Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
---ของเก่า 27 สิงหาคม 2550--- Man UTD VS Tottenam

สวัสดีครับ เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แมนยูไนเต็ดของเรา ก็น้ำลายเหนียวคออีกตามเคย ถึงแม้จะเก็บสามแต้มเต็มมาได้ แต่จากรูปเกม ก็ต้องยอมรับล่ะครับว่า เราโชคดีไม่น้อย ที่อุตส่าห์ชนะสเปอรส์มาได้ ไม่ถึงกับเสมอหรือแพ้ ทั้งๆที่โอกาสจะๆของสเปอรส์นั้น ถือได้ว่ามีเยอะมาก และใกล้เคียงจะเป็นประตูก็หลายครั้ง


ท่านเซอร์วางหมากเหมือนเดิมในเกมนี้ ที่เราคาดกันว่าจะเห็นซาฮา หรืออันแดร์สันมานั่งข้างสนาม ก็เป็นอันว่าผิดหวังกันไปครับ เราวางมิดฟิลด์คู่กลางเป็น คาร์ริค กับฮาร์กรีฟส์ และสโคลส์ เหมือนเดิม โดยเน้นฮาร์กรีฟส์ไปที่เกมรับ และตัดเกมรุกคู่แข่ง ส่วนสโคลส์เน้นทำเกมรุก ป้อนบอลให้เพื่อนเข้าทำ และคาร์ริค เป็นตัวเชื่อมเกมกลางสนาม และทำหน้าที่ประคองรูปเกม รวมไปถึงการเปิดป้อนในบางจังหวะ ซึ่งแผงกลางของเราผมดูว่าเริ่มที่จะเข้าที่เข้าทางกันมากขึ้นแล้ว ฮาร์กรีฟส์ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด ส่วนคาร์ริคกับสโคลส์ก็สอดประสานการทำเกมได้อย่างไหลลื่นขึ้นมาก


ในแนวรุก เราวางกิ๊กส์ นานี่ รวมไปถึงเตเวซอยู่ในแดนหน้า ไม่อยากบอกว่าเป็น 4-3-2-1 หรือ 4-2-3-1 หรือ 4-4-1-1 แต่ผมดูจากรูปเกมแล้ว น่าจะเป็น 4-3-3 ซะมากกว่าครับ โดยให้นานี่ กิ๊กส์ และเตเวซ ผลัดกันเข้าทำในแดนหน้า เตเวซ ซึ่งดูเหมือนเป็นหน้าเป้า แต่จริงๆแล้ว ลงมาสลับกับนานี่ กับกิ๊กส์อยู่บ่อยๆนะครับ จนดูเป็น หน้าสามตัวซะมากกว่า


ในครึ่งแรก เราพยายามเน้นการครองบอลเข้ากดดัน แต่มีความยืดหยุ่นในการกดดันมากขึ้น มีการถ่ายบอลกลับคืนหลังเมื่อเจาะไม่เข้า เตเวซดึงตัวประกบลงมาถึงกลางสนาม ให้นานี่ หรือกิ๊กส์วิ่งสอดขึ้นไปแทนหลายครั้ง แสดงให้เห็นถึงรูปแบบการวิ่ง การทำทาง ที่เริ่มจะประสานกันได้ดีขึ้น ที่ยังขาดอยู่ก็เพียงแต่การจ่ายและทำชิ่งที่แม่นยำในจังหวะสุดท้ายของการเข้าทำเท่านั้น


สเปอรส์นั้นก็เหมือนเดิมครับ ไม่เน้นการแพ็คเกม เพราะรูปแบบของไก่เดือยนั้น ถอยเป็นล้มเช่นเดียวกับแมนยู จึงเลือกไปที่แผนเพรสซิ่งทั้งแดน เช่นเดียวกับที่ปอร์ทสมัธเลือกใช้กับเรา เมื่อเพรสซิ่งเร็วทั้งแดน และแย่งบอลได้ สเปอรส์จะสวนกลับเร็วโดยใช้ความสามารถของ เบอร์บาตอฟ, คีน และ แกเร็ธ เบล เข้าทำ ผมต้องซูฮกเบลเลยครับ นัดนี้ถึงแม้ว่าหน้าคู่ของไก่ จะใช้โอกาสเปลืองมาก แต่เบลหาโอกาสเข้าทำ เข้าจ่ายได้สวยๆหลายครั้ง ความเร็วของเขาเมื่อบวกกับความคล่อง และการเปิดบอลได้ดี ทำให้เขามีอันตรายมากทีเดียวในเกมรุก เพียงแต่ คีนกับเบอร์บาตอฟนั้น ยังคงไม่สามารถปิดสกอร์ได้คมเท่านั้นเอง


