sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 
ตอนที่ ๑ สาวงามกลางดงเท้า



เธอเป็นดวงดาวที่สกาวสุกใสแต่ก็เป็นดวงไฟที่ร้อนระอุ
เขาเป็นดังมารร้ายที่ใครๆ ต่างหวาดผวาแต่ก็อบอุ่นจนหญิงใดก็อย่างได้ไว้แนบครอง
เมื่อดวงไฟอยู่ในมือมารความร้อนรุ่มความอุ่นซ่านจะร้อนแรงเพียงใด....





เสียงเพลงที่กำลังดังกระหึ่มสร้างความครึกครื้นให้กับผู้คนที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอยู่กลางฟลอร์จนไม่มีใครสนใจใคร เสียงหวีดร้องของนักเที่ยวในยามดีเจขอเสียงดังระงมจนแทบกลบเสียงเพลงที่กำลังแผดลั่นจนแยกไม่ออกว่าเสียงที่โห่เป็นเสียงของเพศไหนบ้าง ในซอกสลัวเล็กๆ ข้างห้องน้ำมีหญิงชายคู่หนึ่งกำลังนัวเนียแลกจูบกันอย่างเมามันชนิดไม่คิดอายผู้คนที่อัดแน่นอยู่ในบริเวณ

“ต้อยพี่จันทร์กับพี่กิตไปไหน”

เสียงใสๆ ของหญิงสาวตะเบ็งถามหญิงสาวอีกคนที่กำลังนั่งแกว่งนิ้วบิ้วอารมณ์อยู่ข้างๆ แข่งกับเสียงอึกทึกที่กระหึ่มจนแก้วหูกระเพื่อม

“เห็นบอกจะไปห้องน้ำ”

หญิงสาวผมหยิกหยองแต่งหน้าจัดจ้านหยุดแกว่งมือเอียงตัวเข้าไปใกล้ๆ แล้วตะเบ็งเสียงตอบกลับไปบ้าง

“เขาหายไปทำไรกันฮึเห็นไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอฉันจะกลับแล้ว”

หญิงสาวร่างระเหิดระหงผุดลุกขึ้น ด้วยความที่รีบร้อนและรอบๆ ด้านแออัดไปด้วยผู้คนจำนวนมากมายจึงทำให้เจ้าของร่างสูงประมาณ 168 ซม.ชนเข้ากับร่างสูงโปร่งของใครคนหนึ่งเข้าอย่างจังขณะกำลังเดินผ่านเธอไปยังอีกโต๊ะ

“อุ๊ย!”

หญิงสาวอุทานพร้อมกับเซไปด้านหลังเล็กน้อยจนทำให้ส้นรองเท้าเล็กแหลมกดลงบนปลายเท้าของชายหนุ่มอีกคนอย่างช่วยไม่ได้

ดวงหน้าสวยหวานหากดวงตามีแววร้ายกาจไม่เบาตวัดสายตามองคนที่ยืนเฉียงหัวไหล่ไม่ถึงคืบแววตาแสดงความไม่พอใจชัดเจนจนคนที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บเริ่มเคืองกับแววตำหนิในดวงตาคู่สวย พอเห็นคนที่ยืนอยู่เป็นผู้ชายร่างสูงโปร่งแต่งตัวเลิศหรูตั้งแต่หัวจรดเท้าเธอจึงยักไหล่น้อยๆ เชิงไม่ใส่ใจ

“เอ่อ....ขอโทษนะน้องชนพี่จังๆ แบบนี้ไม่คิดจะขอโทษขอโพยเลยหรือไง”
ชายหนุ่มแปลกหน้าคว้าแขนกลมกลึงแล้วดึงเข้าหาตัว พอหญิงสาวเผชิญหน้ามือแกร่งที่บีบเบาๆ ก็คลายออกก่อนจะพิศดวงหน้าสวยหวานคล้ายกำลังประเมินราคาและคุณภาพของสิ่งของที่ตนเริ่มพึงใจ

“ขอโทษ.. ”

เธอเอ่ยขอโทษเพียงสั้นๆ แล้วสะบัดหน้ามองไปทางหลังร้านก่อนจะเบ้ปากยักไหล่ไม่คิดใส่ใจที่จะหันกลับไปมองคนที่เป็นคู่กรณีแต่อย่างใดเพราะเห็นประกายตาของอีกฝ่ายเริ่มจาบจ้วงอย่างชัดเจน

