Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
11 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
20090511 วิพากษ์ MAN. UNITED vs MAN. CITY

ค่อยๆคืบคลานใกล้ความจริงเข้าไปอีกก้าว


สวัสดีครับ ทุกๆท่าน ก็เข้าใกล้ความจริงเข้าไปอีกก้าวแล้วนะครับ สำหรับความหวังที่จะครองแชมป์ลีกสูงสุดสามสมัยติดต่อกันเป็นครั้งที่สองของสโมสรเรา หลังจากเมื่อคืนวันเสาร์นั้น ทางฝั่งผู้ไล่ล่า ได้พยายามอย่างไม่ลดละ ในการตามจี้ติดก้นผู้นำอย่างเรา และทำได้สำเร็จ สามารถแซงหน้าไปเป็นจ่าฝูงได้หนึ่งคืน (อีกแล้ว) ซึ่งนั่น ไม่ได้ทำให้เราท้อแท้ ท้อถอยแต่อย่างใด เรายังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และความนิ่งที่เหนือกว่า ด้วยการเปิดรังเชือดอริร่วมเมืองไปแบบชิลล์ๆ นิ่มๆ เมื่อค่ำที่ผ่านมา ส่งผลให้เราแซงกลับไปนั่งบัลลังก์จ่าฝูงได้อีกครั้ง

การปรับทัพผู้เล่นในนัดนี้ หลังจากริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้รับบาดเจ็บจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกเลกสองกับอาร์เซน่อลที่ผ่านมา ท่านเซอร์ก็ออกประกาศิตให้เจ้าตัวได้นั่งบนอัฒจรรย์ในนัดนี้ โดยเจ้าตัวยังอุตส่าห์มานั่งชมเกมกับ ริคกี้ แฮตตันอีกต่างหาก ผู้รักษาประตูในวันนี้ยังคงเป็นน้าซาร์ ที่ใส่เสื้อเหลืองนำโชคอีกครั้ง (เสื้อสีฟ้า เสียประตูเยอะจริงจริ๊งงงง...มีคนตั้งข้อสังเกตมา) ส่วนแผงหลังทั้งสี่ ประกอบด้วย ราฟาเอล ดาซิลวา, เนมานย่า วิดิช, โจนาธาน อีแวนส์ และ ปาทริซ เอวร่า กองกลางปรับมาเล่นสี่คน นั่นคือ ปาร์ค ชี ซอง, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ผู้โชคร้าย, ไรอัน กิ๊กส์ และ คริสเตียโน โรนัลโด้ กองหน้าเลือกคาร์ลอส เตเวซ และ ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ โดยนัดนี้ วางหมาก 4-4-2 ตามถนัด หรืออาจจะมองให้เป็น 4-4-1-1 ก็พอได้ หากจะมองว่า เบอร์บาตอฟยืนค่อนข้างต่ำอยู่ข้างหน้ากองกลาง

สำหรับผู้มาเยือน แม้ไม่มี ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์ แต่ก็ได้โรบินโญ่ และเอลาโน่ ที่กำลังฮ็อตเป็นแพ็คคู่ มาลงสนามเป็นผู้เล่นแนวรุกริมเส้นทั้งสองฝั่ง โดยวาง ไนเจล เด ยองก์ มาเป็นตัวรับคู่กับแวงซองต์ กองปานี มีสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ลงมาเป็นตัวรุกตรงกลาง ผู้รักษาประตูยังคงเป็นเชย์ (ยังไม่ตาย) กิฟเว่น แผงหลังสี่คนไล่เรียงมาดังนี้ ไมกาห์ ริชาร์ดส์, เนดุม โอนูฮา, ริชาร์ด ดันน์ และ เวยน์ บริดจ์ และหน้าเป้ายังไว้วางใจเฟลิปเป้ ไซเซโด้ เหมือนเช่นเคย ยังครับ...ขุมกำลังรุกของซิตี้ ยังมีมากกว่านั้น เมื่อไล่สายตาปรายดูซุ้มม้านั่งสำรองข้างสนาม ก็ยังพบร่างของ มาร์ติน เปตรอฟ และวาเลอรี่ โบยินอฟ เป็นกำลังสนับสนุนชั้นยอดอีกต่างหาก

