|
20100329 วิพากษ์ BOLTON vs MAN. UNITED
ตุนไว้ก่อน...พ่อสอนไว้
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกๆท่าน กับบทวิพากษ์ประจำสัปดาห์ วันนี้คงขออนุญาตพูดถึงรูปเกมเมื่อคืนวันเสาร์แต่พอหอมปากหอมคอนะครับ ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะรายละเอียดเกมมันไม่ได้มีอะไรมากมายให้พูดถึงนัก แต่ผมจะขอพูดถึงภาพรวมของการชิงชัยในศึกพรีเมียร์ลีก รวมทั้งแชมเปี้ยนส์ ลีกที่กำลังงวดเข้ามาเรื่อยๆกันดีกว่านะครับ ซึ่งหลังเกมกับบาเยิร์น มิวนิค ก็คงจะตามมาในวันมะรืนนี้ค่อนข้างแน่ หากผมไม่ได้มีธุระด่วนอะไรมาขัดจังหวะ
การจัดทัพในนัดนี้ สำหรับเจ้าบ้านที่เพิ่งไปสอยกุนซือโอเว่น คอยล์มาจากเบิร์นลีย์นั้น ก็ตกเป็นข่าวก๊อสซิปในทำนองที่ว่า คอยล์จะเข็นโบลตันทำแสบกับผีแดงในบ้านได้เหมือนกับที่เขาเคยพาเบิร์นลีย์หักปากกาเซียน พาลูกทีมเก่าเฉือนแชมป์เก่าได้ในเกมลีกนัดที่สองนั่นเอง เกมนี้คอยล์ได้แกรี่ เคฮิลล์กลับมาหลังจากเป็นลิ่มเลือดที่แขน (ของโอเชน่าจะเป็นที่ขานะ) โดยมียุสซี่ ยัสเคไรเน่นเฝ้าเสา แผงหลังสี่ตัวมี แซมมวล ริคเก็ตส์, แกรี่ เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล และ แซท ไนท์ แผงมิดฟิลด์วันนี้ส่ง ลี ชุง ยอง ฟาบริซ มูอัมบ้า ทาเมียร์ โคเฮน แจ๊ค วิลเชียร์ โดยวางโยฮัน เอลมานเดอร์ และ เควิน เดวี่ส์ เป็นหน้าเป้า
ส่วนทางฝั่งผู้มาเยือนดีกรีแชมป์เก่าที่เพิ่งตกมาอยู่อันดับสองได้ไม่กี่ชั่วโมง ถึงแม้ป๋าจะให้สัมภาษณ์ว่ารูนี่ย์ฟิตปั๋งแต่ก็ไม่ยอมใส่ชื่อลงมาแม้แต่ให้นั่งข้างสนาม โดยนัดนี้ป๋าส่งเอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์เฝ้าเสา แผงหลังมีแกรี่ เนวิลล์, เนมานย่า วิดิช, จอนนี่ เอแวนส์ และ ปาทริซ เอวร่า ส่วนแผงกลางวันนี้อัดมาสามคนได้แก่ พอล สโคลส์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และส่งกิ๊กส์ลงมาเป็นหน้าต่ำ ด้านซ้ายมีหลุยส์ นานี่ ด้านขวามีอันโตนิโอ วาเลนเซีย หน้าเป้ามีดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เกมนี้เท่ากับว่าป๋าเราดร็อปทั้งริโอและรูนี่ย์ออกจากเกมโดยไม่ใส่ชื่อไว้เลย ส่วนตี๋ดริ๊ฟท์ของเราและไมเคิล คาร์ริคยังมีชื่อเป็นสำรองข้างสนาม ซึ่งการคาดการณ์เรื่องการจัดตัวตรงนี้ผมคงขอยกยอดไปพูดในช่วงท้ายต่อไปครับ
