|
20081211 วิพากษ์ MAN.UNITED vs AALBORG AB
แชมป์กลุ่มปีนี้...งานไม่ง่ายนะเนี่ย
สวัสดีเช้าวันพฤหัสบดีครับ ขอแสดงความดีใจกับแฟนๆยูไนเต็ดทุกๆท่าน ที่ได้เป็นแชมป์กลุ่มอีกปีนะครับ เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างกันออกไปในปีนี้ก็คือ แชมป์กลุ่มกับรองแชมป์กลุ่ม ที่จะได้โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปนั้น ไม่ได้มีความยากง่ายของการเล่นต่างกันเลย เนื่องจากอันดับสองของปีนี้ ประกอบไปด้วย อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด, โอลิมปิค ลียง, เชลซี และ อาร์เซน่อล ส่วนทีมอันดับหนึ่งนอกจากตัวเราเองและหงส์แดงแล้ว ยังมี บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และยูเวนตุส แหม...ดูไปดูมา ที่หนึ่งหรือที่สองก็น่าจะมีโอกาสชนช้างไม่ต่างกันเลยนะครับ
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อเรื่องวันนี้ ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์นิดหนึ่งครับ พรุ่งนี้ ผมจะลาพักร้อน พาเด็กตัวแสบที่บ้านไปสมัครเข้าโรงเรียนนะครับ ทำให้ได้ตามกระทู้แค่วันนี้เท่านั้น มาพบกันอีกครั้งในวันจันทร์ก็จะเป็นกระทู้เกมใหม่กับสเปอร์สครับ เอาล่ะ เข้าเนื้อหากันเลยดีกว่า
ประเด็นที่น่าพูดถึงก่อนเกมก็คือ ท่านเซอร์จะจัดทัพอย่างไร ในเมื่อผลของเกมวันอังคารสี่กลุ่มที่แข่งจบก่อนนั้น เราได้เห็นไปแล้วว่า ทีมอันดับสองมีหน้าตาเป็นเช่นไร แถมในเกมคืนวันพุธของเรา ยังมีความเป็นไปได้ที่ทีมอันดับสองอาจเป็น เรอัล, หรือ บาเยิร์นได้อีกต่างหาก ทำให้ความจำเป็นที่จะต้องเข้าเป็นที่หนึ่งในปีนี้ดูไม่จำเป็นไปถนัดตา ผมจึงรอดูอย่างใจจดใจจ่อว่า ทัพเราหน้าตาจะออกมาเช่นไร และก็เป็นไปตามคาดครับ เมื่อรู้ก่อนแล้วว่าจบที่หนึ่งกับที่สอง งานก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แถมเสาร์นี้ยังมีคิวหนักเยือนเดอะ เลนรออยู่อีก ทำให้ป๋าเลือกจัดทัพลูกผสมลงสนาม ดร็อปคาร์ริค, เฟล็ทเชอร์, โรนัลโด้, น้าซาร์, วิดิช, เอวร่า และเบอร์บาตอฟออกจากสิบเอ็ดตัวจริงไปเลย โดยส่งสตาร์ทติ้งอีเลฟเว่นออกมาดังนี้
รูนี่ย์ เตเวซ
นานี่ กิ๊กส์ แอนนี่ กิ๊บสัน
โอเช เอแวนส์ ริโอ แกรี่
คุสแซ็ค
ส่วนทางด้านอัลบอร์กนั้น ขอไม่พูดถึงนะครับ ไร้ข้อมูลโดยสิ้นเชิงครับผม//ฮ่าฮ่าฮ่า แรกเห็นกราฟฟิคในตำแหน่งไลน์อัพ ผมก็เข้าใจตามนั้นเช่นกัน ว่ากิ๊กส์น่าจะยืนริมเส้น เอากิ๊บสันและแอนนี่ยืนคู่กลาง แต่พอลงสนาม กลับเป็นว่า กิ๊กส์อยู่ตรงกลาง กิ๊บสันถูกถ่างออกไปริมเส้นด้านขวาแทนซะงั้นครับ
