sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
16 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

ตอนที่ ๑๗ มัดมือชก



ห้องทั้งห้องเงียบกริบเมื่อต่างคนต่างกำลังนิ่งอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง พริบพันดาวจ้องหน้าคมสันที่จ้องเธอเขม็งอย่างใช้ความคิด...เมื่อตัดสินใจได้เธอจึงปรายตามองอีกฝ่าย

“แล้วนายชื่ออะไร?...”

“กฤตยชญ์...”

ชายหนุ่มตอบเสียงราบเรียบ

“อ้อ...ชื่ออัปยศหรอกหรือ...มิน่า...”

“ผมชื่อ...กิด – ตะ – ยด...ไม่ใช่อัปยศเรียกให้ถูก”

กฤตยชญ์สะกดชื่อของตนคำต่อคำอย่างหัวเสีย

“จะชื่ออะไรก็ช่างเพราะตั้งแต่เจอนายชีวิตฉันมันก็พบแต่ความอัปยศอดสูเสียยิ่งกว่าโดนราหูอมเสียอีก”

“ผมไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”

“พูดไม่อายไม่เลวร้ายแต่เรียกได้ว่าชั่ว ! แล้วจะเอายังไงกับฉัน”

หญิงสาวแค่นเสียงประณาม แล้วถามเสียงห้วนเมื่อหมดหนทางจะหลีกหนี...
“ผมจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น...”

แม้จะรู้สึกไม่พอใจกับคำตำหนิติเตียนแต่ก็นึกใจชื้นเมื่อหญิงสาวเริ่มสงบลงจนนึกฉงนว่าบทจะยอมแม่คุณก็ยอมเสียง่ายดาย

“รับผิดชอบงั้นเหรอ...ฮึรับผิดชอบยังไง...นายจะรับผิดชอบผู้หญิงที่ซื้อมาด้วยเงินวิธีไหนไม่ทราบ”

“ผมจะจดทะเบียนสมรสกับคุณ...”

“ไม่มีทาง...ฉันไม่ยอมแน่...”

พริบพันดาวตะคอกบอกแบบไม่ต้องไตร่ตรอง

“คุณเป็นของผม...ตั้งหลายครั้งผมไม่ปล่อยคุณไปไหนแน่...จนกว่า...”

กฤตยชญ์หยุดคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อไม่รู้จะเอาอะไรขึ้นมาอ้าง...จะบอกว่าจนกว่าจะตายจากกันไปข้างก็นึกหวั่นๆ กับสายตาหยามเหยียดของหญิงสาว...ขืนบอกไปตรงๆ ว่าเขาหลงรักเธอ...แม่เสือหน้าหวานคงเยาะหยันอย่างไม่เชื่อถือเป็นแน่

“จนกว่าอะไร?...หรือจนกว่ามันจะคุ้มกับเม็ดเงินที่นายเสียไป”

ริมฝีปากกระชับเม้มแน่นเมื่อแรงโกรธเริ่มปะทุที่อีกฝ่ายยังเอาสถานการณ์อันเลวร้ายขึ้นมาตอกย้ำให้ช้ำใจ

“จนกว่าผมจะแน่ใจว่าคุณไม่ได้อุ้มท้องลูกของผม...ผมจำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณเพื่อลูกที่อาจจะเกิดมาอย่างไม่ตั้งใจเพราะเมื่อคืนผมไม่ได้ป้องกัน”

กฤตยชญ์ที่ไม่รู้จะยกอะไรขึ้นมาอ้างตัดสินใจเลือกประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุดขึ้นมา พอบอกเหตุผลออกไปใบหน้าคมสันถึงกับแช่มชื่นขึ้นเพราะนึกเอ็นดูเมื่อเห็นใบหน้ากราดเกรี้ยวของหญิงสาว...เริ่มมีสีระเรื่อจนแดงจัดด้วยความอาย

“ฉันไม่จด...เป็นตายยังไงก็ไม่มีทางจด...”

