กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
บุญ
ข้อธัมม์ที่ถาม-เถียงกันบ่อย
หลักปฏิบัติ
สภาวธรรม
ปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง
ผู้พิพากษาตั้งตุลา ใ ห้ สั ง ค ม ส ม ดุ ล
คติธรรมสั้นๆ
ภาษาธรรมวันละคำ
รู้เขา รู้เรา
ปัจฉิมวาจา
ความเป็นมาของการบวช
การทำวัตรสวดมนต์
ทำยังไงจึงจะมีอายุยืนและมีความสุข
นิพพาน-อนัตตา ฉบับเพียงเพื่อไม่ประมาท
พลังดันคน
ที่ทำงานของจิต
บรรลุธรรมอะไร?
พุทธปรัชญาในสุตตันตปิฎก
ธัมมาธิบาย
สวดมนต์
ความจน เ ป็ น ทุ ก ข์ ใ น โ ล ก
เรียนบาลีเพื่อรักษาพุทธพจน์
ศีล-ธรรมไม่มาโลกาจะพินาศ
หลักธรรมสำหรับผู้ยังไม่นับถือศาสนาใดๆ
ก่อนศึกษาพุทธธรรม
ภาค ๑. มัชเฌนธรรมเทศนา
ภาค ๒. มัชฌิมาปฏิปทา
ภาค ๓. อารยธรรมวิถี
วัฒนธรรมประเพณี
จารึกธรรม
<<
กุมภาพันธ์ 2567
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
29 กุมภาพันธ์ 2567
มะละกาลับหาย สุมาตรา-ชวา เฟื่องฟูขึ้นมาใหม่
มะละกา ที่แดนมาเลเซียขึ้นมาเป็นใหญ่เหนือ ชวา
???
ชวา ขึ้นมาล้ำ สุมาตรา
มลายู ขยายจากสุมาตรา ขึ้นยังมาเลเซีย
???
ดินแดนที่ตกอยู่ในความวุ่นวาย
หมายเหตุ
ทีนี้ มองดูเกาะใหญ่ ถัดลงไปทางใต้
มะละกาลับหาย สุมาตรา-ชวา เฟื่องฟูขึ้นมาใหม่
มะละกา ที่แดนมาเลเซียขึ้นมาเป็นใหญ่เหนือ ชวา
???
ชวา ขึ้นมาล้ำ สุมาตรา
มลายู ขยายจากสุมาตรา ขึ้นยังมาเลเซีย
อิสลาม เริ่มเข้าที่ สุมาตรา
อินโดนีเซีย: ที่สุมาตรา ย้อนไปถึง ศรีวิชัย
???
อินโดจีน ส่วนล่างกับอดีตเด่นดังที่ ลังกาสุกะ
อินโดจีน ย้อนอดีตถึง ทวารวดี
จีน- อินเดีย แล้วเกิดมี อินโดจีน - อินโดนีเซีย
ภาคผนวก
คู่ต่างคู่เติม เสริมความรู้ธรรมให้เต็ม
พุทธในอินเดียแต่ละยุคๆ
ทัพมุสลิมเตอร์ก เก็บฉาก
ปุษยมิตร - มิหิรกุละ - ศาศางกะ ทำลายพุทธในระหว่าง
ศิวะอวตาร
นารายณ์อวตารเป็นพระพุทธเจ้า
เรื่องเกี่ยวกับโพธิสัตว์
ต้นโพธิ์ พระสถูป พระพุทธรูป
ย้ำอีกที
พระรัตนตรัย:สื่อเชื่อมต่อ และส่งเข้าสู่ทาง
ดูข้างเคียงให้ทั่ว จะเห็นของตัวว่าเป็นอย่างไร
ย้ำ
วัดถ้ำ: พุทธ เชน ฮินดู เปลือกดูคล้าย
เค้าอวสานแห่งพุทธศาสนา
ฮินดูฟื้น พุทธศาสนาสลบ
พุทธศาสนาประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
วัดกับถ้ำ
หลังพุทธกาล คามวาสี-อรัญญวาสี จึงมี
ถ้ำกับชีวิตของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
อชันตา เอลโลรา
???
