Bloggang.com : สงบใจ : 20080915 วิพากษ์ LIVERPOOL vs UNITED

20080915 วิพากษ์ LIVERPOOL vs UNITED

แพ้ทุกเหลี่ยมทุกมุมจริงๆครับ

สวัสดีครับ มิตรรักแฟนผีทุกๆท่าน หวังว่าคงจะได้สติฟื้นขึ้นมากันครบทุกคนแล้วนะครับ หลังจากโดนหงส์แดง แปลงร่างเป็นหงส์ยักษ์กระทืบซะจมธรณีไปหมาดๆ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยครับ ว่าเกมที่ว่านั้น มีอะไรให้พูดถึงกันบ้าง

ก่อนเกมเริ่ม ก็มีการเล่นไมนด์เกมกันตามธรรมเนียม โดยท่านเซอร์เองออกปากว่า หงส์แดงซื้อร็อบบี้ คีนด้วราคาแพงเวอร์ๆ (ตอนนี้คงรู้แล้วว่าแพงหรือไม่//ฮ่าฮ่าฮ่า) ส่วนทางด้านคีน ก็ออกมาสวนคืนทันควันว่า นักเตะอย่างโอเชนั้น มีดีเกินกว่าจะนั่งเป็นสำรองไปวันๆอยู่ในซุ้มสำรองของผีแดงแน่นอน หลังจากนั้น ก็มีการปล่อยข่าวจากทั้งสองค่ายเป็นระยะๆ เรื่องตัวผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผี ที่ให้ข่าวลวงว่า เบิร์บไม่น่าจะฟิตทัน แล้วก็มาแก้ข่าวก่อนลงสนามว่า ได้ลงแน่นอน ส่วนฝั่งหงส์เอง ก็ปล่อยข่าวเจิดกับตอร์เรสว่าหายทันลงบู๊แน่นอน ซึ่งสุดท้าย ไมนด์เกมคราวนี้ ท่านเซอร์แพ้นะครับ สังเกตการจัดตัวก็พอเดาออกทันที ว่าท่านเซอร์แพ้เอล ราฟา

เนื่องจาก เอล บอส นั้น เลือกที่จะจัดตัวผู้เล่นแบบเอาฟิตเข้าสู้เต็มตัวเลย พักเจอร์ราร์ด กับตอร์เรสไว้ข้างสนามเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น มีโฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา ฟูลแบ๊คสองข้างนั้น มีออเรลิโอ และ อาร์เบลัว คู่เซ็นเตอร์ปรับมาเป็นคาร์ราเกอร์กับสเคอร์เทล กองกลางมี มาสเคราโน่กับอลองโซ่รับบทบาทกลางสนาม มีริมเส้นสองฝั่งเป็นริเอร่าตัวใหม่สดซิงๆ และ เบนายูน ห้อยหน้าคู่สองตัวเป็นคีนกับเคาท์ ซึ่งผมจะบอกทีหลังครับว่า แผนนี้กับแท็คติคที่วางมาของราฟานั้น เข้ากันมากๆทีเดียว

มาดูฝั่งผู้มาเยือนบ้าง ผีแดงส่งผู้เล่นที่ถือได้ว่าดีที่สุดเท่าที่ส่งลงมาได้ในเกมนี้ทีเดียว และนั่นคือสิ่งที่ผมมองว่าท่านเซอร์แพ้ตั้งแต่ไมนด์เกมครับ เพราะขณะที่ราฟา กล้าที่จะพักตัวที่ยังไม่เต็มร้อยไว้คอยพลิกเกมในช่วงท้ายๆ แต่ท่านเซอร์กลับส่งลงมาเต็มเหนี่ยว ทั้งๆที่บางคนเราดูออกเลยว่ายังไม่เต็มถังเท่าไหร่ มีน้าซาร์เฝ้าเสา ฟูลแบ๊คสองข้าง บราวน์กับเอวร่า คู่เซ็นเตอร์คือ ริโอ กับวิดิช กลางสนามจัดสามตัวคือสโคลส์, คาร์ริค และอันแดร์สัน หน้าจัดสามประสาน รูนี่ย์, เตเวซ และมีเบิร์บยืนค้ำตรงกลาง