เสียงปฏิเสธที่แหลมปรี๊ดของพริบพันดาวทำให้คนรอฟังผลถึงกับสะดุ้งแต่ยังยืนนิ่งๆ จ้องใบหน้านวลที่แดงก่ำด้วยประกายตาวิวับอย่างมีความหมาย

“ต้องจดเพราะผมเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว...ถามหน่อยเถอะคุณไม่รู้สึกเสียดายตัวมั่งเลยเหรอเมื่อคืนผมทำไปเยอะเลยนะ”

พอหญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาปฏิเสธมันลูกเดียวกฤตยชญ์ที่ชักจะหมดความอดทนจึงโพล่งคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายร้อนผ่าวไปทั้งหน้าแล้วปรายตามองเรือนร่างเปรียวระหงที่มีแค่ผ้าห่มพันกายประกายตาฉายชัดว่าพอใจกับห้วงเวลาที่เขาได้ครอบครองขนาดไหน

“ไอ้...”

“อย่านะคราวนี้ผมสาบานว่าจะไม่หยุดแค่จูบแน่...ลองด่ามาสิรับรองเช้านี้จะล้างหน้าไก่ให้หมดเล้าจนลุกไม่ขึ้นเลยทีเดียว...ว่าไงจะจดหรือไม่จด”
กฤตยชญ์ที่ได้ทีเริ่มข่มขู่เพราะชักจะเหลืออดกับความดื้อรั้นของหญิงสาว

“ไม่จด...จะไปตายที่ไหนก็ไป...ไป๊”

แม้จะอายแสนอายที่ถูกล่วงเกินจนหมดเนื้อหมดตัว แต่พริบพันดาวก็ไม่กระโจนลงไปรับเงื่อนไขง่ายๆ ให้อีกฝ่ายได้ใจ

“คุณต้องจดเพราะไม่งั้นเพื่อนของคุณอาจจะเดือดร้อน...”

“ก็ช่างเพื่อนฉันสิ...ให้เดือดร้อนเสียบ้างก็ดีจะได้รู้ว่าเวลาคนอื่นเดือดร้อนมันเป็นยังไง”

“เพื่อนคุณต้องการเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยคุณกับเขาเคยมีบุญคุณต่อกันไม่ใช่เหรอ...”

กฤตยชญ์พยายามยกเหตุผลอันแสนรันทดของวิกานดามาอ้าง พริบพันดาวถึงกับอึ้งเป็นรอบที่สิบเมื่อได้ยินเหตุผลที่เพื่อนอุปโลกน์ขึ้น...เพื่องานนี้วิกานดาถึงกับแช่งแม่เลยเหรอนี่…

“เธอบอกผมว่าเคยช่วยเหลือแม่คุณเมื่อครั้งท่านประสบอุบัติเหตุ...พริบพันดาวผมจะปล่อยคุณไปทันทีเมื่อแน่ใจว่าคุณไม่มีเด็ก”

หญิงสาวถึงกับสะดุ้งจนหน้าเหวอเมื่อได้ยินชัดว่านอกจากวิกานดาจะแช่งมารดาของตัวเองแล้ว...แม่เพื่อนตัวแสบยังพ่วงมารดาของเธอเข้าสู่วงจรชีวิตรัดทดด้วยอีกคน...

“ยังไงฉันก็ต้องอยู่เป็นนางบำเรอคอยบำบัดอารมณ์เบื้องต่ำเพื่อแลกกับเงินที่นายเสียไปอยู่แล้ว...ทำไมนายต้องเอาห่วงบ้าๆ นั่นมาพันธนาการให้เป็นปัญหาในภายหลังด้วย”

พริบพันดาวยังต่อรองแม้จะเห็นแต่ทางตันก็ตาม

“ผมให้คุณมากถึงเพียงนี้มันยังไม่ดีอีกหรือ”

