กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
บุญ
ข้อธัมม์ที่ถาม-เถียงกันบ่อย
หลักปฏิบัติ
สภาวธรรม
ปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง
ผู้พิพากษาตั้งตุลา ใ ห้ สั ง ค ม ส ม ดุ ล
คติธรรมสั้นๆ
ภาษาธรรมวันละคำ
รู้เขา รู้เรา
ปัจฉิมวาจา
ความเป็นมาของการบวช
การทำวัตรสวดมนต์
ทำยังไงจึงจะมีอายุยืนและมีความสุข
นิพพาน-อนัตตา ฉบับเพียงเพื่อไม่ประมาท
พลังดันคน
ที่ทำงานของจิต
บรรลุธรรมอะไร?
พุทธปรัชญาในสุตตันตปิฎก
ธัมมาธิบาย
สวดมนต์
ความจน เ ป็ น ทุ ก ข์ ใ น โ ล ก
เรียนบาลีเพื่อรักษาพุทธพจน์
ศีล-ธรรมไม่มาโลกาจะพินาศ
หลักธรรมสำหรับผู้ยังไม่นับถือศาสนาใดๆ
ก่อนศึกษาพุทธธรรม
ภาค ๑. มัชเฌนธรรมเทศนา
ภาค ๒. มัชฌิมาปฏิปทา
ภาค ๓. อารยธรรมวิถี
วัฒนธรรมประเพณี
จารึกธรรม
<<
กุมภาพันธ์ 2567
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
28 กุมภาพันธ์ 2567
อิสลาม เริ่มเข้าที่ สุมาตรา
อินโดนีเซีย: ที่สุมาตรา ย้อนไปถึง ศรีวิชัย
???
อินโดจีน ส่วนล่างกับอดีตเด่นดังที่ ลังกาสุกะ
???
ดินแดนที่ตกอยู่ในความวุ่นวาย
หมายเหตุ
ทีนี้ มองดูเกาะใหญ่ ถัดลงไปทางใต้
มะละกาลับหาย สุมาตรา-ชวา เฟื่องฟูขึ้นมาใหม่
มะละกา ที่แดนมาเลเซียขึ้นมาเป็นใหญ่เหนือ ชวา
???
ชวา ขึ้นมาล้ำ สุมาตรา
มลายู ขยายจากสุมาตรา ขึ้นยังมาเลเซีย
อิสลาม เริ่มเข้าที่ สุมาตรา
อินโดนีเซีย: ที่สุมาตรา ย้อนไปถึง ศรีวิชัย
???
อินโดจีน ส่วนล่างกับอดีตเด่นดังที่ ลังกาสุกะ
อินโดจีน ย้อนอดีตถึง ทวารวดี
จีน- อินเดีย แล้วเกิดมี อินโดจีน - อินโดนีเซีย
ภาคผนวก
คู่ต่างคู่เติม เสริมความรู้ธรรมให้เต็ม
พุทธในอินเดียแต่ละยุคๆ
ทัพมุสลิมเตอร์ก เก็บฉาก
ปุษยมิตร - มิหิรกุละ - ศาศางกะ ทำลายพุทธในระหว่าง
ศิวะอวตาร
นารายณ์อวตารเป็นพระพุทธเจ้า
เรื่องเกี่ยวกับโพธิสัตว์
ต้นโพธิ์ พระสถูป พระพุทธรูป
ย้ำอีกที
พระรัตนตรัย:สื่อเชื่อมต่อ และส่งเข้าสู่ทาง
ดูข้างเคียงให้ทั่ว จะเห็นของตัวว่าเป็นอย่างไร
ย้ำ
วัดถ้ำ: พุทธ เชน ฮินดู เปลือกดูคล้าย
เค้าอวสานแห่งพุทธศาสนา
ฮินดูฟื้น พุทธศาสนาสลบ
พุทธศาสนาประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
วัดกับถ้ำ
หลังพุทธกาล คามวาสี-อรัญญวาสี จึงมี
ถ้ำกับชีวิตของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
อชันตา เอลโลรา
???
