sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
24 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

ตอนที่ ๒๒ ฆ่าได้หยามไม่ได้




เสียงปืนที่ดังฝ่าความมืดไล่หลังมาติดๆ เพิ่มความเร็วฝีเท้าของใครคนหนึ่ง ที่วิ่งหัวซุกหัวซุนผ่านแนวไม้มากมายอย่างไม่รู้ทิศ

เสียงฝีเท้านับสิบๆ คู่ที่ดังอยู่รายรอบสร้างความประหวั่นพรั่นพรึงให้กับคนที่กำลังพยายามหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

ใบหน้ามอมแมมเผือดซีดทั้งอิดโรยและอ่อนแรงเต็มทีเพราะหลบหนีจากการไล่ล่ามานับสามชั่วโมง มือหนากร้านจากงานหนักทาบลงบนต้นไม้ต้นใหญ่ที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เสียงหายใจหอบเหนื่อยดังรัวเร็วเมื่อเจ้าของร่างเงยหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วหอบแฮ่กๆ

ใบหน้าถมึงทึงกราดตามองไปรอบๆ อย่างระวังภัย...ข้ามพุ่มไม้นี้ไปจะเป็นแม่น้ำ...และหากไปถึงเขาจะรอด...ดวงตาแห้งผากเริ่มส่องประกายแห่งความหวังเมื่อเห็นว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าอิสระจะกลับมาเยือนตนอีกครั้ง

“หยุด! อยู่ตรงนั้นไอ้เลิศ...”

แต่แล้วความหวังที่เปล่งประกายก็พลันดับวูบเมื่อเสียงเหี้ยมหาญของใครคนหนึ่งดังขึ้นตัดความหวังเดียวที่มีจนหมดสิ้น

“คะ..คุณกริช...ไว้ชีวิตผมด้วย...”

ชายร่างใหญ่ทรุดลงยกมือขึ้นท่วมหัวเพื่อร้องขอชีวิต

“อยากให้ฉันไว้ชีวิต...แล้วคิดหนีทำไม...ไอ้คนขี้ขลาด”

กฤตยชญ์ที่หอบเหนื่อยไม่แพ้กันชี้กระบอกปืนไปที่แสกหน้าของคนร่างใหญ่ เมื่อเดินเข้าไปในระยะที่พอเหมาะชายหนุ่มจึงตบด้ามปืนลงบนขมับของผู้ถูกล่าอย่างหัวเสีย

“โอ๊ะ!..ได้โปรด....ผะ...ผม...กลัวแล้วคุณกริช...ผมกลัวแล้ว...”

ใบหน้าถมึงทึงเปลี่ยนเป็นลนลานหวาดหวั่นเมื่อเห็นประกายอมหิตฉายชัดอยู่ในดวงตาและทีท่าของผู้ชี้ชะตา

“กลัวงั้นเหรอไอ้บัดซบ!” ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวพร้อมกับยันโครมลงบนร่างกายอีกฝ่ายอย่างเดือดดาลก่อนจะโน้มตัวจี้ปืนบี้ลงบนขมับชื้นเหงื่อแล้วตะคอกขึ้น “กลัวแต่ก็ยังกล้าเข้ามาลูบคม...คืนนี้ฉันจะจัดการกับพวกแกให้สาสมกับความเหิมเกริมที่กล้าเข้ามาล้ำเส้นฉัน ปกรณ์มาลากไอ้นี่ไปคืนนี้ขอทรมานคนเล่นแก้เซ็งหน่อยเถอะ”

กฤตยชญ์หันไปสั่งคนสนิทน้ำเสียงดุดันจนคนที่เป็นจำเลยได้ยินถึงกับเย็นวาบไปทั้งไขสันหลัง

“ครับคุณกริช...”

ปกรณ์พยักหน้ารับกระชับปืนในเดินเข้าไปหาชายหน้าดุที่ก้มหน้าสิโรราบแล้วหันไปสั่งการกับลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ

“เหลืออีกกี่คน”

คนเป็นนายถามน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ดุดันในทีเมื่อคนสนิทเดินเข้าไปกระชากชายร่างใหญ่แล้วลากขึ้นมาเผชิญหน้า

“เหลืออีกสอง...หากเป็นไปตามที่คุณกริชคาดการณ์ผมว่าป่านนี้พวกนั้นอาจจะข้ามฟากไปฝั่งโน้นแล้ว”

ปกรณ์รายงานพร้อมข้อสันนิษฐาน

“ไอ้เลิศตอบมาว่าไอ้สารเลวที่เหลือมันจะใช้เส้นทางไหนหลบหนีหากขึ้นฝั่งได้”

“ผะ...ผม...ไม่รู้...”