“ฉันไม่ชอบยืนอยู่บนกรอบที่มีกฎหมายขีดไว้...ในเมื่อคุณจ่ายเงินฉันก็จะอยู่ในฐานะของผู้หญิงที่ซื้อด้วยเงิน...เงินที่จ่ายไปมันก็ไม่ใช่น้อยๆ ไม่ใช่หรือ”

“ถึงผมจะซื้อคุณมาแต่เงินนั่นมันมีค่าไม่ถึงเสี้ยวหนึ่งด้วยซ้ำหากจะแลกกับลูกที่อาจติดท้องคุณ...เอาล่ะอย่าเสียเวลาเลยผมให้เวลาคุณหนึ่งชั่วโมงไปอาบน้ำแต่งตัวซะอีกไม่นานเจ้าหน้าที่คงมาถึง...”

กฤตยชญ์บอกแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไปด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เต็มร้อยสักเท่าไร พริบพันดาวมองตามร่างสูงใหญ่ไปอย่างอาฆาต...

“คอยดูต่อจากนี้ไปฉันจะทำให้แกรู้สึกว่าผู้หญิงไม่ได้มีไว้ซื้อหา...ผู้ชายเฮงซวย!...”

หญิงสาวเข่นเขี้ยวอย่างแค้นเคือง พริบพันดาวก้มมองสภาพของตัวเองที่มีเพียงผ้าห่มพันร่างกายด้วยความโกรธปนอาย...ตกลงเธอถูกมันลักหลับไปตั้งหลายรอบจริงๆ หรือเนี่ย...ไอ้ต้อยนะไอ้ต้อยแล้วก็บอกว่าทุกอย่างจะโอเค...จบงานนี้เมื่อไหร่ฉันจะว้ากแกให้หายเจ็บใจเลย...อีตานั่นจะเป็นโรคไหมนั่น

“....โอ๊ยลมจะใส่...ทำไมมันถึงซวยแบบนี้...”

พริบพันดาวยืนเข่นเขี้ยวอยู่คนเดียวอย่างขัดเคือง หญิงสาวหมุนร่างมุ่งหน้าไปห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายขณะจะย่างก้าวสายตาก็ปะทะเข้ากับโทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะที่กำลังจะเดินผ่าน...ดวงตาแข็งกร้าวฉายแววยินดีเมื่อเห็นอุปกรณ์สื่อสารที่กำลังอยู่ในความต้องการ


มือเรียวคว้าโทรศัพท์ขึ้นกดเร็วๆ เพราะอยากฉะเพื่อนรักเต็มแก่ ไม่ถึงอึดใจปลายสายก็ตอบรับ

“ไอ้ต้อย!...”

พริบพันดาวว้ากเสียงเรียกเพื่อนโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสงสัยว่าเบอร์แปลกๆ ที่โชว์หราอยู่หน้าจอเป็นใคร จนคนที่อยู่อีกฟากถึงกับสะดุ้งจนโทรศัพท์แทบหลุดออกจากมือก่อนจะทักกลับมาด้วยเสียงอ่อยๆ อย่างรู้ชะตา

“ไงไอ้ดาวทุกอย่างโอเคมั้ย...”

“โอเคกับผีอะไร...ไอ้ต้อยไหนแกว่าจะป้องกันฉันสุดชีวิตไง...ยี้...พูดแล้วแค้นแกปล่อยให้ไอ้บ้านั่นมาทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง...ไอ้ต้อย!...แกนะแก”
“อะไรนะ!...อีตานั่นมันทำอะไรแกงั้นเหรอ...”

วิกานดาถึงกับหูผึ่งเมื่อได้ยินเสียงแหวๆ ของเพื่อนระเบิดมาตามสาย

“มันจะทำอะไรมันก็ลอกคราบฉันแล้วนอนกกจนถึงเช้าน่ะสิ...ไอ้ต้อยฉันขยะแขยงไอ้บ้านั่นเต็มทีแล้ว...ทำไมแกไม่ป้องกันฉันให้ดีกว่านี้...”

