กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
มกราคม 2567
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
30 มกราคม 2567
space
space
space

อโศกมหาราช อโศกธรรม 



235 อโศกมหาราช - อโศกธรรม 


    เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมาก  เกี่ยวกับศิลาจารึกของพระเจ้าอโศก คือ นักปราชญ์เมืองฝรั่งและในอินเดียส่วนมาก อ่านหรือศึกษาศิลาจารึกนั้นแล้ว  มักลงความเห็นว่า  พระเจ้าอโศกมหาราช แม้จะทรงเป็นพุทธมามกะ  ที่มีศรัทธาแรงกล้า และเอาพระทัยใส่ในการดูแลรักษาพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง  แต่ในเวลาที่ทรงเผยแผ่สั่งสอนธรรมในศิลาจารึก ได้ทรงพยายามวางพระองค์เป็นกลางๆ ไม่ตรัสถึงหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเลย  แต่ทรงสอนธรรมที่เป็นหลักความประพฤติทั่วไปอันมีหรือเป็นที่ยอมรับในทุกๆ ศาสนา

    ยกตัวอย่าง T. W. Rhys Davids กล่าวว่า (ในศิลาจารึกนั้น)  "ไม่มีสักคําที่พูดถึงพระพุทธเจ้าหรือพุทธศาสนา…อริยสัจ ๔ ปฏิจจสมุปบาท นิพพาน และหลักธรรมสำคัญข้ออื่นๆ ของพุทธศาสนา ไม่ปรากฏในศิลาจารึกเลย"  

     แต่ถ้าพูดถึงจารึกที่กล่าวถึงพุทธศาสนาอย่างชัดเจน เช่น ศิลาจารึกแห่งไพรัต ว่า

       "…โยมมีความเคารพ และเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์มากเพียงใด…สิ่งใดก็ตามที่พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว สิ่งนั้นๆ ทั้งปวงล้วนเป็นสุภาษิต"


    ท่านผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ก็บอกว่า นั่นเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ส่วนพระองค์กับพุทธศาสนา

    หนังสือ The Cambridge History of India (5 vols.,1922-37)  เขียนว่า  “เราไมได้ฟังพระเจ้าอโศกตรัสถึงธรรมที่ลึกซึ้ง หรือหลักพื้นฐานของพุทธศาสนาเลย  ไม่มีการกล่าวถึงอริยสัจ ๔ มรรคมีองค์ ๘ ปฏิจจสมปบาท พระอัจฉริยคุณของพระพุทธเจ้า (อีกทั้ง) ไม่มีคํากล่าวถึงหรือ แสดงหลักแห่งนิพพานเลย”

    R.K. Mookerjee กล่าวไว้ในหนังสือ Asoka ว่า “ธรรมที่นําเสนออย่างนั้น ในธรรมโองการเหล่านี้  เป็นเพียงอีกชื่อหนึ่งสําหรับเรียกชีวิตที่ดีงามมีศีลธรรม และตั้งอยู่บนฐานร่วมของทุกศาสนา…สามารถนําไปใช้ได้ และยอมรับได้ทั่วกันว่าเป็นสาระของทุกศาสนา … ดังนั้น พระเจ้าอโศกจึงนับว่าได้ทรงวางฐานแห่งศาสนาสากล (universal religion) และน่าจะทรงเป็นบุคคลแรกที่ทําการนี้ในประวัติศาสตร์”

     คําที่ปราชญ์ และท่านผู้รู้เหล่านี้ว่ามาก็น่าฟัง และดูคล้ายจะน่าเชื่อ  แต่พอพิเคราะห์ให้ชัดลงไป กลายเป็นต้องแยกว่า 