“เฮ้ย! น้องพ่อแม่ไม่ได้สั่งไม่ได้สอนเหรอว่าเวลาขอโทษมันต้องจริงใจด้วยไม่ใช่สักแต่จะพูดออกมาห้วนๆ แบบนั้น”

เสียงทุ้มตะเบ็งเอาเรื่องเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มราวตุ๊กตากำลังแสดงท่าทางอวดดีใส่ตน

“อ้าวพี่โย่งคนเค้าก็ขอโทษไปแล้วพี่จะเอายังไงอีก”

ดวงหน้ากระจ่างใสที่แต่งแต้มสีสันอ่อนๆ บนใบหน้าหันขวับไปทางคู่กรณีอีกครั้งด้วยประกายตาวาวโรจน์จนน่าห่วงว่าพ่อหนุ่มร่างโย่งจะมีชะตาชีวิตที่เป็นปกติไปได้อีกสักกี่นาที

“น้องรู้มั้ยว่าพี่..ลูกใคร”

“อ้าว...พ่อแม่หายเรอะ....ขนาดพี่ยังไม่รู้แล้วหนูจะรู้ไหมพี่”

หญิงสาวถามกลับน้ำเสียงยียวนก่อนจะยักไหล่ทำท่าเหมือนไม่สนใจสักนิดกับท่าทางวางกล้ามของชายหนุ่มร่างโปร่งตรงหน้า ทั้งๆ ที่รู้ความหมายดีว่าสิ่งที่เจ้ากร่างกำลังแสดงอำนาจกรายๆ นั่นแท้จริงมันคืออะไร

“คือ...ง่ายๆ พี่ไม่ชอบให้ใครมาเหยียบตีน...”

น้ำเสียงทุ้มที่ตะเบ็งออกมากำลังแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยคำพูดอันแสนจะเรียกน้ำโหจากคนฟัง

“ก็คนมันไม่ได้ตั้งใจในนี้ทั้งแคบทั้งมืดชนกันบ้างเหยียบเท้ากันบ้างมันก็หยวนๆ น่า”

“น้องหยวนแต่พี่ไม่หยวน”

ชายหนุ่มยังพยายามหาเรื่องไม่หยุด

“แล้วพี่จะเอาไง..”

เมื่อเห็นว่าเจ้าโย่งหน้าเข้มดูท่าจะไม่ยอมจบง่ายๆ หญิงสาวจึงจ้องหน้าอีกคนด้วยประกายตาที่แสดงออกชัดเจนว่า ‘เอาวะวันนี้ตายเป็นตายพริบพันดาวซะอย่างมีเหรอจะกลัวบาทา..ใคร’

“และจะบอกให้อีกอย่างว่าคนอย่างพี่เจ็บทั้งทีมันก็ต้องมีปลอบกันบ้าง”
ชายหนุ่มจ้องดวงหน้าหวานละมุนก่อนจะไล่มองสำรวจเรือนร่างระหงตรงหน้าด้วยประกายตาที่หญิงสาวถึงกับร้อนๆ หนาวๆ เมื่ออีกคนกำลังใช้สายตาลวนลามเธอ

“จะให้..เอ่เอ้...หรือแต่ช้าแต่ดีล่ะ เฮอะอ่อนชะมัด”

พริบพันดาวตอบพร้อมกับเบะปากดูแคลน

“ปลอบในความหมายของพี่มีแต่เรื่องบนเตียงเท่านั้นรู้ไว้ซะ”

ชายหนุ่มแปลกหน้าหรี่ตามองร่างระเหิดระหงแววตาหื่นกระหาย จนเส้นเอ็นบนขาของหญิงสาวเริ่มกระตุก

“อ้าว...พูดแบบนี้มันแกว่งหาตีนนี่พี่..”

พูดไม่ทันขาดคำเท้าเรียวก็ยันโครมเข้าไปที่หน้าท้องของเจ้าโย่งชะตาขาดทันทีทันใดจนเป้าหมายหงายหลังเซไปชนกับคนที่กำลังยืนยักย้ายส่ายสะโพกอยู่โต๊ะข้างๆ จนล้มระเนระนาดไปคนละทาง

โครม ! เพล้ง ! กรี๊ด!

เสียงโครมครามและเสียงหวีดร้องของผู้หญิงที่ดังขึ้นหยุดทุกความเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ในบริเวณรอบๆ ไปชั่วขณะ ในขณะเสียงเพลงที่กำลังกระหึ่มก็พลันหยุดลงโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นผู้คนที่กำลังแดนซ์อย่างสนุกสนานเกิดแตกฮือหลบฉากตีวงออกไปโดยไม่ต้องนัดหมายอย่างพร้อมเพรียงกัน จนเหลือพื้นที่ว่างเป็นวงกว้างขนาดพอเหมาะให้มวยคู่ใหม่ที่กำลังเริ่มชกยกที่หนึ่งคลุกวงในได้ตามสะดวก

“เฮ้ย! ไอ้ดาว!”

