Bloggang.com : สงบใจ : ---ของเก่า 11 เมษายน 2550--- แมนยู กับ โรม่า ครับ

---ของเก่า 11 เมษายน 2550--- แมนยู กับ โรม่า ครับ

แมนยูไนเต็ด กับชัยชนะของแท็คติค

จากการจัดตัวผู้เล่นลงสนามของเฟอร์กี้ เมื่อคืนนี้ หลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไมสมิธได้ยืนเป็นตัวจริง ส่วนเฟล็ทเชอร์นั้น ก็เป็นเพราะสโคลส์โดนแบนนั่นเอง เขาถึงได้โอกาสลงสนาม แต่กลับกลายเป็นว่า ทั้งคู่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นกลไกที่ทำให้แท็คติคของเฟอร์กูสันในนัดนี้ใช้ได้ผลเป็นอย่างมาก

ส่วนทัพของโรม่านั้น ผมเองไม่ทราบว่าทำไมถึงดร็อปตั๊ดเด ทั้งๆที่ในนัดแรกนั้น ตั๊ดเดนี่แหละที่เป็นตัวอันตรายและก่อกวนแผงหลังของแมนยูไนเต็ดได้มากที่สุด อาจจะมากกว่าต๊อตติด้วยซ้ำ ซึ่งการขาดตั๊ดเดในนัดนี้ ส่งผลต่อเกมรุกของโรม่าให้ลดความอันตรายลงอย่างเห็นได้ชัด

นักเตะแมนยูไนเต็ด เดินเกมในช่วงแรกได้กร้าวแกร่งขึ้นกว่านัดแรกอย่างเห็นได้ชัด เพราะโรม่าเปิดพื้นที่ให้เล่นมากเกินไป โดยเฉพาะโรนัลโด้ และ กิ๊กส์ มีจังหวะกระชากลากเลื้อยสวยๆ หลายครั้ง จนนำไปสู่ประตูแรกของคาร์ริคในที่สุด ซึ่งโรม่าประกบตัวเขาหลวมมาก ซึ่งประตูนี้เองที่ทำให้หมากของเฟอร์กี้สำแดงฤทธิ์เดชออกมาได้อย่างร้ายกาจหลังจากนั้น

พอเสียประตูแรก นักเตะโรม่าก็ดูเหมือนลืมไปทันทีว่ายังมีเวลาอีกตั้ง 80 นาที ที่จะยิงตีเสมอเป็น 1:1 เพื่อเข้ารอบ แต่กลับเดินเกมบุกเข้าใส่แมนยูโดยลืมไปอีกแล้วว่า มันไม่ใช่ธรรมชาติของโรม่า เพราะโรม่านั้นเวลาบุกจะใช้นักเตะเปลืองมาก โดยใช้แผงกลางลำเลียงบอลขึ้นมา พร้องการสนับสนุนจากแบ็คทั้งสองข้าง ซึ่งการเดินเกมลักษณะนี้ ทำให้บุกไม่ได้รวดเร็ว แถมกลางกลับหลังก็จะหลวม ซึ่งเป็นที่มาของการสวนกลับของแมนยูไนเต็ดและได้อีก 2 ประตูติดๆกัน ต่อมาอย่างรวดเร็ว

จาก 2 ประตูดังกล่าว เราเห็นว่า แบ็คของโรม่า ขึ้นเติมเกมบุกแล้วลงมารับไม่ทัน โดยเฉพาะปานุชชี่ หลุดหายไปบ่อยมาก ทำให้ปีกทั้งสองข้างของแมนยูไนเต็ดซึ่งมีความเร็วสูง เข้าโจมตีได้อย่างง่ายดาย และจังหวะเข้าทำเมื่อคืนนี้ก็เป็นใจด้วย ยิงเป็นเข้าตลอด ทำให้จบครึ่งแรก ก็เหมือนเกมของโรม่า จบไปด้วยเช่นกัน เพราะครึ่งหลังก็ไม่ได้มีรูปเกมอะไรเปลี่ยนไปให้ต้องวิเคราะห์กันอีก

ส่วนการเปลี่ยนตัวเอาเอฟร่าลงมาเป็นแบ็คขวานั้น ผมมองว่าเฟอร์กี้คงตั้งใจทดลองสูตรแผงหลังใหม่มากกว่า แถมเอฟร่าก็ทำได้ดีซะด้วย โดยยิงประตูให้ทีมได้อีก 1 ลูกจากการเติมเกมบุกทางกราบขวา ซึ่งไม่ใช่กราบที่เขาถนัด