     ในส่วนของข้อมูลด้านศิลาจารึกเอง  ต้องชื่นชมท่าน และเราได้อาศัยท่านเหล่านี้มาก 

     แต่ในขั้นลงมติที่โยงมาสู่พระพุทธศาสนา  ท่านเหล่านี้  จับจุดจับหลักไม่ถูก  ได้แต่มองดูหลักธรรมสำคัญๆ ที่ได้ยินได้พูดกันมาก  พอไม่พบ   ก็สรุปลงไปอย่างนั้น แต่ถ้าจับจุดได้ ทัศนะของท่านเหล่านี้  ที่ว่าจะเป็นพุทธต้องพูดถึงอริยสัจ  สมาธิ  นิพพาน เป็นต้น  นั้น  กลายเป็นทัศนะที่น่าขําขันไป อย่างไรก็ตาม  ผู้เห็นว่าธรรมในศิลาจารึกเป็นหลักพุทธศาสนาก็มีไม่น้อย เช่น ผู้เขียนหัวข้อ “Inscriptions as historical source material. Ancient India.”  ใน Encyclopaedia Britannica ซึ่งได้กล่าวว่า  “คำจารึกโองการของพระเจ้าอโศกเป็นประกาศและข้อกำหนดตามสารัตถะแห่งพุทธศาสนา”  (ขณะที่อีกบางท่าน  ซึ่งเขียนหัวข้ออื่นเกี่ยวกับพระเจ้าอโศกใน Encycl.  ชุดนั้น  เห็นว่าจารึกอโศกเป็นคําสอนกลางๆ)

     ท่านอื่นที่มั่นใจว่า ธรรมในศิลาจารึกเป็นหลักในพระพุทธศาสนา ก็เช่น D.R. Bhandarkar และ H. C. Ray Chaudhuri  โดยที่สองท่านนี้ถือว่าเป็นไปตามอุดมคติแห่งจักกวัตติธรรมราชา รวมทั้ง B. M. Barua ที่ เขียนไว้ในหนังสือ Asoka and His Inscriptions, Part I, p. 225 ว่า “ธรรมของพระเจ้าอโศกสอดคล้องกับหลักพุทธคิหิปฏิบัติทั้งหมดทั้งสิ้น” 

     
     ทีนี้ก็มาดูว่า จุดและหลักที่ต้องจับ และแยกแยะให้ได้ เพื่อเข้าใจธรรมในศิลาจารึกนั้น คืออะไร

     เริ่มแรก ควรมองภาพทั่วไปก่อนว่า

       ๑) พระเจ้าอโศกมหาราช เป็นพุทธศาสนิก แต่ทรงดํารงสถานะเป็นราชา คือเป็นผู้ปกครองบ้านเมือง และเป็นราชาที่ยิ่งใหญ่มากด้วย

       ๒) ทรงมีข้อพิเศษเฉพาะพระองค์ คือ ทรงหันมาทรงธรรมโดยมีความสลดพระทัยจากการทําสงคราม เป็นจุดเปลี่ยนอย่างแรง

       ๓) การใช้ธรรมในระดับกว้างใหญ่นี้ จะต้องมองที่หลักการทั่วไป ซึ่งจะให้เห็นบรรยากาศทั้งหมด ไม่มัวมองหัวข้อย่อยหรือรายละเอียด

     จากข้อ ๑) ในฐานะมหาราชผู้เป็นชาวพุทธ ผู้มีสถานะสูงสุดใน ฝ่ายบ้านเมือง หรือในสังคมของชาวโลก เมื่อปกครองมหาอาณาจักรจะใช้หลักการปกครองอย่างไรจึงจะสมกับความเป็นชาวพุทธ หรือพระพุทธศาสนาวางหลักการอะไรไว้ให้

     โดยเฉพาะประสานกับข้อ ๒) ที่ทรงละเลิกสงครามแล้ว จะดํารงความเป็นมหาราชไว้ให้เหมาะสมและเป็นคุณแก่การปกครองนั้นได้อย่างไร

     ถึงตอนนี้หลักคําสอนของพระพุทธเจ้า ที่เป็นคติใหญ่ ก็มาได้ทัน ที่เริ่มด้วยพุทธพจน์ว่า

       ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๒ นี้ เมื่อเกิดขึ้นในโลก ย่อมเกิดขึ้นเพื่อเกื้อกูลแก่พหูชน เพื่อความสุขของพหูชน เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล แก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุข แก่เทวะและมนุษย์ทั้งหลาย บุคคล ๒ เป็นไฉน คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑ พระราชาผู้จักรพรรดิ ๑ (องฺ.ทุก.๒๐/๒๙๗)

     นี่คือได้บุคคลที่มีสถานะสูงสุดในโลก เทียบคู่กับองค์พระศาสดา โดยมาเป็นผู้สนองธรรมฝ่ายคฤหัสถ์ หรือฝ่ายบ้านเมือง  เรียกง่ายๆ ว่าคติจักกวัตติราชา จักรวรรดิราชา หรือคติพระเจ้าจักรพรรดิราช

     พอจับจุดได้แล้ว หลักคําสอนในคตินี้ก็ตามมา ซึ่งหาได้มากมาย เฉพาะอย่างยิ่งหลักการที่เป็นความหมาย หรือเป็นคําจํากัดความของการเป็นจักรวรรติราชานั้น ซึ่งปรากฏในพระไตรปิฎกมากมายหลายแห่ง คือเป็นธรรมราชา ผู้มีชัยชนะด้วยธรรม (ธมฺเมน อภิวิชิย > ธรรมวิชัย) โดยไม่ต้องใช้ศาสตรา ยกบาลีมาดูเป็นตัวอย่าง


          มา ภิกฺขเว ปุญุญฺานํ  ภายิตฺถ สุขสฺเสตํ  ภิกฺขเว  อธิวจนํ  ยทิทํ ปุญฺญานิ

          ราชา  อโหสึ  จกฺกวตฺตี  ธมฺมิโก  ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี  ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโต ... โส  อิมํ  ปฐวึ สาครปริยนฺตํ  อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสินฺติ

     ภิกษุทั้งหลาย  เธอทั้งหลาย   อย่ากลัวต่อบุญเลย  คำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข …

     เราได้เป็นจักรพรรดิราช  ผู้ทรงธรรม  เป็นธรรมราชา  ครองแผ่นดิน  มีมหาสมุทรทั้ง ๔ เป็นขอบเขต  ผู้มีชัยชํานะ  มีถิ่นแคว้นถึงความมั่นคงสถาพร  พร้อมด้วยรัตนะ ๗ ประการ … เรามีชัยโดยธรรม ไม่ต้องใช้อาชญา ไม้ต้องใช้ศาสตรา  ครอบครองปฐพีมณฑลนี้  อันมีสาครเป็นขอบเขต ฯ  (องฺ.สตฺตก.๒๓/๕๙/๙๐)

     พุทธพจน์ที่มีข้อความอย่างนี้  คือที่มาแห่งหลักการหรือนโยบายการปกครองอย่างใหม่  ที่เรียกว่า   “ธรรมวิชัย”  ของพระเจ้าอโศกมหาราช 

     ข้อความสําคัญที่ว่าเป็นดังคําจํากัดความของ “ธรรมวิชัย”  คือ  ตอนที่ว่า “มีชัยโดยธรรม  ไม่ต้องใช้อาชญา  ไม่ต้องใช้ศาสตรา” 

     อย่างที่กล่าวแล้ว  พุทธพจน์  ส่วนนี้ตรัสในโอกาสต่างๆ เป็นอันมาก  แต่ที่ยกมาให้ดูข้างบนนี้ ตรัสโยงกับเรื่องบุญ ซึ่งเป็นหลักสำคัญในศิลาจารึกอโศกนั้นด้วย

 


Create Date : 30 มกราคม 2567
Last Update : 30 มกราคม 2567 12:35:26 น. 0 comments
Counter : 106 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space