ระบบสัมพันธ์ของธรรม
รู้ทุกข์จึงดับทุกข์ได้ไม่ใช่รู้ทุกข์ไป แล้วกลายเป็นทุกข์
เศรษฐกิจจะพอดี เมื่อมันทำหน้าที่เป็นปัจจัย
ปัญญา
สัญญา
ผู้ปล่อยวางได้ แต่ไม่ปล่อยปละละเลย
ความไม่ยึดมั่นถือมั่นที่แท้ อีกที
ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูจากคติพระอรหันต์
สมมุติ,บัญญัติ
ธรรมกับวินัยเสริมกัน
วินัยเป็นบรรทัดฐานแห่งพฤติกรรมที่ถูกต้องตามธรรม
วินัย
ดูหัวข้อนี้ให้ชัด
ธรรมที่ตรัสไว้ต่างชุด ดุจเครื่องมือที่ใช้กับต่างงาน
ดุลยภาพในระบบความสัมพันธ์ของธรรม
ความเชื่ออีกแนวหนึ่ง
ความไม่ประมาท ช่วยปรับให้พอดี จึงเป็นทางสายกลาง
สติมา ปัญญาเกิด
มองอินเดียกับฝรั่ง ให้เห็นความแตกต่างที่เป็นคติแก่ไทย
บทบาทหน้าที่ของสติ กับ ปัญญา
ระบบทุกข์ภัยประดิษฐ์ ดีกว่าปล่อยให้มักง่าย
เรียบง่าย แต่ระวัง อย่าให้กลายเป็นมักง่าย
ความประมาท ความไม่ประมาท เป็นไฉน
ผู้ไม่ประมาทใช้ประโยชน์จากอนิจจัง
มนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญต่อความเสื่อมความเจริญ
ความไม่ประมาท คือความสามารถที่จะไม่เสื่อม
ถิ่นปิยชนผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา
???
ธรรมานุธรรมปฏิบัติ
สันโดษ ไม่สันโดษ ดีไม่ดี
ได้ดุลพอดี ที่เป็นลักษณะทางสายกลาง
ปัญญา ชี้นำเข้ามาและเดินหน้าในทางสายกลาง
อธิษฐานจิต
ใช้เวลาสักนิด กับ เรื่องภวังคจิต
สายมู
???
สมาธิมีประโยชน์มากมาย ต้องใช้ให้คุ้มและให้ครบ
อย่าทิ้งความคิดปรุงแต่งทันที ปรุงแต่งดีได้ถึงฌานสมาบัติ
พระพุทธเจ้ากับเพลง
จะอาศัยสิ่งกล่อมหรือจะใช้วิริยะและปัญญา
อิสรภาพของมนุษย์ จะได้ด้วยการศึกษาที่ถึงธรรม
พระพุทธเจ้ามา ประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
ความรักต้องคู่กับความรู้
คิดปรุงแต่ง กับ คิดวิปัสสนา
พระพุทธเจ้าตรัสรู้เพราะโยนิโสมนสิการ
มีโยนิโสมนสิการ เรื่องร้ายก็กลายเป็นดี
รูปกาย ธรรมกาย
ที่ประกาศอิสรภาพของมนุษย์
มุสลีมะอินโด ฯ
ปฏิบัติธรรมก้าวหน้าไป นามกายเจริญเอง
โปรยธรรมบนเส้นทางสู่ที่ปรินิพพาน
เส้นทางพุทธกิจ: พุทธคยา ถึง กุสินารา
ถ้าสังเวชเป็น ก็จะได้เห็นธรรมกาย
มุสลิมเตอร์ก มุสลิมมองโกล รุ่งแล้วเลือนลับ
จากยุคมุสลิมอาหรับ เข้าสู่ยุคมุสลิมเตอร์ก
สุหนี่นำอิสลามครองสะเปน จ่อแดนจีน
ชีอะฮ์แยกออกมา
อิสลามแผ่ไพศาล
อิสลามรวมอาหรับ
เมตตาที่มีปัญญา จึงพาโลกสู่สันติสุขได้
???
