2008121 วิพากษ์ MAN. UNITED vs LDU QUITO (FIFA Club World Final) ยินดีต้อนรับ...แชมป์สโมสรโลก สวัสดีครับ ยินดีกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สำหรับการเดินทางไกลที่ไม่สูญเปล่า และสำหรับการที่เราต้องจำใจ แช่แข็งการแข่งขันพรีเมียร์ลีกไปอีกนัดหนึ่ง เพื่อไปคลี่กิโมโนเตะบอลถึงแดนปลาดิบ ซึ่งสุดท้าย ก็ทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ก็คือคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ถึงแม้ต้องสังเวยด้วยการแบน เนมันย่า วิดิช ไปคนหนึ่ง กับเกมที่ต้องออกไปเยือน อินเตอร์ มิลาน ในถ้วยหูยานนั่นก็ตาม สำหรับบทความวิพากษ์วันนี้ ผมคงขออนุญาตแค่พูดคุยกว้างๆนะครับ เนื่องจากเริ่มคิกออฟเร็วมาก ผมเองยังจัดการภารกิจประจำวันไม่เรียบร้อย (ช่วยคนที่บ้านจัดการป้อนข้าวป้อนน้ำเจ้าตัวแสบ) ทำให้ไม่สามารถรับชมได้แบบมีสมาธิมากนัก ด้วยเหตุนี้หากท่านอื่นๆ มีรายละเอียดที่ลึกกว่านี้ และครอบคลุมได้มากกว่านี้ ก็ยินดีครับ ที่จะเข้ามาร่วมแชร์กัน ผมจะได้ตามอ่านไปด้วย การจัดทัพลงแข่งในเกมนี้ เห็นปุ๊บ ก็รู้ปั๊บเลยครับ ว่าท่านเซอร์ต้องการแชมป์แน่นอน เราจึงพบนักเตะตัวหลักลงสนามครบครันทุกตำแหน่ง ขาดก็แต่เพียงดิมี่ ที่ยังสลัดอาการบาดเจ็บไม่พ้นตัวเท่านั้น ไลน์อัพจึงมีหน้าตาเช่นนี้ รูนี่ย์ เตเวซ โรนัลโด้ แอนนี่ คาร์ริค ปาร์ค เอวร่า วิดิช ริโอ ราฟาเอล น้าซาร์ การดร็อปเฟล็ทเชอร์ ก็คงไม่มีอะไรมาก เนื่องจากการต่อกรกับทีมจากอเมริกาใต้ ผมเองก็เห็นด้วยครับ ว่าแอนนี่อาจจะคุ้นเคยกับเกมลักษณะนี้มากกว่า และน่าจะทำผลงานโดยรวมได้ดี จึงได้โอกาสก่อน ในขณะที่ปาร์คเอง ก็มักจะได้รับโอกาสอยู่ตลอด ในเกมที่ราฟาเอลได้ลงสนามเป็นตัวจริง ปาร์คที่มีความขยันและความฟิตเต็มถัง จะช่วยเหลือราฟาเอลเมื่อถูกกดดันได้มากครับ โดยการมาเล่นข้างเดียวกับเจ้าหนูเวลาถูกกดดันหนักๆ เพื่อช่วยกรองบอลริมเส้นให้นั่นเอง รูปเกมการเล่นในครึ่งแรก ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า พยายามเน้นการโจมตีไปที่ริมเส้น และการเล่นบอลสั้นวันทัชหน้ากรอบ ในขณะที่ทางกีโต้เน้นการเล่นเพรสซิ่งเข้าบอลเร็วและหนัก เช้าประชิดตัวเร็วทุกครั้งที่ยูไนเต็ดได้บอล และหยุดด้วยการทำฟาล์วตัดเกมอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่นอกระยะทำการฟรีคิก ทำให้ยูไนเต็ดไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ถนัดมากนัก กีโต้มีจังหวะเสียวจากการโยนฟรีคิกเข้าหน้าปากประตูอยู่บ้าง