คนถูกถามส่ายหน้าตอบน้ำเสียงสั่นเทา

“ต้องรู้...อย่างน้อยก่อนลงมือพวกแกต้องวางทางหนีทีไล่อยู่แล้ว...ไอ้เลิศฉันจะปราณีหากแกให้ความร่วมมือ”

กฤตยชญ์ชี้ปืนตรงแสกแล้วกระชากลำกล้องข่มขู่

“ได้โปรด...อย่าทำผม...ผมทำตามคำสั่งเท่านั้น”

ชายร่างใหญ่ยกมือขึ้นพนมไหว้ร้องขอชีวิตน้ำเสียงลนลาน

“หนึ่ง...สอง...”

ชายหนุ่มจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็งด้วยประกายตาเย็นชาและไร้ซึ่งความปราณีแล้วเริ่มนับเลขด้วยน้ำเสียงอันเหี้ยมเกรียม...พร้อมกับขยับนิ้วชี้เตรียมเหนี่ยวไกปืน

“ห่างจากนี่ไปอีกสามร้อยเมตรจะมีเรือ...ได้โปรด...คุณกริชไว้ชีวิตผมด้วย...”

“ไว้ชีวิตแกแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร...ป่านนี้พวกเวรนั่นคงพายเรือข้ามฟากไปแล้ว”

มัจจุราชหน้าคมเข่นเขี้ยวอย่างมีอารมณ์

“เราใช้เรือยนต์...พวกมันจะยังไม่ไปไหนแน่เพราะกุญแจเรืออยู่ที่ผม...ไว้ชีวิตผมด้วยได้โปรด...”

มือหนาสั่นเทาล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงออกมายื่นให้อย่างลนลานแล้วพนมมือไหว้ร้องขอชีวิต

“หึ...ถ้าพวกมันไม่มีปัญญาไปไหนก็ดี...ปกรณ์ไปจัดการฆ่าแล้วเอาศพไอ้สารเลวพวกนั้นโยนลงน้ำ...”

กฤตยชญ์หันไปสั่งคนสนิทน้ำเสียงเย็นชา...ปกรณ์พยักหน้ารับคำสั่งแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย พอลับร่างของคนสนิทชายหนุ่มจึงวกหลับมาจ้องเหยื่อที่กำลังนั่งรอฟังคำพิพากษาด้วยประกายตาเหี้ยมเกรียมแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ

“ส่วนแกไอ้เลิศหน้าที่ของแกคือผู้นำสารจากฉัน...กลับไปบอกเจ้านายของแกว่าถ้าคิดจะประกาศสงครามฉันก็พร้อมจะสู้...วันนี้กระสุนนัดนี้มันจะไว้ชีวิตแก..แต่จำไว้ถ้าแกกล้ามาสร้างความเดือดร้อนให้ฉันนัดต่อไปแกไม่รอดแน่...”

เปรี้ยง!...

สิ้นคำสั่งเสียเสียงปืนก็แผดก้องไปทั้งป่าร่างใหญ่ที่นั่งสั่นเทาสะบัดไปตามแรงอัดของอาวุธร้ายเมื่อปลายกระบอกปืนส่งกระสุนเจาะเข้าที่หัวไหล่ชนิดเผาขนจนได้กลิ่นเขม่าเต็มจมูก

“โอ๊ย!...โอย...”

เสียงโอดโอยของชายร่างใหญ่ดังครวญครางพร้อมกับร่างที่ดิ้นพล่านอยู่บนพื้นสร้างความเวทนาและหวาดหวั่นให้กับคนที่ยืนอยู่ในบริเวณเป็นหนักหนา...ดวงตาหลายคู่เหลือบมองเสี้ยวหน้าคมของผู้เป็นนายแล้วนึกกลัวกับความอมหิต

...กฤตยชญ์เป็นคนหนุ่มที่ถือว่าใจคอเหี้ยมหาญเขาสามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นหากมีใครสักคนคิดล้ำเส้น...แม้บุคลิกภายนอกของชายหนุ่มจะอบอุ่นหล่อเหลาราวเทพบุตรแต่ทุกคนรู้ดีว่าเขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่ลังเลในเวลาเพียงเสี้ยววินาที...นับตั้งแต่ร่วมงานกันมาทุกคนรู้ดีว่าเจ้านายมีเหตุผลพอที่จะฆ่าหรือไว้ชีวิตคนที่คิดโค่นล้มตัวเองและทำอย่างไรกับคนที่ต้องการคำตอบ...