รักษาแผ่นดินไทย ให้เป็นแผ่นดินธรรม
จุดเริ่มของแผ่นดินธรรม
ถ้าคนประสานกับธรรม ก็มีทางแก้ปัญหาชีวิตและสังคม
พุทธะโยงเราเข้าถึงธรรม
พระรัตนตรัย ต้องรู้จักใช้ให้เป็นสรณะ
มนุษย์ประเสริฐเพราะเป็นสัตว์ที่ฝึกได้
จากเทพสู่ธรรม จากธรรมสู่กรรม
พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว จะประกาศธรรมแสนยาก
ย้ำ
รู้ธรรม คือรู้เรื่องธรรมดา
โพธิพฤกษ์ โพธิญาณ
มหาวิทยาลัยสงฆ์มีไว้ทำไม
???
๕ แคว้น ที่ยิ่งใหญ่
ย้ำอุเบกขา
มาฆบูชา พัฒนาความรักแห่งวาเลนไทน์
ให้รักกับรู้ มาเข้าคู่ดูแลกัน
มนุษย์กับมนุษย์รักกัน แต่มนุษย์ทุกคน
ถึงความรักจะดี ก็ไม่พอ
มาฆบูชา กับ วาเลนไทน์
ละชั่ว ทําดียังไม่พอ ต้องต่อด้วย
หัวใจเดียว แต่มีสี่ห้อง
มาฆบูชาขึ้นมาเป็นวันสําคัญในพระพุทธศาสนา
สาระของโอวาทปาติโมกข์
มาฆบูชา กับ หัวใจพระพุทธศาสนา
ราชคฤห์ ศูนย์อํานาจการเมือง
หัวใจธรรม จากจุดศูนย์กลาง
พระพุทธศาสนาในมือของพุทธบริษัท
ร่องรอยที่เหลือ และเค้าการฟื้นฟูหลังหมดสิ้น
อวสานมาถึง เมื่อทัพมุสลิมเตอร์กลงดาบสุดท้าย
เทียบ ปทท.
นาลันทากับความเสื่อมสูญของพระพุทธศาสนา
วัดพุทธ ต้นกําเนิดมหาวิทยาลัยของโลก
พระพุทธศาสนาเกิดขึ้น ก็เกิดการศึกษาแก่มวลชน
ฟูจิ
เอาธรรมไปเป็นหลักประกันชีวิตและสังคมไว้
ธรรมเป็นอิสระจากคน คนถึงธรรมเป็นอิสระจากสังขาร
ศรัทธากับปัญญา นำเข้าเฝ้าพระพุทธเจ่า
ศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ราชสังคหวัตถุ ๔
หลักธรรมที่อโศกราชาใช้ปกครองบ้านเมือง
อโศกราชากล้าหาญในทางสันติ
เทียบกันแล้ว สรุปได้
ดูพุทธพจน์แล้ว อ่านธรรมโองการเทียบ
อโศกธรรม หรือ คหัฐวินัย
ธรรมวิชัย:หลักการใหญ่ที่นําเข้าสู่พุทธธรรม
อโศกมหาราช อโศกธรรม
ศิลาจารึกอโศก เป็นของพระเจ้าอโศกมหาราชแน่หรือ
ทรัพย์และอํานาจ สู่ความหมายและคุณค่าใหม่
ธรรมวิชัย
ไม่ประมาท ก็ไม่เสื่อม
วัดพระราม
ชมพูทวีปในพุทธกาล
สังเวชนียสถาน ๔
ย้อนทางเข้าสู่แดนพุทธภูมิ
ชวา ขึ้นมาล้ำ สุมาตรา
ชวา
ขึ้นมาล้ำ
สุมาตรา
บนเกาะชวา
ที่อยู่ต่อลงไปทางใต้ถัดจาก
สุมาตรา
