Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
20080131 วิพากษ์ Man UTD vs Portsmouth

THE REVENGE [PART II] Portsmouth


สวัสดีเช้าวันพฤหัสบดีครับผม กลับมาพบกันกลางสัปดาห์อีกครั้ง หลังจากฟุตบอลอังกฤษเริ่มจะกลับมาเตะกันถี่อีกแล้ว โอ๊ะ... ไม่ใช่สิครับ ต้องบอกว่า แมนฯยูฯเริ่มกลับมาเตะถี่อีกแล้ว เพราะเอาเปรียบคนอื่น ชิงตกรอบลีกคัพไปก่อน ทำให้ปลอดจากบอลกลางสัปดาห์มาระยะหนึ่ง และตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ไป เราต้องมาเริ่มเตะแชมเปี้ยนส์ลีกกันแล้วครับ โค้งสุดท้ายของการแข่งขันพรีเมียร์ลีกของจริงจะเริ่มกันตรงนี้แหละครับ และทางตรงช่วงสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย ก็จะอยู่ในช่วงเมษายน-พฤษภาคมครับ ที่ต้องเจอกับอาร์เซนอลและเชลซีไล่ๆกันเลย เอาล่ะครับ อนาคตก็คืออนาคต ตอนนี้ก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานหนักกันต่อไป ทำผลงานนัดต่อนัดให้ดีที่สุดไว้ก่อน เดินทางไกลหมื่นลี้ เริ่มจากก้าวแรกนี่แหละครับ

นัดนี้ แทบไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เพราะรูปเกมก็เป็นเหมือนเมื่อตอนพบกันครั้งแรกที่แฟร็ตตัน ปาร์ก นั่นก็คือ ปอร์ทสมัธมาแพ็คเกมแน่น และเน้นจังหวะฉาบฉวยจากการโต้กลับ โดยปล่อยให้ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายครองบอลข้างเดียว เพียงแต่ในนัดนี้ สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ การที่เรามีรูนี่ย์อยู่ในสนามครับ และการที่แนวรุกสามารถปรับจังหวะของตัวเองให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีมในแท็คติคใหม่ของป๋าในซีซั่นนี้ได้แล้วนั่นเอง นั่นคือสิ่งที่แตกต่างไป และนั่นคือจุดที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปจากเกมแรกครับ

ตัวผู้เล่นนัดนี้ ท่านเซอร์มีการดร็อปไรอัน กิ๊กส์ออกไป ไม่มีแม้แต่ชื่อเป็นตัวสำรองนะครับ น่าจะเพื่อเก็บความสดไว้บดกับสเปอร์สในสุดสัปดาห์นี้ต่อ และยังให้โอกาส พอล สโคลส์ ลงมาเป็นตัวจริงในเกมนี้ตั้งแต่ต้น เลือกดร็อปเตเวซ ที่ออกมาบ่นถึงอาการล้าในช่วงหลังๆให้เป็นตัวสำรอง และส่งนานี่ กับ ปาร์ค ลงมาเป็นตัวจริง แผงหลังยังคงเป็นชุดใหญ่ ได้เนมานย่า วิดิชหายไข้กลับมายืนเป็นตัวหลักอีกครั้ง ผู้เล่นที่ลงสนามเป็นตัวจริง จึงมีไลน์อัพดังนี้ครับ

รูนี่ย์ โรนัลโด้
นานี่ ปาร์ค
สโคลส์ คาร์ริค
เอวร่า วิดิช ริโอ บราวน์
เดอร์ ซาร์

ในรูปแบบที่เป็น 4-4-2 เน้นเกมรุก ซึ่งผมค่อนข้างเห็นต่างกับกราฟฟิคที่ขึ้นมาตอนก่อนคิกออฟนะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ในกราฟฟิคนั้น จะให้โรนัลโด้อยู่ที่ปีกขวา และให้ปาร์คขึ้นมาหน้า แต่จากการเล่นตลอดเก้าสิบนาที พื้นที่ส่วนใหญ่ที่โด้เล่นจะเป็นตรงกลางบริเวณหน้ากรอบครับ ส่วนปาร์ค จะออกทางกว้างมากกว่าโด้ ผมจึงปรับไลน์อัพใหม่ของผมเอาเอง