เริ่มเกม ก็สมกับที่เป็นแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ตามคำร่ำลือ ผมไม่ทราบว่าทางมาร์ค ฮิวจส์ หรือทีมสต๊าฟฟ์ โค้ชของฝั่งซิตี้ มีการปลุกเร้าอารมณ์ร่วมของลูกทีมอย่างไรนะครับ ถึงทำให้นักเตะต่างชาติหลายๆคน คึกคักมากขนาดนี้ จนหลายๆครั้ง ผมเองยังรู้สึกเลยว่า นักเตะของซิตี้ เล่นได้สมแพสชั่นของดาร์บี้แมทช์นี้จริงๆ แมนฯ ซิตี้พยายามเร่งจังหวะเกมทุกช็อต เข้าหา ไล่ล่า ปะทะแย่งชิงบอลทุกๆตำแหน่งตั้งแต่เสียงนกหวีดแรก ถูกพ่นออกจากปากของคริส ฟอย ผู้ตัดสินจากเมอร์ซี่ย์ ไซด์! แต่ยูไนเต็ดยังพยายามถ่ายบอลหนีตามช่องไปเรื่อยๆ เพื่อลดแพสชั่นของทีมเยือนลง และหาทางชลอสปีดเกมลงเพื่อเน้นความแน่นอนตามสไตล์ถนัด ซิตี้ดูจะไล่และครองบอลได้ดีในช่วงแรกๆ แต่ยังจบได้ไม่น่าหวาดเสียว ต่างจากเจ้าบ้าน ที่ดูจะฉาบฉวยและหวาดเสียวในจังหวะจบได้มากกว่า

เกมนี้ เบอร์บาตอฟที่ดูฟิตมากขึ้น และมีเรี่ยวแรงมากขึ้น พยายามลงมาต่ำ เพื่อช่วยไรอัน กิ๊กส์เก็บและครองบอล เมื่อเห็นกิ๊กส์ชักจะมีปัญหาในการเอาตัวรอดจากการไล่ล่าเข้าบอลเร็วมากๆของทีมเยือน โดยเฉพาะบริดจ์, เด ยองก์ และ กองปานี การเข้ามามีส่วนร่วมตรงกลางสนามของเบอร์บาตอฟ จึงช่วยให้เกมตรงกลางของยูไนเต็ดดีขึ้น นอกจากนี้ ปาร์คยังหุบเข้ามาช่วยหลายครั้ง โดยถ่างเตเวซออกทางกว้างมากขึ้น เพื่อสร้างความสับสนให้ตัวประกบ การครองบอลของเจ้าบ้านดีขึ้นทันตาเห็น และเริ่มกดดันได้อย่างต่อเนื่อง ซิตี้ต้องหยุดโรนัลโด้, เบอร์บาตอฟ รวมทั้งปาร์ค และเตเวซด้วยการทำฟาล์ว และหนึ่งในนั้นคือการที่ไอร์แลนด์ไปสอยดิมี่จากข้างหลังบริเวณหน้ากรอบเยื้องไปทางซ้าย โรนัลโด้ตั้งลูก เล็งวิถี และยิงไปตรงกำแพงที่ปาร์คเฝดตัวออกไปให้ บอลพุ่งแรงแฉลบกำแพงนิดหนึ่ง แต่เพียงพอที่จะทำให้กิฟเว่นผวากลับมาปัดไม่พ้น เจ้าบ้านออกนำไปก่อนตั้งแต่นาที 18

จากนั้น เกมกลายเป็นของเจ้าบ้านอย่างสิ้นเชิง แต่กลับดูจะผ่อนเกมลงไปอีกแล้ว เล่นเอาท่านเซอร์ต้องออกอาการโหวกเหวกเรื่อยๆอยู่ข้างสนาม ยูไนเต็ดครองเกมได้มากกว่า แต่ก็เน้นความแน่นอนในการเข้าทำ จังหวะจบจึงไม่ได้มีมากกว่าผู้มาเยือนอย่างเห็นได้ชัดเจนนัก เพียงแต่ความต่างก็คือ เจ้าบ้านจบได้ลุ้นกว่ากันเยอะ ไม่ว่าลูกยิงชนสามเหลี่ยมของเตเวซ หรือลูกทะลุทะลวงที่ได้ลุ้นตลอด เพียงแต่จังหวะมันยังไม่ลงตัว ส่วนเกมโต้กลับของซิตี้ กลับถูกวิดิชปิดประตูบ้านล็อคแน่นหนามากซะจนทำอะไรไม่ได้ถนัด การยิงไกลแต่ละลูกก็มักจะถูกแถวสองเข้าบล๊อคปิดทางได้หมด โรบินโญ่เองถึงแม้จะดวลกับราฟาเอลได้ดี แต่ดูเหมือนป๋าก็อ่านขาด และรู้ว่าราฟาเอลยังพรวดพราดอยู่ แต่ความเร็วเขาสูง จึงใช้ประโยชน์ตรงนี้ครับ เอาความสดความเร็วของราฟาเอลมาชลอและปิดทางโรบินโญ่ ถึงสุดท้ายจะพรวดจนโรบินโญ่หลุดไปได้ แต่ตอนนั้น ทั้งปาร์ค, เฟล็ทเชอร์ หรือวิดิชก็เข้ามาซ้อนมารองมาได้ทันท่วงที