นักเตะที่ผมมองว่าเด่นในเกมนี้ นอกจากแนวรุกแล้ว ต้องนับว่า เฟล็ทเชอร์ลงมาเล่นตามคำสั่งเฟอร์กี้ได้อย่างดี โดยมีการไล่ตัดเกมแดนกลางของโรม่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และทำได้ดีมาก ทำให้แผงกลางของโรม่าสะดุดตลอดทั้งเกม รวมทั้งการมีสมิธวิ่งเพรสซิ่งคู่กับรูนี่ย์ในแดนของโรม่าอยู่บ่อยๆทำให้โรม่าขึ้นเกมจากแดนตัวเองไม่ถนัด และเสียบอลอยู่บ่อยๆ

ส่วนนักเตะแมนยูไนเต็ดคนอื่นๆ ก็เล่นได้อย่างสมราคาการเฝ้าเชียร์ มีการเพรสซิ่งผู้เล่นโรม่าตลอด และวิ่งลงมาช่วยเกมรับบ่อยๆ สังเกตว่านัดนี้ จะเห็นโรนัลโด้ วิ่งควบเอาบอลจากหน้าเขตโทษตัวเองขึ้นมาบ่อยมาก แสดงว่า เขาลงมาช่วยเกมรับบ่อยขึ้นนั่นเอง

ส่วนของโรม่านั้น คงต้องบอกว่า พลาดเองที่ปล่อยให้แมนยูไนเต็ดเล่นง่ายเกินไปในช่วงแรกๆ จนเสียประตู และพอถูกนำไป 3:0 ตั้งแต่ 20 นาทีแรก ก็เหมือนกับว่านักเตะโรม่าบางคนจะถอดใจกันแล้ว การวิ่ง การทำทางสวยๆ เหมือนในนัดแรก เลยหายไปอย่างสิ้นเชิง

ผมเองคงไม่พูดว่า แมนยูไนเต็ดเล่นนัดนี้ด้วยฟอร์มของแชมป์ แต่คงต้องพูดว่า โรม่าเองนั่นแหละ ที่ทำให้แมนยูไนเต็ด เล่นออกมาในรูปนี้ เพราะแมนยูไนเต็ดเอง ก็ไม่ได้ครองบอลพับสนามบุกใส่จนโรม่าโงหัวไม่ขึ้นสักหน่อย เพียงแต่เป็นการเข้าทำด้วยจังหวะโต้กลับล้วนๆเท่านั้น ซึ่งหากเป็นบาเยิร์น หรือมิลานแล้ว เราคงไม่เห็นเกมออกมาในรูปนี้แน่นอน

ก็หวังว่า ชัยชนะด้วยสกอร์ที่สวยงามขนาดนี้ แถมเกิดกับคู่ต่อสู้อย่างโรม่าด้วยแล้ว จะจุดประกายนักสู้ของแมนยูไนเต็ดขึ้นมาใหม่ หลังความพ่ายแพ้สองนัดติดๆที่ผ่านมา ให้กลับมาคืนฟอร์มลุ้น 3 แชมป์ได้อีกเฮือกนะครับ

ก่อนจากวันนี้ ผมขอยกตัวอย่างบทสัมภาษณ์บางประโยคของ เม็กแซส หลังจบนัดแรกให้อ่านกัน หลายๆท่านจะได้ทราบว่า การชื่นชมหรือคาดหวังทีมตนเองนั้น ทำได้ แต่อย่าให้มันล้ำเส้นจนกลายเป็นการดูถูกคู่ต่อสู้ ซึ่งสุดท้ายคำพูดนั้นก็จะกลับมาทำร้ายตนเองในที่สุด

เขาพูดว่า “จากการแข่งกับลียงที่ผ่านมา ผมว่าแมนยูไนเต็ดเล่นได้แย่กว่าลียงด้วยซ้ำ” ซึ่งเขาคงลืมไปมั้ง ว่า วันนั้นแมนยูไนเต็ดเหลือ 10 คนเฟ้ยยยย และประโยคดังกล่าวของเม็กแซสนั้น ก็หลอนในหัวผมมาตั้งแต่อ่าน นสพ. วันถัดจากแข่งนัดแรกกับโรม่าจนกระทั่งเมื่อคืนนี้ ถึงหายไปครับ

เฟอร์กี้เองยังไม่เคยดิสเครดิตเกมของคู่ต่อสู้ขนาดนี้เลยครับ พับผ่

Create Date : 06 กันยายน 2550

Last Update : 6 กันยายน 2550 10:05:18 น.

0 comments

Counter : 380 Pageviews.