รูปเกมก็ต้องบอกว่าทั้งคู่มาในสไตล์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เจ้าบ้านโบลตันนั้นถูกคอยล์เน้นอย่างเต็มที่ให้ลงสนามมาด้วยเกมหนัก เพรสซิ่งไล่บี้เร็ว และเข้าหาบอลทุกจังหวะ แท็คเกิ้ลทุกดอก ซึ่งป๋าเราก็คงพอทราบเป็นนัยๆอยู่ก่อน นัดนี้จึงไม่ได้เน้นให้ลูกทีมครองบอลมากนัก แต่พยายามหาเพื่อนจ่ายบอลและเคลื่อนที่เข้าทำเร็ว ใช้บอลน้อยจังหวะ ดังจะเห็นว่ามีความพยายามที่จะจ่ายบอลในรูปแบบคิลเลอร์พาสบ่อยๆ แต่ปัญหาคือ กิ๊กส์-เบิร์บไม่ใช่คู่หูคู่ดูโอที่มองตาก็รู้ใจ บอลขึ้นหน้าในลักษณะนี้จึงมักจะ ตาย มากกว่าจะได้ลุ้น แถมพอเสียบอลให้โบลตันปุ๊บ ถ้าไม่แทงยาวออกปีก พี่แกก็สาดขึ้นหน้าทันทีโดยมีเป้าใหญ่สองเป้าคือเอลมานเดอร์ และเดวี่ส์ ซึ่งมีดีคนละอย่างแต่ดันเล่นลูกกลางอากาศได้ดีพอกัน เดวี่ส์นั้นหากใครติดตามบอลอังกฤษมานานหน่อยจะทราบดีว่าหมอนี่โด่งดังมาตั้งแต่ยุคที่เล่นให้กับนักบุญแดนใต้แล้ว เดวี่ส์มีดีที่ถึงแม้จะไม่สูงใหญ่มากนัก แต่ดันเล่นลูกกลางอากาศได้ดีมากๆ เคยได้ดิบได้ดีถึงขนาดมีกระแสให้กุนซือทีมชาติลองเรียกดูบ้าง แต่ปัญหาของเจ้าตัวที่ถือว่าทำให้โค้ชต้องคิดหนักก็คือ แกช้าครับ และมักมีลูกตอดลูกฟาล์วนอกเกมใส่กองหลังเป็นประจำ จะว่าตั้งใจก็คงตอบไม่ได้ แต่เท่าที่ผ่านมาเดวี่ส์มีปัญหาเรื่องนี้มาตลอด คือปีหนึ่งๆอาจจะได้ใบเหลืองสูสีกับจำนวนประตูที่ยิงด้วยซ้ำไป แต่ก็นับว่าเป็นกองหน้าที่กดดันกองหลังได้ดีมากๆคนหนึ่งในวงการ โดยเฉพาะหากมาอยู่กับทีมที่เล่นไดเร็กต์จ๋าแบบนี้ ส่วนอีกคนคือเอลมานเดอร์ที่รูปร่างสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ดี แต่ก็ยังมีดีที่ความแข็งแกร่งพาบอลไปกับตัวได้ดี และหาจังหวะยิงได้ดี เพียงแต่ความคมยังคงต้องพิสูจน์กันต่อไป และสองกองหน้าที่ว่ามาของโบลตันก็สร้างปัญหาให้เราได้มากทีเดียวโดยเฉพาะในช่วงแรกๆของเกม
การวางบอลยาวขึ้นหน้าของโบลตันสวนเกมรุกของเรานั้น ทำให้การวางกำลังป้องกันของเราทำได้ไม่ดีนัก กลางไม่มีโอกาสได้สกรีนบอล ส่วนฟูลแบ๊คก็ลงมาประจำตำแหน่งไม่ทัน ภาระหนักจึงตกมาอยู่ที่คู่เซ็นเตอร์อย่างเอแวนส์และวิดิช ที่ต้องพุ่งสมาธิอย่างหนักไปที่การตัดบอลกลางอากาศในจังหวะแรกชนิดปล่อยให้พลาดไม่ได้ เพราะตัวที่คอยเก็บตกอย่างเดวี่ส์หรือเอลมานเดอร์นั้น เอาชนะเอแวนส์ในสภาพตัวตัวได้ไม่ยากเลย และเอลมาเดอร์ก็เกือบทำได้จริงๆ เมื่อได้หลุดเข้าไปยิงมุมแคบแต่ดีที่น้าซาร์ปิดมุมดีเหลือเกิน ล้มตัวใช้มือขวาปัดลูกยิงไว้ได้อย่างฉิวเฉียด นั่นทำให้กองหลังเราตื่นตัวขึ้นมาอีกเลเวลหนึ่ง และช่วยกันป้องกันลูกกลางอากาศไว้ได้อย่างดีเยี่ยมตลอดเวลาที่เหลือชนิดที่วิดิชหน้าผากปูดโปนกันเลยทีเดียวนะเธอว์//ฮ่าฮ่าฮ่า