และจากจังหวะส่องไกลหน้ากรอบบ้าง ในขณะที่ยูไนเต็ดเองก็ต้องจบด้วยการส่องไกลมากกว่าจะได้จบจากการเจาะเข้าไปทำในระยะใกล้ โรนัลโด้และรูนี่ย์กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพาบอลรุกเข้าทำร่วมกับเตเวซและปาร์คที่สลับกันมาต่อเกม จังหวะสุดท้ายมักจะเป็นรูนี่ย์ที่ได้จบด้วยการยิงไกล คาร์ริคและแอนนี่เน้นการแจกจ่ายบอลและเปิดป้อนทั้งสั้นและยาวให้ตัวรุกของเราเข้าทำ เกมในครึ่งแรกยังไม่มีประตูเกิดขึ้น แต่รูปเกมค่อนข้างสนุกทีเดียว ถึงแม้ผมจะไม่ได้ดูตลอดเกมแบบตั้งอกตั้งใจนัก แต่ก็รับรู้ได้ว่ามีโอกาสลุ้นทำประตูอยู่เรื่อยๆ แถมกีโต้เองก็มีจังหวะสวนกลับให้ได้เสียวประปราย ตัวทำเกมของกีโต้นี่อันตรายมาก ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะชื่อมันโซ่ ตัวเล็กๆ แต่ลีลาการครองบอลนี่เหนียวแน่นมากๆ การพาบอลไปกับตัวทำได้สุดยอด แย่งยาก และสามารถลากลัดเลาะไปได้เรื่อยๆ ต้องหยุดด้วยการเข้าประกบแบบแพ็คคู่ หรือแพ็คสองสาม ไม่ก็ทำฟาล์วตัดเกมไปเลย เพียงแต่กีโต้เองยังไม่ยอมเสี่ยงเปิดหน้าแลกด้วย เวลาสวนกลับก็ใช้ตัวเข้าทำแค่สองสามคนเท่านั้น มีมันโซ่เป็นแกนกลางพาบอลในรูปแบบเพลย์เมกเกอร์กลายๆนั่นเลยครับ ทำให้เกมของกีโต้ยังดูเป็นเกมที่เน้นแพ็คหลังแน่นตลอดครึ่งแรก เกมในครึ่งหลังกลายเป็นกีโต้ที่บุกได้น้ำได้เนื้อกว่าในช่วงต้นๆ สามารถครองบอลรุกกดดันได้นานพอสมควร ก่อนที่ยูไนเต็ดจะกลับมาครองบอลได้อีกครั้ง แต่ตอนนั้น วิดิชก็โดนใบแดงไปเสียแล้ว เมื่อโดนสอยร่วงและในจังหวะที่ล้มไปกับผู้เล่นกีโต้นั่นเอง วิดิชยังโดนพัวพันอยู่จึงบรรจงจัดศอกหลังคืนไปหนึ่งดอก ได้เรื่องสิครับ ได้อาบน้ำก่อนเพื่อนเลย และตอนนั้นผมเริ่มหวั่นใจว่า เกมอาจจะจบไม่แฮปปี้ซะแล้ว เมื่อวิดิชเองเป็นตัวที่สกัดผู้เล่นกีโต้ได้มากที่สุดในจังหวะสวนกลับตลอดครึ่งแรกนั่นเองครับ ท่านเซอร์ต้องรีบแก้เกมด้วยการส่งจอนนี่ เอแวนส์ ลงมาทันที คนที่เดือดร้อน จึงเป็นเตเวซอีกแล้ว ทีต้องออกจากสนามไป ผมล่ะเห็นใจมากทีเดียว เพราะว่าเตเวซคือคนที่เหมือนโดนโชคชะตากลั่นแกล้งจริงๆตลอดซีซั่นใหม่นี้ ทั้งการมาของดิมี่ ทั้งการถูกดร็อปบ่อยครั้ง ไหนจะอาการฟอร์มตกอีก ยิ่งเกมนี้ เขายิ่งไม่ควรโดนเปลี่ยนตัวออกไปเลยครับ เมื่อดูจากเกมที่ต้องการประตูและยังยิงไม่ได้แบบนี้ น่าเซ็งแทนเจ้าตัวจริงๆที่ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองน้อยมากๆ หลังจากตรงนั้น ยูไนเต็ดดูมุ่งมั่นมากขึ้น และประกอบกับการที่กีโต้เอง เริ่มเปิดพื้นที่เพื่อเปิดเกมรุกมากขึ้น