เริ่มเกมขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างดาหน้ากันเข้าถล่มกันทันที ทั้งคู่ใช้เกมเร็วจัดเข้าบดกันตลอด ตัดบอลอีกฝ่ายได้ก็โหมบุกคืนทันที ยูไนเต็ดมาได้ประตูแรกขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีที่สาม เมื่อรูนี่ย์ควบไปทางกราบซ้ายรับบอลยาวมาจากกลางสนามและเลือกโหม่งย้อนคืนมาให้กิ๊กส์ ก่อนที่กิ๊กส์จะตวัดบอลขึ้นหน้ากรอบไปให้เตเวซที่วิ่งตามไลน์เช็คออฟไซด์ของอัลบอร์กแบบก้ำกึ่งสุดๆ เตเวซสะบัดหัวเกือกส่งบอลพุ่งผ่านตัวซาซ่าเข้าไปได้สำเร็จ
เขี่ยลูกใหม่ เกมก็กลับมาแลกกันสนุกอีกครั้ง ทั้งคู่ยังคงใช้เกมเร็วเข้าบดบี้กัน โดยที่กรรมการในวันนี้ก็เหมือนอัพยากล่อมประสาทมาหน่อยๆ เมื่อปล่อยเกมไหลแบบไม่ค่อยเป่าฟาล์วเอาซะเลย นกหวีดเบามากๆ ถือเป็นโชคดีของรูนี่ย์จริงๆ ที่รอดตัวจากไข้เหลืองไข้แดงในเกมนี้ เกมของอัลบอร์กพยายามเจาะเข้ากลางและถ่างออกปีก รวมทั้งโยนจากกราบเข้ากรอบ แต่ยังไม่สามารถฝ่าแผงหลังยูไนเต็ดที่ช่วยกันซ้อนไปได้ เอแวนส์วันนี้เมื่อเจอเกมเร็วๆก็มีหลุดมีพลาดให้เห็นพอสมควร ในขณะที่โอเชนี่หนักเลย มีหลุดมีอ่านทางผิดให้เห็นบ่อยๆ ส่วนทางด้านเจ้าบ้านก็มีโอกาสจบสกอร์บ่อยครั้ง เกมส่วนใหญ่ของยูไนเต็ดดูจะเน้นการให้บอลสั้นและการเจาะทะลุมากจนเกินพอดี เกมตรงกลางเล่นกันเร็วซะจนไม่สามารถคอนโทรลจังหวะให้แน่นอนได้ เมื่อถูกตัดบอลสวนจึงทะลุพรวดมาถึงหลังเราบ่อยๆ
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกไป เกมยังคงเป็นของยูไนเต็ด แต่ก็ยังเป็นการเร่งเกมเร็วเข้าใส่อยู่ตลอด กิ๊กส์เองก็เร่งจังหวะเกมเกินไปหลายครั้ง พาให้แอนนี่หลุดตามขึ้นมาด้วย ผมค่อนข้างหวั่นใจพอสมควรเมื่อเราไม่ได้ลูกที่สองเสียที เพราะดูรูปเกมออกจะติดประมาท เร่งเกมกันจนเกินงาม การคอนโทรลความแน่นอนของเกมไม่มีให้เห็น แต่พยายามออกบอลเร็ว เคลื่อนที่เร็ว และหาช่องทะลุขึ้นหน้าทุกจังหวะ โอเคว่าดูสนุก ตื่นเต้น แต่มันแฝงไปด้วยความไม่แน่นอน สังเกตเห็นว่าเราเสียบอลง่ายๆหลายครั้งจากการออกบอลเร็ว แต่ยังดีที่ไม่โดนลงโทษ หากจะดูโอกาสยิงจากไฮไลต์ ของเรานั้นมีเยอะกว่ามากแน่ๆ แต่คุณภาพเกมเริ่มกลับมาสูสีขึ้นเรื่อยๆในท้ายครึ่งแรก แค่ว่าอัลบอร์กเองยังไม่ค่อยหาโอกาสจบสกอร์ได้เท่านั้น
