กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2567
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
2526272829 
space
space
19 กุมภาพันธ์ 2567
space
space
space

ความประมาท ความไม่ประมาท เป็นไฉน



 
 
235 ความประมาท สำคัญอย่างไร  จึงทำให้ความไม่ประมาท กลายเป็นธรรมยิ่งใหญ่
 
 
     ขอย้อนกลับมาที่เรื่องความไม่ประมาทอีกที เพราะความไม่ประมาทนี้แหละ ที่จะทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากอนิจจัง
 
     ความไม่ประมาท  แปลว่าอะไร  ต้องมาดูที่ความประมาทก่อน
 
     “ความประมาท”    แปลว่า    ความขาดสติ    ความละเลย   ความทอดทิ้ง  ความเพิกเฉย   ความเฉื่อยชา ความไม่กระตือรือร้นขวนขวาย   ความผัดเพี้ยน    ความไม่เอาเรื่องเอาราว   ความไม่ใส่ใจ   ความนิ่งนอนใจ ความเรื่อยเปื่อย นี้เรียกว่าความประมาท
 
     สิ่งที่ควรจะต้องทำ   เห็นอยู่   ก็ผัดเพี้ยนไป   ไว้พรุ่งนี้เถอะค่อยทำ   นี่เรียกว่าความประมาท หรือเอาแต่เพลิดเพลินมัวเมาหลงใหลในความสุข  จึงละเลย  ไม่ใส่ใจ  ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ  นี่ก็เรียกว่าความประมาท
 
     ความประมาทนี้สำคัญอย่างยิ่ง  ถ้าประมาทเสียอย่างเดียว  อะไรจะเกิดขึ้น
 
        ๑. ไม่ยอมเริ่ม คือ  ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงอุตส่าห์สั่งสอนมา ๔๕ พรรษา ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์   มีในคัมภีร์มากมายเท่าไร  เรียนกันเท่าไร  รู้และจำได้เท่าไร ประมาทเสียอย่างเดียว ก็ไม่ลงมือทำ ไม่เอามาใช้  มัวแต่รีรอผัดเพี้ยน หรือละเลย  ธรรมเหล่านั้นก็นอนหลับอยู่ในคัมภีร์หมด  ไม่ได้รับการปฏิบัติ   เพราะความประมาทตัวเดียวทำให้เสียหมด
 
     ฉะนั้น ใครจะมาพูดว่ารู้ธรรมอย่างนั้นอย่างนี้  ถ้าประมาทเสียอย่างเดียว เขาก็ไม่ปฏิบัติเลย ความประมาทจึงทิ้งธรรมอื่นๆ เสียทั้งหมด  ก็เพราะอย่างนี้
 
     แต่ถ้าไม่ประมาทก็ตรงกันข้าม  เรียนธรรมมาข้อหนึ่งก็ได้รับการปฏิบัติข้อหนึ่ง เรียนมาสองข้อก็ได้รับการปฏิบัติสองข้อ  เรียนมาเท่าไรก็ได้รับการปฏิบัติทั้งหมด  ความไม่ประมาทจึงครอบคลุมเหมือนเป็นรอยเท้าช้าง เพราะทำให้ธรรมทุกข้อที่พระพุทธเจ้าสอน เท่าที่ได้เล่าเรียนมา ได้รับการปฏิบัติจริง ไม่ถูกทิ้งไปเลย
 
        ๒. เดินหน้าไปตกหลุม คือ มันไปดักข้างหน้าอีกที  คนที่ปฏิบัติธรรมหรือสร้างสรรค์ความเจริญ  ก้าวหน้าไปในความดีงาม  พอไปถึงจุดได้ประสบความสำเร็จ    มีความสุข  เป็นคนดีแล้ว  ก็มักจะภูมิใจ  พอใจในความดีงามความสุขความสำเร็จ  แล้วก็หยุดหรือเฉื่อยชาลง   ตลอดจนหลงเพลินในความดีงามความสำเร็จนั้น  ไม่ก้าวไป   อุตส่าห์ปฏิบัติธรรม  ทำความดีเจริญก้าวหน้ามาแล้ว   ก็มาตกหลุมสำคัญคือหลุมความประมาทไปเสีย  
 