“อาวุธพามันไปส่งให้ถึงมือเจ้านายของมัน...เอาคนไปด้วยซักสองคนก็พอ” ใบหน้าคมสันหันไปสั่งลูกน้องร่างสูงโปร่งที่ยืนห่างออกไปนับสองวา”

“...หวังว่าแกคงจะไม่ใจเสาะรีบตายก่อนส่งข่าวนะไอ้เลิศ”

ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวแค่นเสียงไล่หลังแล้วปรายตามองคนที่กำลังถูกลากออกไปด้วยแววตากร้าวดุ

ไม่ถึงห้านาทีเสียง ‘เปรี้ยง!’ ก็แผดขึ้นจากพุ่มไม้ที่อยู่ห่างออกไปเป็นสัญญาณบอกว่างานที่สั่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

ร่างสูงใหญ่ราวหกฟุตครึ่งยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางแสงสลัวจากไต้..และแสงจันทร์เพียงครึ่งดวงที่ส่องสว่างไม่มากนัก ใบหน้าคมสันแหงนเงยขึ้นมองไปยังฟ้ากว้าง...แสงดาวที่กระพริบระยิบระยับนับร้อยนับพันบนนั้นกำลังทำให้เขาคิดถึงใครอีกคน...พริบพันดาว...ดวงดาวที่ส่องแสงสว่างจนแจ่มจ้าไปทั้งความรู้สึก...ชายหนุ่มพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาเพราะคิดถึงเธอจับใจ...อยากกลับไปกอดและรักเธอให้หายคลั่งเหลือเกิน...เขาบอกตัวเองอย่างห่วงหาอาวรณ์


ราชขับรถเข้าเขตโรงเรื่อยมาด้วยความเร็วสูงเมื่อได้รับโทรศัพท์จากกฤตยชญ์ ผู้กองหนุ่มหน้าเข้มเลี้ยวรถเข้าไปยังโรงเลื่อยขนาดใหญ่อย่างร้อนรน เสียงยางรถบดถนนที่ดังเอี๊ยดแล้วหยุดลง...หยุดคนที่กำลังเดินไปเดินมาให้หันไปมองคนที่กำลังก้าวลงจากรถแล้วตรงรี่เข้ามา

“แกไปไหนมาฮึไอ้ราช...ฉันโทรไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ”

กฤตยชญ์ยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าเพื่อนรักแววตาตำหนิ

“ฉันเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่...แกจัดการพวกนั้นแล้วใช่ไหม”

ราชถามอย่างรู้ทัน

“ไม่ทั้งหมด...”

คนถูกถามตอบน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

“กริช...ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าอย่าใช้ศาลเตี้ย...บ้านเมืองมีกฎหมายทำไมไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนที่รักษากฎหมายฮึ...กี่ศพล่ะคราวนี้”

แม้จะไม่เห็นด้วยกับวิธีป่าเถื่อนที่เพื่อนใช้นักแต่ลึกๆ ราชกลับนึกพอใจอยู่ที่กฤตยชญ์ช่วยกำจัดคนชั่วๆ ให้หมดไปได้อีกจำนวนหนึ่ง

“ไม่ถึงสิบหรอกน่า...”

กฤตยชญ์ตอบปัดๆ เหมือนสิ่งที่ทำเป็นเรื่องธรรมดานักหนา

“เป็นสิบเชียวเหรอคราวนี้...เฮ้อ!...หวังว่าคงไม่มีคดีให้ฉันปวดหัวอีกนะ เมื่อคราวที่แกสอยไอ้พวกลักลอบขนยาฝังไปแค่สามกว่าจะปิดคดีได้ก็เล่นเอาปวดกบาลไปหลายอาทิตย์...”