ระบบสัมพันธ์ของธรรม
รู้ทุกข์จึงดับทุกข์ได้ไม่ใช่รู้ทุกข์ไป แล้วกลายเป็นทุกข์
เศรษฐกิจจะพอดี เมื่อมันทำหน้าที่เป็นปัจจัย
ปัญญา
สัญญา
ผู้ปล่อยวางได้ แต่ไม่ปล่อยปละละเลย
ความไม่ยึดมั่นถือมั่นที่แท้ อีกที
ความไม่ยึดมั่นที่แท้ ต้องดูจากคติพระอรหันต์
สมมุติ,บัญญัติ
ธรรมกับวินัยเสริมกัน
วินัยเป็นบรรทัดฐานแห่งพฤติกรรมที่ถูกต้องตามธรรม
วินัย
ดูหัวข้อนี้ให้ชัด
ธรรมที่ตรัสไว้ต่างชุด ดุจเครื่องมือที่ใช้กับต่างงาน
ดุลยภาพในระบบความสัมพันธ์ของธรรม
ความเชื่ออีกแนวหนึ่ง
ความไม่ประมาท ช่วยปรับให้พอดี จึงเป็นทางสายกลาง
สติมา ปัญญาเกิด
มองอินเดียกับฝรั่ง ให้เห็นความแตกต่างที่เป็นคติแก่ไทย
บทบาทหน้าที่ของสติ กับ ปัญญา
ระบบทุกข์ภัยประดิษฐ์ ดีกว่าปล่อยให้มักง่าย
เรียบง่าย แต่ระวัง อย่าให้กลายเป็นมักง่าย
ความประมาท ความไม่ประมาท เป็นไฉน
ผู้ไม่ประมาทใช้ประโยชน์จากอนิจจัง
มนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญต่อความเสื่อมความเจริญ
ความไม่ประมาท คือความสามารถที่จะไม่เสื่อม
ถิ่นปิยชนผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา
???
ธรรมานุธรรมปฏิบัติ
สันโดษ ไม่สันโดษ ดีไม่ดี
ได้ดุลพอดี ที่เป็นลักษณะทางสายกลาง
ปัญญา ชี้นำเข้ามาและเดินหน้าในทางสายกลาง
อธิษฐานจิต
ใช้เวลาสักนิด กับ เรื่องภวังคจิต
สายมู
???
สมาธิมีประโยชน์มากมาย ต้องใช้ให้คุ้มและให้ครบ
อย่าทิ้งความคิดปรุงแต่งทันที ปรุงแต่งดีได้ถึงฌานสมาบัติ
พระพุทธเจ้ากับเพลง
จะอาศัยสิ่งกล่อมหรือจะใช้วิริยะและปัญญา
อิสรภาพของมนุษย์ จะได้ด้วยการศึกษาที่ถึงธรรม
พระพุทธเจ้ามา ประกาศอิสรภาพให้แก่มนุษย์
ความรักต้องคู่กับความรู้
คิดปรุงแต่ง กับ คิดวิปัสสนา
พระพุทธเจ้าตรัสรู้เพราะโยนิโสมนสิการ
มีโยนิโสมนสิการ เรื่องร้ายก็กลายเป็นดี
รูปกาย ธรรมกาย
ที่ประกาศอิสรภาพของมนุษย์
มุสลีมะอินโด ฯ
ปฏิบัติธรรมก้าวหน้าไป นามกายเจริญเอง
โปรยธรรมบนเส้นทางสู่ที่ปรินิพพาน
เส้นทางพุทธกิจ: พุทธคยา ถึง กุสินารา
ถ้าสังเวชเป็น ก็จะได้เห็นธรรมกาย
มุสลิมเตอร์ก มุสลิมมองโกล รุ่งแล้วเลือนลับ
จากยุคมุสลิมอาหรับ เข้าสู่ยุคมุสลิมเตอร์ก
สุหนี่นำอิสลามครองสะเปน จ่อแดนจีน
ชีอะฮ์แยกออกมา
อิสลามแผ่ไพศาล
อิสลามรวมอาหรับ
เมตตาที่มีปัญญา จึงพาโลกสู่สันติสุขได้
???