ครึ่งแรก เรากดดันคู่ต่อสู้ได้ดีพอสมควร แต่ยังไม่เด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย จึงทำให้สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ ศูนย์-ศูนย์ ผมอยากให้สังเกตว่าในเกมนี้ ฮาร์กรีฟส์แสดงให้เห็นบทบาทที่สำคัญมาก ซึ่งผมจะได้อธิบายให้ฟังกัน ในครึ่งแรก ฮาร์กรีฟส์รับบทบาทเป็นมิดฟิลด์ตัวรับเต็มตัว เขาบัญชาการเกมรับอยู่หน้าแนวแบ๊กโฟร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ลูกที่อันตรายที่สุดที่ผู้มาเยือนทำได้ ก็คือจังหวะเตะมุม และจังหวะที่ริโอเผลอ ปล่อยให้ถูกย่องมาฉกบอลจากข้างหลังเข้าไปทำ แต่สเปอรส์เองไม่เด็ดขาดพอครับ ทำให้ยังเจาะแมนยูไม่ได้


ล่วงเข้าสู่ครึ่งหลัง ท่านเซอร์คงกดดันมากขึ้น และอาจไม่อยากให้นักเตะแบกความกดดันมากขึ้นกับการโหมบุกไม่ลืมหูลืมตา จึงเพียงแต่สั่งการให้ ฮาร์กรีฟส์มีส่วนร่วมกับเกมบุก และเน้นให้แถวสอง ส่องไกลในทุกจังหวะที่มีโอกาส เราจะเห็นว่า เมื่อฮาร์กรีฟส์มีส่วนร่วมกับเกมบุก เขาก็สามารถสอดประสานกับคาร์ริค กับสโคลส์ได้เป็นอย่างดี และมีโอกาสส่องไกลหลายๆหน เพียงแต่ยังไม่ใกล้เคียงเท่านั้น


แต่เมื่อฮาร์กรีฟส์เข้าไปร่วมเกมบุก สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ การขาดหายไปของตัวสกรีนเกมรุกคู่ต่อสู้ครับ เมื่อสเปอรส์สวนเร็ว บอลจะทะลุมาถึงแผงแบ๊กโฟร์เร็วมาก เมื่อรวมกับการที่ เอวร่า กับบราวน์ต้องเติมเกมรุก แล้วเจอกับความเร็วของเบล และมาลบร็องก์ นั่นหมายถึง เราเหลือแค่ริโอ กับ วิดิชเท่านั้น ในการป้องกันการสวนกลับของคู่หน้าสเปอรส์ ซึ่งดูเหมือนจะมีปัญหามากในการจัดการกับคีน และเบอร์บาตอฟ สเปอรส์มีโอกาสใกล้เคียงกับการได้ประตูสามถึงสี่ครั้งในครึ่งหลัง แต่ต้องบอกว่า คู่หน้าไม่คมและเด็ดขาดพอในการทำประตูครับ ส่วนข้อถกเถียงเกี่ยวกับจุดโทษสองจังหวะนั้น ผมดูจากภาพช้าหลายๆจังหวะแล้วพบว่า


จังหวะที่บราวน์เข้าบล๊อกลูกยิงของเบอร์บา ผมดูแล้วเป็นหน้าอกข้างซ้ายนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่า ผู้เล่นของสเปอรส์เห็นอย่างไร หรืออยู่ในมุมที่เราไม่เห็นทางกล้องถ่ายทอดหรือเปล่า จึงประท้วงค่อนข้างรุนแรงว่าแฮนด์บอล แต่เท่าที่เห็นทางกล้องหลายๆมุม ผมบอกตามตรงว่า ไม่เห็นบอลโดนแขนนะครับ ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนไปดีกว่า ซึ่งอาจจะเห็นแตกต่างกันไปครับ แต่ผมอยากให้มองว่า หากเบอร์บาตอฟคมกว่านี้ (ไม่แน่ใจว่าฟิตเต็มร้อยในนัดนี้หรือไม่) เขาน่าจะทำได้สองลูกนะครับ กับสองจังหวะเน้นๆของเขา