หลังจากเริ่มเกม จนจบเก้าสิบนาที เป็นยูไนเต็ด เจ้าบ้านที่ครองเกมอยู่ข้างเดียว ตามแพลนนิ่งที่สองกุนซือวางหมากมานั่นเองครับ จ่าแฮร์รี่ก็ทราบดีถึงขีดความสามารถของแนวรุกเจ้าบ้าน และการขาดกำลังสำคัญที่ไปเนชั่นส์ คัพของทีมตัวเองหลายต่อหลายคน จึงวางหมากแพ็คแล้วโต้มาใช้อย่างเต็มที่ในนัดนี้ ส่วนท่านเซอร์ก็คงทราบแผนของเร้ดแนปป์ดีอยู่แล้วเช่นกัน จึงเลือกดร็อปเตเวซให้พักบ้าง และถอดกิ๊กส์ออกจากรายชื่อไปเลย

อย่างที่ได้บอกไปตั้งแต่ต้นครับ แท็คติคการเล่นของทั้งคู่ แทบจะถอดแบบมาจากนัดแรกที่เจอกัน สิ่งที่ต่างออกไป ที่ทำให้การคอนโทรลเกมของเจ้าบ้านทำได้ง่ายขึ้นมาก ก็คือ การที่รูนี่ย์ได้ลงสนาม และการแนวรุกของเราเริ่มเข้าอกเข้าใจแนวทางการเล่นในแท็คติคใหม่ของซีซั่นนี้ดีมากขึ้น แค่องค์ประกอบสองประการนี้เท่านั้น ที่เปลี่ยนโฉมเกมไปอย่างสิ้นเชิง นั่นคือรูนี่ย์ และ โรนัลโด้ สามารถสอดประสาน ปั่นป่วนแนวรับของปอร์ทสมัธได้เป็นอย่างดี เมื่อรวมกับการที่ป๋าส่งนานี่ และปาร์ค ซึ่งเร็วและคล่องทั้งคู่ มาถ่างแนวรับของปอร์ทสมัธออกทางกว้างโดยไม่เน้นการตัดเข้าใน แต่ใช้การเปิดจากกราบด้วย ยิ่งทำให้พื้นที่ตรงกลางเปิดมากขึ้น

และเนื่องจากการที่ปอร์ทสมัธมารับลึก และแพ็คแน่น ท่านเซอร์จึงแก้รายละเอียดของแผนการเล่นมาอีกจุด นั่นก็คือ เมื่อสโคลส์ได้บอล จะวางยาวขึ้นหน้าทันที ให้ตัวรุกควบไปเอาบอล เพราะถ้าเดินเกมรุกด้วยการจ่ายบอลเหมือนเกมทั่วๆไป เราจะขึ้นไม่ทันการแพ็คเกมของปอมปีย์ แต่เมื่อได้สโคลส์มาวางบอลยาวๆต่อเนื่องกันตั้งแต่แรก ทำให้แผงหลังปอมปีย์ไล่กวดตัวรุกเราไม่ทัน และนั่น น่าจะเป็นเหตุผลหลักอันแรก ที่ส่งสโคลส์ลงมาครับ นั่นก็คือความแม่นยำในการวางบอลยาวนั่นเอง จะเห็นเลยว่า บอลมาถึงสโคลส์ปุ๊บ เงยหน้าหาเพื่อน แล้วสาดปั๊บ เป็นอย่างนี้ตลอดจริงๆ ถือเป็นการแก้ไขรายละเอียดจากเกมที่แล้วได้ดีมาก และทำไมต้องสโคลส์ ก็เพราะการวางบอลของสโคลส์ เป็นการวางบอลระยะยาวโดยบอลจะ ไม่โด่งมากแต่พุ่งแรงและเร็ว ทำให้บอลเสียเวลาในอากาศน้อยกว่าลูกโด่ง และถึงเท้ากองหน้าเร็วขึ้น ทำให้กองหลังมีเวลาไล่น้อยลงไปอีก