รักษาแผ่นดินไทย ให้เป็นแผ่นดินธรรม
จุดเริ่มของแผ่นดินธรรม
ถ้าคนประสานกับธรรม ก็มีทางแก้ปัญหาชีวิตและสังคม
พุทธะโยงเราเข้าถึงธรรม
พระรัตนตรัย ต้องรู้จักใช้ให้เป็นสรณะ
มนุษย์ประเสริฐเพราะเป็นสัตว์ที่ฝึกได้
จากเทพสู่ธรรม จากธรรมสู่กรรม
พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว จะประกาศธรรมแสนยาก
ย้ำ
รู้ธรรม คือรู้เรื่องธรรมดา
โพธิพฤกษ์ โพธิญาณ
มหาวิทยาลัยสงฆ์มีไว้ทำไม
???
๕ แคว้น ที่ยิ่งใหญ่
ย้ำอุเบกขา
มาฆบูชา พัฒนาความรักแห่งวาเลนไทน์
ให้รักกับรู้ มาเข้าคู่ดูแลกัน
มนุษย์กับมนุษย์รักกัน แต่มนุษย์ทุกคน
ถึงความรักจะดี ก็ไม่พอ
มาฆบูชา กับ วาเลนไทน์
ละชั่ว ทําดียังไม่พอ ต้องต่อด้วย
หัวใจเดียว แต่มีสี่ห้อง
มาฆบูชาขึ้นมาเป็นวันสําคัญในพระพุทธศาสนา
สาระของโอวาทปาติโมกข์
มาฆบูชา กับ หัวใจพระพุทธศาสนา
ราชคฤห์ ศูนย์อํานาจการเมือง
หัวใจธรรม จากจุดศูนย์กลาง
พระพุทธศาสนาในมือของพุทธบริษัท
ร่องรอยที่เหลือ และเค้าการฟื้นฟูหลังหมดสิ้น
อวสานมาถึง เมื่อทัพมุสลิมเตอร์กลงดาบสุดท้าย
เทียบ ปทท.
นาลันทากับความเสื่อมสูญของพระพุทธศาสนา
วัดพุทธ ต้นกําเนิดมหาวิทยาลัยของโลก
พระพุทธศาสนาเกิดขึ้น ก็เกิดการศึกษาแก่มวลชน
ฟูจิ
เอาธรรมไปเป็นหลักประกันชีวิตและสังคมไว้
ธรรมเป็นอิสระจากคน คนถึงธรรมเป็นอิสระจากสังขาร
ศรัทธากับปัญญา นำเข้าเฝ้าพระพุทธเจ่า
ศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ราชสังคหวัตถุ ๔
หลักธรรมที่อโศกราชาใช้ปกครองบ้านเมือง
อโศกราชากล้าหาญในทางสันติ
เทียบกันแล้ว สรุปได้
ดูพุทธพจน์แล้ว อ่านธรรมโองการเทียบ
อโศกธรรม หรือ คหัฐวินัย
ธรรมวิชัย:หลักการใหญ่ที่นําเข้าสู่พุทธธรรม
อโศกมหาราช อโศกธรรม
ศิลาจารึกอโศก เป็นของพระเจ้าอโศกมหาราชแน่หรือ
ทรัพย์และอํานาจ สู่ความหมายและคุณค่าใหม่
ธรรมวิชัย
ไม่ประมาท ก็ไม่เสื่อม
วัดพระราม
ชมพูทวีปในพุทธกาล
สังเวชนียสถาน ๔
ย้อนทางเข้าสู่แดนพุทธภูมิ
อินโดจีน ส่วนล่างกับอดีตเด่นดังที่ ลังกาสุกะ
อินโดจีน
ส่วนล่างกับอดีตเด่นดังที่
ลังกาสุกะ
ต่อจากนั้น
ใต้ลงไป
ก็ถึง
แผ่นดิน
ที่เรียกว่า
แหลมมลายู
ซึ่งมีหลักฐานว่าได้เกิด
อาณาจักร
ที่นับถือ
พระพุทธศาสนา
ขึ้นเมื่อประมาณ ค.ศ.
