Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
1 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
20081001 วิพากษ์ AALBORG AB vs UNITED

สามลูก, สามแต้ม กับสามสังเวย



สวัสดีครับ พบกันช้านิดหน่อยนะครับในวันนี้ เนื่องจากผมติดงานด่วนตั้งแต่เช้า ไม่มีเวลาปั่นบทวิพากษ์เหมือนเคย ต้องรอสายหน่อย เสร็จงานด่วนแล้วค่อยมาปั่น หวังว่าจะยังรออ่านอยู่นะครับ



สำหรับเกมนี้ ก็เป็นไปอย่างที่ผมคาดไว้ นั่นคือการมีโอกาสได้เห็นดาวรุ่งมาโรเตชั่นกับเกมนี้บ้าง เนื่องจากว่ามีตัวหลักบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ และโปรแกรมที่ชุกชุมในช่วงนี้ และดี๋ยวก็ต้องพักให้ทีมชาติมาพรากตัวผู้เล่นบางรายไปอีก ทำให้ผมคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเห็นดาวรุ่งลงมาบ้าง แล้วก็เห็นจริงๆ ถึงจะน้อยไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอยครับ

ท่านเซอร์มาในวันนี้ กับการจัดแพ็ทเทิร์นตั้งต้นเป็น 4-4-2 โดยมีน้าซาร์เฝ้าเสา ฟูลแบ๊คด้านซ้ายใช้เอวร่า ด้านขวาส่งราฟาเอล ดา ซิลวา ลงมาแทนแกรี่ที่เจ็บจากเกมก่อนหน้า คู่เซ็นเตอร์มีริโอ กับ วิดิช คู่กองกลางมีเซอร์ไพรส์ด้วยการส่ง พอล สโคลส์ ลงมาคู่กับ จอห์น โอเช มีโรนัลโด้กับนานี่ อยู่ริมเส้น และคู่กองหน้าใช้ รูนี่ย์ กับดิมี่ คอยทะลวงเป้า สำรองมีเบน อามอส, เวส บราวน์, จอนนี่ อีแวนส์, แอนนี่, ปาร์ค, กิ๊กส์ และ เตเวซ

ส่วนทางด้านอัลบอร์ก...เอ่อ...เอ่อ... เอาเป็นว่าผมไม่คุ้นชื่อเลยก็แล้วกันครับ ไม่ขออ้างอิงถึงดีกว่า เรามาเข้าประเด็นกันเลยนะครับ



เริ่มเกม ยูไนเต็ดที่เครื่องร้อนช้าตามสไตล์ก็ถูกลูกเพรสซิ่งไล่บี้ของอัลบอร์กเจ้าถิ่น บดเข้าถึงตัวหนักๆ แย่งบอลไปเล่นได้อยู่อึดใจใหญ่ๆ ก่อนยูไนเต็ดผู้มาเยือนจะเริ่มครองเกมได้และรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องในที่สุด ในด้านรูปเกมไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก เพราะรายละเอียดเชิงลึกด้านแท็คติคไม่มีอะไรมากมาย ยูไนเต็ดเน้นขึ้นเกมด้วยความรวดเร็วโดยใช้จุดอ่อนของอัลบอร์กให้เป็นประโยชน์ จุดอ่อนของอัลบอร์กที่เห็นได้เด่นชัดเลยก็คือสปีดของเกมค่อนข้างช้า และทำให้มีปัญหาในการจัดการกับสปีดเกมรุกในการขึ้นเกมของยูไนเต็ดตลอดเวลา เพียงแต่ยูไนเต็ดเองจังหวะจบสุดท้ายยังใช้โอกาสเปลืองมากๆ และอัลบอร์กเอง ยืนคุมพื้นที่หน้ากรอบได้ค่อนข้างดี ทำให้จังหวะสุดท้ายมักจะไปติดๆขัดๆผู้เล่นอัลบอร์กซะมาก ดิมี่มีโอกาสวอลเลย์จะจะจากลูกกระดอนมาเข้าทางโล่งๆ แต่ดันออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