     นี่แหละความประมาท   มันสำคัญตรงนี้  คือคนที่ไม่ดี  เราก็พยายามสอนให้เขาทำดี  ยังไม่มีความสุข  ก็พยายามสอนจ้ำจี้จ้ำไชให้สร้างตัว  พัฒนาชีวิต  พัฒนาทุกอย่าง  จะได้มีความสุข  ยังไม่มีความสำเร็จ  ก็ส่งเสริมกระตุ้นเร้าให้เขาขยันหมั่นเพียร  ก็อุตส่าห์สอนกันมาจนกระทั่งเขาก็มีความสำเร็จมีความสุขมีความดีจริง   แต่พอเขาดีมีความสุขมีความสำเร็จ   เขาก็มาตกหลุมความประมาทเสียอีก  
 
     ความประมาทเป็นหลุมดักคนดี   คนประสบความสำเร็จ และคนมีความสุข
 
     เพราะฉะนั้น   บุคคล   วงศ์ตระกูล   สังคม   ประเทศชาติที่มีความเจริญรุ่งเรือง เดี๋ยวก็มาตกหลุมนี้
 
     พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ในพระสูตรว่า   แม้แต่พระอริยเจ้าปฏิบัติธรรม ได้บรรลุธรรมพิเศษเบื้องสูง  ก็มาภูมิใจว่า เรานี้ได้พยายามปฏิบัติ ประสบความสำเร็จแล้ว   ได้บรรลุธรรมเบื้องสูงถึงเพียงนี้ เสร็จแล้วก็   “เกิดสันโดษขึ้นมา”  คือเกิดความพอใจในความดีที่ตนได้บรรลุ    
 
     เมื่อพอใจภูมิใจอย่างนี้   ก็จะทำให้เฉื่อย   ไม่ขมีขมัน  ไม่กระตือรือร้นขวนขวาย
 
     พระพุทธเจ้าเรียกพระอริยะนั้นว่า  ปมาทวิหารี   แปลว่า   ผู้อยู่ด้วยความประมาท  ถ้าหยุดแล้ว  ก็หมายถึงเสื่อมลง ตราบใดที่ยังไม่บรรลุ ธรรมสูงสุดเป็นพระอรหันต์  อย่าได้นอนใจ พระพุทธเจ้าตรัสเตือนไว้ว่า บุคคลผู้เดียวที่จะพ้นจากความประมาทคือพระอรหันต์ (ม.ม.๑๓/๒๒๙- ๒๓๒; สํ.สฬ.๑๘/๒๑๓) แม้แต่พระอนาคามีก็ยังประมาทได้
 
     เพราะฉะนั้น   ความไม่ประมาทจึงเป็นยอดธรรมอย่างหนึ่ง   มีพระอรหันต์เท่านั้นที่ไม่ประมาทเลย ถ้าเป็นมนุษย์ปุถุชนก็ต้องเร่งต้องเร้า ต้องกระตุ้นเตือนกันอยู่ตลอดทุกเมื่อ  ท่านจึงใช้ความไม่ประมาทนี้เป็นมาตรวัดการพัฒนามนุษย์  คนเราที่ว่าเจริญแล้วก็มักมาติดตรงนี้
 
     สำหรับคนที่ว่าดี  เช่น  พระโสดาบันบรรลุธรรมที่เป็นความดีเบื้องสูง   เกิดความประมาท   พอใจ  หยุดหรือเฉื่อยลง ก็กลายเป็นผู้ประมาท
 