ส่วนลูกที่สองก็คือจังหวะที่วิดิชล้มลงไปพร้อมเบอร์บาตอฟบริเวณเส้นกรอบโทษ ซึ่งดูจากกล้องแล้วไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่บอกได้เลยว่า วิดิชอยู่ข้างหน้าเบอร์บาตอนที่ล้มครับ และเป็นการล้มแบบที่บ้านผมเรียกว่าจับกบเต็มที่เลย คือหน้าทิ่มลงไปกับพื้นสนามซะเต็มเหนี่ยว แต่ก็มองไม่เห็นว่า ไปดึงหรือเกี่ยวเบอร์บาตรงไหน และลูกนี้ ทางเบอร์บาเองก็ไม่ได้โวยวายอะไรมากด้วยครับกับจังหวะดังกล่าว จึงน่าจะมองได้เช่นกันว่า เบอร์บาก็ไม่ได้ติดใจจังหวะนี้เท่าไหร่นัก


ที่ยกมา มิได้มีเจตนาจะมาถกกันว่าสมควรหรือไม่สมควรกับทั้งสองจังหวะที่กล่าวถึง แต่ต้องการพูดถึงในแง่ที่ว่า เมื่อฮาร์กรีฟส์ขึ้น แผงหลังเรารั่วทันทีครับ นั่นหมายถึงการมีอยู่ของฮาร์กรีฟส์ในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับนั้น ทำให้แผงหลังของเราทำงานง่ายขึ้น และบอลมาถึงน้อยลงเยอะครับ แต่เมื่อเขาต้องรับบทบาทเกมรุกด้วย ทำให้หลังเรายวบลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ทำให้ผู้เล่นในแดนรุกเรามีเพิ่มขึ้นอีกตัว และเป็นตัวที่คอยเก็บบอลแถวสองได้ดีมากอีกต่างหาก เมื่อฮาร์กรีฟส์เก็บบอลแถวสองได้มากขึ้น และนักเตะถูกสั่งให้ยิงไกลมากขึ้น เราจึงเห็นว่า ในครึ่งหลัง บรรดานักตะของเรา ได้โอกาสบริเวณหน้ากรอบเป็นต้องยิง และมาประสบความสำเร็จเอากับลูกยิงของนานี่จนได้
ผมจึงอยากบอกว่า ฮาร์กรีฟส์ กับบทบาทในทีมตอนนี้ เป็นผู้เล่นที่สำคัญมากต่อทีมไปแล้วครับ


จะเห็นได้ว่า ในลูกยิงไกลของหลายๆคน มีนานี่ กับสโคลส์เท่านั้น ที่พอพึ่งพาได้ และอันตรายพอที่จะลุ้น การวางเท้ายิง การจับจังหวะการยิงทั้งๆที่ถูกเร่งจากคู่ต่อสู้ มีเพียงนานี่ กับสโคลส์เท่านั้น ที่ทำได้ดี ในขณะที่ฮาร์กรีฟส์, เตเวซ, กิ๊กส์ หรืออีเกิ้ลส์ที่ลงมาใหม่ ยังไม่สามารถยิงได้อย่างเป็นธรรมชาติเท่านานี่และสโคลส์ครับ ซึ่งเรื่องนี้ก็พูดยาก หากมองว่ามีเวลาพอ หรือมีพื้นที่พอให้วางเท้าได้ถนัดๆ ก่อนจะยิง ผมก็ว่าทั้งหมดที่ว่ามา ทำได้ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับ แต่การยิงจากแถวสองในจังหวะที่ถูกบีบ ถูกเร่ง เห็นสตั๊ดลอยมาแต่ไกลๆเพื่อบล๊อกเท้าเรา อันนี้ต้องคนที่ยิงเป็นธรรมชาติเท่านั้น จึงจะทำได้ดี ซึ่งผมมองว่าในบิ๊กโฟร์ที่เหลือก็จะมีพวก เจอร์ราร์ด, รีเซ่, แลมพาร์ด, เอสเซียง, ฟาเบรกาส, โรซิคกี้ ที่ทำได้ดีมากๆครับ