สโคลส์คุมเกมตรงกลางได้แบบเบ็ดเสร็จ โดยมีโอเชเป็นลูกหาบที่เหมือนถูกกำชับมาว่า รับแล้วจ่ายเท่านั้น เพราะเราไม่เห็นบทบาทอื่นของโอเชในวันนี้เลย ล่วงมาถึงนาทีที่สิบห้า สโคลส์ก็ดวงแตกในจังหวะเข้าปะทะแย่งบอลกับผู้เล่นอัลบอร์กทำให้ถูกเตะเข้าที่เข่า และเข่าน่าจะบิดจากที่เห็นในภาพช้า ทำให้สโคลส์ถึงกับต้องถูกหามออกไปจองเตียงเป็นเพื่อนกับบรรดามิดฟิลด์ที่ไปแอดมิทกันก่อนหน้านี้ และป๋าก็ส่งกิ๊กส์ลงมาแทน ประตูขึ้นนำของยูไนเต็ดก็มาจากการจ่ายคิลเลอร์พาสของกิ๊กส์ ที่ส่งบอลตัดหลังแบ๊คขาดวิ่นให้รูนี่ย์สอดเข้ามายิงสวนตัวนายทวารซาซ่าเข้าไปได้สำเร็จในนาทีที่ 22 หลังจากซาซ่าโชว์ฟอร์มเซฟมาหลายต่อหลายลูกก่อนหน้านี้

เกมหลังจากนั้นก็ยังเป็นวันเวย์ของยูไนเต็ดเหมือนเดิม แต่เกมโต้กลับของอัลบอร์กก็น่ากลัวไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะการขึ้นเกมทางกราบและลูกเปิดเข้ากลางประตู หลายครั้งที่ทำเอาน้าซาร์ต้องผวา แต่อัลบอร์กเนื่องจากไม่ชินกับการต้องเข้าทำเร็ว ทำให้มักจะถูกบล็อกจังหวะยิงสุดท้ายไว้ได้เสมอๆ ก่อนจบเกม โบแชมป์ที่เพิ่งอุทธรณ์โทษแบนผิดฝาผิดตัวผ่าน ก็ต้องเจ็บและกะเผลกออกไป โดยอัลบอร์กส่ง คาค่า ตัวจริงเสียงจริง//ฮ่าฮ่าฮ่า ลงสนามมาแทน และก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์เท่านี้



เริ่มครึ่งหลัง เกมยูไนเต็ดยังคงดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด อาจจะเป็นเพราะการแก้เกมของอัลบอร์กหลังจากที่เสียโบแชมป์ไป อาจส่งผลให้รูปเกมไม่สามารถต่อกันติดเหมือนช่วงก่อนจะเสียโบแชมป์ เพราะผมสังเกตว่าเกมโต้กลับ และเกมรับของอัลบอร์ก ดูจะด้อยประสิทธิภาพลงไปมาก และเริ่มมีลูกหนักออกมาให้เห็นมากขึ้น และราฟาเอลที่โชว์ฝีเท้าออกมาได้โดดเด่นสุดๆในเกมนี้ ก็ต้องถูกสังเวยไปอีกคน จากลูกเข้าแท็คเกิลช้าของอัลบอร์กที่ไปอัดเอาเข่าราฟาเอลอย่างจัง ทำให้เจ้าตัวต้องออกไปปฐมพยาบาลอยู่พักหนึ่งก่อนจะกลับมาลงเล่นแต่ด้วยสภาพที่ไม่เปรี๊ยะเหมือนเดิมซะแล้ว

ประตูที่สองได้มาอย่างเหลือเชื่อ จากลูกผิดพลาดของกองหลังอัลบอร์ก ที่ส่งคืนกันไม่ดี ทำให้จังหวะจ่ายจากตัวสุดท้ายไปแป้กใต้ลูก บอลกระดอนสูงมาเข้าเท้าดิมี่ ที่วอลเลย์เต็มเท้าส่งบอลซุกก้นตาข่ายแบบงงๆเหมือนกัน ประตูนี้ ทำเอาเจ้าถิ่นหมดกำลังใจไปเยอะ และทำให้ยูไนเต็ดผู้มาเยือนเริ่มผ่อนเกมลงได้มาก หลังจากได้ประตูที่สอง รูนี่ย์มีอาการเจ็บจนต้องหยุดเล่น และในที่สุด ก็ต้องเปลี่ยนตัวออกมา โดยท่านเซอร์ส่งเตเวซลงมาเล่นคู่กับดิมี่แทน และผลก็เป็นอย่างที่ผมต้องกลืนน้ำลายครับ นั่นคือ เตเวซที่เล่นได้เด่นกว่ารูนี่ย์มาตลอด กลับประสานงานกับดิมี่ได้ไม่ดีเท่ากับที่รูนี่ย์ทำได้ ทำให้บอลจากเตเวซและดิมี่ มักจะจูนกันไม่ค่อยติดเท่าไหร่ การประสานงานระหว่างสองคนนี้จึงเกิดขึ้นค่อนข้างน้อย




ช่วงนี้ราฟาเอลเริ่มหยุดเติมขึ้นสูงแล้ว น่าจะมีอาการเจ็บจากช็อตที่โดนอัดเข่า จึงขอเปลี่ยนตัว และท่านเซอร์ก็ส่งบราวน์ลงมาแทนราฟาเอล บราวน์ไม่ทำให้ผิดหวังครับ มีออกอาการให้เห็นตามคาดครั้งสองครั้ง แต่ไม่ถึงกับหวาดเสียวมากนัก เอาเป็นว่า หากราฟาเอลเล่นได้แบบนี้คงเส้นคงวาล่ะก็ ไม่ใช่แค่บราวน์หรอกครับ แกรี่เองก็ต้องหนักใจแล้วเช่นกัน เพราะเด่นจริงๆ ทั้งรุกและรับ ในขณะที่ริโอก็เติมเกมรุกได้เด่นมาตลอดตั้งแต่ครึ่งแรก แต่ตัวของริโอไม่ได้ทำให้เกมรับมีปัญหา เพราะลงมาทันทุกครั้งในจังหวะเสียบอล ตรงนี้ทำให้เกมโต้กลับในครึ่งหลังของอัลบอร์กหายไป ไม่วูบวาบเหมือนครึ่งแรก และถูกผู้มาเยือนดักไว้ได้ตลอด จนต้องเริ่มมายิงไกลแทน

ก่อนจบเกมเรายังได้เห็นประตูที่สามเกิดขึ้น เมื่อโรนัลโด้กระชากหลุดมาทางขวา ก่อนจะหลอกล่อสองกองหลังอัลบอร์ก และเปิดมาที่หัวกระโหลก ดิมี่รออยู่พอดี เอี้ยวตัววอลเลย์เต็มเท้าอีกแครั้ง ส่งลูกเข้าก้นตาข่ายได้อีกลูก เป็นประตูที่สามให้ผู้มาเยือนได้การันตีสามแต้มสำเร็จ แต่ก็ต้องแลกกับผู้เล่นไปสามคนเชียว หลังจากนั้นยังเกือบมีประตูที่สี่ เมื่อดิมี่จ่ายลูกทะลุสุดสวยให้โรนัลโด้ควบไปเอา ก่อนโยกหลบนายประตูซาซ่า แต่ดันยิงไปเข้าข้างตาข่าย ทำให้สกอร์ยังตรึงอยู่ที่สามลูก และก็จบเกมไปด้วยสกอร์เท่านี้




มาพูดถึงรูปเกม ทางฝั่งอัลบอร์กนั้น ไม่มีอะไรมาก เพราะบรู๊ซ ริอ็อค กุนซือเพื่อนร่วมชาติท่านเซอร์เองก็ดูจะรู้ดี จึงเน้นเกมเพรสซิ่งก่อนและโหมกระหน่ำเข้าใส่ในช่วงแรกที่ยูไนเต็ดยังตั้งหลักไม่ได้ แต่พอยูไนเต็ดตั้งหลักได้และครองเกมได้แล้ว อัลบอร์กก็หันมาเน้นเพรสซิ่งในแดนตัวเอง ตั้งรับแล้วรอสวนกลับ ซึ่งทีเด็ดก็มีจริงๆ จากกราบสองข้าง และลูกโยนเข้ากลาง เพียงแต่จังหวะสุดท้ายมักจะถูกแผงหลังยูไนเต็ดเก็บได้ซะเป็นส่วนใหญ่ และหลังจากเสียโบแชมป์ไป ทำให้ต้องปรับการยืนตำแหน่งใหม่ หลังจากนั้นเกมของอัลบอร์กดูจะลดประสิทธิภาพไปเยอะ ทำให้ยูไนเต็ดเล่นได้ง่ายขึ้น และน่าจะมีผลสืบเนื่องมาจากการที่เสียประตูไปแล้วด้วย ทำให้รูปเกมต้องเปลี่ยนไป