เกมนี้ท่านเซอร์เดาใจคอยล์ได้ดี โดยการวางหมาก 4-2-3-1 มาเล่นในเกมนี้ ถึงแม้จะเป็นเกมกับทีมกลางๆค่อนไปทางเล็ก แต่การนำแท็คติคที่เน้นมากๆแบบนี้มาเล่น ก็เท่ากับเป็นการไม่ประมาท และเหมือนวางแผนมาตอบโต้เกมไดเร็กต์ของโบลตันไปในตัว เกมนี้หลังจากถูกเอลมานเดอร์ลูบคมไป แกรี่ก็ไม่เติมบ่อยมากอีก เอวร่าขึ้นไม่สุดเพราะต้องพัวพันลี ชุง ยองที่คล่องเอาเรื่องไว้ตลอดเกม ทำให้เกมฉาบฉวยทางริมเส้นของโบลตันคายพิษสงไม่ค่อยออกมากนัก กลับกัน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์เกมนี้หากมองผ่านๆเหมือนผู้บรรยายทางหน้อจอแก้ว หลายๆท่านอาจจะเห้นคล้อยแล้วบอกว่าเขาทำผลงานแปลกๆในเกมนี้ คือเดี๋ยวดีเดี๋ยวหลุด เล่นดีได้พักหนี่งก็หลุดฟอร์มจ่ายเสียง่ายๆอีก แต่ผมอยากจะบอกท่านผู้บรรยายเหลือเกินว่า เกมนี้น้องดาร์เรนเขาทำหน้าที่เกินโควต้าเทพของเขาไปอีกหนึ่งสเต็ปครับ มันคล้ายๆกับการใช้งานฮาร์ดแวร์โอเวอร์สเป็คไปหน่อยนั่นแหละ
การที่ป๋าไม่เน้นให้ฟูลแบ๊คเติมบ่อยเพราะต้องพะวงเกมไดเร็กต์หลังบ้านนั้น ทำให้ปีกสองข้างต้องรับบทหนักเกินความจำเป็นในการขึ้นเกมรุกทางริมเส้นแต่เพียงลำพัง ไอ้จังหวะไหนที่แบ๊คเติมมาช่วยมันก็ไม่เท่าไหร่ แต่นอกจากนั้นล่ะ ไปคนเดียวนี่ก็มันลำบากเหมือนกันนะเวลาถูกซ้อนสองสามคนเนี่ย โดยเฉพาะเมื่อรูปเกมเรายังเสมอกัน หรือถึงแม้จะได้ประตูไปลูกหนึ่งแล้วรูปเกมก็ยังไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ ปริ๊นซ์ของเราจึงรับภาระเพิ่มเป็นคีย์แมนในการแก้ปัญหาจุดนี้ครั นอกจากต้องรับภาระเป็นตัวไล่บอลตรงกลางช่วยสโคลส์แล้ว ยังต้องเติมเกมรุกสอดเข้าพื้นที่ตรงกลางเป็นอย่างที่สอง อย่างที่สามก็คือปริ๊นซ์ต้องรับบทบาทถ่างออกไปสอดเติมให้ตัวริมเส้นฝั่งขวาบ่อยๆ เพื่อช่วยวาเลนเซียถ่างแบ๊คเขาออกมาด้วย ซึ่งการรับภาระทั้งหมดที่ว่ามา มันทำให้ปริ๊นซ์ของเราหลุดได้เหมือนกันในหลายๆจังหวะที่อาจจะสับสนหน้าที่ตัวเองครับ ส่วนอีกฝั่งเราจะเห็นว่า กิ๊กส์นั้นถ่างออกไปช่วยนานี่เหมือนกันในจังหวะที่เอวร่าไม่ขึ้นเกมรุก ข้อแตกต่างเวลาไม่มีรูนี่ย์ก็คือ เห็นได้ชัดเลยว่าการขึ้นเกมของอันโตจะไร้จุดหมายไปทันที เมื่อไม่มีหัวเรดาร์ของน้องหมู ก็คงต้องค่อยๆปรับไปล่ะครับ