ปอร์ทสมัธเอง ถึงแม้กองหลังจะมี โซล แคมป์เบลล์ยืนบัญชาการเป็นตัวหลัก แต่ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่า แคมป์เบลล์นั้น ถึงแม้ทางบอลจะดีมาก แต่ด้วยสังขารที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา ทำให้เขาเชื่องช้าลงไปเยอะ ในขณะที่ตัวรุกที่รอบอลจากการวางนั้ มีทั้งโรนัโด้, รูนี่ย์, นานี่ และปาร์ค ไม่เว้นเอวร่า ที่เร็วจัดทั้งนั้น ส่วนแผงหลังที่เหลือของปอมปีย์อีกสามคน ที่เห็นว่าเร็วๆก็มีเกล็น จอห์นสัน แต่ต้องรับบทหนักเหลือเกินครับ เมื่อเฟอร์กูสันให้นานี่และเอวร่า กดดันฟูลแบ๊กด้านนี้อยู่ตลอด ทำให้จอห์นสันไม่เป็นอันทำมาหากินอย่างอื่นเลย ต้องป้องกันเกมรุกทางกราบนี้ตลอดเวลา

ตรงนี้เองครับ คือจุดเริ่มต้นที่ยูไนเต็ดใช้ประโยชน์ได้ นั่นคือ เมื่อกราบทางด้านซ้ายถูกกดอยู่ตลอด ทำให้การขึ้นเกมตรงกลาง กับด้านขวา ค่อนข้างเปิด และการรุกของยูไนเต็ดที่ได้ผล ก็มาจากตรงกลางแทบทั้งนั้น ประตูแรกที่โรนัลโด้ได้ยิงก็หลุดมาจากกลาง ทำชิ่งหนึ่งสองกับนานี่ ก่อนจะหลุดเข้าไปซัดลอดเดวิด เจมส์ เข้าไปไม่ยาก และอีกสองสามนาทีเท่านั้น ก็หลุดขึ้นมาอีก คราวนี้โดนทำฟาล์วหน้ากรอบเยื้องมาทางขวาเล็กน้อย โรนัลโด้ยิงเต็มข้อ บอลฮุควาบเข้าสามเหลี่ยมชนิดที่เจมส์ได้แต่มอง เป็นการทำคนเดียวสองประตูอีกนัดของโรนัลโด้ แต่จริงๆแล้วยังมีฟรีคิกอีกลูก ที่โด้ปั่นไซด์ทะลุกำแพงจะเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่เจมส์ยังพุ่งปัดได้ทัน

เมื่อได้สองประตูจากแค่สิบสามนาทีแรกของเกมเท่านั้น ทุกอย่างจึงดูเหมือนอยู่ในความควบคุม เมื่อปอร์ทสมัธก็ไม่กล้าโหมแลก น่าจะกลัวเสียประตูเพิ่มเหมือนกัน ยังคงรับแล้วโต้กลับเหมือนเดิม ทำให้ยูไนเต็ดสามารถครองเกมได้อยู่ตลอด และใช้นักเตะเกมรุกเข้าทำตามช่อง ตามกราบอยู่ตลอดเวลา โดยแท็คติคที่เฟอร์กูสันกับเคย์รอซได้วางแผนมาสำหรับทีมชุดใหม่นี้ เริ่มผลิดอกออกผลอย่างจริงจังด้วย นั่นก็คือ ให้อิสระแนวรุกอย่างเต็มที่ จะลงต่ำ จะสลับฟาก หรือจะพาบอลไปเอง ให้เล่นอย่างมีอิสระเต็มที่ ตอนนี้ นักเตะหลายต่อหลายคนเริ่มจะทำตามแผนได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สามารถเปิดช่องในแผงหลังของปอร์ทสมัธได้ตลอด