“บอกว่าไม่ถึง...แต่ก็เกือบๆ...คราวนี้มันเล่นหนักนอกจากไม้มันยังยัดยาบ้าอีกเป็นแสนเม็ด...ราชแกจะว่าไงถ้าฉันจะชนกับอาเดชซักตั้งให้มันรู้ดำรู้แดงกันไป”

ดวงตาคู่เข้มจ้องสบคนตรงหน้าเหมือนขอความเห็น

“ทำไมคราวนี้ถึงคิดแบบนั้น...ปกติแกไม่คิดแก้แค้นหรือวุ่นวายกับเขาไม่ใช่เหรอ...”

“แต่มันหนักข้อขึ้นทุกวันนะราช...วันนี้โชคดีที่คนของฉันเจอของก่อน...แต่โชคมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ...ฉันเบื่อที่จะต้องยืนเป็นเป้านิ่งให้คนพวกนั้นมันยำเล่น...ในเมื่อเขาล้ำเส้นฉันก่อนมันก็ต้องสั่งสอนกลับไปบ้างจริงไหม”

กฤตยชญ์บอกน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายอยู่ในที

“แต่แกปล่อยให้กฎหมายจัดการได้นี่กริช...”

“กว่ากฎหมายจะเข้าถึงตัวมันบางทีฉันอาจจะเป็นฝ่ายถูกกฎหมายจัดการหรือไม่ก็ตามพ่อขึ้นสวรรค์...ก็ได้ใครจะรู้...”

“มันก็จริงของแก...คนอย่างมันบางทีกฎหมายก็ไม่ได้ช่วยอะไร...แล้วแกต้องการให้ฉันช่วยอะไร...”

ราชยัดมือลงในกระเป๋ากางเกงแล้วจ้องหน้าเพื่อนรักตาเขม็ง

“ฉันรู้ว่างานที่ทำอยู่บางครั้งมันก็มีล้ำเส้นของกฎหมายบ้าง แต่เชื่อใจฉันได้ไหมว่ามันไม่ได้เลวร้ายจนทำให้เส้นทางของเราแตกต่างอย่างสิ้นเชิง...ฉันต้องการกฎหมายที่อยู่ในมือของแกมาเป็นกำลังเสริม...อาเดชทำชั่วไว้เยอะหากจะเล่นมันต้องเอาให้ถึงรากถึงโคน...แกจะเอาด้วยไหม”

ใบหน้าคมสันจ้องเพื่อนแล้วถามออกไปอย่างนักเลง

“แกแน่ในนะว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับทุกความชั่วที่พ่อเลี้ยงเกลือกกลั้วอยู่”

แม้จะรู้สึกโล่งใจที่กฤตยชญ์ยังยืนอยู่ห่างจากสิ่งผิดกฎหมาย แต่ราชก็ไม่ได้วางใจเสียทีเดียวนายตำรวจหน้าเข้มหรี่ตาจ้องเพื่อนด้วยประกายตาที่บอกชัดว่าไม่ไม่ใคร่เชื่อใจสักเท่าไร

“งานทุกอย่างที่อาเดชเกี่ยวข้องฉันไม่มีส่วนทั้งนั้น”

กฤตยชญ์ตอบกลับชัดถ้อยชัดคำจนคนฟังยิ้มกว้างอย่างยินดีที่วันหน้าเขาและเพื่อนไม่ต้องมานั่งห้ำหั่นกันให้ต้องหนักใจ

“ถ้าแกยืนยันแบบนั้นฉันตกลง...”

ราชยื่นมือออกไปกระชับกับมือของเพื่อนที่ยื่นออกมา ใบหน้าคมเข้มฉายประกายสุกใสเมื่อนึกถึงใครคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในหน้าที่...หากเขาจบเรื่องนี้ได้เร็วเท่าไหร่...เธอก็จะได้กลับไปเร็วเท่านั้น...พริบพันดาวรอผมนะ...รอผม...ชายหนุ่มบอกตัวเองอย่างปรีดา...


ร่างโชกเลือกที่ถูกโยนจากรถตู้สีเทาดำหน้าคฤหาสน์หลังมหึมาท่ามกลางหุบเขา หยุดชายร่างกำยำที่เดินไปมาอยู่หน้ารั้วให้รีบถลาไปที่ประตู

“พี่เลิศ!...ให้ตายทำไมมันยับเยินแบบนี้”

“พ่อเลี้ยง...พ่อเลี้ยง...”