ยูไนเต็ดมาได้ประตูจากการสงเคราะห์ตัวเองของเจ ลอยด์ ซามูเอล ก่อนครบ 40 นาทีไม่นาน เมื่อทีมเยือนได้บอลสวนเร็วขึ้นมาทางซ้าย นานี่พักบอลได้ก่อนจะเหลือบเห็นกิ๊กส์แลบขึ้นไปช่วยจึงตวัดบอลกลับหลังให้ทันที กิ๊กส์ควบบอลขึ้นกราบซ้ายก่อนเปิดเร็วเข้ากลาง บอลผ่านปากประตูมาจนจะหลุดเสาสองที่มีวาเลนเซียกำลังตามเข้ามา ซามูเอลจึงปราดเข้ามาจิ้มทิ้งก่อนแต่บอลเจ้ากรรมดันผิดเหลี่ยมพุ่งย้อนเสียบโคนเสาแรกชนิดยัสเคไรเน่นยังคิดไม่ถึง แต่หลังจากที่ได้ลูกนี้ไปเกมของทั้งคู่ก็ยังไม่เปลี่ยนเท่าไหร่ โบลตันยังคงอดทนรอใช้เกมเพรสซิ่งต่อไป โดยหวังจังหวะฉาบฉวยเพื่อยิงประตูแชร์แต้ม แต่ก็มีวิดิชที่เริ่มจะจับทางเดวี่ส์ได้ โดยเลือกที่จะบังบอลไว้ก่อนในหลายๆจังหวะเพื่อรอเดวี่ส์ตอดเอาฟาล์ว ทำให้ทีมเยือนสามารถป้องกันเกมรุกของโบลตันได้เพิ่มอีกทาง นั่นคือรอถูกเดวี่ส์อัดเอาฟาล์วแทนที่จะเตะสกัดทิ้งออกไป แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดของวิดิชที่นัดนี้ก็โดนซะอ่วมไปไม่น้อยเช่นกัน
ยูไนเต็ดมาได้ลูกที่สองเป็นการปลดล็อกรูปเกมโบลตันจนได้เมื่อเกือบครบเจ็ดสิบนาที จากการเล่นประสานงานหนีการเพรสซิ่งนั่นเอง กิ๊กส์เล่นกับเฟล็ทเชอร์ก่อนเฟล็ทเชอร์จะได้จังหวะหาช่องสับไกจากนอกกรอบด้วยความแรงที่ผมไม่เคยคิดว่าปริ๊นซ์มันจะยิงแรงได้ขนาดนั้น ยัสเคไรเน่นไม่กล้ารับขนาดที่ว่าบอลมาตรงๆทำให้ต้องทุบออกมา แต่บอลไปเข้าทางเบอร์บาตอฟที่พุ่งสวนมาพอดี แล้วเบิร์บก็โชว์ความนิ่งแบบอาร์ตๆโดยการบรรจงแปลอดตัวยัสเคไรเน่นที่พุ่งออกมาบล็อคทำให้บอลเสียบก้นตาข่ายได้ง่ายๆ ซึ่งหากไม่อาร์ตพอแล้วรีบร้อนยิงสวน เชื่อได้เลยครับว่ามีโอกาสที่บอลจะถูกยัสเคไรเน่นบล๊อคได้สูงมากเลยครับ ลูกนี้คือลูกที่ปลดล็อคเกมอย่างแท้จริง และทำให้โบลตันไม่สามารถเล่นเพรสซิ่งอดทนรอประตูแชร์แต้มได้อีกต่อไป แต่ต้องหันมาเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างจริงๆจังๆบ้างแล้ว โดยคอยล์ถอดเอาเอลมานเดอร์ที่หัวแตกจากการปะทะกับวิดิชก่อนหน้านี้ และทาเมียร์ โคเฮนออกไปอีกคน โดยส่งอิวาน คลาสนิช และ แม็ทธิว เทย์เลอร์ ลงมาเพื่อเพิ่มเกมรุกให้เจ้าถิ่น ส่วนทีมเยือนก็ส่งคาร์ริคลงมาแทนสโคลส์ เพื่อเพิ่มความสดในการสกรีนเกมรุกทางภาคพื้นของเจ้าถิ่น