เกมของราฟานั้น ดูออกตั้งแต่เสียงนกหวีดดังเลยครับ ว่าตั้งใจมาสู้แบบเกินร้อย ที่ผ่านมาทุกๆแดงเดือดนั้น เราจะเห็นว่า แพสชั่นของฝั่งหงส์แดงดูจะไม่ค่อยถึงจุดเท่าไหร่ ทำให้รูปเกมของฝั่งหงส์ที่ผ่านๆมา มักจะเล่นกันไม่ดุดันก้าวร้าวเท่าที่ควร แต่กับนัดนี้ ดูเหมือนราฟาจับจุดถูกครับ และเน้นให้ลูกทีมเข้าบี้หนักทุกๆคน ตั้งแต่กองหลังยันสองกองหน้าเลยทีเดียว และการที่มีคีนกับเคาท์ยืนเป็นกองหน้าคู่นั้น ช่วยให้เกมการไล่บี้ผู้เล่นยูไนเต็ด ทำได้ดีมากจริงๆ นี่แหละที่ผมมองว่า ผู้เล่นที่ส่งลงนั้นมาเข้ากับแท็คติคไล่บี้ได้ดีจริงๆ แต่ก็กลับกลายเป็นความผิดพลาดเล็กๆของหงส์แดงที่เกิดขึ้นก่อน ปล่อยให้เบิร์บได้ครองบอลกับตัวที่สุดเส้นหลังก่อนจะหาช่องปาดเรียดกลับมาหน้ากรอบให้เตเวซสอดเข้ามายิงง่ายๆตั้งแต่นาทีที่ 3 เท่านั้น เล่นเอามาสเคราโน่ที่ต้องตามเตเวซมานั้น ส่ายหัวดิกเลยทีเดียวกับความผิดพลาดในการประกบของตัวเอง

หลังจากเสียประตูแบบไม่ได้ตั้งตัว เกมของหงส์แดงที่ทำว่าบี้ได้ดีๆ ก็ช๊อตไปดื้อๆซะงั้น ปล่อยให้ผีแดงต่อบอลไล่ขย่มอยู่พักใหญ่ๆ ในขณะที่หงส์แดงดูจะลนๆเกินไปนิด และต้องอาศัยมาสเคราโน่คอยไล่ตัดบอลตรงกลางสนามอย่างจ้าละหวั่น แต่หลังจากค่อยๆหาทางกลับมาสู่เกมได้ ฝั่งหงส์แดงก็ค่อยๆครองเกมได้มากขึ้น เกมโต้กลับจากริมเส้นทั้งริเอร่า และเบนายูนทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะริเอร่านั้น เผาบราวน์ซะหมดสภาพหลายครั้ง และหงส์แดงก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ เมื่อน้าซาร์ออกมาตัดลูกครอสแฉลบของอลองโซ่แล้วบอลไปกระแทกเข่าบราวน์ที่วิ่งซ้อนผู้เล่นลิเวอร์พูลเข้ามาพอดี ทำให้บอลกระดอนกลับเข้าประตูไปแบบที่น้าซาร์ต้องเงยหน้าไม่เข้าใจฟ้าเลยทีเดียว

ประตูนี้ ตามความคิดผม ผมมองว่า น้าซาร์ตัดสินใจพลาดครับที่ออกมาตัดทั้งๆที่บราวน์อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่า (หรือว่าน้าซาร์กลัวเทพจะแผลงฤทธิ์) บราวน์นั้นก็ออกจะโชคร้าย เพราะตามหน้าที่ เขาคือคนที่ต้องตามประกบผู้เล่นลิเวอร์พูลและเขาทำได้ดีแล้ว ด้วยการอยู่ข้างหน้าผู้เล่นลิเวอร์พูล แต่โชคร้าย ที่น้าซาร์ดันตัดบอลมาเข้าที่เข่าพอดีเท่านั้น

หลังจากเสียประตูตีเสมอแบบช็อคอารมณ์แฟนๆ และช็อคอารมณ์ตัวเอง เกมของแมนฯยูฯ ก็เครื่องดับลงไปเฉยๆ มีเหลือเพียงจังหวะสวนกลับให้หวาดเสียวเล่นเท่านั้น แต่เกมของหงส์แดงกลับได้ใจขึ้นเรื่อยๆ ครองเกมไล่ขย่มอยู่ข้างเดียว คีนกับเคาท์ กลายเป็นตัวไล่บอลที่ทำหน้าที่คล้ายจะลบคำสบประมาทของท่านเซอร์ เกมยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป และน้าซาร์เอง ก็ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟหลายครั้งเหมือนกัน เพื่อไม่ให้เสียประตูมากกว่านี้

