝ่ายไหนน่ะซีคะ...ในเงื่อนไขเจ้านั่นไม่ได้บอกหนูนี่ว่าจะต้องไปเอ้เต้อยู่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เขาไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าจะส่งหนูไปประจำการที่ไหน...เมื่อกี้ลุงเกริกคงโทรมาเรื่องคำสั่งที่กำลังจะออกใช่ไหมคะ”

พริบพันดาวหันไปทางบิดาแล้วถามขึ้น

“ใช่...ท่านนายกฯ กับคุณมไนยกำลังเครียดได้ที่เลยทั้งคู่ ตอนนี้มันพูดยากเพราะทางคุณหญิงของทั้งสองบ้านเล่นเอาฐานคะแนนและอำนาจจากกระทรวงอื่นเข้าบีบ...เฮ้อ! มีเมียเก่งบางครั้งก็ปวดหัวว่าไหมม๊า”

เจ้าสัวหันไปทางภรรยาแล้วเปรยออกมาสีหน้าคร่ำเคร่ง

“เมื่อวานซืนเตี่ยเห็นข่าวเรื่องตำรวจจับไม้เถื่อนที่จังหวัดตากหรือเปล่าคะ”
อยู่ๆ พริบพันดาวก็ถามขึ้น

“เปล่า...เตี่ยไม่ชอบดูข่าวพวกนี้ลื้อก็รู้...เขาจับไม้เถื่อนกันแล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับลื้อล่ะ”

“เกี่ยวซีคะเพราะว่าคนที่เป็นหัวหน้าชุดบุกทลายคือพันตำรวจเอกกษิน วัฒนาจิราวัฒน์ บุตรชายของท่านนายพลเกษม วัฒนาจิราวัฒน์คนๆ นี้เป็นน้องชายแท้ๆ ของคุณแม่ไม่ใช่เหรอคะ” พริบพันดาวหันไปยิ้มแฉ่งให้กับมารดาสีหน้าทะเล้น “คุณแม่คงไม่ทราบล่ะสิว่าคุณอาถูกสั่งย้ายอีกแล้ว...”

“อ้าว! จริงเหรอกษินอยู่ที่กาญจณบุรีไม่ใช่เหรอ”

เก็จแก้วถึงกับหูผึ่งเมื่อได้ยินชื่อของน้องชายที่มีนิสัยตงฉินจนถูกโยกย้ายเป็นว่าเล่น

“ดาวก็เพิ่งรู้เมื่อเช้านี่เองว่าคุณน้าถูกย้ายสายฟ้าผ่าไปอยู่ที่แม่สอด พอรู้ตอนสายดาวเลยโทรไปขอความช่วยเหลือจากคุณตาก่อนจะใช้ฐานอำนาจของฝ่ายเราเข้าแทรกแทรงนิดๆ หน่อยๆ แล้วมันก็บังเอิญอีกเพราะคุณน้ากำลังต้องการเจ้าหน้าที่หน้าตาดีๆ ไปช่วยงานพอดี พรุ่งนี้ไม่เกินเก้าโมงหนังสือคงถึงกระทรวงกลาโหม”

พริบพันดาวบอกเล่าก่อนจะหันไปทางบิดาแล้วยิ้มกว้างออกมา

“เตี่ยโทรไปบอกลุงเกริกกับผองเพื่อนให้สบายใจได้เลยค่ะ แล้วเรียนท่านนายกฯ ว่าไม่ต้องลำบากใจอะไรอีกแล้วตอนนี้แค่รอเซ็นอนุมัติคำสั่งด่วนจากท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเรื่องขอตัวดาวไปช่วยภารกิจลับที่ตากก็พอ”

“บ๊ะ!...ให้มันได้อย่างนี้สิลูกสาวเตี่ย....อาดาวลื้อนี่มันเหนือชั้นจริงๆ ให้ตายเถอะ...ฮ่าๆ..เตี่ยภูมิใจในตัวลื้อมากเลยรู้ไหมวิธีนี้ถือว่าเป็นทางออกให้กับทุกฝ่ายโดยไม่ต้องขัดแย้งกันจนเป็นปัญหา...เข้าท่าจริงๆ”

เจ้าสัวรุ่งโรจน์ถึงกับตบเข่าดังฉาดเมื่อเห็นวิธีแก้ปัญหาอันชาญฉลาดของบุตรี

“คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงดาวนะคะเพราะต้อยก็ไปแถมที่โน่นยังมีคนของเราอยู่อีกตั้งหลายคนรวมถึงคุณน้าด้วยหนูไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

“แน่เหรอยัยดาว...”