ผมสังเกตมาหลายนัดแล้วครับ ว่าช่วงหลังๆมานี้ ตั้งแต่ก่อนคริสต์มาสสักพักหนึ่ง ที่แนวรุกของเราเริ่มที่จะทำงานได้ตามที่วางแผนมา สังเกตได้จากการที่แต่ละคน สามารถปั้นเกมเอง หรือเลือกที่จะจ่าย หาที่ว่าง และลงมาทำเกมต่ำ หรือแม้แต่โยกไปเล่นอีกฟากหนึ่งก็ได้ เมื่อตอนเปิดซีซั่น แท็คติคนี้ยังคงมีปัญหา เพราะนักเตะยังไม่สามารถเล่นได้อย่างเข้าอกเข้าใจกัน จ่ายขาดๆเกินๆอยู่ตลอดต่อบอลไม่ได้ แต่พักหลังๆ พวกตัวจริงอย่างรูน, เต และโด้ สามารถหลับหูหลับตาเล่นด้วยกันได้แล้ว จึงทำให้สามารถผลิตสกอร์ได้เรื่อยๆ นัดนี้ เมื่อมีนานี่กับปาร์ค ซึ่งยังไม่ค่อยได้โอกาสลงสนามเท่าไหร่ จึงอาจทำให้เกมสะดุด หรือติดขัดไปบ้าง แต่รูน กับโด้ ที่เล่นกันมานาน ยังคงเป็นตัวหลัก ที่สามารถส่งให้เกมยังคงไหลต่อไปได้เรื่อยๆครับ

และแท็คติคนี้เอง ที่ดูจะจำกัดบทบาทของมิดฟิลด์ลงไป เนื่องจากการให้อิสระตัวรุกอย่างเต็มที่ ทำให้ตัวรุกสามารถกระจายกัน สลับทางวิ่งกันได้อย่างไม่มีลิมิต และมิดฟิลด์จึงมีหน้าที่เป็นตัวจ่ายบอล และตัวสกรีนบอล คอนโทรลเกมแดนกลางสนามซะมากกว่าจะเข้าไปทำเอง อย่างนัดนี้ เราจะเห็นเลยว่า สโคลส์ถอยลงไปเล่นตัวรับอย่างเต็มตัว ในขณะที่คาร์ริคเอง ยืนสูงกว่าสโคลส์ ทำหน้าที่เป็นตัวจ่ายและเชื่อมเกมจากหลังมาหน้า โดยปกติในซีซั่นนี้ เราจะไม่ค่อยเห็นมิดฟิลด์สอดขึ้นมาหน้ากรอบสักเท่าไหร่ แต่กับเกมนี้ ที่ปอร์ทสมัธตั้งรับลึก จึงเป็นโอกาสให้มิดฟิลด์ได้ยืนสูงกว่าเดิม และมีช่องที่จะสอดมายิงได้บ้างจากสโคลส์ รวมทั้งริโอเองยังได้พาบอลบุกขึ้นมาบ่อยๆ

เกมโต้กลับของผู้มาเยือนนั้น เนื่องจากตั้งรับลึก แพ็คหลังแน่น ทำให้การโต้กลับต้องทำด้วยการวางยาว ซึ่งมักจะเสร็จริโอ กับวิดิช ที่เก็บกินได้เกือบหมด เราจึงเห็นว่า หลายต่อหลายครั้ง ที่เบนจานี่ กับบารอส ต้องลงมาล้วงบอลที่กลางสนาม เพื่อพาไปเอง แต่เมื่อมีกันสองคน ทำให้เป็นงานที่ไม่หนักมากนัก ที่แผงหลัง และสโคลส์ จะเคลียร์ให้พ้นอันตราย ทำให้ตลอดทั้งเกม น้าซาร์แทบไม่ต้องโชวซูเปอร์เซฟเลย ส่วน ครานชาร์ ที่มักจะเป็นตัวลากเลื้อยทีเด็ดของปอมปีย์ ก็ได้บอลนับครั้งได้ และมาวูบวาบเอาก็ตอนสิบนาทีสุดท้าย ที่เริ่มโหมบุกนั่นแหละครับ ส่วนโลร็องต์, ฌอน เดวิส หรือ แม้แต่ บารอส ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นเกมแรกของบารอสกับปอร์ทสมัธก็ได้ครับ ที่ทำให้ยังไม่สามารถจูนอะไรติด