น่าจะเป็นเพราะเห็นว่า เอแวนส์ยังเด็ก และยังไม่น่ามีแรงเสียดทานสู้วิดิชได้ในระยะยาว จึงพยายามรุกเข้าใส่ กดดันเอแวนส์มากขึ้น แต่เอแวนส์ก็ยืนหยัดสู้คู่กับริโอได้อย่างน่าชื่นชมจริงๆ เกมของกีโต้เปิดมากขึ้นแล้ว ก็ทำให้ยูไนเต็ดน่าจะหาช่องโจมตีได้มากขึ้น แต่ด้วยการที่ผู้เล่นแนวรุกเราขาดไปคนหนึ่งจากการถอดเตเวซออกไป เกมรุกของเราจึงดูปะติดปะต่อกันยากขึ้น ผู้เล่นยืนห่างกันมากขึ้น ฟูลแบ๊คเติมขึ้นมาสูงมากและเติมนานๆเหมือนเดิมไม่ได้ เนื่องจากกีโต้เองรอแลกหมัดอยู่เหมือนกัน ไม่ได้แพ็คเกมรับแน่นหนาเชื้อเชิญให้บุกเข้าใส่เหมือนครึ่งแรกอีก ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้เกมของยูไนเต็ดต่อไม่ค่อยติดเหมือนกันในจังหวะสุดท้าย แอนนี่และคาร์ริคต้องแก้ด้วยการวางบอลยาวแทบจะตลอด ซึ่งส่วนมากก็จะแม่นยำน้อยลง เพราะตัวผู้เล่นทางเลือกที่คอยรับบอลก็มีน้อยลง และถูกประกบชิดนั่นเอง เกมเริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยูไนเต็ดที่ยังยิงไม่ได้เริ่มทำฟาล์วเอาคืนบ้าง หลังจากโดนแซะทำฟาล์วมาตลอดตั้งแต่เริ่มเกม เกมของกีโต้ที่เริ่มแลกหมัดด้วยทำให้ยูไนเต็ดต้องกดดันมากขึ้น มันโซ่คือเพลย์เมกเกอร์อย่างแท้จริงในครึ่งหลัง เมื่อพาบอลบุกตะลุยฝ่าผู้เล่นยูไนเต็ดคนแล้วคนเล่าได้ตลอด ทำให้ยูไนเต็ดต้องหยุดด้วยการฟาล์วบ่อยขึ้น กีโต้ได้จบจากการยิงไกลสวยๆหลายครั้ง เล่นเอาผมลุ้นตัวโก่งให้น้าซาร์จัดการให้ได้ทุกลูก ใบเหลืองเริ่มว่อน แต่กลับเป็นยูไนเต็ดที่ได้ประตูนำไปก่อนแบบผมเองก็ยังไม่นึกว่าจะได้ เมื่อคาร์ริคสลโอกาสบรรจงแทงบอลยาวทะลุช่องไปให้โรนัลโด้ที่ยืนรอหน้ากรอบ โรนัลโด้คลึงบอลสองจังหวะ ดึงผู้เล่นกีโต้เข้ามา ก่อนจะคายบอลออกให้รูนี่ย์ที่ขยับเข้ามาทางซ้ายมือ รูนี่ย์ยิงปั่นไซด์ด้วยอีขวาตรงมุมกรอบโทษด้านซ้ายอันเป็นลูกถนัดที่เราเห็นกันชินตา บอลลอยโค้งหนีมือผู้รักษาประตูกีโต้ ที่โชว์หนึบมาทั้งเกม มุดเสียบหน้าต่างเสาไกลอย่างสุดสวยในนาทีที่ 73 หลังจากนั้น กีโต้ก็ดูจะออกตื้อๆไปพักใหญ่ๆ ทำให้ยูไนเต็ดยังคงครองเกมได้ต่อไป และเมื่อเหลืออีกสิบกว่านาทีจะหมดเวลา มหกรรมเปลี่ยนตัวก็เกิดขึ้นครับ กีโต้ทยอยเปลี่ยนตัวจนครบสามคน ในขณะที่ท่านเซอร์ที่กำลังขยับจะเอาเฟล็ทเชอร์ลงมา ก็ต้องปวดหัวอีก เมื่อราฟาเอลออกอาการเจ็บ เดินขโยกขเยกขอเปลี่ยนตัว ท่านเซอร์จึงต้องเอาแกรี่ลงมาแทนราฟาเอลก่อน ก่อนจะส่งเฟล็ทเชอร์ลงมาเมื่อเหลืออีกไม่กี่นาทีจะหมดเวลา โดยส่งลงมาแทนแอนนี่ และก็จบเกมไปในที่สุด ด้วยการคว้าแชมป์สโมสรโลกเป็นครั้งที่สอง ต่อจากปี 99 (ถ้าจำไม่ผิดนะ) สิ่งที่ผิดหวังที่สุดจากเกมนี้ สำหรับผมแล้ว ไม่ใช่การที่วิดิชโดนแบนในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับอินเตอร์หรอกครับ แต่เป็นการที่ไม่ได้ชมการขึ้นรับถ้วยต่างหาก ทั้งๆที่มันน่าจะเป็นไฮไลต์ที่คนรอชมกันอยู่แท้ๆ...