ในขณะที่ยูไนเต็ดเอง เกมนี้ได้ข่าวมาว่าท่านเซอร์ส่งสายสืบมาซุ่มโป่งดูฟอร์มอัลบอร์กมาก่อนแล้ว และน่าจะเห็นว่าอัลบอร์กนั้นเล่นเกมช้า ทำให้นัดนี้ ท่านเซอร์วางหมากมาเล่นสปีดเต็มที่ และกะใช้ความเร็วเข้าโจมตี รวมทั้งเน้นให้ลูกทีมพยายามเบิกสกอร์แรกให้ได้เร็วๆ เพื่อลดความกดดัน จะเห็นได้ว่า สโคลส์คุมเกมตรงกลางไว้ได้ โดยมีโอเชเป็นลูกหาบ และเมื่อเปลี่ยนสโคลส์ออกเป็นกิ๊กส์แทน กิ๊กส์ก็ยังคุมเกมตรงกลางไว้ได้เหมือนกัน และพยายามออกบอลเร็วตลอดเพื่อทะลุทะลวงแนวรับของอัลบอร์ก โรนัลโด้และนานี่ สลับฟากกันเล่นตลอดเวลา โดยที่ดิมี่ และรูนี่ย์ก็ผลัดกันขึ้นลงดึงตัวประกบถ่างแนวรับอัลบอร์กอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็ถือได้ว่าวันนี้ทำผลงานได้ดี และดูจากการเล่นก็พูดได้ว่าวางหมากมาได้ถูกต้องครับ



เกมการเล่นของดิมี่ ดูดีขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อเล่นร่วมกับรูนี่ย์ เราจะเห็นมาตั้งแต่นัดก่อนแล้วว่า รูนี่ย์มีพื้นที่ในแดนหน้ามากขึ้นให้เล่น และนั่นคือสิ่งที่รูนี่ย์ต้องการในเวลานี้ เพื่อเรียกจังหวะการเล่นและฟอร์มเดิมๆกลับมาให้ได้ ดิมี่ช่วยให้เกิดช่องว่างในแดนหน้ามากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่เตเวซเอง เมื่อเล่นกับดิมี่ก็ดูจะมีพื้นที่มากขึ้นเช่นกัน เพียงแต่อาจจะยังจูนเข้าหาดิมี่ไม่ติด ในขณะที่รูนี่ย์เริ่มๆจะจูนดิมี่ติดบ้างแล้ว เราเห็นอย่างนี้ก็น่าจะมีความหวังมากขึ้นกับการจบสกอร์ของทีม แต่ก็ต้องมาลุ้นกันก่อนนะครับ ว่ารูนี่ย์นั้น จะเจ็บขนาดไหน และกลับมาได้เมื่อไหร่ หวังว่าจะเจ็บไม่นานนะ

นอกจากนี้ เราได้เห็นเกมของราฟาเอลกันด้วย น่าจะตอบคำถามได้ในระดับหนึ่ง ว่าทำไมท่านเซอร์ถึงไม่ได้อนาทรร้อนใจมากมายนัก เมื่อโดนสเปอร์สดอดมาฉก อลัน ฮัตตัน และเมื่อเชลซีตัดหน้าสอยเอาโบซิงวาไป ทั้งสองตัวเป็นผู้เล่นในลิสต์ที่ท่านเซอร์ต้องการมากตั้งแต่ซีซั่นก่อน แต่แล้วก็ไม่มีการขยับตัวทาบทามฟูลแบ๊คอีกเลย กลับเงียบไปเฉยๆ ราฟาเอลคงตอบคำถามดังกล่าวได้ดีทีเดียว กับอายุอานามเพิ่งสิบแปด บวกลีลาและชั้นเชิงขนาดนี้ ไม่นับการหาจังหวะยิงไกล และการเติมเกมรุกได้โดดเด่น นี่จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านเซอร์ล้มแผนล่าฟูลแบ๊คเข้ารังครับ ราฟาเอลเล่นได้เนียนตามากกับจังหวะเติมทางกราบและการส่องจากแถวสอง นอกจากนั้น ลีลาการครองบอล การพลิกบอลและการดึงจังหวะก็สมเป็นสไตล์แซมบ้า ส่วนเกมรับก็ไม่ออกอาการลนลานหรือตื่นสนามแต่อย่างใด กลับมีช็อตขโมยลูกจากเท้าผู้เล่นอัลบอร์กหลายครั้งให้เห็นด้วยซ้ำ แต่ก็เจ็บไปอีกคนซะงั้น