เสียงถามไถ่ถึงเจ้าบ้านดังแผ่วเต็มทีเมื่อสติที่มีใกล้ขาดผึง

“เดี๋ยว! พี่เลิศอย่าเพิ่งหลับ...ไอ้เรือง...รีบไปบอกพ่อเลี้ยงเร็ว...ว่าพี่เลิศกลับมาแล้ว”

ชายหน้าเหี้ยมตบมือลงบนซีกหน้าของเพื่อนรุ่นพี่แล้วหันไปสั่งคนที่กำลังวิ่งเข้ามาสมทบน้ำเสียงรัวเร็ว

ชายฉกรรจ์หนึ่งในห้าที่วิ่งห้อมาด้วยความเร็วหยุดเท้าแล้วหมุนกลับไปยังตัวคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ส่วนที่เหลือรีบวิ่งเข้ามาช่วยพาคนเจ็บตามเข้าไป
ภายในคฤหาสน์หลังงามกำลังโกลาหลไปด้วยคนที่กำลังให้การปฐมพยาบาลในเบื้องต้นแก่คนที่ถูกพาเข้ามาในสภาพที่เรียกว่าร่อแร่เอาการ

ไม่ถึงสิบนาทีร่างโปร่งของชายกลางคนวัยห้าสิบเศษก็เดินเร่งรีบลงมา ใบหน้าเรียบเฉยฉายแววกราดเกรี้ยวเมื่อเห็นสภาพของคนตรงหน้าเละไม่เป็นสับปะรด...ล้มเหลว...คือคำตอบเดียวที่เดชฤทธิ์นึกขึ้นได้

“ตายห่า! ทำไมสภาพแกมันถึงได้เละแบบนี้ฮึ!...ไอ้เลิศ”

เสียงแหบพร่าที่ถามบ่งบอกถึงอารมณ์คนพูดว่ากำลังโมโหสุดขีด

“พวกมันจับได้...คนของเราตายเรียบ...”

เลิศรายงานเสียงแผ่วโหย

“แล้วทำไมมันไม่ฆ่าแก...”

ดวงตาสีขุ่นจ้องเลือดที่เกรอะกรังอยู่ตามเสื้อผ้าและตัวของคนร่างใหญ่ตรงหน้าอย่างพินิจถึงแม้คนที่ได้รับบาดเจ็บจะดูย่ำแย่แต่จากบาดแผลมันเห็นชัดว่าคนยิงมีจุดประสงค์เช่นไร

“มันให้ผมมาแจ้งข่าว...”

“ข่าวอะไร?”

“มัน...”

เลิศเริ่มอึกอักเพราะนึกหวั่นกับแรงอารมณ์ของผู้เป็นนายชายร่างใหญ่กัดฟันข่มความเจ็บแล้วเงยหน้าสบตากับเจ้านายด้วยประกายตาร้องขอชีวิต

“มันอะไร! ไอ้เลิศบอกมา”

พอเห็นท่าทางหวาดๆ ของคนตรงหน้าพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ก็ยิ่งเดือดดาล

“มันบอกว่าถ้าพ่อเลี้ยงจะประกาศสงครามมันก็พร้อมจะสู้...ในทุกรูปแบบ”

“ไอ้ลูกหมาเอ๊ย!...มันกล้าคิดเล่นกับฉันเชียวเหรอ...ไอ้ลูกหมานั่นมันกล้าพูดแบบนี้เลยหรือ...”

คนถูกท้าทายโวยวายอย่างหัวเสีย

“ไอ้เลิศ...พวกแกทำงานภาษาอะไร...มันถึงจับได้ง่ายดายแบบนี้...เวรเอ๊ย! ไม่ได้เรื่องซักคน”

เดชฤทธิ์จ้องคนตรงหน้าแววตาทั้งโกรธทั้งสมเพช...แม้จะอยากกระทืบคนที่ทำงานล้มเหลวให้หายแค้นใจที่ถูกลูบคมแต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่ทอดถอนใจเมื่อเห็นสภาพที่ดูร่อแร่ของลูกน้องที่ทำท่าจะตายแหล่มิตายแหล่เต็มที

“พ่อเลี้ยงอย่าฆ่าผมเลยนะ...ผมพยายามแล้ว”

แม้จะหมดเรี่ยวหมดแรงแต่เลิศก็รักชีวิตยิ่งกว่าสิ่งใด เมื่อเห็นผู้เป็นนายทำท่าไม่แยแสเขาจึงตะเกียกตะกายร้องขอความเมตตาน้ำเสียงสั่นพร่าอย่างหวาดกลัว

“พวกแกพยายามแล้วเหรอ...ไอ้บัดซบ!...แกรู้มั้ยว่าของที่ฉันให้เอาไปทำงานครั้งนี้มูลค่าของมันมีเป็นล้านๆ...พวกแกทำงานพลาดขนาดนี้ยังมีหน้ามาร้องขอชีวิตอีกเหรอ”

พ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์เข่นเขี้ยวเอาเรื่องน้ำเสียงกร้าวดุ

“พ่อเลี้ยง...กรุณาเถอะผม...ผมพยายามแล้วจริงๆ”

เลิศที่ผ่านการร้องขอชีวิตมาถึงสองครั้งในห้วงเวลาไล่เลี่ยกันโผเผเข้าไปกอดแข้งกอดขาผู้เป็นนายอย่างลนลาน

“ฉันควรฆ่าแก...แต่เอาเถอะแม้จะพลาดแต่แกมันก็พอมีผลงาน...ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง...ไอ้เรืองพามันไปรักษาหาหยูกหายาให้มันกิน...ขืนปล่อยให้มันมานอนตายอยู่ในบ้านไอ้พวกตำรวจเวรพวกนั้นได้ยำฉันตาย”

เดชฤทธิ์ปรายตามองคนเจ็บที่นั่งอ่อนเปลี้ยเพลียแรงตรงหน้าอย่างหงุดหงิด พอออกคำสั่งเสร็จร่างโปร่งจึงเดินผ่านขึ้นห้องไปอย่าหงุดหงิด...

“ไอ้กริช...ตัวแกมันเป็นแค่ลูกหมาตัวเล็กๆ ริอ่านจะมาสู้กับราชสีห์อย่างฉันเชียวเหรอ...ได้ถ้าแกอยากลงเล่นฉันก็จะส่งแกให้ลงไปอยู่ในนรกขุมเดียวกับที่เคยส่งพ่อแกไป”

เดชฤทธิ์เข่นเขี้ยวอย่างแค้นเคืองเมื่อคนในสายเลือดกำลังท้าทายอำนาจที่เขามี แม้กฤตยชญ์จะมีศักดิ์เป็นถึงหลานโดยสายเลือดแต่ความขัดแย้งจากธุรกิจที่เขาคิดเสมอว่าถูกพี่ชายพรากไปกลับสร้างความแตกแยกและความแค้นเคืองที่ไม่เสื่อมคลาย

จากสิ่งที่ศัตรูรุ่นเล็กประกาศลั่นทำเอาเสือเฒ่าเดือดพล่านไปกับคำท้าทายและท่าทางอวดดีของคนที่เขาเกลียดชังจนฝังใจ...ในเมื่อมันกล้าท้าทายถึงขนาดนี้มันก็คงต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบ...จะได้รู้เสียบ้างว่าคนอย่างพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์...ฆ่าได้แต่ถ้าคิดหยามอำนาจที่มี...มันผู้นั้นจะได้เห็นว่านรกเป็นยังไง...




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2553
4 comments
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 13:37:22 น.
Counter : 486 Pageviews.

 

พี่จิ๋งตามทุกบอร์ดขอน้องเอ๋เลย เพราะเรื่องกำลังเข้มข้นน่าติดตาม

 

โดย: somrudeeko IP: 61.19.52.106 24 มิถุนายน 2553 13:50:14 น.  

 

 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว 24 มิถุนายน 2553 14:49:38 น.  

 

เพิ่งมาอ่าน โหย สนุกอะค่ะ

เรื่องเก่าๆนี่ยังพอหาอ่านได้ไหมคะ

จะรอตอนต่อไปอย่างรอคอยค่ะ ^^

 

โดย: love IP: 58.136.28.138 24 มิถุนายน 2553 16:06:24 น.  

 

เพื่อนรักดันมารักผูหญิงคนเดียวกัน.....ภาระหน้าที่ เพื่อน สามคนจะทำยังไงกันหนอ.....ลุ้นๆ

 

โดย: ต่างแดน IP: 78.251.117.145 25 มิถุนายน 2553 12:17:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.