เกมของแมนฯยูฯมาสะดุดมากขึ้นอีก เมื่อคาร์ริคเจ็บจากการปะทะ จนต้องเปลี่ยนออก เอากิ๊กส์ลงมาแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งหายนะของแท้ เมื่อกิ๊กส์ไม่สามารถช่วยให้ทีมครองเกมตรงกลางได้ดั่งที่คิด แถมสโคลส์ก็ยังโรยลงไปตามเวลาที่เล่นไป เกมตรงกลางเบรคเกมรุกหงส์แดงไม่ได้เลย และบอลทะลักออกปีก ทะลุเข้ากลาง ข้ามฟากไปมาอย่างสบายใจน้องหงส์ตลอดเวลา หลังจากนั้น ท่านเซอร์ก็ต้องถอดสโคลส์ออกอีกคน ส่งฮาร์กรีฟส์ลงมาเบรคเกมหงส์แดงแทน ในเวลาไล่เลี่ยกับที่ราฟาส่งเจอร์ราร์ดลงมาแทนเบนายูนเพื่อเพิ่มน้ำหนักเกมตรงกลางของหงส์แดงมากขึ้น

เกมยังคงเป็นวันเวย์ไล่ขย่มของหงส์แดง และราฟาก็ถอดเอาริเอร่าออกมาพัก ส่งบาเบลลงมาแทน ซึ่งบาเบลก็จัดให้ราฟาทันที ด้วยการเข้าชาร์จลูกเปิดเรียดกลับเข้ากลางของเคาท์ ที่ไปดักกินลูกที่มาสเคราโน่ล้วงกลับมาจากเท้ากิ๊กส์ที่สุดเส้นหลังง่ายๆเข้าไปได้สำเร็จ ซึ่งผมมองว่า กิ๊กส์ประมาทมากๆที่ไปเล่นแบบนั้นในบริเวณเส้นหลังกรอบโทษตัวเอง ตัวเขาเองไม่ใช่กองหลัง แต่ยังจะบังบอลจากมาสเคราโน่กะให้ออกหลัง ซึ่งสุดท้ายเสียประตูครับ และหลังจากถูกออกนำไป ท่านเซอร์ก็ส่งนานี่ลงมาแทนอันแดร์สัน แต่ก็ไม่ช่วยอะไรได้ ก่อนจบเกมมาสเคราโน่ที่วิ่งตัดเกมเป็นม้าบ้า ก็มีการเจ็บจนราฟาต้องเปลี่ยนตัวแบบซ้อนแผนโดยส่งฮูเปียลงมาแทน ที่บอกว่าซ้อนแผนก็เพราะทีแรกแกจะเปลี่ยนคีนครับ แต่พอเห็นมาสเคเจ็บ แกรีบไปโว้กเว้กใส่ไลน์แมนทันที ว่ายังๆๆๆๆๆ เปลี่ยนใจก่อน ก่อนจบ ยังมีไฮไลต์อีกช็อต คือวิดิชไปโดนเหลืองแดงจากลูกโดดเข้าใส่อลอนโซ่ ทำให้ชวดลงสนามที่เดอะบริดจ์ซะงั้น และก็จบเกมไปด้วยการปลดภาระที่หนักอึ้งออกจากบ่าหงส์แดงได้สำเร็จในที่สุด

หลังเกมนี้ สิ่งที่ผมโปรยไว้ที่หัวกระทู้ว่าแพ้ทุกเหลี่ยม ทุกมุมนั้น ผมคิดอย่างนั้นจริงๆนะครับ เพราะท่านเซอร์แพ้ตั้งแต่ไมนด์เกม อันส่งผลต่อการจัดตัวผู้เล่นลงสนามเลย เนื่องจากเข็นเอาตัวดีที่สุดลงทั้งหมด ทั้งๆที่ผมว่าใครก็มองออก ว่าคาร์ริคยังคงไม่เต็มร้อยแน่นอน และเบอร์บาตอฟเอง สโมสรก็เพิ่งแถลงข่าวว่าจะเอาลงสนาม ถึงแม้จะยังฟิตไม่ถึงขั้นที่สโมสรตั้งเกณฑ์ไว้ก็ตาม ในขณะที่สโคลส์ก็โรยไปเยอะ วิ่งได้เต็มที่แค่ชั่วโมงเดียวก็หมดสำหรับเกมหนักๆอย่างลีกอังกฤษตอนนี้ เราก็เห็นมาหลายเกมแล้วใช่ไหม ในขณะที่เมื่อมองไปที่ซุ้มสำรอง กลับมีแต่ตัวที่เปลี่ยนแล้วจะทำเกมรุกได้น้อยลงทั้งนั้น เช่นฮาร์กรีฟส์ ที่ไม่ใช่ตัวรุกเต็มที่ กิ๊กส์ที่โรยไปเยอะ หรือนานี่ที่ยังผีเข้าผีออก เล่นไม่เข้าขาเพื่อนๆอยู่เลย

ในขณะที่ราฟานั้น ยังมีทีเด็ดถึงสามตัวรอเปลี่ยนข้างสนาม ถึงไม่ฟิตพอ แต่หากจะพูดกันแค่สิบห้ายี่สิบนาทีในสนามนั้น ผมว่าสบายๆ และราฟาวางแผนได้ดีกว่าครับ โดยเลือกที่จะเอาเกมสดเกมฟิต มาไล่บี้ในทุกๆจังหวะที่แมนฯยูฯได้บอล เกมของยูไนเต็ดที่ไม่เคยถูกบี้หนักๆแบบนี้มานาน ถึงกับลนไปได้ โดยเฉพาะตรงกลาง ที่วางมิดฟิลด์ธรรมชาติมาแค่สามคน ถึงแม้แผงหลังจะยืนคุมโซนคุมพื้นที่คุมคนได้ดีในช่วงแรกๆ แต่เมื่อโดนบดบี้หนักๆเข้า อีกทั้งโดนเจาะยางเรื่อยๆจากปีกสองข้างที่ลากทะลวงได้ดีเนี่ย มันทำให้บราวน์เป๋ไปได้เหมือนกัน และเมื่อบราวน์เป๋ ริโอก็ต้องฉีกมาซ้อน และจากนั้น ก็รู้ๆกันครับ โซนหลุดทันที กลางหงส์แดงฉวยโอกาสสอดเข้ามาได้ตลอด

อีกจุดหนึ่งที่ราฟาวางแผนมาและใช้ได้ดีก็คือ การที่เน้นให้ลูกทีมออกบอลเร็วครับ เมื่อไล่บี้หนักๆ บดหนักๆ เข้าบอลเร็วๆ จนตัดบอลได้แล้ว ก็จะรีบออกบอลให้ดันทันที ถ่ายบอลไปที่อื่นทันที เพื่อลดโอกาสที่จะถูกบี้เอาบอลคืน จะเห็นได้ว่า เมื่อลิเวอร์พูลได้บอล ปีกสองข้างจะสอดไปรับทันที หากปีกอยู่ไกล ฟูลแบ๊คจะเติมมารับช่วงก่อน และจะหาช่องจ่ายต่อทันที ส่วนเคาท์กับคีนนั้น ส่ายหาที่ว่างตลอดเวลาอยู่แล้ว เล่นเอาแผงหลังเราปั่นป่วนไปหมด

ยิ่งการที่เคาท์กับคีน ที่ขยันสุดๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังวิ่งไล่บดบี้เอาบอลจากแผงหลังเราอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งทำให้งานยากขึ้นไปอีก เราไม่เห็นน้าซาร์ลนลานจนจับบอลเตะหลุดออกข้างมานานแค่ไหนแล้วนะ เราไม่เห็นบอลถูกทะลวงถูกจ่ายทะลุผ่านกองกลางขาดเป็นริ้วๆแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว อีกทั้งตั้งแต่แอนนี่ปรับตัวกับเกมได้ เราเคยเห็นแอนนี่หายไปจากเกมเป็นสิบๆนาทีเช่นนี้ด้วยหรือ ทั้งหมดนี้เกิดจากความสดและความฟิตของนักเตะหงส์แดง บวกกับใจครับ ที่ราฟาใส่ลงมาให้ลูกทีมแบบเกินร้อยนั่นเอง นัดนี้ เป็นนัดที่ผมดูแล้วบอกได้คำเดียวครับ ใจ ของหงส์แดงมันใหญ่กว่าเราเยอะ

คุณเห็นอากัปกิริยาของคีนไหมครับ ทั้งเกมเลย เขาเป็นยิ่งกว่าคอนดักเตอร์ของทีมเสียอีก เมื่อสั่งการผู้เล่นให้เข้าบอล ให้ประกบเร็ว ให้คุมคนนั้นคนนี้ ยิ่งตอนยูไนเต็ดได้ทุ่มทุกๆครั้ง ไม่ว่าจะอยู่ในแดนใคร ลึกแค่ไหน คีนเท่านั้น ที่ชี้นิ้วสั่งให้เพื่อนยืนตรงนั้นตรงนี้ ไล่ตรงนั้นตรงนี้ และนี่แหละครับ เมื่อเจอร์ราร์ดไม่อยู่ในสนาม แพสชั่นที่ผมคาดว่าหงส์แดงจะขาดไป กลับมีมากกว่าเดิมเสียอีก ซึ่งมาจากคีนคนเดียวเลยจริงๆ

นอกจากนี้ เกมรุกของเรา ที่เสี่ยงมาใช้มิดฟิลด์สามตัว กองหน้าสามตัว กลับครองเกมไม่ได้เลย และมีโอกาสเข้าทำน้อยมาก ยิ่งถ้านับจากครึ่งหลังแล้วยิ่งเห็นได้ชัดเลย ว่ามีโอกาสน้อยจริงๆ การตัดสินใจเล่น 4-3-3 ในนัดนี้ คงเพราะเดาออกว่า ลิเวอร์พูลไม่น่าเข็นตอร์เรสกับเจอร์ราร์ดลงตั้งแต่แรกได้ ทำให้ท่านเซอร์คงมั่นใจและกะว่าจะจัดให้น้องหงส์สักสองสามดอกพอเป็นความสะใจ แต่สุดท้าย เมื่อสโคลส์กับคาร์ริคแค่สองคน ไม่สามารถต้านทานเกมความสดของอีกฝั่งได้ เกมตรงกลางก็หาย กลางรุกอย่างแอนนี่ไม่ได้บอล หน้าสามตัวก็พิการทันที และเมื่อเตเวซกับรูนี่ย์ต้องลงมาล้วงบอลลึกถึงกลางสนาม เบอร์บาตอฟยิ่งโดดเดี่ยวไปใหญ่ ทั้งหมดนี้ ท่านเซอร์ก็คงเห็นจากเกมนี้แล้ว และคงต้องหาวิธีปรับจูนกันอีกระยะ ให้เข้าที่เข้าทางกว่านี้

วันนี้ เมื่อเรามาคุยกันหลังเกมจบลง เราคงพูดอะไรได้ชัดเจนตรงจุด ต่างกับท่านเซอร์ ที่ต้องวางหมากก่อนเกมนะครับ แต่เมื่อเราเห็นแล้ว ว่าเกมสู้ไม่ได้ โดยเฉพาะตรงกลาง หากจะให้เรามาลองปรับตำแหน่งการยืนของทีมใหม่อีกครั้ง ผมมองว่า เราอาจจะต้องเล่น 4-4-2 เพื่อประคองเกมตรงกลางมากกว่านี้ใช่ไหม อาจจะเลือกกลางสนามเป็น สโคลส์, ฮาร์กรีฟส์ และแอนนี่ ยืนกันสามคนเพื่อเบรคเกมเร็วและเพิ่มแนวป้องกันด้านกว้างกับเกมทะลุทะลวงของลิเวอร์พูล และได้ประโยชน์ในแง่ลดพื้นที่การรับผิดชอบแต่ละคนด้วย เพื่อเพิ่มระยะเวลาการล่นให้สโคลส์ ส่วนคาร์ริค เนื่องจากยังไม่เต็มร้อย น่าจะดันมายืนเป็นตัวเชื่อมเกมแทน คอยเปิดป้อนให้คู่กองหน้า ซึ่งอาจเป็น รูนี่ย์กับเตเวซ โดยมีเบอร์บาตอฟรอเสียบข้างสนาม แต่ก็อย่างว่าครับ มาคิดในกระดาษ แถมมาคิดทีหลัง อะไรก็ดีไปหมดแหละ แหะ แหะ

นอกจากนี้แล้ว ผมยังมองว่า สำหรับเกมแดงเดือดนั้น เรารอวันแพ้อยู่นานแล้ว เนื่องจากรูปเกมเราดูเหมือนสู้ไม่ได้มาหลายนัดในช่วงหลังๆ เพียงแต่เรายังขันน๊อตเกมรับได้ดีอยู่เท่านั้น และฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของอีกฝั่งได้ดีกว่า นั่นทำให้เรายังเป็นผู้ชนะในหลายๆนัดก่อนหน้า ทั้งๆที่รูปเกมอาจสู้ไม่ค่อยได้ และหากจะสังเกตเพิ่มกันอีกนิด จะเห็นคล้ายๆกันกับที่มองว่ารูปเกมสู้ไม่ได้ แต่เป็นอีกมุมมองหนึ่งว่า เวลาเราต้องมาเจอกับทีมที่เล่นบอลได้ดี มีตัวอันตรายสูงในทีม หรือทีมที่เล่นได้เป็นระบบมากกว่า เรามักจะเลือกเล่นเกมรับแล้วโต้เต็มตัว เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเปิดพื้นที่ให้คู่ต่อสู้ใช้โจมตีเร็วได้ถนัดถนี่