สิ่งหนึ่งที่ผมยืนยันได้ว่าเกมของอัลบอร์กช้า ไม่เหมือนสปีดเกมของทีมจากอังกฤษก็คือ การที่สโคลส์ และกิ๊กส์ สามารถคุมเกมตรงกลางได้อย่างง่ายดาย ทั้งๆที่จับคู่กับโอเชด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่าอัลบอร์กจะพยายามเพรสซิ่งเร็ว เข้าบอลหนัก แต่ด้วยธรรมชาติบอลที่เล่นกันช้ากว่า ทำให้แต่ละจังหวะมักจะเข้าถึงบอลช้ากว่ายูไนเต็ดครึ่งก้าวเสมอๆ และเมื่อต้องเล่นหนักขึ้น การเข้าถึงบอลช้ากว่านี่แหละ ที่เป็นสาเหตุให้ผู้เล่นเราต้องออกจากสนามไปสามคน ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ใช่ความตั้งอกตั้งใจของนักเตะเจ้าถิ่นหรอกครับ เพียงแต่ด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะเข้าให้ถึงบอลก่อนหรืออย่างน้อยก็พร้อมๆกับผู้เล่นยูไนเต็ดนั่นเอง ที่ส่งผลให้หลายครั้งเบรคไม่อยู่ หรือยั้งไม่ทัน ก็ถือว่าดวงแตกไปก็แล้วกันนะ รูน, ราฟาเอล และสโคลส์

และการที่ราฟาเอลโชว์ฟอร์มได้แบบนี้ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นเกมไม่หนัก และไม่โดนทดสอบมากนัก แต่เมื่อบราวน์ลงมาแทนราฟาเอลช่วงท้าย มันก็ถือเป็นแบบทดสอบเดียวกัน ทำข้อสอบเดียวกันมิใช่หรือ แต่บราวน์ที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนกว่า มีชื่อในชุดแชมป์ยุโรปถึงสองสมัย กลับมีอาการเหวอเล็กๆน้อยๆออกมาให้เห็นอยู่บ้างในเกมนี้ และเมื่อมองไปถึงจอนนี่ อีแวนส์ ที่รอเสียบในตำแหน่งเซ็นเตอร์ อีกทั้งซิมป์สันก็ยังมีอีกคน ทำให้ผมเริ่มคิดแล้วว่า หากคราวนี้ บราวน์ไม่ยอมต่อสัญญาอีก ป๋าอาจไม่ลังเลที่จะอนุญาตให้บราวน์ย้าย เมื่ออีแวนส์มีประสบการณ์พอ แค็ทคาร์ธขึ้นมาสำรองได้ และเมื่อราฟาเอลปีกกล้าขาแข็ง กับซิมป์สันกลับมาจากยืมตัว อนาคตของบราวน์จะอยู่ที่ฝีเท้าตัวเองล้วนๆแล้วครับ




มาว่ากันถึงเกมรับ ถึงแม้นัดนี้จะไม่ถูกทดสอบมากนัก แต่จังหวะสวนกลับยามเราดันสูงนี่ก็ถือว่าได้เรื่องอยู่ ยังดีที่อัลบอร์กจบไม่คมและไม่เร็วพอจะเป็นสกอร์ แต่ที่เห็นชัดๆคือเอวร่าลงไม่ทันบ่อยมาก เห็นโรนัลโด้มาปิดให้หน้าเขตโทษตัวเองหลายจังหวะ เห็นวิดิช กับริโอต้องวิ่งน้ำบานมาปิดแบ๊คด้านเอวร่าบ่อยๆ นี่คือจุดสังเกตอีกข้อหนึ่งของกองหลังเรา หลายทีมก็เริ่มมองเห็นและเริ่มเอามาโจมตีเราบ่อยขึ้น ลูกที่เสียให้ลิเวอร์พูลก็ใช่ กลายเป็นกิ๊กส์ ที่มาบังบอลที่เส้นหลังแทนที่จะเป็นเอวร่าที่รับผิดชอบพื้นที่ และเมื่อคืนนี้ก็หลายช็อต ที่อัลบอร์กบุกเข้ามาบ้านเราทางฝังนี้ ตรงนี้ต้องรีบหาทางแก้ไขครับ