ริมฝีปากสีซีดเม้มแน่นเมื่อนึกถึงสิ่งที่ต้องสูญเสีย...แถมมาสูญเสียชนิดที่ไม่มีแม้แต่โอกาสได้ปกป้องตัวเอง

วิกานดาถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของเพื่อน แม้เธอจะไม่ได้ยืนเผชิญหน้ากับพริบพันดาวแต่เธอกลับรับรู้ถึงความปวดร้าวในกระแสเสียงของหญิงสาว

“ดาว!...ฉันขอโทษก็ไหนอีตานั่นมันบอกว่าจะไม่ทำอะไรแกไง”

“อะไรนะ! ไอ้บ้าต้อยแกอย่าบอกนะว่าแกเชื่อคำพูดของไอ้ผู้ชายพรรณนั้นแล้วยอมปล่อยให้มันขย้ำฉันจนไม่เหลือชิ้นดีแบบนี้”

ร้อยเอกหญิงพริบพันดาวแว้ดเสียงถามอย่างสมเพชเวทนากับความไร้เดียงสาของเพื่อนที่มองโลกในแง่ดีเสียจนเชื่อใจคนแปลกหน้าเพราะคำมั่นที่แทบไม่ให้หลักประกันอะไรได้

“ก็คุณกฤตยชญ์บอกฉันว่าเขาจะนอนกอดแกเฉยๆ นี่นา...อีกอย่างตอนฉันถอดผ้าแกฉันก็พันแกด้วยผ้าห่มจนเป็นดักแด้แล้วนะเพื่อน”

วิกานดายังบอกวิธีการปกป้องอันไร้เดียงสาออกไปอย่างต่อเนื่องจนคนได้ยินถึงกับโกรธไม่ลง เพราะหมดคำจะว้าก

“ไอ้ต้อย...แกอย่าบอกนะว่าแกคิดว่าไอ้ผ้าห่มมันจะพันฉันจนอีตานั่นไม่มีปัญญาแกะออก...เอ๊ะ! เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ...ใครถอดผ้าของฉันออก”

“ฉันเอง...ก็คุณกฤตยชญ์เขากลัวแกจะไม่ยอมจดทะเบียนสมรสด้วยเลยให้ฉันจัดฉากล่อแหลมขึ้นมา...แต่ดาวก่อนฉันจะออกมาเขาก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะนะว่าจะไม่แตะแกจนถึงขั้น...เอ่อ...นั้น”

“แกแน่ใจนะต้อยว่ามันเป็นแค่ฉากๆ หนึ่ง...”

แม้จะเริ่มใจชื้นแต่พริบพันดาวก็ไม่อยากปักใจเชื่อสักเท่าไรว่าผู้ชายหื่นกามอย่างนายกฤตยชญ์จะอดใจไม่แตะต้องเธอ

“เอ่อ...ดาว...แล้ว...เอ่อ”

วิกานดาถึงกับอึกอักจนใบหน้าเริ่มแดงก่ำเมื่อพยายามถามคำถามที่สามารถยืนยันความปลอดภัยของพริบพันดาว

“เอ้า...แกเป็นอะไรทำไมต้องอึกอักด้วย...แกมีอะไรก็ว่ามาฉันกำลังซีเรียส”

“ฉันจะถามแกว่า....เอ่อ...พอตื่นขึ้นมาร่างกายแกมันมีอะไรผิดปกติไหม...”

“ก็เปล่านี่...ฉันสบายดีจะมีก็แต่ยังรู้สึกมึนๆ เหมือนหัวมันหนักๆ”

หญิงสาวบอกเล่าไปตามความรู้สึก

“เอ่อ...ไม่ใช่...คือ...ฉันหมายถึง...เอ่อ...แบบ...แกรู้สึกเจ็บระบมร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งหรือเฉพาะที่อะไรพวกนี้ไหม...”