จากการได้สองประตูอย่างรวดเร็ว ทำให้การเล่นในช่วงเวลาเกือบๆแปดสิบนาทีที่เหลือ ไม่ได้เป็นอะไรที่ต้องกดดันมากนักสำหรับเจ้าบ้าน นั่นทำให้ตั้งแต่ตอนนั้น การบุก และการเข้าทำ ดูจะเน้นน้อยลง ทำให้ได้แต่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา ไม่ได้ประตูเพิ่มอีก ทั้งๆที่หลายๆจังหวะ น่าจะเป็นประตูที่สามเหลือเกิน ปาร์คเองมีโอกาสหลายครั้ง เช่นเดียวกับนานี่ แต่น่าจะด้วยการที่ไม่ค่อยได้ลงเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้จังหวะยังไม่ลงตัว ปาร์คเองทำเกมได้ดีมาตลอด แต่มักมาตายในจังหวะสุดท้ายตอนเข้าทำทุกที คือไม่สุด จบไม่ลง ประมาณนั้น ส่วนนานี่ เริ่มที่จะจับจังหวะทีมได้ดีขึ้นแล้ว แต่หลายครั้งยังคงฝืนๆเล่นเองอยู่มากเกินไป และถึงแม้ว่าปอร์ทสมัธ จะมาเริ่มโหมเกมบุกช่วงสิบนาทีสุดท้ายแต่ก็ไม่สามารถทำอันตรายอะไรได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน

นัดนี้ เมื่อผ่านชั่วโมงแรกไป สโคลส์ก็ถูกถอดออกมาพัก ให้อันแดร์สันลงมาแทน แต่กลับกลายเป็นท่านเซอร์ให้อันแดร์สันลงมาเป็นตัวรุก ถอยคาร์ริคลงไปรับมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าการขึ้นเกมของอันแดร์สันนั้น แตกต่างจากคาร์ริคมาก เพราะอันแดร์สันไม่ใช่ตัวคุมเกม แต่เป็นตัวรุกธรรมชาติจริงๆ คือขยับเกมขึ้นหน้าทันทีที่ได้บอลทุกๆครั้ง นั่นเองครับ ที่ทำให้คาร์ริคถูกถอยลงมาเป็นตัวรับ ซึ่งเขาทำหน้าที่ได้ดีพอสมควร เพียงแต่การที่ช่วงแรกมีสโคลส์อยู่ในทีม ทำให้สปอตไลท์ทุกดวงจับอยู่ที่นั่น ดูการตัดเกมและการวางยาวของเขา คาร์ริคจึงดูเหมือนคนที่รับบอลจ่ายบอลธรรมดาไปทันที แต่พอกลายเป็นอันแดร์สันลงมา ภาระตรงกลางจึงตกอยู่กับคาร์ริค และเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี ถึงจะไม่เด่นอย่างสโคลส์ก็เถอะ

เมื่อเหลืออีกสิบห้านาที ป๋าก็ส่งฮาร์กรีฟส์และเตเวซลงมายืดเส้นยืดสายบ้าง ถอดเอารูนี่ย์และโรนัลโด้มาพัก นั่นทำให้อันแดร์สันกลายร่างเป็นกองหน้า คู่กับเตเวซ ฮาร์กรีฟส์ถอยลงไปเป็นตัวรับ และคาร์ริคถูกดันขึ้นมาคุมเกมสูงอีกครั้ง จากตรงนี้ เราจะเห็นว่า เซนส์การเล่นกองหน้าของแอนนี่ก็ใช้ได้ไม่แพ้พวกตัวจริง การต่อบอล และการหาจังหวะการดึงกองหลัง ทำได้ดี โดยเฉพาะลูกสุดท้าย ที่ตัดบอล แล้วจิ้มหลบแผงหลัง ก่อนจะแตะหลบเจมส์ แต่โชคร้ายที่หลุดเสาสองไปนิดเดียว ลูกนั้นแจ่มจริงๆครับ กับลีลาของเขา ส่วนฮาร์กรีฟส์ ก็แสดงให้เห็นว่า การเล่นเป็นตัวรับของเขานั้น เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เพราะการที่ไม่ได้เข้าเสียบ หรือเข้าแท็คคู่ต่อสู้ ทำให้ไม่เสียฟาล์วจากการตัดเกม