ยังเริ่มกังวลไม่ทันไรเลยครับ อัลบอร์กก็เล่นคืนเข้าให้ จากลูกเปิดฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของคุสแซ็ค ที่ยาค็อบเซ่นวิ่งแอบมาจากนอกกรอบ ก่อนจะสอดเข้าช่องว่างของโอเชขึ้นมาเช็ดโล่งๆ ส่งบอลเปลี่ยนทางหนีมือคุสแซ็คเข้าไปง่ายๆในนาทีที่ 31 เกมของยูไนเต็ดดูจะอึ้งๆไปเล็กน้อย กลายเป็นอัลบอร์กที่ดูมั่นอกมั่นใจขึ้นมาก และเริ่มครองบอลสู้ได้สูสีขึ้น มาถึงตรงนี้ เกมตรงกลางของยูไนเต็ดเริ่มแสดงความไม่จัดเจนออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มใช้จังหวะฉาบฉวยมากกว่าเซ็ตบอลเป็นระบบ กิ๊กส์ไม่ใช่ตัวโฮลด์บอลอาชีพ แอนนี่ยังไม่สามารถคุมจังหวะเกมได้ กิ๊บสันเองก็ไม่ค่อยได้บอลเมื่ออยู่ริมเส้นซะมาก ทำให้เกมตรงกลางเริ่มถูกเจาะมากขึ้น และเราก็พยายามเลี่ยงไปออกเกมทางริมเส้นแทน ซึ่งเข้าทางอัลบอร์กที่สวนกลับเร็วมาจากริมเส้นฝั่งขวาของเราตอนเราลอยสูง ก่อนจะหักเข้าในและเปิดบอลไปเสาสอง โอเชหลุดเลยครับลูกนี้ ไม่ดูหลังตัวเอง มาตามตัวเดียวกับเอแวนส์ซะงั้น เคิร์ธ ซึ่งตามมาข้างหลังโอเชจึงได้ตั้งหัวโหม่งย้อนคุสแซ็คเข้าเสาแรกไปง่ายๆในช่วงทดเจ็บ ทำให้จ้าบ้านตามหลังก่อนจบครึ่งแรก
เริ่มครึ่งหลัง ท่านเซอร์คงเห็นอาการเป๋ตรงกลางชัดมาก จึงเปลี่ยนตัวทันที ส่งสโคลส์ลงมาแทนกิ๊กส์ และ พาร์คลงมาแทนกิ๊บสัน ปรับตำแหน่งการยืนใหม่ ให้สโคลส์กับแอนนี่คุมเกมตรงกลาง ปาร์คมาช่วยโอเชทางซ้าย และนานี่ย้ายมาเล่นไม่ออกทางขวาแทน หน้าคู่ยังไม่เปลี่ยนอะไร ปรับเพียงแค่นั้นเกมในครึ่งหลังก็กลับมาเป็นของยูไนเต็ดได้อีกครั้ง แต่คราวนี้ เป็นแบบคุมเกมได้จริงๆ และยังคอนโทรลจังหวะเกมได้ด้วย สโคลส์ลงมาเล่นตรงกลาง ทำให้สามารถเร่งเกม ผ่อนเกม ดึงเกม ผ่อนสั้นผ่อนยาวได้ดีขึ้น แอนนี่ก็เล่นได้ง่ายขึ้น ความขยันของปาร์คเองก็ส่งผลอย่างชัดเจนต่อรูปเกมของยูไนเต็ดที่ช่วยตัดเกมอัลบอร์กได้มากทีเดียว แค่นาทีที่ 51 ยูไนเต็ดก็ตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกที่แอนนี่บรรจงจ่ายคิลเลอร์พาสทะลุพรวดเดียวถึงไลน์วิ่งน้องหมู ให้น้องหมูยิงเต็มข้อด้วยอีขวาลอดขาซาซ่าเข้าไปได้สำเร็จ
ทั้งสองทีมต่างเล่นเกมรุกสวนหมัดกันตลอด แต่สปีดเกมช้าลงกว่าครึ่งแรกเท่านั้นเอง ยูไนเต็ดมีโอกาสจบสกอร์มากเหมือนเดิม และอัลบอร์กเองก็มีจังหวะจบให้คุสแซ็คต้องออกแรงเช่นกัน อัลบอร์กเริ่มเปลี่ยนตัวเรื่อยๆ จนครบสามตัว ในขณะที่ยูไนเต็ดเองก็ถอดแกรี่ออก เติมราฟาเอลลงมาเช่นกัน และเราก็ได้เห็นการเปรียบเทียบที่ชัดเจนของแกรี่กับราฟาเอลในเกมนี้ หนึ่งก็คือ เกมรุกของราฟาเอลสะเด่ากว่ามาก ในขณะที่เกมรับยังไม่ค่อยได้เห็นทั้งคู่ถูกกดดันมากนักในเกมนี้ เพราะอัลบอร์กเน้นเกมริมเส้นฝั่งของโอเชมากกว่า น่าจะเป็นเพราะฝั่งนั้น โอเชยืนกับเอแวนส์ครับ น่าตื่นตาตื่นใจมากๆเลย มีช็อตให้ลุ้นสามสี่ช็อตทีเดียวครับ แต่จนแล้วจนรอด ก็ทำอะไรเพิ่มกันไม่ได้ จบไปด้วยสกอร์ 2:2