โดยมีช่องแคบซุนดา (Sunda Strait) คั่นอยู่ มีอาณาจักรที่เจริญมาแต่โบราณ ซึ่งอาจจะเก่าแก่กว่าศรีวิชัย อย่างน้อยก็เคียงข้างหรือแข่งคู่กันมา แต่ไม่ใหญ่โตเท่า จึงไม่ปรากฏชื่อเด่น
เพื่อรวบรัด ขอเล่าสั้นๆว่า อย่างที่กล่าวแล้ว เมื่อ
หลวงจีนฟาเหียน
เดินทางกลับเมืองจีนทางทะเล ตอนต้น ค.ศต. 5 (ราว พ.ศ.๙๕๖) เรือที่ท่านโดยสารมา ถูกคลื่นซัดไปขึ้นฝั่งเกาะหนึ่ง ซึ่งเข้าใจว่าเป็นชวา และ
พระคุณวรมัน
ที่ออกบวชจากราชวงศ์ ซึ่งมาจากกัศมีระ/แคชเมียร์ก็ได้ เขียนเรื่องราวในยุคเดียวกันนี้ บอกไว้เกี่ยวกับการที่ท่านได้มาสั่งสอน
บันทึกที่ว่า
นั้น ทำให้คนยุคหลังรู้ว่า การเดินทางค้าขายระหว่าง
จีน
กับ
ชวา
ได้มีมานานแล้ว และ
พระพุทธศาสนา
ก็ได้ตั้งมั่นอยู่แล้วที่นั่น ซึ่งคงนานแล้วก่อนที่ท่านทั้งสองไปถึง
มีศิลาจารึก
บอกไว้ให้ทราบว่า แถวๆ เมืองจาการ์ตา (Jakarta) ปัจจุบันนี้ ย้อนไปเมื่อ ค.ศต. 5-6/พ.ศต. ๑๐–๑๑ เคยมีอาณาจักรโบราณเก่าแก่ที่สุดแห่งชวาตะวันตก ชื่อว่า ตรุมา (Taruma; เรียกเต็ม ว่า ตรุมานคร/Tarumanegara บันทึกฝ่ายจีนเรียกว่า โตโลมา/ To-loma) ซึ่งเป็นดินแดนที่นับถือพระพุทธศาสนา (บางตำราว่าเป็นฮินดู) มีราชาที่เข้มแข็งที่สุด พระนามว่าปูรณวรมัน แต่เรื่องราวของอาณาจักรนี้ นักประวัติศาสตร์ไม่อาจหารายละเอียดมาเล่าได้
ครั้นถึงต้น ค.ศต. 7 (ยุคเดียวกับศรีวิชัยในสุมาตรา) ก็ได้มีอาณาจักรสำคัญเกิดขึ้นแล้วใน
ชวา
หลายแห่ง ทั้งอาณาจักรค้าขายชายฝั่งทะเล และอาณาจักรกสิกรรมทำนาข้าว ลึกเข้าไปในผืนแผ่นดิน
โดยเฉพาะใน
ชวา
ภาคกลาง และภาคตะวันออก เมื่อต้น ค.ศต. 8 (ราว พ.ศ.๑๒๕๐) มีอาณาจักรกสิกรรมรุ่งเรืองอยู่ ชื่อว่า
มาตาราม
(Mataram) เป็นถิ่นนับถือ
ศาสนาฮินดู
มีกษัตริย์ในสายราชวงศ์สัญชัย
บางตำราว่า เมื่อถึงครึ่งหลังของค.ศต.8 (ราว พ.ศ.๑๓๐๐)
อาณาจักรมาตาราม
ได้เสื่อมลงไป โดยมีอาณาจักรใหม่ของ
ชาวพุทธ
แห่งราชวงศ์ไศเลนทร (Sailendra) เจริญขึ้นมาบนที่
ราบเกทุ
(Kedu Plain) ที่อยู่ใกล้เคียง