หญิงสาวผมหยิกกระโดดพรวดเข้าไปหาเพื่อนสาวที่กำลังยืนตาขวางเป็นผีเข้าแล้วยึดแขนเจ้าหล่อนไว้เมื่อเห็นว่าแม่สาวฝ่าเท้ามรณะกำลังทำท่าจะถลาเข้าไปกระทืบคู่กรณีอีกซักตุ้บให้หายโมโห

“ทำแบบนี้ได้ไงวะ!”

พ่อหนุ่มหน้าเข้มลุกขึ้นชี้หน้าตวาดน้ำเสียงกราดเกรี้ยวจะเอาเรื่องให้ได้โดยไม่สนใจสักนิดว่าคนที่ตนกำลังชี้หน้าเป็นเพศไหน

“ฉันไม่ผ่าหมากแกก็นับว่าเป็นบุญแล้วไอ้หื่น...”

พริบพันดาวชี้นิ้วพร้อมกับตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราดเอาเรื่องไม่ต่างกัน

“อย่าตีกันคร๊าบ...อย่าตีกัน...”

เสียงดีเจร้องห้ามออกมาเมื่อเห็นว่ากำลังมีสุภาพบุรุษนายหนึ่งกำลังแยกเขี้ยวเตรียมงับหัวสุภาพสตรีอีกนางหนึ่งอยู่กลางวงที่นักเต้นคนอื่นๆ ตีกรอบไว้ให้

“หุบปากไปเลยไอ้ดีเจ! ใครไม่เกี่ยวถอยไป!”

สุภาพบุรุษนิรนามตะโกนโหวกเหวกพร้อมกับควักปืนออกมาอวดความมีอิทธิพล จนไม่มีใครกล้าเข้าแทรกแซงเพื่อคลี่คลายสถานการณ์

“ดาวกลับเหอะถ้าแกมีเรื่องคราวนี้เตี่ยแกจับฉันกระทืบแน่”

วิกานดาเห็นท่าไม่ดีรีบเข้าไปดึงแขนเพื่อนแล้วรั้งไว้ก่อนจะกระซิบชวนลี้ภัยเมื่อเห็นมัจจุราชสีดำทะมึนในมือของอีกฝ่าย

“จะให้ฉันกลับยังไงแกแหกตาดูซิว่าไอ้โย่งนั่นมันเอาเรื่องขนาดไหน”

“แกนี่มันยังไงพาออกมาทีไรไม่โดนไล่กระทืบก็ไล่ปล้ำคราวหน้าฉันว่าเข้าวัดเถอะเพื่อน”

วิกานดาพูดพลางส่ายหน้าที่มีทั้งแววกังวลและเบื่อหน่ายไปมา

“แกเห็นฉันเป็นคนเริ่มก่อนรึไงไอ้ต้อย..”

คนถูกว่าหันไปถลึงตาพร้อมกับแก้ต่างให้ตัวเอง

“ก็ถ้าแกรู้จักยอมคนสักนิดมันก็ไม่กรุ่นขนาดนี้หรอก...ไปกลับบ้าน”

วิกานดาคว้าหมับไปที่แขนของเพื่อนแล้วดึงให้ล่าถอย

“แกลองไปถามไอ้โย่งสิว่ามันจะยอมปล่อยฉันไปดีๆ มั้ย”

พริบพันดาวโบ้ยปากไปทางชายหน้าเข้มที่กำลังเท้าสะเอวอยู่เบื้องหน้าอย่างเซ็งๆ...

“เฮ้อ!...ฉันล่ะเชื่อแกเลยไอ้ดาวคราวนี้ไปเหยียบตีนลูกใครเข้าอีกล่ะ...”
คนถูกชี้ชวนถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย

“พวกแกจะมายืนหาเตี่ย..แกเรอะไปลากผู้หญิงคนนั้นมา...”

ก่อนที่หญิงสาวทั้งสองจะทันได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเสียงห้วนๆ ของคู่กรณีก็ตะเบ็งขึ้น

“ครับ...คุณดนุ”

ชายหนุ่มร่างใหญ่ในชุดดำสามคนโค้งตัวอย่างนอบน้อมพร้อมกับพากันย่างสามขุมเข้าไปหาหญิงสาวทั้งสอง

เพล้ง!