เมื่อจบเกมด้วยสกอร์นี้ ก็เท่ากับว่า เราเป็นแชมป์กลุ่ม เพราะบียาร์รอัล เดินทางไปถูกเซลติกฟัดกลับมาจมสองเขี้ยวด้วยสกอร์ 2:0 บียาร์เรอัลจึงจบเป็นที่สองของกลุ่มนี้
วันนี้ผมคงไม่ขอลงลึกอะไรมาก เพราะการจัดตัวลงสนามเองก็ไม่ได้ทำให้ดูว่าเอาจริงเต็มสูบสักเท่าไหร่ เพียงแต่อาจจะเน้นแค่ไม่ให้แพ้เท่านั้น ชนะถือเป็นโบนัสรึเปล่า ดูจากทัศนคติในการเล่นโดยเฉพาะครึ่งแรก ที่ออกจะติดประมาทเยอะมาก และพยายามเจาะพยายามออกบอลสั้นทะลุช่องกันเหลือเกิน โดยไม่ได้ดูภาพรวมของเกมเลยว่า จังหวะไหนควรเร่งควรผ่อน กลับเอาแต่ลุยขึ้นหน้ากันอย่างเมามัน โอเคว่าได้ใจแฟนๆจริงครับ แต่มันควรมาพร้อมๆกับการปิดสกอร์ที่เฉียบคมด้วยสิครับ มัยนจึงจะเข้าที ไม่ใช่หลับหูหลับตาบุกเอาใจแฟนๆ แบบหลังติดประมาท กลางลอยสูง แบ๊คเติมสุด แต่กลับจบไม่ลง หากเราเล่นด้วยรูปเกมนี้ยามเจอกับทีมที่สวนเร็วได้คมๆ งานนี้มีโดนยิงไส้แตกแน่นอนครับ
พอครึ่งหลังหนังจึงเปลี่ยนเป็นคนละม้วน และเป็นการคอนเฟิร์มกันชัดๆอีกครั้งครับ ว่ากิ๊กส์ เหมาะจะยืนกลางแค่กับเกมเบาๆ เกมที่ต้องการแค่ประคองเท่านั้น ไม่เหมาะกับเกมที่ยังต้องเน้นการป้องกันการโจมตีด้วย เพราะช่วยสกรีนเกมรับไม่ได้มาก และกิ๊กส์นั้นไม่ใช่ตัวคุมเกมโดยธรรมชาติ ทำให้หลายครั้ง อาจลืมตัวเล่นตามกระแสเกมได้เหมือนกัน ในขณะที่แอนนี่เองก็ยังต้องการคนที่คอยเป็นพี่เลี้ยงอยู่ เนื่องจากยังขาดประสบการณ์ในการคุมเกมจริงๆจังๆ ทำให้ครึ่งแรกพากันเร่งเกมกับกิ๊กส์แบบหูดับตับไหม้ แต่แฟนๆมันในอารมณ์ ซึ่งพอได้สโคลส์มาเป็นพี่เลี้ยงในครึ่งหลัง เกมของแอนนี่ดูช้าลง แต่แน่นอนขึ้น และอันตรายมากขึ้นในจังหวะให้บอล เกมรับของทั้งคู่ก็ช่วยแผงหลังได้ดีขึ้นกว่าครึ่งแรก
กิ๊บสันเมื่อถูกถ่างไปริมเส้น กลับไม่สามารถฉายแววเด่นได้เหมือนอยู่ตรงกลางครับ ในขณะที่คนที่น่าผิดหวังที่สุดในเกมนี้คือนานี่ ที่ไม่สามารถเล่นได้เป็นชิ้นเป็นอันนัก นอกจากจะยิงพลาดแล้ว ยังทำเกมตัวเองไม่ได้ดั่งที่คาดหวังไว้ด้วยซ้ำ ส่วนเตเวซกับรูนี่ย์ ที่ยิงได้คนละลูก และพลาดอีกนับไม่ถ้วนนั้น ผมยังมองว่า เกมของทั้งคู่เริ่มกลับมาในร่องในรอยคล้ายๆเมื่อซีซั่นที่แล้วเสียที เมื่อมีความขยัน และให้บอลกันได้สวยๆตลอด เพียงแต่จังหวะจบอาจต้องปรับอีกหน่อยโดยเฉพาะเตเวซ ซึ่งโดยรวมผมว่าเข้าที่เข้าทางขึ้น ขึ้นอยู่กับว่า หลังจากนี้ เตเวซจะยังได้โอกาสอีกหรือไม่ เพราะหากถูกดร็อปไปอีก ก็เท่ากับว่าต้องกลับมาเริ่มตั้งต้นใหม่อีกนั่นแหละ