ยิ่งเวลาผ่านไป โรบินโญ่ต้องหุบเข้ามากลางมากขึ้น เพื่อช่วยต่อบอลตรงกลางกับไอร์แลนด์ ยิ่งทำให้งานของราฟาเอลน้อยลงพอสมควร โรบินโญ่ยิ่งขยับมากลาง พื้นที่ยิ่งแน่น และง่ายต่อการปิดทางและสกรีนแนวรุก ในขณะที่จังหวะสวนกลับของเจ้าบ้านยังเปี่ยมอันตรายเช่นเดิม และจากจังหวะสวนกลับ เฟล็ทเชอร์วางยาวขึ้นหน้า เบอร์บาตอฟดูดบอลลงอย่างเหนือชั้น ก่อนจะดึงจังหวะนิดหนึ่ง และไหลเบาๆให้เตเวซที่เติมตามมา เตเวซพลิกเข้าขวา ลากหนีหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดด้วยขวา บอลข้ามมือกิฟเว่นกระแทกเสาสองเข้าตาข่ายอย่างสวยงามในนาทีเกือบสุดท้ายของครึ่งแรก ให้เจ้าบ้านได้ประตูที่ลดแรงกดดันได้อย่างมากในเวลาที่ต้องการจริงๆ

ครึ่งหลัง ยังคงไม่มีการปรับหมาก แต่โรบินโญ่ หุบเข้ามาเล่นตรงกลางบ่อยขึ้น แถมยังเคลื่อนที่ในแนวรุกคล้ายๆตัวฟรี คอยเชื่อมเกมกลางไปหน้า และซ้ายขวา เพื่อช่วยลดภาระไอร์แลนด์ ไมกาห์และเวย์น บริดจ์เติมเกมมากขึ้นกว่าครึ่งแรก ในขณะที่เจ้าบ้านเอง ยังผ่อนเกมลงได้อีก(หรือนี่) ทำเอากองเชียร์อย่างผมชักใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ซิตี้มีโอกาสจบมากขึ้น ในขณะที่เจ้าบ้านหันมาเน้นลูกโต้กลับเต็มพิกัด ปาร์คหุบเข้ามาในบ่อยขึ้น เตเวซถ่างไปเล่นในที่ว่างริมเส้นทางขวาบ่อยๆ แต่ที่ผิดคาดเลยก็คือ เกมโต้กลับเต็มตัวแบบนี้แต่โรนัลโด้ยืนปีก นี่ทำให้เจ้าโด้หายไปจากเกมซะเฉยๆ กลายเป็นเบอร์บาตอฟ กับกิ๊กส์ ที่มักจะครองบอลไว้ ก่อนจะมองหาเพื่อนเพื่อวางบอลไปข้างหน้า และก็มักจะวางไปทางขวาที่มีเตเวซบ้าง ปาร์คบ้าง ที่หาพื้นที่ได้ดี เพื่อเข้าทำเร็ว มากกว่าจะวางไปทางซ้ายให้โรนัลโด้ไปวิ่งติ๊ดชึ่งกับริชาร์ดส์