     คนที่มีความสุขก็เหมือนกัน  อาจจะสุขเพราะว่าทำปัจจัยภายนอกได้ผลประสบความสำเร็จ  ได้สร้างทรัพย์สินเงินทองขึ้นพรั่งพร้อม  เช่น  พ่อแม่เคยยากจนข้นแค้น   ถูกทุกข์บีบคั้นภัยคุกคาม  ก็กระตือรือร้นขวนขวาย เร่งรัดทำการงานหาเงินจนกระทั่งมั่งมีศรีสุข พอสบายแล้วบางคนก็ลืมตัว มัวเมา  แต่บางคนตัวเองเคยขยันมาจนชินเป็นนิสัย ก็เลยขยันต่อมา
 
     แต่พอมีลูก   คราวนี้แหละ  ลูกนั้นเกิดมาท่ามกลางความสุขสบาย   ไม่เคยสร้างนิสัยขยันหมั่นเพียรมาก่อน และพ่อแม่ก็ใช้พรหมวิหารไม่ครบ   เอาแต่ เมตตา กรุณา มุทิตา ไม่ยอมใช้อุเบกขา  ไม่ฝึกลูก  ไม่หัดให้ลูกรับผิดชอบ ทำให้ลูกอย่างเดียว ไม่ดูให้ลูกทำ   ลูกก็เลยเพลิดเพลินมัวเมาเอาแต่สนุก  แล้วก็เลยเสื่อมเพราะมัวเมาในความสุขจากความพรั่งพร้อมภายนอก
 
     ไม่เฉพาะสุขภายนอกจากวัตถุที่พรั่งพร้อม  เป็นต้น แม้แต่สุขภายใน ก็ทำให้ประมาทได้
 
     คนที่ปฏิบัติธรรมมาดี  ก็มีความสุขทางจิตใจมากขึ้นๆ  บางทีแค่รู้จักใช้ธรรมมาทำใจ  ก็ทำจิตใจให้สบายได้ หายทุกข์  แม้แต่ยามประสบเคราะห์ร้ายและภัยพิบัติ   เกิดความพลัดพราก  ความเสื่อมภายนอก  แต่ปรับใจได้ทำใจได้ก็มีความสุข
 
     อย่างไรก็ตาม   เมื่อปรับใจได้  มีความสุขสบาย  ก็ทำให้ประมาทได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น  อย่าไปหลงว่าดีจริง แม้แต่ปรับใจได้ทำใจได้   ก็มีจุดเสื่อมเหมือนกัน คือเกิดความสบายใจแล้ว  เลยไม่กระตือรือร้นขวนขวาย ได้แต่สุขสบายสงบใจอยู่ข้างใน  แต่ปัญหาข้างนอกมีอยู่ไม่แก้ไข  เพราะตัวเองสบายใจแล้ว  เป็นอย่างไรก็เป็นไป เราทำใจได้แล้ว ก็ปล่อย
 
     ฉะนั้นก็กลับไปแพ้คนที่เขาจิตใจไม่สบาย  มีความทุกข์เร่าร้อน  กระวนกระวาย  ปรับใจไม่ได้ ต้องดิ้นรนไปแก้ไขข้างนอก แม้ว่าเขาจะเสียอย่างหนึ่งคือใจเป็นทุกข์  แต่ก็สามารถแก้ปัญหาภายนอกได้บ้าง  เขาทุกข์ข้างใน  แต่แก้ไขข้างนอก  ส่วนคนปรับใจได้   ข้างในสบาย  แต่ข้างนอกเป็นไฟ  ก็เลยดีคนละอย่าง  เสียคนละอย่าง  ดีไม่จริงทั้งคู่
 
     เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสสอนหลักความไม่ประมาทมาดักไว้ว่า ถ้าทำความสุขให้เกิดขึ้นแก่ตนได้  จะสุขจากปัจจัยภายนอกก็ตาม  จากปัจจัยภายในก็ตาม  จะต้องไม่ประมาททั้งนั้น
 
     จะต้องไม่หลงติดในความสุข ไม่ว่าประการใดๆ ทั้งสิ้น
 
     แต่สำหรับคนจำนวนมาก   เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย  นี่แหละปัญหา
 
 




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2567
0 comments
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2567 10:07:07 น.
Counter : 142 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space