อย่างไรก็ดี เรื่องราวตอนนี้ นักประวัติศาสตร์ว่าไว้ต่างกัน บางพวกว่า อาณาจักรมาตารามนั่นเองมีกษัตริย์เป็นราชวงศ์ไศเลนทร คือ เป็นอาณาจักรเดียวกัน และกล่าวว่ากษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทรนี้ ตอนต้น นับถือศาสนาฮินดู แล้วต่อมาเปลี่ยนเป็นนับถือพระพุทธศาสนา
(ถ้ายอมรับว่าเป็นอาณาจักรเดียวกันตามมตินี้ ก็น่าพิจารณาว่า เมื่อเลิกนับถือฮินดูแล้วมานับถือพุทธศาสนา จะสร้าง Borobudur ก่อน แล้วไปสร้าง Prambanan ทีหลัง ตามเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ได้อย่างไร)
กษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร
ได้สร้างมหาสถูปยิ่งใหญ่ ที่เรียกว่า Borobudur (สันนิษฐานกันว่าอาจเลือนมาจากคำว่า “บรมพุทโธ”) ขึ้น เมื่อ ราว 800/๑๓๕๐ (บางตำราว่า สร้างตอนกลาง ค.ศต. 9; อยู่ห่างจากเมือง Jogjakarta/Yogyakarta ประมาณ ๖๘ กม.)
มหาสถูป
Borobudur
นี้ ใหญ่เพียงใด ขอพูดไว้เพียงว่า สร้างด้วยหินภูเขาไฟประมาณ ๒ ล้านตารางฟุต บนฐานสี่เหลี่ยม กว้างด้าน ละ ๑๒๑ เมตร (๔๐๓ ฟุต) สูงขึ้นไปเป็นรูปทรงแบบปิระมิด มีลานเป็นขั้นลดหลั่นกันขึ้นไป ๘ ชั้น และในแปดชั้นนั้น ๕ ชั้นล่างเป็นลานสี่เหลี่ยม ๓ ชั้นบนเป็นลานวงกลม และบนลานกลมชั้นสูงสุด มีพระสถูป ตั้งสูงขึ้นไปอีก ๓๑.๕ เมตร
ส่วน
อาณาจักรมาตาราม
ที่เสื่อมลงไป ต่อมาก็ตั้งขึ้นใหม่อีก ในตอน กลาง ค.ศต.9 แล้วเจริญมาอีกหลายศตวรรษ
โดยเฉพาะในตอนต้น ค.ศต.10 (900-930/๑๔๔๓–๗๓)
มาตาราม
ซึ่งเป็น
อาณาจักรฮินดู
ได้สร้างมหาเทวสถาน เรียกว่า ปรัมพนัน/ Prambanan (เขียนปรัมพนัม/Prambanam ก็มี) ขึ้นมา เพื่อเป็นที่บูชาพระศิวะ อันนับว่าเป็น
ศิวเทวาลัยใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย
มหาสถูป
Borobudur ฝ่ายพุทธศาสนา
ของราชวงศ์
ไศเลนทร
กับ
มหาเทวสถาน ปรัมพนัน ฝ่ายฮินดู
ของอาณาจักรมาตารามนี้ ใหญ่มหึมาทั้งสองแห่ง และอยู่ใกล้กันด้วย (ห่างกันไม่ถึง ๘๐ กม.) จึงเป็นที่สังเกต และเป็นแหล่งศึกษาเชิงเปรียบเทียบสำหรับนักค้นคว้า
เรื่องของ
ราชวงศ์ไศเลนทร
นี้ นอกจากที่เกี่ยวกับการสร้าง
มหาสถูป
Borobudur
แล้ว ก็ไม่ค่อยรู้อะไรกันอีก หรือรู้กันแบบไม่ค่อยชัด
นักประวัติศาสตร์เห็นกันว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ ๒ (Jayavarman II; น่าสังเกตว่าชัยวรมันที่ ๑ ไม่ปรากฏ) ผู้สถาปนาอาณาจักรขอมโบราณ ซึ่งมีเชื้อสายทางวงศ์กษัตริย์แห่งฟูนันด้วย มาจากราชสำนักแห่งไศเลนทร ในตอนปลาย ค.ศต.8 เมื่อประมาณปี 790/๑๓๓๓ และได้ประกาศอาณาจักรขอมเป็นอิสระจากไศเลนทร ในปี 802/๑๓๔๕
เท่าที่พูดกันอันสำคัญอีกตอนหนึ่งคือเรื่องที่ว่า ในช่วงกลาง ค.ศต. 9 (ราวพ.ศ.๑๔๐๐)ขณะทราชวงศ์มาตารามเข้าครองดินแดนของไศเลนทร ในชวา กษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทรนี้ ก็ได้ ไปเป็นใหญ่ครองอาณาจักรศรีวิชัยในสุมาตรา โดยมีอำนาจครองดินแดนแหลมมลายูส่วนใหญ่ด้วย จนกระทั่งศรีวิชัยที่ราชวงศ์ไศเลนทรปกครองนั้นเสื่อมไปในกลาง ค.ศต.11
ในยุคที่ศรีวิชัยในสุมาตราเสื่อมลงช่วงต้นๆ คือใน ค.ศต.11 ได้เกิดมีอาณาจักรใหม่ขึ้นในชวาตะวันออก ชื่อว่า
กาทิรี
(Kadiri; ปัจจุบันเรียก ว่า Kediri) มีเมืองหลวงชื่อว่า
ดาหา
(Daha; อ่านอย่างบาลี-สันสกฤตว่า ทหะ เหมือนในคำว่าเทวทหะ)
ขอแทรกว่า ตรงนี้ตำราทั้งหลายว่าต่างกันจนสับสน เมื่อตรวจสอบสืบค้นไปก็พอเชื่อมความตามแหล่งข้อมูล ๒-๓ แห่งได้ว่า เป็นเรื่องสืบมาจากอาณาจักร
มาตาราม
นี้เอง จากตั้งขึ้นใน ค.ศต. 8 โดยพระเจ้าสญชัย (ครองราชย์ปี 732-778/ ๑๒๗๕–๑๓๒๑) แล้ว ก็มีอำนาจขยายออกไปตั้งแต่ชวาภาคกลางถึงภาคตะวันออก
ต่อมาต้น ค.ศต. 10 ศูนย์กลางอำนาจของมาตารามได้เคลื่อนย้ายไปทางตะวันออก
เวลาผ่านไป ได้เกิดภัยพิบัติ ถูกศรีวิชัยที่ขัดแย้งกันมาทำลายบ้าง ถูกกบฏทำลายบ้าง จนกระทั่งปี 1019/๑๕๖๒ เกิดมรราชาองค์สำคัญของมาตาราม (มรพระนามเขียนกันว่า Airlangga บ้าง Erlangga บ้าง) รวมกำลังฟื้นอาณาจักรให้เข้มแข็ง แล้วแบ่งอาณาจักรให้โอรส้ ๒ องค์ครอง
ครั้งนั้น
มาตาราม
หายไป แยกเป็น ๒ อาณาจักร คือ กาทิรี กับ ชังคละ ทำให้แตกกันและอ่อนแอลง กระทั่งราชาชยาภัย (ครองราชย์1135-57) รวม
ชังคละ
เข้ากับ
กาทิรี
ได้ (ตามเรื่องที่เล่ามาว่า โอรสและธิดาของ ๒ แดนนั้น คือ อิเหนา กับ บุษบาอภิเษกสมรส อิเหนาจึงครองเป็นอันเดียว)
กาทิรี
ขยายดินแดนออกไปได้มาก แต่ก็ยังไม่สามารถคุมสุมาตราที่ศรีวิชัยครองอยู่ได้ แล้วในที่สุด ถึงปี1222/๑๗๖๕ ได้มีกบฏโค่น พระเจ้ากฤตชัย (ตำราภาษาอังกฤษเขียน Kertajaya น่าจะเพี้ยนจาก Kritajaya) ราชาองค์สุดท้ายของอาณาจักร
กาทิรี
ลง และตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นมาแทนที่ ชื่อว่าสิงหสารี (Singhasari/Singasari/Singosari; ใน อิเหนาเรียกว่า “สิงหัดส่าหรี”)
อาณาจักรสิงหสารี
แห่งชวาตะวันออก เป็นดินแดนที่นับถือพระพุทธศาสนา ได้รุ่งเรืองเด่นในรัชกาลพระเจ้ากฤตนคร (ภาษาอังกฤษ เขียนกันว่า Kertanagara น่าจะเพี้ยนจาก Kritanagara; 1268-1292/ ๑๘๑๑–๑๘๓๕) โดยมีอำนาจควบคุมดินแดนเป็นอันมากในสุมาตรา ที่เคยอยู่ใต้การปกครองของศรีวิชัย
ต่อมา ในปี 1289/๑๘๓๒ จักรพรรดิกุบไลข่าน เมืองจีน ทรง พิโรธว่าทางสิงหสารีปฏิบัติต่อราชทูตของพระองค์อย่างไม่ควรแก่เกียรติ ยศ จึงเตรียมจะส่งกองทัพมาลงโทษ
แต่ระหว่างนั้น ในปี1292/๑๘๓๕ อาณาจักรกาทิรีคู่แข่ง ที่ถูก สิงหสารีปราบลงก่อนนั้น ได้ก่อการกบฏ มายึดพระราชวัง และได้ สังหารพระเจ้ากฤตนครเสีย ทำให้อาณาจักร
สิงหสารี
สิ้นสลาย
คราวนั้น (ปี1292/๑๘๓๕) เจ้าชายวิชัยโอรสของพระเจ้ากฤตนคร หลบหนีไปได้ ครั้นทัพมองโกลมาถึง เจ้าชายวิชัยก็หันไปร่วมกับทัพมองโกลนั้นกำจัดกษัตริย์แห่ง
กาทิรี
ได้ เสร็จแล้วเจ้าชายวิชัยก็หันมาสู้กับพวกมองโกล และสามารถขับไล่ทัพมองโกลออกไปจากชวาสำเร็จ
จากนั้น เจ้าชายวิชัยได้ตั้งอาณาจักรแห่งชวาตะวันออกขึ้นใหม่ ชื่อว่ามัชปาหิต ในปี1293/๑๘๓๖ ซึ่งได้เจริญขึ้นเป็นใหญ่ที่สุดในแถบนี้ โดยครองดินแดนที่เป็นอินโดนีเซียบัดนี้ และแผ่นดินแหลมมลายูเป็นอันมาก ตลอดทั้งสิงคโปร์
(เป็นอันจับความรวมได้ว่า
มาตาราม
หายมาเป็น
กาทิรี
แล้วกาทิรีถูกแทนที่ด้วย
สิงหสารี
และสิงหสารีก็เปลี่ยนเป็น
มัชปาหิต
)
มัชปาหิต
*
ที่ชวา รุ่งเรืองอยู่นาน แต่นับจากปี 1389/๑๙๓๒ อำนาจก็เริ่มถูกท้าทาย ดังได้เล่าแล้วว่า ทางด้านสุมาตรา เจ้าชายปรเมศวรแห่งแดนศรีวิชัยเดิม คิดตั้งตัวเป็นอิสระ แม้ว่ามัชปาหิตจะขับไล่ผู้ท้าทายนั้นพ้นไป และตามไปกำจัดที่สิงคโปร์จนเสร็จ แต่เจ้าชายปรเมศวรก็ไม่ลดละ หนีต่อไปตั้งตัวได้ที่มะละกา กลายเป็นสุลต่านอิสกันดาร์ชาห์ ทำให้เกิดรัฐสุลต่านแห่งมะละกาขึ้น ดังเล่าข้างต้น เมื่อปี 1402-03/๑๙๔๕-๔๖