100
/พ.ศ. ๖๕๐ (บางตำราว่า เป็น
ฮินดู
ก่อนเป็นพุทธ) เรียกกันมาว่าอาณาจักร
ลังกาสุกะ
เป็นธรรมดาว่า
Indianized kingdoms/
อาณาจักรเยี่ยงอินเดีย
เหล่านี้ จะตั้งชื่อเป็น
ภาษา
จำพวก
สันสกฤต
ตามอย่างชื่อ
รัฐ
หรือเมืองใน
ชมพูทวีป
ที่เป็น
ถิ่นเดิม
ของตน หรือที่ตนชื่นชอบ (เหมือนกับที่พบได้ทั่วไป ไม่ว่าใน
ตะวันออก
หรือ
ตะวันตก
ดังชื่อเมืองมากมายใน
อเมริกา
ที่ตั้งตามชื่อเมืองใน
ยุโรป
) แต่เนื่องจากผ่านกาลเวลามานานมาก คำเรียกนั้นๆ ก็
กร่อนหรือเพี้ยน
ไป จนส่วนมากยากที่จะระบุ
ชื่อเดิม
ที่แท้จริงได้
*
ลังกาสุกะ
นี้ยังไม่แน่ชัดว่าชื่อเดิมแท้คืออะไร รูปคำที่เขียนก็มีแผกกัน เป็น
Lankasuka
บ้าง
Langkasuka บ้าง Lengkasuka
บ้าง บางแหล่งว่าเป็นอันเดียวกับ
Alang-kah-suka
บางแหล่งว่าคือที่เพี้ยนมาเป็น
Lakawn Suka
เรื่องราวฝ่ายจีนเรียกว่า
Lang-ya-hsiu
บ้าง
Lang-hsichia
บ้าง
(ยกมาให้อ่านกันเอง เพราะผู้ไม่ถนัดการอ่านหรือการเทียบเสียงภาษาจีน)
บางท่านว่า
ลังกาสุกะ
อาจจะเป็นอาณาจักร
อิลังคาโสกะ
(Ilangasoka)
ที่มีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า ในยุคต่อมา (อีกนานหลายศตวรรษ) พระเจ้าราเชนทร์แห่งอาณาจักรโจละ ในอินเดียใต้ ได้ปราบอิลังคาโสกะลง ในคราวยกทัพมาทำสงครามกับอาณาจักร
ศรีวิชัย
เพื่อชำระเส้นทางพาณิชย์ ให้ทางฝ่ายอินเดียค้าขายกับเมืองจีนได้สะดวก โดยไม่ถูกแทรกแซง และโจละชนะศรีวิชัยในปี
1025
/๑๕๖๘
ที่ตั้งของอาณาจักร
ลังกาสุกะ
นี้ ยังพูดได้เพียงกว้างๆ ว่าอยู่ในส่วนเหนือของ
แหลมมลายู
แต่ไม่ลงตัวว่าเป็นจุดใดแน่
นิทานปรัมปราสืบมาในมาเลเซียเล่าว่า
ราชา
ผู้สร้างอาณาจักรลังกาสุกะ มาจาก
ชมพูทวีป
เมื่อ ค.ศ.100 เศษ (ใกล้เคียง พ.ศ.๗๐๐) มีพระนามที่เรียกสั้นๆ ว่า พระเจ้า
มหาวังสะ
ตำนาน หรือนิทานนี้ เล่ากันไปเล่ากันมา ในเมืองไทยกลายเป็นเรื่องสับสนถึงกับว่า ราชบุตรของพระเจ้ามหาวังสะ หรือท้าวมหาวงศ์นี้ ได้เปลี่ยนไปนับถืออิสลาม เพราะหมอมุสลิมช่วยรักษาให้หายโรค และเปลี่ยนพระนามเป็น “สุลต่าน มูฮําหมัด ชาห์”
เรื่องที่เล่าอย่างนั้น ไม่อาจเป็นไปได้ เพราะพระเจ้ามหาวังสะสร้างอาณาจักร
ลังกาสุกะก่อนศาสนาอิสลามเกิดขึ้นในดินแดนอาหรับ
ถึง ประมาณ ๕๐๐ ปี และหลังจากนั้นอีกราว ๗๐๐ ปี (ราว พ.ศ.๒๐๐๐) ศาสนา
อิสลาม
จึงมาแพร่ขยายในดินแดนแถบนี้
ลังกาสุกะ