ชายร่างใหญ่เดินไปยังไม่ถึงสามก้าวก็ต้องชะงักเท้าเมื่อได้ยินเสียงแก้วกระทบกับวัตถุที่แข็งกว่า

“ถ้าพวกแกก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียวฉันสาบานว่าวันนี้ไอ้นี่จะเข้าไปประดับในร่างกายของพวกแก”

พริบพันดาวที่หยิบขวดฟาดกับโต๊ะชูอาวุธคมวาวขึ้นข่มขู่


“ว้าย!... พี่กิตยัยดาวเอาอีกแล้ว”

เสียงเพลงที่เงียบฉับช่วยปลุกหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่กับรสจูบอันหวามไหวในซอกสลัวเล็กๆ ให้ยุติช่วงเวลาอันแสนจะรัญจวนไปชั่วขณะ

“อืม...ช่างก่อนไม่ได้หรือทูนหัว”

ชายหนุ่มที่กำลังอิ่มเอมกับห้วงเวลาของความหฤหรรษ์แนบริมฝีปากชิดกับริมฝีปากอิ่มที่ฉ่ำชื้นอย่างเสน่หามิรู้เบื่อ

“ไม่ได้ๆ เดี๋ยวเตี่ยเอาตาย..เราไปกันเถอะค่ะ”

หนึ่งจันทร์รีบขยับเสื้อผ้าให้เข้าที่เพราะบทหวามเมื่อครู่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มชนิดที่ต่างคนต่างปรนเปรอจนแทบรวมร่างกันทีเดียว

“เฮ้อ! คราวหน้าพี่ว่าเราไปเที่ยวกันสองคนดีกว่าไหม...พาน้องดาวมาทีไรบรรลัยตลอด”

ชายหนุ่มหน้าเรียวผิวขาวพ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับคำพูดที่เหมือนชินชากับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ก็เพราะพี่นั่นแหละคิดพิเรนอยากจะมาเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่แล้วเป็นไงกรุ่นดีไหมล่ะ”

หนึ่งจันทร์หันไปค้อนแฟนหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยที่คิดอยากมาเปลี่ยนบรรยากาศให้กับตัวเองเพราะเริ่มเบื่อหน่ายกับบทรักที่อยู่แต่ในกรอบของความถูกต้อง

“เอาน่าไม่ใช่ครั้งแรกเสียเมื่อไหร่...จันทร์ก็ชอบไม่ใช่เหรอกับความรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้”

คนพูดหรี่ตามองอย่างรู้ทัน

“ตื่นเต้นก็ตอนน้องจะโดนกระทืบนี่แหละไปกันเถอะ...คราวหน้าต่อให้อ้อนยังไงก็ไม่พามาด้วยหรอก....ถ้าขึ้นโรงพักอีกเห็นทีจันทร์คงโดนเตี่ยด่าจนหูชาอีกแน่”

หญิงสาวบอกน้ำเสียงทั้งเซ็งทั้งหวั่นเมื่อมองเห็นปัญหาใหญ่กำลังใกล้เข้ามา ก่อนจะรีบผละออกไปจากมุมสลัวแล้วเดินเนิบนาบไปตามทางเดินแคบๆ ที่ผู้คนเริ่มเบียดกันเป็นกระจุกตามจุดที่คิดว่าตนจะปลอดภัย

กิตติทัตเดินตามแฟนสาวไปด้วยท่าทีที่ไม่ได้เร่งรีบสักเท่าไร ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เพราะนึกขบขันกับความเจ้าอารมณ์และไม่ยอมคนของพริบพันดาว ถึงแม้จะเห็นอาวุธในมือของชายหนุ่มร่างโย่งแต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกหรือรู้สึกกังวลแต่อย่างใดเพราะเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยเสียจนเขาชักจะชินชา

ใบหน้าขาวเรียวยังคงเรียบเฉยเพราะรู้ดีว่า...ผู้หญิงอย่างร้อยเอกหญิงพริบพันดาวมีหรือจะหวั่นเกรงกับอาวุธที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย และด้วยความที่เป็นบุตรสาวคนเล็กของเจ้าสัวใหญ่เจ้าของห้างสรรพสินค้าอันมั่งคั่งไหนเลยจะเกรงกับอิทธิพลของใครและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น






Create Date : 17 พฤษภาคม 2553
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 10:51:49 น. 0 comments
Counter : 530 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.