มัชปาหิตเสื่อมอำนาจ จนในที่สุดก็ถูกชนมุสลิมโค่นลงในปี 1478/ ๒๐๒๑ (บางตำราว่าปี 1486/ ๒๐๒๙) แต่ยังไม่หมดกำลังสิ้นเชิง กระทั่งถึงต้น ค.ศต.16 อำนาจก็ยังเหลืออยู่บ้างนั้นถูกกำจัดสิ้นไปในราวปี 1527/๒๐๗๐
ในช่วงที่ชนมุสลิมเข้าครองนั้น ชาวฮินดู มัชปาหิต ทั้งเจ้านาย ขุนนาง และประดาคนชนสูงได้พากันอพยพหนีภัยไปยึดเอาบาหลีเป็นที่มั่นสุดท้าย
เกาะบาหลี
(Bali คือพลี ที่แปลว่า มีกำลัง แข็งแรง) อยู่ห่างไปทางตะวันออกของเกาะชวา โดยข้ามช่องแคบเพียงประมาณ ๒ กม. และบาหลี เป็นถิ่นแดนเดียวในอินโดนีเซียปัจจุบัน ที่นับถือศาสนาฮินดู ซึ่งเป็นฮินดูแบบบาหลี (Balinese Hinduism) มีพุทธศาสนาแทรกเสริม ผสมผสานกับลัทธินับถือบรรพบุรุษผีสางและไสยเวท ถือระบบวรรณะของฮินดู แม้จะหย่อนกว่าในอินเดีย ชาวบาหลีส่วนใหญ่ ราว ๙ ใน ๑๐ เป็นคนวรรณะศูทร
ถึงตอนนี้ ก็ควรตามไปดูบนผืนแผ่นดินแหลมมลายู คืออาณาจักรมะละกาที่เคยว่าไว้นั้น
(แต่ก็จะย้อนมาที่ชวาอีกที เพราะจะมี
อาณาจักรมาตาราม
เกิดขึ้นใหม่ ในยุคเป็นแดนมุสลิมในกาลข้างหน้าหลังสิ้นมาตารามเก่าไป ๕๐๐ กว่าปี )
*
การเขียนเทียบเสียงชื่อต่างๆ ในภาษาของอินโดนีเซีย เป็นภาษาไทยนั้นทำได้ยากมาก เพราะเรามักอ่านผ่านภาษาอังกฤษ เว้นแต่คำจากบาลี-สันสกฤต ซึ่งอาจบอกคำเดิมได้ทันที (เช่น สิงหสารี, สิงหราชา ฯลฯ ซึ่งในอินโดนีเซียบัดนี้ ก็ยังออกเสียงอย่างนั้น ) แต่กระนั้น หลายคำก็เพี้ยนเสียงไปไกลเกินที่จะคาดเดา
มีชื่อสำคัญ ๒-๓ ชื่อ ที่แม้จะได้พยายามสืบบและสอบค้นตั้งแต่ก่อนเขียน จนเขียนภาคผนวก นี้จบ ก็ยังไม่ยุติ โดยเฉพาะ Majapahit และ Mataram ซึ่งในที่นี้ยังเขียนเป็นมัชปาหิต และ มาตาราม โดยถือหลักว่า เมื่อยังหาคำเดิมที่มั่นใจว่าถูกแท้ไม่ได้ใช้ตามของเก่าไปก่อน
Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2567 12:17:19 น.
0 comments
Counter : 36 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
Bloggang.com