เฮ้อ.... สำหรับหลังเกมในวันนี้ ผมคงไม่มีอะไรมากนัก เมื่อไม่ได้ดูแบบใจจดใจจ่อเหมือนที่เคย ก็ขอเปิดพื้นที่ให้เพื่อนๆท่านอื่นๆ เข้ามาแชร์กันดีกว่าครับ ผมเองคงต้องขอแก้ตัวมาวิพากษ์แบบเต็มเกมอีกครั้ง ในวันจันทร์หน้า ที่จะเอจกับสโต๊ค ซิตี้นะครับ ตามตารางข้างล่างนี้ คิกออฟ 12:45 ก็น่าจะตรงกับเวลาบ้านเราทุ่มสี่สิบห้า หวังว่าผมคงได้ดูเต็มๆเกมนะครับ แหะ แหะ ยังหัวค่ำอยู่เลย ต้องรีบพาน้องภีมเข้านอนเร็วอีกแล้ว ส่วนเกมกับโบโร่ในวันจันทร์ คงไม่น่ามีปัญหาที่จะมาวิพากษ์ในวันอังคารครับ เพราะผมเองยังมาทำงานอยู่ นอกจากจะติดประชุมด่วน ก็ค่อยไว้ว่ากัน ซึ่งจะบอกกล่าวอีกครั้งนะครับ โปรแกรมเดือนธันวาคม-มกราคมครับ December 2008 26 Dec Barclays Premier League Stoke City A 12:45 29 Dec Barclays Premier League Middlesbrough H 20:00 January 2009 04 Jan FA CUP Southampton A 16:00 07 Jan Carling Cup Derby County A 19:45 11 Jan Barclays Premier League Chelsea H 16:00 14 Jan Barclays Premier League Wigan H 20:00 17 Jan Barclays Premier League Bolton A 15:00 20 Jan Carling Cup Derby County H 20:00 27 Jan Barclays Premier League West Bromwich A 19:45 หลังจากที่เราต้องมีโปรแกรมตกค้างถึงสองนัดเข้าให้แล้ว เมื่อคืนนี้ ผมจึงต้องนั่งเฝ้าจอดูเกมชนช้างอีกคู่ ซึ่งผลการแข่งขันค่อนข้างเข้าทางทีมเราพอสมควร ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มไม่ได้ ทำให้ออกนำเราไปสิบแต้ม แทนที่จะเป็นสิบสอง นั่นทำให้เรายังมีหวังขึ้นอีกเยอะพอสมควร แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วย ว่าจะทำให้ได้ดีขนาดไหน หากเรายังพลาดสามแต้มแบบง่ายๆอีกเรื่อยๆ ก็คงลำบากแล้วครับ ที่จะไล่ให้ทัน อย่าลืมตามลุ้นกันนะครับ เริ่มจากคืนนี้ เอฟเวอร์ตัน-เชลซี เลยเป็นไงครับ สงบใจ   Create Date : 22 ธันวาคม 2551 1 comments Last Update : 22 ธันวาคม 2551 10:00:30 น. Counter : 440 Pageviews. Share Tweet

ตอนวีดิชโดนใบแดง ใจหายแว๊บ!! ได้มาอีกแชมป์ ดีใจสุดๆ ไปเลย   โดย: HastaLaVista 22 ธันวาคม 2551 14:18:28 น.