วิกานดาถามคำถามที่ไม่ได้ทำให้คนตอบรู้สึกเคลียร์สักเท่าไรด้วยความรู้สึกทั้งเขินทั้งหวั่น

“ก็ไม่นี่ร่างกายฉันก็ปกติดี...ทำไมเหรอ”

คำตอบที่พริบพันดาวโพล่งกลับมาทันควันทำให้คนรอฟังถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก...และเริ่มเชื่อใจคนอย่างกฤตยชญ์มาบ้าง

“ดาวแกฟังฉันนะ...เท่าที่ฟังจากสิ่งที่แกบอกฉันเชื่อว่าอีตานั่นคงยังไม่ได้ทำอะไรแกจนเกินเลย...ฉันมั่นใจว่าเขาอาจจะแค่จัดฉากให้มันดูสมจริง...”

“แต่ฉัน...เอ่อ...”

คนที่ตกอยู่ในสภาพจำยอมยังไม่อยากดีใจเก้อจึงพยายามสันนิษฐานในทางร้ายไว้ก่อน

“ถ้าร่างกายของแกยังเป็นปกติทุกอย่าง...มันก็เห็นชัดแล้วนะว่ามันไม่น่ามีอะไร...บางทีคุณกฤตยชญ์อาจจะสร้างสถานการณ์ให้แกเข้าใจผิดก็ได้...เพราะมันง่ายหากจะจับแกมัดมือชก”

พริบพันดาวถึงกับนิ่งแล้วครุ่นคิดเมื่อได้ฟังคำยืนยันที่ฟังยังไงก็ไม่มีความมั่นอกมั่นใจในน้ำเสียงคนพูด หญิงสาวก้มมองตัวเองแล้วเม้มปากแน่น...จะว่าไปตอนนี้เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ...บางทีมันอาจจะเป็นแค่ฉากที่เจ้านั่นมันสร้างขึ้นจริงๆ...

“ดาว!...แกเป็นอะไรหรือเปล่า...”

วิกานดาถามเสียงตื่นๆ เมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ปลายสายเงียบไปนาน

“ฉันไม่เป็นไร...เออ...แกแจ้งคุณน้าเรื่องเอกสารของฉันหรือยัง”

“อือ...เอกสารผู้กองราชเอามาให้ตั้งแต่เมื่อคืน...ดาวแกโอเคใช่ไหม”

แม้จะรู้สึกดีขึ้นที่น้ำเสียงของพริบพันดาวไม่ได้หม่นเศร้าเหมือนคราวแรกแต่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนหญิงสาวจึงอดเป็นกังวลไม่ได้

“ถ้ามันไม่ได้ทำอะไรเลวๆ แบบนั้นไปจริงๆ งานนี้ฉันโอเค...ไม่ต้องห่วงหรอกต้อยเดี๋ยวฉันจะสอนไอ้บ้ากามนั่นเองว่านรกขุมที่พริบพันดาวขุดเตรียมไว้ให้จะหรรษาขนาดไหน...”

พริบพันดาวกรอกเสียงบอกอย่างกระหยิ่มใจ...ดวงตาคู่สวยก้มมองร่างกายแล้วนึกหาทางเอาคืนให้สาสมกับสิ่งที่ถูกล่วงเกิน

“ดาวคุณปกรณ์มือขวาคุณกฤตยชญ์มาแน่ะ...สงสัยจะมารับเอกสารของแก...แค่นี้ก่อนนะ...อ้อฉันเตรียมยานอนหลับไว้ในซอกกระเป๋าด้านในนะ...ดูแลตัวเองด้วยนะเพื่อน”

วิกานดารีบตัดบทเมื่อเห็นรถของปกรณ์เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้าร้านตามเวลานัด หญิงสาวกดวางสายแล้วหันไปยิ้มหวานละไมให้กับคนที่เดินหน้าตาเรียบเฉยอย่างเสแสร้ง

พอปลายสายตัดสัญญาณพริบพันดาวจึงกดลบเบอร์ล่าสุดที่เพิ่งกดโทรออกจากข้อมูลที่โทรศัพท์บันทึกไว้...หญิงสาววางโทรศัพท์บนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยความรู้สึกที่เบาใจขึ้น...