ส่วนเกมตรงกลาง โอเชทำหน้าที่ตามสั่งได้ดีพอตัว ถึงแม้จังหวะจ่ายยาวหลายครั้งจะพลาดบ่อยๆ แต่การเชื่อมเกมสั้นๆยังทำได้ดี ยังต่อเกมกับเพื่อนได้ดีและเป็นลูกหาบที่ดีใช้ได้ในยามขัดสนกองกลาง สมฉายาจับฉ่ายเขาล่ะ กิ๊กส์เองก็เด่นมากๆ สามารถคุมเกม ดึงจังหวะ คอนโทรลจังหวะได้ดี และจ่ายทะลุสวยๆได้มาก โรนัลโด้เริ่มเข้าฟอร์มร้อนอีกครั้ง ทั้งการลากเลื้อย และการประสานงานกับเพื่อนๆ แต่ฟรีคิกยังไม่กลับมาแฮะ ส่วนนานี่นี่ก็ยังฝืนไม่เลิก เล่นเสียจังหวะทีมบ่อยมาก หรือเป็นเพราะป๋าสั่งนานี่ให้เล่นแบบนี้ผมว่าก็ไม่น่าใช่ แต่อาจจะสั่งให้ยิงไกลหากมีจังหวะมากกว่า ดูจากหลายๆคนพยายามส่องจากแถวสองเมื่อมีโอกาส แต่อาบังนี่พยายามแต่จะสร้างโอกาสยิงไกลแฮะ

เกมรุกก็คงต้องขอชมเชย ที่เริ่มแสดงความหลากหลายในการเข้าทำออกมาเรื่อยๆ มีทั้งเจาะทะลุ ทำชิ่งหนึ่งสอง ส่องไกล เปิดเข้ากลาง หรือแม้แต่ลากเข้าไปทำเอง การวิ่งของดิมี่เริ่มดูดีมีประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ มีส่วนให้รูนี่ย์เล่นง่ายขึ้น ครั้นเมื่อเตเวซลงมา เกมรุกของยูไนเต็ดก็เปลี่ยนไปอีกมิติหนึ่ง เพราะการเข้าทำของรูนี่ย์และเตเวซ ถึงแม้จะเป็นกองหน้าสไตล์ใกล้เคียงกัน แต่จังหวะการเข้าทำต่างกันพอสมควร เตเวซจะหาช่องทะลุทะลวงเข้าไปได้ด้วยตัวเองได้ดีกว่ารูนี่ย์ แต่รูนี่ย์จะเล่นประสานงานกับเพื่อนและเก็บบอลได้ดีกว่าเตเวซ นี่น่าจะส่งผลให้กองหลังคู่ต่อสู้ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน กับการเปลี่ยนรูนี่ย์ออกส่งเตเวซลงมา




เอาล่ะครับ คงพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ก็หวังว่าทั้งสามคนที่ลงเปลออกไปจะเจ็บไม่มากนัก และกลับมาได้ในเร็ววันนี้ ไม่งั้นงานเข้าอีกแน่ๆ เมื่อ คุสแซ็ค, ฟอสเตอร์, แกรี่, คาร์ริค และฮาร์กรีฟส์ต่างนอนเล่นอยู่ รพ. กันหมดแล้ว หากต้องเสียอีกสามคนนี่แย่แหงๆ

เอาใจช่วยกันหน่อยนะครับ อีกนัดเดียวกับแบล๊คเบิร์นก็จะพักให้ทีมชาติแล้ว เอาใจช่วยให้เก็บสามแต้มได้สำเร็จกันนะครับ

สงบใจ



Create Date : 01 ตุลาคม 2551
Last Update : 1 ตุลาคม 2551 11:52:46 น. 0 comments
Counter : 462 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.