หลังจากขึ้นนำได้สำเร็จ ก็มีการถอดคาร์ริคออก ถอดเตเวซออก เอาเฟล็ทเชอร์ กับอีเกิ้ลส์ลงมาแทน ซึ่งผมมองดูแล้ว ไม่น่าใช่แท็คติคอย่างที่ผู้บรรยายภาษาไทยคอมเมนต์ แต่น่าจะเป็นการพักตัวหลักมากกว่า เนื่องจาก เตเวซเป็นกองหน้าเพียงคนเดียวที่ฟิตในทีม และต้องลงเล่นอีกเพียบด้วยตัวคนเดียว กว่ารูนี่ย์จะฟิตกลับมา ส่วนซาฮาผมว่าตอนนี้คล้ายตัวแถมเข้าไปทุกทีแล้ว เมื่อไหร่จะมี เมื่อไหร่จะไม่มีก็ไม่รู้ ป๋าจึงต้องพักเตเวซบ้างครับ ส่วนคาร์ริค ผมมองว่า เป็นการให้พัก เพื่อให้ฮาร์กรีฟส์ลองมาจับคู่กับสโคลส์ดูบ้าง เพื่อเรียนรู้จังหวะการเล่นของสโคลส์ครับ เมื่อไหร่ที่จำเป็นต้องใช้ทั้งคู่เล่นด้วยกัน จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง


ถึงแม้เราจะได้ชัยชนะในนัดนี้ แต่ผมไม่อยากให้พวกเราย่ามใจ รูปเกมนั้น เราเหนือกว่า แต่ก็เช่นเดียวกับอีกสามเกมก่อนหน้า เพียงแต่นัดนี้ ได้ประตูแบบมีโชคเล็กๆ ที่ลูกยิงของนานี่ แฉลบหัวเตเวซนิดนึง จนเชิดพ้นมือของโรบินสันและเข้าประตูไป ในขณะที่สเปอรส์เอง ถ้าคมๆกว่านี้ ผมว่าเราอาจสะอื้นได้เลยนะครับสำหรับผลการแข่งขันที่ต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ


ดังนั้น เราควรจะมองผลการแข่งขันอย่างเป็นกลาง ตามรูปเกมที่เป็นไป เพื่อเราจะได้รู้อยู่เสมอว่า เกมของเรา ยังมีจุดให้ปรับอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย, การยิงจากแถวสองที่ต้องทำได้เนียนและอันตรายกว่านี้, การเล่นเกมรับให้เหนียวแน่นกว่านี้, ฟูลแบ๊คขึ้นแล้วต้องลงให้เร็ว ลงให้ทัน และที่สำคัญ การเล่นโดยไม่ประมาท เพราะนัดนี้ ริโอ กับวิดิชที่ประมาท เผลอไผล ไม่มองข้างหลัง ไม่ให้เสียงกันแถมยังจ่ายบอลผิดพลาดแบบเด็กๆ หากเมื่อคืนนี้ เล่นกับบาร์ซ่า หรือมิลาน หรือแม้แต่บิ๊กโฟร์ด้วยกัน ผมว่าเราโดนไม่ต่ำกว่าสองสามลูกแน่นอนครับ



อย่างที่บอกไว้ที่หัวข้อกระทู้ครับ อย่าให้ภาพลวงตาของชัยชนะในนัดนี้ มาบดบังความผิดพลาดที่ต้องรีบแก้ไขเลยครับ


ก็ขอให้ปรับจูนกันได้ลงตัวเร็วๆนะครับ


ปล. วันนี้ ผมต้องออกไปอยุธยา คงไม่มีโอกาสได้มาอ่านคอมเมนต์ท่านอื่นๆ หรือหากมี ก็ต้องเป็นตอนเย็นๆ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะเข้ามาอีกหรือเปล่า รบกวนรอหน่อยนะครับหากอยากแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน



สวัสดีครับ




Create Date : 10 กันยายน 2550
Last Update : 10 กันยายน 2550 15:59:05 น. 0 comments
Counter : 497 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.