นับถือพระพุทธศาสนาอยู่ ๑๑๐๐–๑๓๐๐ ปี จึงถึงยุคของศาสนาอิสลาม
(ราชาองค์แรกที่เปลี่ยนไปนับถืออิสลาม ตามตำนานที่พบใช้พระนามว่า “สุสต่าน อิสมาอิล ชาห์”
ไม่ใช่ “สุลต่าน มูฮำหมัด ซาห์”)
อนึ่ง ตามตำนานฝ่ายมาเลเซีย อาณาจักรลังกาสุกะนั้น อยู่ทางฝั่งตะวันตก ลึกเข้าไปในป่าเขาของรัฐเคดาห์ (Kedah) ที่โบราณคงเรียกแบบ
สันสกฤต
(อาจจะเป็นคำว่า “กฏาหะ”) แล้วได้คืบขยายมาทางตะวันออก จนออกทะเลที่ปัตตานี
อย่างไรก็ดี มีบันทึกฝ่ายจีนว่า ลังกาสุกะ ตั้งอยู่ที่ฝั่งทะเลด้านตะวันออก (อาจเป็นได้ว่า จีนมาพบหรือติดต่อ เมื่อลังกาสุกะขยายมาถึง ฝั่งทะเลตะวันออกนั้นแล้ว)
บางตำราบอกสั้นๆ ว่า ลังกาสุกะตั้งอยู่ใกล้
ปัตตานี
(in the vicinity of Pattani/Patani)
บางท่านอ้างว่าอยู่ที่
ปัตตานี
เลยทีเดียว
[คำว่า “ปัตตานี” เองก็น่าศึกษา นักประวัติศาสตร์เวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ใช้ว่า Pattani บ้าง Patani บ้าง และมีการสันนิษฐานกัน มาต่างๆ ว่าจะเพี้ยนจากคำโน้นคำนี้ซึ่งก็ไม่ยุติคงจะได้รับฟังกันต่อไป นอกจากนั้น มีข้อน่ารู้ว่า ถิ่นฐานแห่งหนึ่งในมาลุกุ/Maluku หรือ หมู่เกาะโมลุกกะ/Moluccas ของอินโดนีเซีย ก็มีชื่อว่า Patani ด้วย]
หนังสือ
The Hutchinson Dictionary of World History (1999)
บอกหนักแน่นว่า ในช่วงสมัยหนึ่ง เคดาห์ (Kedah ปัจจุบันเป็นรัฐหนึ่งในมาเลเซีย) สิงโครา (Singgora คือ สงขลา) และลิคอร์ (Ligor คือ นครศรีธรรมราช) เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรพุทธศาสนายุคโบราณชื่อ ลังกาสุกะ
ย้อนกลับไปสู่ยุคต้นๆ อีกว่า หลังจากตั้งขึ้นและเจริญมาเพียงศตวรรษเศษ ลังกาสุกะ ซึ่งมีคนสายมอญ-เขมรเป็นพื้น ได้ตกไปอยู่ใต้อำนาจของอาณาจักรฟูนัน (ในแดนเขมร) ซึ่งก็นับถือพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน
หลังจากถูกฟูนันปกครองราว ๓๐๐ ปีเมื่ออาณาจักรฟูนันล่มลงใน ค.ศต. 6 ลังกาสุกะเป็นอิสระขึ้นมาได้ แต่ไม่นานนัก (ไม่รู้เวลาชัด แต่โดยมากว่า ก่อน ค.ศ.800 คือในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๔) ลังกาสุกะ ก็เช่นเดียวกับดินแดนอื่นส่วนมากบนแหลมมลายู ต้องขึ้นต่ออาณาจักรศรีวิชัยอันยิ่งใหญ่ ที่แผ่อำนาจมาจากสุมาตรา (ปัจจุบันอยู่ในอินโดนีเซีย)