แล้วก็เหมือนที่ทุกๆฝ่ายคาดการณ์ เมื่อโบลตันหันมาจั่วไพ่รุกมากขึ้น จังหวะสวนของทีมเยือนที่คมอยู่แล้วก็เริ่มแสดงพิษสงออกมา นานี่เริ่มจับจังหวะแซมมวล ริคเก็ตส์ตัวประกบของเขาได้ และจากการที่นานี่หันมาเพิ่มมิติด้านการจ่ายทำชิ่งให้แล้วไปมากขึ้น ก็ทำให้ตัวประกบต้องลังเลในการเข้าสกัดเขา ตรงนี้คือคุณประโยชน์สูงสุดที่นานี่สร้างขึ้นจากการปรับเกมของตัวเองนะครับ เมื่อเพิ่มเกมรุกขึ้น ตัวซ้อนช่วยก็เหลือน้อยลง แถมริคเก็ตตส์เองก็ยังลังเลที่จะเข้าบอล นานี่จึงสามารถใช้ทักษะตัวเองได้เต็มที่ในจังหวะที่สมควรใช้ และลูกที่สามนี่ก็มาจากจังหวะดังกล่าว นานี่ลากบอลเข้ากรอบมาทางซ้าย โยกหลอกริคเก็ตตส์สองสามจังหวะก่อนจะหลุดออกมาเปิดเรียดๆให้เบิร์บที่สอดเข้ามาจากทางขวาวิ่งผ่านบอลเหมือนไม่ตั้งใจจะยิง แต่กลับดีดด้วยเท้าขวาด้านนอกแบบผ่านๆ ส่งบอลพุ่งเรียดลอดขากองหลังเข้ากลางประตูไปอย่างสุดอาร์ต ส่งให้แชมป์เก่าออกนำห่างสามลูกในนาทีที่ 78
หลังจากนั้น กิ๊บสันก็ถูกหย่อนลงน้ำมาแทนเฟล็ทเชอร์ แล้วก็เป็นประตูทันที เมื่อนานี่จัดการกล่อมริคเก็ตตส์ให้ง่วงนอนได้อีกครั้งทางซ้าย ก่อนจะเปิดย้อนมาหน้ากรอบให้กิ๊บสันได้แปเน้นๆเสียบเพดานตาข่าย เป็นลูกที่สี่ของยูไนเต็ดก่อนจะถอดกิ๊กส์ออกแล้วส่งมาเคด้าลงมา หลังจากนั้นรูปเกมก็ไม่มีอะไรมากมาย จบเกมไปด้วยสกอร์ท่วมท้นของแชมป์เก่า ชนิดตรงกันข้ามกับรูปเกมที่เห็นอย่างสิ้นเชิง ไม่แปลกที่คอยล์จะออกมาคร่ำครวญหลังเกมว่า สกอร์ที่ออกมามันไม่ยุติธรรมต่อเขากับลูกทีมเท่าไหร่นัก เพราะเขาคิดว่าลูกทีมทำผลงานและกดดันแชมป์เก่าได้ดีมากๆ จนไม่น่าเชื่อว่าสกอร์มันจะออกมาเหมือนกับว่าแชมป์เก่ากำลังเล่นกับทีมอ่อนหัดยังไงยังงั้น แต่สำหรับผม สิ่งที่แตกต่างคือผู้เล่นที่ได้คะแนน 9 เต็ม 10 สองคนของแชมป์เก่า นั่นคือนานี่และเบิร์บนั่นเอง ที่เป็นคนทำให้มันแตกต่างขนาดนี้ นอกนั้นยังมีน้าซาร์/เฟล็ทเชอร์/วิดิช อีกสามคน ที่ได้เรต 8 แต้ม ส่วนทางเจ้าบ้านนั้นมีเพียงเอลมานเดอร์คนเดียวที่ได้ถึง 8 จากการให้คะแนนของสกาย สปอร์ตส์ ซึ่งน้าซาร์นั้น เกมนี้โชว์สเต็ปเวิลด์คลาสออกมาไม่ต่ำกว่าสองครั้ง ทำให้กองหลังเรามั่นใจขึ้นมากทีเดียว ลูกที่เหินปัดลูกยิงของมูอัมบ้าที่กำลังเสียบสามเหลี่ยมนั้นบอกได้คำเดียวว่า ซู้ดดดดดดดดดดดด....ยอดดดดดดดดดดดดด และนี่คือคำชมจากสกายครับ Wilshere sets up Muamba and his shot, that seems destined for the top corner, is saved by van der Sar - that's world-class goalkeeping from the Dutch veteran