นัดนี้ ถือเป็นโชคดีอย่างมาก ที่เราได้เห็นมิดฟิลด์ทั้งสี่คน ลงมาทำหน้าที่พร้อมๆกัน และก็คงเห็นกันแล้วว่า สไตล์ใครเป็นอย่างไร การจับคู่กันในแต่ละเกม แต่ละแท็คติคจะเป็นอย่างไร ซึ่งผมเชื่อว่า ทั้งสี่คน จะถูกหมุนเวียนกันแน่นอนครับ ตามแต่ว่าจะเจอกับใคร เล่นด้วยแท็คติคไหนมากกว่า ส่วนเรื่องนั่งยาวนั้น คงไม่มี อย่างน้อย ฮาร์กรีฟส์ เล่นแบ๊กขวาก็ได้ แอนนี่ เล่นหน้าได้ สโคลส์ก็เช่นกัน ทำให้การเลือกผู้เล่นลงสนาม สามารถทำได้หลากหลายมากกว่าเดิม และศักยภาพในการทดแทนกัน ดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด

การที่ดูรายชื่อผู้เล่นบนม้านั่งสำรอง แล้วพบชื่ออย่างอันแดร์สัน, ฮาร์กรีฟส์ ทั้งๆที่ตัวจริงก็มีสโคลส์ กับคาร์ริคยืนอยู่ นอกจากนั้น ยังพบชื่อเตเวซ ในขณะที่กิ๊กส์ ไม่มีรายชื่อ ส่วนผู้รักษาประตู ยังมีชื่อของคุสแซ็ค ที่เหนียวหนึบไว้ใจได้อีกคน ส่วนโอเชไม่ต้องพูดถึง สามารถลงมาทำหน้าที่ตามป๋าสั่งได้ทุกตำแหน่งอยู่แล้ว(ฮา) ตรงนี้ ทำให้ค่อนข้างสบายใจ กับกำลังสำรองในแนวรุก และกลางสนามอยู่พอสมควร จนป๋าเองยังออกตัวว่า เรื่อง WP นั้น ถึงแม้ไม่น่ามีปัญหา แต่มานูช่ น่าจะยังปรับตัวไม่ทันสำหรับซีซั่นนี้ และน่าจะถูกส่งไปให้ทีมอื่นยืมตัวชั่วคราวก่อน ป๋าคงไว้ใจกำลังเสริมตรงนี้ในปีนี้พอตัว ส่วนที่ผมห่วงจริงๆคือแผงหลังมากกว่าครับ ยังไม่เห็นวี่แววว่าปิเก้ หรือซิมป์สัน จะได้ลงมาสัมผัสเกมสลับๆกันบ้างเลย ขืนรอให้ตัวหลักเจ็บก่อน และนัดแรกก็มาเจอทีมหนักๆเลย ผมว่าจะแย่เอานะครับ

วันนี้ ผมขอยกให้โรนัลโด้เป็นพระเอกครับ และต่อจากนี้ไป คงต้องทำใจ ถ้าจะเห็นแกยิงทุกจังหวะ เพราะดูเหมือนว่าเป้าหมายแรกของแก จะเป็นการทำลายสถิติของ จอร์จ เบสต์นะครับ ที่ครองสถิติ 32 ประตูในซีซั่นเดียว จากตำแหน่งที่ไม่ใช่กองหน้า โรนัลโด้ยังขาดอีกแค่ 5 ลูกเท่านั้น ก็จะทาบได้ กับ6 ลูก เพื่อครองสถิติซะเอง และเมื่อเหลียวไปดูโปรแกรมที่เหลืออีกเกือบๆยี่สิบนัด ยังไม่นับเข้ารอบบอลถ้วยด้วยนะ กับแค่ 6 ลูก โด้มันเอาแน่ครับผม...