เก็จแก้วถามด้วยท่าทีที่อ่อนลง ถึงจะไม่ใคร่ปักใจเชื่อกับคำบอกเล่าแต่พอรู้ว่าที่ที่พริบพันดาวจะไปมีเครือญาติใกล้ชิดนางจึงค่อยเบาใจ

“ถ้าคุณแม่ไม่เชื่อก็ลองโทรไปถามน้ากษินดูซีคะ”

พริบพันดาวบอกพร้อมรอยยิ้มทะเล้นจนคนเห็นรู้สึกใจชื้นขึ้น เมื่อทางออกที่ตีบตันและมืดมิดเริ่มมีแสงสว่างส่องเข้ามาต่อความหวัง เจ้าสัวรุ่งโรจน์จึงรีบต่อสายรายงานความคืบหน้าและวิธีแก้ไขปัญหาที่หลายคนกำลังแบกอยู่ มีเสียงพ่นลมหายใจจากผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องหลายคนเมื่อทางออกที่ดูมืดมนสว่างจ้าด้วยสติปัญญาของร้อยเอกหญิงผู้ที่ทุกคนต่างรักใคร่และห่วงใย

เก็จแก้วเหลือบตามองบุตรีด้วยสีหน้าที่แช่มชื่นขึ้นเมื่อน้องชายที่อยู่ในสายกำลังอธิบายเรื่องราวพร้อมกับขออนุญาตนางกรายๆ และให้การรับรองว่าจะดูแลให้ความปลอดภัยหลานสาวอย่างดี

เมื่อทางออกสุดท้ายพอรับได้เก็จแก้วจึงยอมล่าถอยและปล่อยให้บุตรีทำหน้าที่ของตัวเองได้เต็มความภาคภูมิใจ เจ้าสัวรุ่งโรจน์มองตามร่างปราดเปรียวที่ขอตัวไปจัดเตรียมเสื้อผ้าด้วยแววตาที่ทั้งทึ่งและภูมิใจ หากวันนี้พริบพันดาวยืนอยู่บนเส้นทางสายธุรกิจเธอคงสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับบริษัทจนคณานับไม่ได้

จากรูปแบบการตอบโต้เห็นชัดว่าหญิงสาวใช้อำนาจพลิกผันอำนาจโดยไม่ให้อำนาจที่ใช้กระทบกระเทือนจนเกิดความบาดหมางไม่ว่ากับฝ่ายใดเป็นรูปแบบที่เรียกว่าเหนือชั้นและฉลาดล้ำจริงๆ





Create Date : 04 มิถุนายน 2553
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 1:46:08 น. 5 comments
Counter : 540 Pageviews.

 
ชอบนางเอกค่ะ รักชาติ แล้วก็ไม่ก้มหัวให้ความไม่ถูกต้อง


โดย: fiona IP: 203.171.196.203 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:14:20:33 น.  

 
Awesome!


โดย: Olathe IP: 71.199.69.216 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:20:23:28 น.  

 
ชอบมากเลยคะ
แต่มีบางจุดที่สงสัยคะ
บางที่ก็เขียนว่านางเอกเป็น ร้อยตำรวจเอกหญิง แต่หลายๆที่เป็น ร้อยเอกหญิงคะ

อีกจุดนะคะ พันตำรวจเอก กษิน เป็นน้องชายของแม่ของนางเอก ทำไมนางเอกเรียกว่า อาไม่เรียกว่า น้า

ไม่ได้จะจับผิดนะค่ะ แต่อยากให้เวลาพี่จะได้ตีพิมพ์ไม่ต้องแก้เยอะคะ


โดย: pam IP: 124.122.1.222 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:21:00:11 น.  

 
ชอบ นางเอก ฉลาด เก่งและแกร่งดีคะ ......อยากรู้ว่าพระเอกกะนางเอก ใครจะเก่งกว่ากันหนอ........



โดย: ต่างแดน IP: 80.214.254.78 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:22:39:59 น.  

 
ขอบคุณคุณ pam ค่ะที่ช่วยแนะนำ

ยินดีและดีใจมากค่ะที่คนอ่านมาช่วยแนะนำ ตอนนี้แก้ไขให้ถูกต้องแล้วค่ะ ถ้ามีตรงไหนแปร่งๆ ดูไม่ค่อยสมบูรณ์อย่าลืมสะกิดเตือนมานะคะ

ขอบคุณค่ะที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานเขียนของอักษราสมบูรณ์มากขึ้น

ด้วยรักจากใจ

อักษราค่ะ


โดย: sansook วันที่: 6 มิถุนายน 2553 เวลา:1:56:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.