ดินแดนบนแหลมมลายเหล่านี้ รวมทั้งลังกาสุกะ อยู่ใต้อำนาจของศรีวิชัยหลายศตวรรษ จนกระทั่งศรีวิชัยเสื่อมลง จึงพากันเป็นอิสระได้ แต่แล้วก็เข้าสู่ยุคที่มัชปาหิตขึ้นมาเป็นใหญ่อีก
(นักประวัติศาสตร์ยังมีมติไม่ลงกันเด็ดขาดว่า มัชปาหิตได้คุมอำนาจในดินแดนแถบนี้แค่ใด บางมติถึงกับบอกว่า แผ่นดินแหลมมลายู ทั้งหมดถูกมัชปาหิตทำลาย แต่ไม่ได้เข้าครอบครอง อาจเป็นได้ว่า มัชปาหิต ไม่ได้เข้าปกครองเอง แต่เอาเป็นเมืองขึ้น; หลักฐานที่มักอ้างกันก็คือ พงศาวดารของชวาชื่อว่า “นครกฤตาคม” ที่แต่งในปี 1365/๑๙๐๘)
ลังกาสุกะปรากฏชื่อครั้งสุดท้าย ในพงศาวดารนครกฤตาคม (แหล่งข้อมูลหลายแห่งเขียนกันต่างๆ เป็น
Nagarakertagama บ้าง Nagarakartagama บ้าง Nagarakrtagama
บ้าง คงจะคลาดเคลื่อนมาจาก
Nagarakritagama
จึงเขียนอย่างที่ให้ไว้นี้) อันว่าด้วยสงครามระหว่างศรีวิชัยกับมัชปาหิตแล้วก็หายไปจากประวัติศาสตร์
นครกฤตาคม
นั้น กล่าวถึงลังกาสุกะในฐานะเป็นรัฐหนึ่งบนฝั่งทะเลด้านตะวันตก ซึ่งขึ้นต่ออำนาจของมัชปาหิต
(อาจเป็นได้ว่าเวลานั้นอยู่ในระยะช่วงชิงอำนาจกันจึงต่างก็อ้างความเป็นใหญ่)
ต่อจากมัชปาหิต ก็ถึงยุคของรัฐสุลต่านแห่งมะละกา ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในครึ่งหลังของ ค.ศต.15 (ราว พ.ศ.๒๐๐๐–๒๐๕๐) โดยได้คุมดินแดนแหลมมลายูทั้งหมด ตลอดไปถึงสุมาตราตะวันออกส่วนใหญ่
ถึงตอนนี้ไม่ว่าลังกาสุกะจะยังอยู่หรือไม่ หรือจะได้เปลี่ยนไปเป็นอะไรแล้วก็ตาม ถิ่นแดนนั้นก็คงเป็นอันได้อยู่ใต้กำกับของมะละกานี้
*
ขอยกตัวอย่าง เมืองใน
ดินแดน
แถบนี้ ที่ชี่อเดิมมี คำว่า “
สิงห
” หลายเมือง กว่าจะถึงปัจจุบัน ได้กลายเป็น “
สิงค
” ไปเป็นส่วนมาก เช่น อาณาจักร
สิงหสารี
(ในพระราชนิพนธ์เรื่อง
อิเหนา
เรียกว่า “สิงหัดสาหรี”) ในชวาตะวันออก ที่เป็นต้นเดิมของอาณาจักร
มัชปาหิต
ปรากฏในตําราปัจจุบันเป็น Singhasari บ้าง Singasari บ้าง Singosari บ้าง เมือง
สิงหราชา
ในเกาะบาหลีเอกสารปัจจุบันเขียนเป็น Singaraj
สิงหปุระ
กลายมาเป็น
สิงคโปร์
/Singapore
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2567 12:06:02 น.
0 comments
Counter : 137 Pageviews.
(โหวต blog นี้)
Share
Tweet
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [
?
]
Webmaster - BlogGang
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
Bloggang.com