เมื่อมามองดูภาพรวมหลังผ่านไป 32 นัด ผมเองที่หวั่นๆว่าอาร์เซน่อลจะมีเกมเบากว่าใครเพื่อน แล้วเก็บแต้มได้ง่ายๆ ก็กลับเป็นอาร์เซน่อลเสียอีกที่หลุดฟอร์มไปก่อนใคร จากการออกไปเสมอเบอร์มิงแฮม ทีมจอมแสบของกลุ่มผู้นำ ทำให้สถานการณ์ของอาร์เซน่อลกลายเป็นน่าหงุดหงิดขึ้นมาทันที แทนที่จะได้รอชุบมือเปิบนั่งบนภูดูผีกับสิงห์ตัดแต้มกันเองในสัปดาห์หน้า กลับกลายเป็นว่าตัวเองต้องมาลุ้นฟอร์มตัวเองอย่างหนักแทน เพราะเกมที่เซนต์ แอนดรูวส์นั้น ฟอร์มของปืนใหญ่เองก็ไม่ได้เหนือกว่าเจ้าถิ่นสักเท่าไหร่เลย กลับกัน ทั้งผีแดงทั้งเชลซี ทั้งๆที่พักรูนี่ย์กับพักดร็อกบาแท้ๆ กลับพากันโชว์ฟอร์มยิงรวมกันไปสิบเอ็ดเม็ด งานหนักของอาร์เซน่อลจึงกลายเป็นต้องมาเคี่ยวสมาธิและฟอร์มตัวเองให้กลับมาเต็มที่อีกครั้งให้ได้เร็วๆครับ อีกอย่างคือการที่เราตุนประตูได้-เสียไว้ได้เรื่อยๆย่อมทำให้เราได้เปรียบอาร์เซน่อลขึ้นเยอะหากคะแนนเท่ากัน แต่สำหรับเชลซีที่ยิงหนีห่างออกไปนั้น โอกาสที่ลูกได้-เสียจะต้องมาวัดกันก็ยังมีอยู่ และตอนนี้เราก็ตามเขาอยู่แค่สองลูกเท่านั้นเองครับซึ่งไปลุ้นกันต่อไป และก็ต้องตุนกันต่อไปด้วย
ทางฝั่งสิงห์นั้น หลังจากอั้นมานานหลายนัด ก็ทยอยปล่อยของออกมาเรื่อยๆ สองนัดล่าสุดกดไปสิบสองเม็ด อูว์...มา...หมิ (เครดิต คนกราบเมีย) น่ากลัวค่อดๆ แถมกลางสัปดาห์ยังไม่มีคิวเตะอีกต่างหาก ทำให้เกมสุดสัปดาห์นี้น่าจับตามองมากว่าป๋าจะแก้หมากเตะพี่แจ้อย่างไร จากเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เราได้พักเต็มๆแล้วเราก็อัดน้องหงส์ที่เร่งไม่ขึ้นซะอยู่หมัดตลอดทั้งเกม มาคราวนี้เป็นทีที่เราจะล้ามั่ง ป๋าจึงพักริโอ-รูน-คาร์ริค-ปาร์ค ไว้ แถมยังมีถอดสโคลส์-เฟล็ทช์ไปเก็บอีกต่างหาก นับได้ว่าสองสามเกมต่อไปนี่คือศึกที่เราจะพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงครับ เริ่มจากยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองฯ เลกแรกที่อัลลิอันซ์ อารีน่า (ใช่โอลิมปิก สเตเดี้ยมเดิมหรือเปล่า) นัดนี้ไม่ว่าอย่างไรผมก็หวั่นใจ เพราะสไตล์การเล่นของทีมจากเมืองเบียร์นั้น แต่ไหนแต่ไรมา วินัยในทีมต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นการจะหวังว่าเขาพลาดให้ง่ายๆก็คงไม่มีทาง มีแต่ต้องหาทางทำเข้าไปเองทั้งนั้น ตรงนี้ต้องลุ้นครับ หวังให้เก็บอเวย์โกล์กับผลลัพธ์ดีๆกลับมาให้ได้ พร้อมทั้งให้ลูกทีมเค้นฟอร์มซูเปอร์แมนออกมาทุกๆคนด้วย ด้วยชื่อชั้นของเสือใต้นี่ ถ้าไม่เต็มที่จริงๆจะหวังไปลูบคมเขาถึงถิ่นนี่ยากนะครับ