เกมแดงเดือด, เกมกับบาร์ซ่า, เกมกับอาร์เซนอล เรามักจะเล่นแบบนี้ในระยะหลังๆนะครับ ปล่อยให้คู่ต่อสู้ครองเกม เดินหน้าเข้าใส่ แล้วตั้งรับอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบมีแบบแผน การเล่นในลักษณะนี้ จะทำให้ตัวอันตรายของคู่ต่อสู้ อย่างตอร์เรส อย่างเมสซี่ หรือ อาเดบายอร์ ถึงแม้จะได้เล่น แต่จะไม่มีพื้นที่ให้สร้างความอันตรายได้มากนัก และอยู่ในวิสัยที่เราสามารถป้องกันได้ง่ายกว่าการที่เราจะเปิดเกมรุกแลก แล้วทำให้มีพื้นที่ในแผงหลังให้นักเตะอันตรายๆเหล่านี้ได้เข้ามาโจมตี

นี่อาจเป็นแผนการเล่นที่ถูกวางมาในระยะหลังๆ เพียงแต่นัดนี้นั้น แผงหลังเล่นกันสะเปะสะปะเกินไปมาก ประสานงานกันได้ไม่ดี และเราเองกลับไม่มีตัวที่ถือว่าเป็นตัวเข้าทำในเกมโต้กลับอันดับหนึ่งอย่างโรนัลโด้ไงครับ เมื่อมีโรนัลโด้ เกมโต้กลับจะทวีความอันตรายมากขึ้นเยอะ เมื่อเขาเป็นคนเดียว ที่สามารถพาบอลแซงกองหลังเข้าไปทำได้ ในขณะที่เตเวซ, รูนี่ย์ หรือเบิร์บ จะไม่เร็วขนาดนั้น ต้องอาศัยการจ่ายบอลให้กันเข้ามาแทน และนั่น ก็คือการเสียเวลาในเกมโต้กลับมากขึ้นนั่นเอง

มามองดูนัดต่อไป เราต้องเฝ้าบ้านรับมือบียาร์เรอัล โดยไม่มี พอล สโคลส์ ที่ถูกแบนจากเกมซูเปอร์คัพ เนื่องจากไปลืมตัว ขึ้นตบหัวเสาเข้า อีกทั้ง คาร์ริคเองก็ต้องจับตาดูว่า จะหายทันหรือไม่ ฮาร์กรีฟส์เองที่เพิ่งหายกลับมาก็ยังน่าห่วงอยู่ว่าจะฟิตแค่ไหน อย่าลืมว่า วัยอาทิตย์นี้ เราต้องออกไปเยือนเชลซีอีกนัดนะครับ นั่นทำให้ผมคิดว่า อยากให้เกมยุโรปมะรืนนี้กลายเป็นนัดเยือนจริงๆเลย เพราะตัวไม่พร้อม หากเสียแต้มในบ้านนี่จะยุ่งขึ้นมาทันที แต่หากใส่เต็มที่กับนัดนี้ แล้วไปเสียสามแต้มที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั่นก็แย่อีกเช่นกัน ยิ่งนัดดังกล่าว วิดิชจะไม่ได้ลง เนื่องจากติดโทษแบนจากเหลืองแดงในนัดแดงเดือดท้ายเกมนี่แหละครับ ที่วิดิชไปเผลอโดดใส่อลอนโซ่จนกลิ้งกลางอากาศ ทำให้บราวน์อาจถูกขยับเข้ามาเป็นเซ็นเตอร์คู่ริโอ แล้วถอยฮาร์กรีฟส์ลงมายืนแบ๊คขวาแทนก็เป็นได้

จับตาดูกันต่อไปนะครับ พ้นเดือนกันยายนไป สถานการณ์น่าจะดีขึ้นมาบ้าง

สวัสดีครับ

สงบใจ

Create Date : 15 กันยายน 2551

Last Update : 15 กันยายน 2551 9:54:34 น.

4 comments

Counter : 454 Pageviews.