ป๋าขยับเปลี่ยนตัวก่อน โดยส่งเวย์น รูนี่ย์ลงมาแทน โรนัลโด้ และเอาสโคลส์ลงมาแทนปาร์ค ช็อตนี้ ทำเอาเจ้าโด้แต๋วแตกทันที หงุดหงิดเป็นที่ยิ่ง พอสต๊าฟฟ์ส่งเสื้อวอร์มให้ก็กลับกระชากมันจากมือสต๊าฟฟ์ทิ้งลงพื้นไป ทำเอากล้องพยายามจับภาพโด้อย่างมันมือตลอดเกมที่เหลือ แต่ป๋าก็ยังออกมาปกป้องด้วยการบอกว่า เด็กมันกำลังฟอร์มดี ฟอร์มเพิ่งกลับมาสุโค่ย แถมลุ้นดาวซัลโวอยู่ด้วย ย่อมอยากเล่นต่อเป็นธรรมดา จึงหงุดหงิดตอนถูกเปลี่ยนตัว แต่ป๋าไม่มีทางเลือก ช่วงนี้ป๋าต้องพยายามรักษาสภาพความสดและความพร้อมของนักเตะ เข้าใจป๋านะลูกนะ การปรับหมากคราวนี้ ป๋าเน้นไปที่ตรงกลาง ที่เริ่มจะเสียการครองบอลอย่างถาวรให้ซิตี้ และสวนได้ไม่แม่นยำรวดเร็วพอ โดยหันมาเน้นการวางบอลยาวของสโคลส์ที่แม่นยำกว่าในการจ่ายบอลยาวขึ้นหน้าในจังหวะสวนกลับ หรือจ่ายข้ามฟากหนีตัวประกบนั่นเอง

เฟล็ทเชอร์และสโคลส์ยืนเป็นด่านรองบอลหน้าแผงหลัง มีกิ๊กส์และเบอร์บาตอฟเป็นตัวเชื่อมเกมข้างหน้าให้สองตัวรุก รูนี่ย์ และเตเวซ ที่พล่านหาที่ว่างตามสไตล์ ม. หมูคึกคักทั้งคู่ ในขณะที่มาร์ค ฮิวจส์เอง เมื่อเห็นครองเกมได้มากกว่า แต่หาจังหวะจบหวาดเสียวไม่ค่อยได้ และตัวเองก็ไม่มีความเสี่ยงอะไรในเกมนี้ด้วย จึงขยับเพิ่มตัวรุกเข้ามาอีก ด้วยการส่งโบยินอฟ และเปตรอฟ ลงมาแทนไซเซโด้ และเด ยองก์ ในขณะที่เจ้าบ้านเอง อีแวนส์เริ่มมีอาการเจ็บจากการขึ้นปะทะโรบินโญ่ ป๋าจึงส่งโอเชีย จับฉ่ายในดวงใจ ลงมายืนแทนตรงกลาง เกมกลายเป็นการครองบอลรุกของซิตี้มากกว่า จังหวะจบก็เริ่มมีมากขึ้น เพียงแต่มักจะจบด้วยการยิงไกลที่ไม่ผ่านมือน้าซาร์ มีเพียงการสอดทะลุเข้ามาของโรบินโญ่ที่ดูน่าจะเป็นสกอร์เหลือเกิน แต่เจ้าตัวก็ถูกราฟาเอลที่ตามบีบจากข้างหลังทำให้ยิงบิดหนีออกข้างไปเยอะ

เจ้าบ้านมีโอกาสครองบอลกดดันบ้างเหมือนกัน แต่จังหวะจบยังไม่ได้ลุ้นมากนัก มีเพียงลูกเตะมุมจากฝั่งขวาที่เฟล็ทเชอร์โหม่งเช็ดมาเสาสอง เตเวซพุ่งตัวตามไปหมายจะขวิดเข้าให้ได้ แต่ก็ต้องเบรคสุดตัวเมื่อพบกับเสาประตู บอลไปปะทะเสาสองก่อนจะกระดอนไปอย่างไม่น่าเชื่อ ลูกที่สโคลส์หลุดเดี่ยวไปแต่ไม่ได้ยิงนั่นก็น่าเสียดายเหมือนกัน ซิตี้มีการเปลี่ยนเกมครั้งสุดท้ายด้วยการส่ง เชด อีแวนส์ ลงมาแทนโรบินโญ่ในช่วงทดเจ็บ แต่ก็คงไม่ได้หวังอะไรมากนัก และอาจจะเป็นโรบินโญ่ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยมากกว่า เกมจบลงโดยชัยชนะและสามแต้มเป็นของเจ้าบ้าน แซงขึ้นไปนั่งหนาวอยู่ข้างบนคนเดียวต่อไปอีกครั้ง