ส่วนเกมที่สองที่บอกว่าพลาดไม่ได้ก็คือเกมชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยนัยยะนั่นเอง เกมนี้หากจะว่าไป ถ้าจะให้ดีก็คงต้องหวังถึงชัยชนะครับ เพราะเป็นการเล่นในบ้านตัวเอง อีกทั้งเป็นการตัดแต้มคู่แข่งไปในตัวหลังจากอาร์เซน่อลเพิ่งถูกจับตอนไปหมาดๆ เกมนี้คนที่ต้องมาแลกก็คงเป็นเชลซี เพราะผลเสมอแล้วไปลุ้นเอาดาบหน้านั้นไม่น่าจะเป็นที่พอใจของเชลซีเท่าไหร่นัก กลับกัน ผลเสมออาจจะน่าพอใจสำหรับเรามากกว่า เมื่อมองดูว่าไม่มีทางเสียตำแหน่งจ่าฝูงในวีคนี้แน่ๆ แต่มันคงทำให้อาร์เซน่อลกลับมาได้ลุ้นเต็มตัวอีกครั้ง เพราะทีมปืนใหญ่จะเจองานที่เหลือง่ายกว่านะครับ โปรแกรมช่วงนี้มันค่อนข้างหฤโหดสักหน่อย อังคารนี้เยือนมิวนิค เสาร์รับเชลซี พุธรับเสือใต้นัดที่สอง สามนัดนี้ที่ต้องพุ่งสมาธิเค้นฟอร์มกันเต็มที่ พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หากเราได้ผลการแข่งขันสวยๆกลับมาจากมิวนิค นั่นย่อมทำให้เลกที่สองที่บ้านวันพุธหน้าเราเล่นได้ง่ายขึ้นเยอะ และยิ่งหากได้สามแต้มจากเชลซีเสาร์นี้ด้วยล่ะก็... ป๋าอาจจะปล่อยเด็กลงน้ำให้เห็นในเกมแบล็คเบิร์นเสาร์นู้นก็เป็นได้ครับ อ่ะ ดูตารางการแข่งสักหน่อย CREDIT: manutd.com
จากการดร็อปผู้เล่นสำคัญๆของป๋าในนัดนี้ เมื่อได้ผลการแข่งขันที่ดีกลับออกมา มันคงทำให้ทีมเราฮึกเหิมและมั่นอกมั่นใจขึ้นอีกมาก การยกทัพออกไปเยือนอัลลิอันซ์ อารีน่าเช้าวันนี้ เรื่องรูปเกมหรือการวิเคราะห์ก่อนเกมผมคงไม่กล้าที่จะออกตัว เนื่องจากของมันยังแรง ก็ได้แต่หวังว่านักเตะของพวกเราจะเค้นทุกสิ่งทุกอย่างออกมาในเกมนี้เพื่อผลการแข่งขันที่ดีสมดั่งที่เราคาดหวังกันไว้ หลังจากนั้น ค่อยมาดูกันอีกทีว่าหลังเกมที่มิวนิคนั้นมีอะไรเป็นประเด็นให้พูดถึงบ้างหรือไม่ แล้วเราค่อยมาดูประเด็นกับเชลซีต่อไปกันในวันนั้นนะครับ เพราะวันนี้เรายังไม่มีวัตถุดิบคงได้แต่พูดกว้างๆเหมือนที่ผมบอกกล่าวกันไปในคอมเม้นต์ข้างบนนั่นแหละครับ แต่ไม่ว่าอย่างไร ผมสัญญาว่าจะเก็บรายละเอียดทุกเม็ดในเกมมาพูดคุยกันให้ได้อรรถรสเต็มที่ จากสามเกมสุดสำคัญในรอบสัปดาห์นี้ครับ
แล้วมาลุ้นกันครับ
สงบใจ
Create Date : 29 มีนาคม 2553 |
Last Update : 29 มีนาคม 2553 12:58:50 น. |
|
0 comments
|
Counter : 493 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|