เวลาเกือบสิบเอ็ดนาฬิกานายทะเบียนที่ได้รับเชิญให้มาจดทะเบียนสมรสก็เดินทางมาถึง พริบพันดาวจำใจยกมือขึ้นทำความเคารพชายกลางคนที่กฤตยชญ์แนะนำว่าคือนายอำเภอที่ให้เกียรติเดินทางมาร่วมแสดงความยินดี

“ตอนแรกก็ตกใจที่คุณกฤตยชญ์ให้คนไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสนอกสำนักทะเบียน...ตอนเดินทางก็คิดมาตลอดทางว่าคงจะโดนหลอกแต่ตอนนี้เชื่อสนิทใจแล้วล่ะว่าเป็นเรื่องจริง”

ชายกลางคนที่มีอำนาจกำกับดูแลทุกข์สุขของคนทั้งอำเภอเอ่ยขึ้นอย่างยินดีขณะมองเจ้าสาวของผู้มีอิทธิพลของพื้นที่ด้วยความเอ็นดูและชื่นชมในสายแหลมคมของคนเลือก...แม้จะรู้ว่าหญิงสาวหน้าหวานที่งดงามไปทั้งตัวเป็นใคร...แต่ชายสูงวัยก็ยังนึกชื่นชมกับบุคลิกอันโดดเด่นของเธอ...

“ขอบคุณท่านนายอำเภอที่กรุณาให้ความสะดวกและให้เกียรติเราสองคน...เชิญนั่งก่อนสิครับ...ประเดี๋ยวเสร็จธุระขอเชิญทุกคนร่วมรับประทานอาหารกลางวันเพื่อฉลองสละโลดสักมื้อนะครับ”

กฤตยชญ์เชื้อเชิญแล้วปล่อยให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามขั้นตอน ส่วนพริบพันดาวที่ถูกมัดมือแล้วชกจนจุกไปทั้งใจได้แต่นั่งเฉยเหมือนไม่ได้ยินดีปรีดากับสิ่งที่อีกคนกำลังยัดเยียดให้เป็น หญิงสาวมองกระดาษตรงหน้าแววตากระด้างเมื่อนายทะเบียนชี้มือบอกให้เธอเซ็น

ใบหน้าเรียบเฉยกระตุกวูบเมื่อมองเห็นอิสระที่เคยมีกำลังจะถูกตีกรอบ...แม้มันจะเป็นแค่ฉากๆ หนึ่งที่เธอกับผู้บังคับบัญชาสร้างขึ้นแต่มันก็ทำให้อดใจหายไม่ได้ หญิงสาวกระพริบตาหยิบปากกาขึ้นเซ็นอย่างเลี่ยงไม่ได้เมื่อเรียบร้อยจึงปล่อยปากกาอย่างไม่ใยดีสักนิดกับข้อผูกพันจากกฎหมาย

กฤตยชญ์จ้องอิริยาบถของหญิงสาวที่ทำราวกับว่าการจดทะเบียนสมรสมันเลวร้ายจนทำให้ชีวิตหม่นหมองจนหาแสงสว่างไม่ได้อีก...แม้จะรู้สึกปวดแปลบไปทั้งใจเมื่อเห็นสายตากระด้างของหญิงสาวในยามที่มองเขา...แต่เขาก็ต้องทำใจในเมื่อยอมผูกมัดเธอด้วยความต้องการอย่างเห็นแก่ตัวมันก็ต้องรอเวลาเท่านั้นที่จะเรียนรู้กันและกัน...






 

Create Date : 16 มิถุนายน 2553
1 comments
Last Update : 16 มิถุนายน 2553 11:14:00 น.
Counter : 677 Pageviews.

 

สงสารพระเอกของเราจังเลยค่ะ จะได้ใจนางเอกมาครองไหมนี้

 

โดย: วี (rmaging ) 16 มิถุนายน 2553 12:45:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.