Create Date : 31 มกราคม 2551
Last Update : 31 มกราคม 2551 10:14:17 น. 10 comments
Counter : 860 Pageviews.

 
เห็นด้วยทุกอย่างเลยครับ

และเกมนี้จะเห็นได้ชัดว่า แมนยูฯ ทำเกมต่อบอลกันแบบแทบจะไม่ผิดพลาดเลย คือเล่นได้ดีกว่าเกมกับสเปอร์สมาก ๆ (แม้ว่าปอร์ทสมัธจะมาตั้งรับก็ตาม) ถ้าโด้คือไม้ตายของแมนยูฯ สโคลล์ก็คือหัวใจของเกมนี้จริงๆ ครับ การมีเขาอยู ทำให้คาร์ริคกล้าเล่นมากขึ้น และทำเกมได้ดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ

เสียก็ตรงนานี่นี่แหละ ที่ฝืนตัวเองเล่นไปอย่างที่คุณสงบใจว่า นอกนั้นก็โอเคหมดครับ


โดย: จี IP: 202.142.193.15 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:52:33 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดครับ มีความสุขมากๆทุกๆวัน โรคภัยอย่าได้ แพ่วพาน การงานรุ่งโรจน์ ไม่เจ็บไม่จนครับ และเพื่อเป็นการเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด ผมขอเชิญแวะเข้ามาที่ blog พอดีผมมี Blue Kamikaze รอให้ดื่มอยู่ครับ และผมก็มีมุขเด็ดๆมาฝากครับ


โดย: veerar วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:22:14 น.  

 


โดย: kanok_noi วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:51:28 น.  

 


แวะมา Say Happy Birthday!!!!! ครับและมีเค้กวันเกิดมาฝากด้วยครับ
เอาไป 2 ก้อนเลยนะ





เก็บภาพตอนไปพิชิตภูกระดึงมาฝากด้วยครับ
อยากดูแบบเต็มๆ Click ที่ภาพได้เลยนะ

เที่ยวน้ำหนาว-ภูกระดึงตอนที่ 11 พิชิตภูกระดึงใน 1 วัน ต้องรีบลงเพราะกลัวเจอช้างป่าครับ




โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:08:33 น.  

 


:::::HAppy Birthday To You :::::


โดย: the river of Aquarius วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:52:31 น.  

 


สุขสันต์วันเกิดจ้า
ใช้ชีวิตและโอกาสที่ได้รับจากพระเจ้าให้คุ้มค่า
แบ่งปันความสุขให้คนรอบข้าง
ทำประโยชน์เพื่อสังคม
อย่าลืมโทรหาคนสำคัญ "บอกรักแม่" หรือยังจ๊ะ


โดย: pigarea วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:4:57:59 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ ^^



โดย: Charlotte Russe วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:37:00 น.  

 
สุขสันต์วันเกิดครับป๋าหงบ


โดย: ยุง บิน ชุม IP: 58.8.137.161 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:50:53 น.  

 
สุขสันต์วันครบรอบวันเกิดค่ะ เจนนี่ขอให้คุณเจ้าของวันเกิดวันนี้ มีความสุขมากๆน่ะคะ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังดังใจปรารถนา เจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงานน่ะคะ เป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้าง สุขภาพแข็งแรงตลอดปีและตลอดไปค่ะ เพี้ยง เพี้ยง เพี้ยง

ป.ล. ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าของบล็อคค่ะ ว่างๆก็แวะมาทักทายเจนนี่ได้เสมอน่ะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ






โดย: สาวอิตาลี วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:25:21 น.  

 


::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y :::::::


ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ




โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:34:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.