จบเกมนี้ลงไป ผมมีความรู้สึกแปลกๆวนเวียนในหัวมากมาย อันที่สำคัญที่สุดก็คือ เพราะเหตุใด เราจึงหันมาเน้นเกมรับมากเกินพอดีขนาดนั้น เป็นเกมรับที่ผิดไปจากขนบเดิมๆของเรา ทั้งๆที่ครึ่งแรกเอง เราก็ไม่ได้โหมหรือเร่งเกมอะไรมากนัก แต่กลับครองเกมได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วทำไมจู่ๆในครึ่งหลัง เราจึงปล่อยให้เขาครองเกมกดข้างเดียวขนาดนั้น จะว่าท่านเซอร์พยายามลองเกมรับก็ใช่ที่ เพราะท่านเซอร์เองนั่นแหละ ที่ออกมาว้ากข้างสนามไปหลายดอก แต่ก็มีความเป็นไปได้หนึ่ง นั่นคือนักเตะอาจจะพยายามเลี่ยงการปะทะ เลี่ยงการบอบช้ำ เพื่อถนอมร่างกายเอาไว้บดในสามเกมสุดท้ายที่เหลือของซีซั่นอย่างเต็มๆนั่นเอง ตรงนั้นอาจเป็นไปได้ครับ พอเลี่ยงปะทะ ก็เลยทำให้จังหวะ 50:50 กลายเป็นซิตี้ชนะตลอด นั่นอาจจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เราครองบอลในครึ่งหลังไม่ได้

แต่เกมนี้ นอกจากการที่เอากิ๊กส์ลงมาประคองเกมตรงกลางเพื่อพักคาร์ริค, แอนนี่ และเก็บสโคลส์เป็นสำรองแล้ว ก็ต้องบอกว่า กิ๊กส์ทำผลงานได้ตามมาตรฐานที่แก่ตัวลงไป คือถูกบีบจนเสียบอลบ่อย แต่ไม่เสียหายมากนัก หรือจ่ายผิดพลาดเรื่อยๆ เพราะถูกเข้าบอลเร็ว แต่ก็ช่วยสกรีนเกมรับได้ดี ชลอเกมซิตี้ได้มาก ซึ่งก็ต้องถือว่าบรรลุความประสงค์แล้ว เกมนี้ก็ต้องชมเฟล็ทเชอร์ครับ ที่ยืนประคองหน้าแผงหลังได้ดีมากๆ ตัดบอลจังหวะทะลุได้หลายครั้ง ทำเอาริโอปรบมือให้ก็มีให้เห็นด้วย อีแวนส์เองก็ทำหน้าที่รองเอวร่าที่มีริชาร์ดส์คอยเติมช่วยเอลาโน่ได้ดี เอวร่านัดนี้ก็ต้องยกย่องเช่นกัน เมื่อปีกอย่างโด้ไม่ลงมาช่วย เขาก็ทำหน้าที่ตามลำพังได้ดีในเกมนี้ โดยมีอีแวนส์ช่วยซ้อนจังหวะสองให้

แต่ผู้ที่ต้องรับเครดิตจากผมไปเต็มๆในเกมนี้ ผมมีสามคนครับ คนแรกคือวิดิช ที่ผมมองว่าเป็นกุญแจโซเล็กซ์ของทีมจริงๆ ลูกกลางอากาศนี่พี่แกสกัดได้เรียบวุธ ลูกชิงจังหวะกับโรบินโญ่ แกก็ชิงตัดได้ก่อนหลายครั้ง ลูกที่ไปกวาดเอามาจากเท้าของนักเตะซิตี้ในกรอบโทษลูกนั้น ทำเอาผมลุกยืนปรบมือให้เลยครับ ต้องยอมรับจริงๆว่าวิดิชตอนนี้เป็นหัวใจในแนวรับของเราอย่างแท้จริงครับ ที่ริโอเจ็บน้อยลงในปีหลังๆนี่ก็ต้องยกย่องวิดิช ที่เก็บลูกกลางอากาศได้มากซะจน ริโอสามารถผ่อนคลายแผ่นหลังที่เจ็บเรื้อรังไปได้เยอะทีเดียว ส่วนโรนัลโด้ ครึ่งแรกกำลังเข้าฟอร์มพีคอยู่แล้วเชียวแต่พอครึ่งหลังมาเน้นรับ เจ้าตัวเลยหายไปจากเกมนานหน่อย แต่ดูอากัปกิริยาแล้ว น่าจะยังหวังจากจังหวะโต้กลับที่มีพื้นที่มากๆนี่แหละ เจ้าตัวถึงได้หงุดหงิดขนาดนั้น ตอนโดนป๋าถอดออกมา (อาจจะหวังยิงในลีกยี่สิบลูกอัพด้วย เพื่อการันตีดาวซัลโว เพราะเจ้าตัวกคงคาดว่าตัวเองอาจถูกดร็อปในเกมฮัลล์ ซิตี้ เพื่อเตรียมตัวเซิ้งบาร์ซ่า ก็เป็นได้)

คนที่สองก็คือเบอร์บาตอฟ การวิ่งขึ้นวิ่งลง ครองบอลของเขาชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าช่วยทีมได้มาก และหากจะนับลูกแรกที่เจ้าตัวเป็นคนเรียกฟาล์วอันนำมาซึ่งประตู ก็บอกได้ไม่ผิดว่า เบอร์บาตอฟทำสองแอสซิสต์ในเกมนี้ และอาจจะมากกว่านั้นอีก ถ้าปาร์ค ถ้าเตเวซยิงเข้ามากกว่านี้ และคนที่สามก็คือ เตเวซ ที่พล่านทำเกมข้างหน้าได้เด่นมากๆ ยิงชนเสา ยิงเข้าไปหนึ่ง เกือบตามซ้ำเข้าไปอีกหนึ่ง และเป็นแพสชั่นของเกมนี้อย่างแท้จริง เสียดายที่ไม่ทราบว่าเดวิด กิลล์คิดอะไรกับเตเวซและเคีย ชูรับเชียนอยู่ แต่ผมเชื่อว่า ถ้าถามป๋า ป๋าเอานะ เพียงแต่ช่วงหลังๆผมสังเกตว่า ป๋าเลี่ยงและไม่พยายามตอบคำถามเกี่ยวกับเตเวซ ซึ่งผมคาดการณ์เอาเองว่า เรื่องนี้ มันเป็นเรื่องของธุรกิจมากกว่าคอนเซ็ปต์ของฟุตบอลไปแล้ว และทำให้กลายเป็นงานของเดวิด กิลล์มากกว่างานของป๋า เมื่อค่าตัวมหาศาลเข้ามาเอี่ยว โดยที่ป๋าเองก็เพิ่งเบิกเงินไปถอยเบอร์บาตอฟมาหมาดๆ อันอาจทำให้เสียงของป๋าต้องเบาลงไปอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อเราสามารถแซงกลับมายึดฝูงได้อีกครั้ง ทำให้ฉีกนำผู้ตามไปเป็นสามแต้มเช่นเดิม และเหลือนัดตกค้างอีกนัดในวันพุธกับเกมเยือนวีแกน ซึ่งคงไม่ต้องคิดมากนัก สามแต้มเท่านั้นที่ต้องการใช่ไหมครับ และหากเราทำสำเร็จ เราก็จะฉีกไปเป็นหกแต้ม และเหลือเกมสองนัดตามโปรแกรมเท่าๆกับลิเวอร์พูล สามารถตัดเชลซีออกจากการลุ้นแชมป์อย่างเป็นทางการทันทีในอีกทางหนึ่งด้วย ก็นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญมากอีกก้าวหนึ่ง ที่เราจะต้องไม่พลาด และต้องเน้นในทุกๆรายละเอียดของเกม ตอนนี้ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของท่านเซอร์และลูกทีม ก็น่าจะเป็นการคว้าแชมป์ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อพักลูกทีมไว้ รอการรำมะนาแข้งรอบชิงชนะเลิศที่กรุงโรม ให้นักเตะเราพร้อมที่สุดครับ เพราะทางคู่แข่งเอง ถึงจะยังไม่สามารถฉลองแชมป์ได้ในวันนี้ แต่เชื่อเหลือเกินว่า สุดสัปดาห์หน้าเขาน่าจะฉลองได้แล้ว และถ้าตอนนั้นเรายังไม่ได้ฉลอง ก็เชื่อได้เลยว่า ความสดของเราต้องเป็นรองบาร์ซ่าแน่นอน ในวันที่ต้องลงแข่งขันกันที่โรม

ดังนั้น ตอนนี้ ลุ้นสามแต้มจากเจเจบี สเตเดี้ยมกันก่อนครับ

แล้วมาลุ้นกันนะครับ

สงบใจ



Create Date : 11 พฤษภาคม 2552
Last Update : 11 พฤษภาคม 2552 10:49:55 น. 1 comments
Counter : 408 Pageviews.

 
good post of the day digg


โดย: prempcc วันที่: 12 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:21:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.