ส่วนแผงหลัง ที่เกมนี้ติดประมาทหลายๆช็อต ยังดีที่ไม่แพ้ให้เสียสถิติตัวเองนะครับ เอแวนส์ยังมีปัญหาเมื่อจับกับโอเชแล้วเจอเกมเร็วๆเช่นนี้ มีหลุดให้เห็นพอสมควร แต่ส่วนใหญ่ก็มาจากโอเชที่หลุดวืดวาดมาก่อนแล้วมากกว่า ลูกที่เสียประตูทั้งสองลูกโอเชก็มีส่วนรับผิดชอบ ลูกแรกอาจน้อยหน่อย เพราะโดนสอดมาจากนอกกรอบที่อยู่นอกความดูแลของเขา (โทษมิดฟิลด์) แต่ตำแหน่งตรงที่สอดมาขึ้นโหม่งก็เป็นจุดที่โอเชคุมอยู่ ส่วนลูกที่สองนี่จะจะครับ เพราะโอเชไม่ดูตัวประกบของตัว แต่ไปตามตัวของเอแวนส์ที่เอแวนส์เองก็ตามอยู่แล้ว ทำให้ตัวที่สอดมาข้างหลังโอเชโล่งมากๆ และคนเปิดก็เลือกเปิดให้คนข้างหลัง ทำเอาโอเชคงโดนป๋าเล่นไปหลายดอกแน่ๆครับในตอนพักครึ่ง
มาดูสถานการณ์กันบ้างนะครับ เราจบเป็นที่หนึ่ง ดังนั้นคู่แข่งที่เราจะเจอในเกมหน้า อาจเป็น อินเตอร์(B), สปอร์ติ้ง(C), แอตเลติโก มาดริด(D), โอลิมปิค ลียง (F) หรือ เรอัล มาดริด(H) ไม่เห็นมีงานง่ายเลยแฮะ อุตส่าห์เข้าเป็นที่หนึ่งนะเนี่ย อ่ะครับ แล้วถ้าสมมติว่าเข้าเป็นที่สองล่ะ โอเคเราอาจเจอ โรม่า, พานาธิไนกอส, บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น, ปอร์โต้ หรือ ยูเว่ แหมๆๆๆ ไม่เห็นต่างกันเลยนะครับผม//หยอกเย้า
เอาล่ะครับ จะเจอใครก็ช่าง ถ้ารักจะเป็นแชมป์ มันก็ต้องผ่านให้ได้ทั้งหมดนั่นแหละ เจอก่อนเจอหลังก็ช่างเถอะ ยังไงก็เจออยู่ดี เอาเป็นว่า เราลุ้นให้ตัวหลักเราไม่เจ็บไม่ไข้ไม่แบนดีกว่านะครับ ยังไงๆ รอบหน้า กว่าจะเริ่มก็ต้องกุมภาพันธ์โน่นแหละ ยังมีเวลาให้คิดครับ ที่สำคัญก็คือ ลุ้นให้เราทำอันดับในลีกให้ขึ้นมายึดฝูงให้ได้ด้วยก่อนก็จะยิ่งดี จะได้เป็นงานที่กดดันน้อยหน่อย
โปรแกรมเดือนธันวาคม-มกราคมครับ
December 2008
13 Dec Barclays Premier League Tottenham A 17:30
Dec 18 / Dec 21 FIFA CLUB WORLD CUP
26 Dec Barclays Premier League Stoke City A 12:45
29 Dec Barclays Premier League Middlesbrough H 20:00
January 2009
04 Jan FA CUP Southampton A 16:00
07 Jan Carling Cup Derby County A 19:45
11 Jan Barclays Premier League Chelsea H 16:00
14 Jan Barclays Premier League Wigan H 20:00
17 Jan Barclays Premier League Bolton A 15:00
20 Jan Carling Cup Derby County H 20:00
27 Jan Barclays Premier League West Bromwich A 19:45
ดูโปรแกรมเดือนมกราคมสิครับ เยอะจนละเหี่ยยยยยยยย
อย่าลืมตามลุ้นกันนะครับ
สงบใจ
| Create Date : 11 ธันวาคม 2551 |
|
0 comments |
| Last Update : 11 ธันวาคม 2551 11:36:29 น. |
| Counter : 511 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [