Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
20091109 วิพากษ์ CHELSEA vs MAN. UNITED

อกหักมาทางนี้....เอิ๊ววววว


สวัสดีครับ เฮ้อ...นอนก็ไม่พอ ยังต้องมาชอกช้ำระกำทรวงกันอีกต่างหากนะครับ สำหรับแฟนๆปิศาจแดงในวันนี้ โลกมันช่างหดหู่ ตรงกันข้ามกับสาวกสิงโตน้ำเงินครามเสียนี่กระไร ไอ้เรื่องแพ้น่ะ ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าก่อนแข่ง ประกอบกับเห็นรายชื่อแนวรับมหาเทพของเรา ผมคงพออกพอใจถ้ารู้ผลก่อนว่าจะแพ้แค่ลูกเดียว แต่เมื่อได้เห็นรูปเกมแล้ว ได้พินิจพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 90 นาทีแล้ว มันก็ช่างโหดร้ายพอสมควรกับผลลัพธ์ที่เราได้รับมาจากเกมนี้ แต่ก็เอาเถอะครับ ไม่ว่าอย่างไร เราก็ต้องยอมรับในจุดนี้ และชื่นชมบรรดาแข้งเชลซีเหมือนกัน ที่เมื่อมีโอกาสแล้วเขาทำได้สำเร็จ จะว่าไปก็รู้สึกเหมือนผู้ชายที่อกหักทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นพราะแฟนบอกว่าเธอดีเกินไปนั่งแหละ เอาล่ะครับ บรรดาคนอกหักทั้งหลาย... มาคุยกันทางนี้ได้เลย

ดูการจัดทัพนัดนี้ พอเห็นรายชื่อ ผมก็คิดไปล่วงหน้าแล้วว่า เราจะโดนยำอย่างไร จะกระจุยกระจายกลับมาแบบไหน เพราะเชลซีดูฟูลทีมดีเหลือเกิน จะขาดไปก็เพียงแค่ โชเซ่ โบซิงวา แบ๊คขวาจอมบุกเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยได้ ปีเตอร์ เช็ค ยืนเฝ้าเสาพร้อมเฮดการ์ดบนศีรษะตามเคย ฟูลแบ๊กซ้ายขวา มี แอชลี่ย์ โคลและบรานิสลาฟ อิวาโนวิช คู่เซ็นเตอร์เป็นคู่อึดมหากาฬเหมือนเดิม จอห์น เทอร์รี่ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ มิดฟิลด์เพชรน้ำหนึ่งของพี่แจ้ มีมิชาเอล เอสเซียง เป็นฐานเพชรตัวรับหน้าแผงหลัง คู่กลางซ้ายขวามีแฟรงค์ แลมพาร์ด และมิชาเอล บัลลัค ส่วนยอดเพชรมิดฟิลด์ตัวรุกให้เดโก้กำกับการแสดง คู่หูดูโอ้ข้างหน้าได้แก่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโคล่าส์ อาเนลก้า นับได้ว่าเป็นชุดที่ลงตัวทุกขุมกำลังและอยู่ในช่วงที่ร่ายเพลงแข้งได้สะเด่าดีเหลือเกิน โดยเพิ่งอัดไป 19 ลูก จาก 5 นัดหลังสุดเท่านั้น ซีซั่นนี้เพิ่งเสียประตูในบ้านไปแค่เม็ดเดียวในลีก แถมยังไม่แพ้เราในบ้านมายาวนานถึง 7 ปี โอย...ฟังแต่ละสถิติก่อนเกมแล้วกลุ้มพิลึกครับพี่น้อง แล้วหันไปดูขุมกำลังบนม้านั่งสิครับ โจ โคลงี้, มิเกลงี้, มาลูด้างี้, กาลูงี้ โอย...ปวดตับ

ส่วนทางเราน่ะรึ แค่เห็นรายชื่อก็หนาวจนสุดขั้วหัวใจแล้ว กับแผงหลังมหาเทพอันได้แก่ จอห์น โอเช, เวสลี่ย์ บราวน์, โจนาธาน เอแวนส์ และ ปาทริซ เอวร่า ถึงแม้จะมี เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ยืนเฝ้าเสาอยู่ก็ตามที แต่เห็นหน้าแผงหลังสามจากสี่คนแล้วเทียบดูแนวรุกฝั่งตรงข้าม....อื้อหือ.... พูดไม่ออกครับ ไล่มาดูแผงกลางกันบ้าง เมื่อวิดิชไม่ฟิตพอและเป็นเพียงตัวสำรอง ทำให้เกมนี้เซอร์อเล็กซ์ค่อนข้างรัดกุมมากและอัดมิดฟิลด์ตัวกลางมาถึงสามคน โดยให้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และอันแดร์สัน คอยเป็นผึ้งงานเก็บกวาดตรงกลาง และมีไมเคิล คาร์ริค เป็นตัวเชื่อมเกม แต่ก็สามารถวิ่งเก็บกวาดหน้าบ้านเป็นตัวแรกได้ด้วย ตัวริมเส้นวันนี้ส่งไรอัน กิ๊กส์ ลงมาทางซ้าย และ อันโตนิโอ วาเลนเซียลงมาทางขวา หน้าเป้าโฮม อโลน ได้แก่ เวย์น รูนี่ย์ โดยที่นัดนี้เบอร์บาตอฟไม่มีชื่อแม้แต่บนม้านั่งสำรอง หากจะให้คาดคิดโดยสมมติว่าเขาไม่บาดเจ็บนั่นก็หมายถึงว่า ท่านเซอร์จะเน้นการโจมตีด้วยความเร็วเป็นหลัก และยังเน้นให้ทุกๆคน มีส่วนร่วมกับเกมรับด้วย เบิร์บจึงต้องหลีกทางไปก่อน โดยมีนักเตะอย่าง โอแบร์กตอง, โอเว่น, กิ๊บสัน, ฟาบิโอ และสโคลส์จ่ออยู่ข้างสนาม

เริ่มเกม ยูไนเต็ดพล่านก่อนทันที เกมนี้วัดกันที่คุณภาพของแท็คติคล้วนๆ นักเตะสองฝ่ายถูกกำชับให้เล่นตามแผน เน้นวินัยในการเล่นตามแท็คติคเป๊ะๆ ไม่เสี่ยง ไม่ผลีผลาม เกมของยูไนเต็ดเน้นไปที่การเพรสซิ่งในทุกพื้นที่ ไล่ตั้งแต่รูนี่ย์ในแดนหน้า กิ๊กส์ วาเลนเซีย กดดันฟูลแบ๊คและมิดฟิลด์ของเชลซียามถ่างออกมาเล่นริมเส้น โดยบีบคู่กันกับเอวร่าและโอเช ตรงกลางสนามปล่อยให้ คาร์ริค, เฟล็ทช์ และแอนนี่ วิ่งพล่านตัดเกม ทำลายการต่อบอลเชื่อมเกมและการเคลื่อนที่ของเจ้าบ้านตรงกลางสนามอย่างหนักหน่วงและไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำเอานักเตะแผงกลางของเจ้าบ้านออกอาการอึดอัดพอสมควร เพราะแท็คติคของอันเชล็อตติแต่ไหนแต่ไรมาคือการครอบครองบอล และการเคลื่อนที่แบบเป็นระบบเป็นระเบียบ คายบอล ถ่ายบอลและเคลื่อนที่สอดรับกันไปเรื่อยๆ และมักจะเน้นการขึ้นเกมตรงกลางด้วยมิดฟิลด์ ส่วนริมเส้นจะปล่อยให้ฟูลแบ๊กทำหน้าที่จนสุดเส้นหลัง

แต่เมื่อเกมนี้ท่านเซอร์ดูเหมือนว่าจับจุดนี้ของคาร์โลได้ และเน้นให้ช่วงแรก มิดฟิลด์วางบอลออกปีกลึกๆสามสี่ครั้งทั้งซ้ายและขวาให้วาเลนเซียกัลกิ๊กส์ควบไปเอาบอล ซึ่งจะมีพื้นที่หลังแบ๊กพอสมควร ตรงนี้ทำให้ฟูลแบ๊กของเชลซีต้องคอยระแวดระวังหลังบ้านมากขึ้นกว่าปกติ และทางด้านแอชลี่ย์ โคลนั้น ก็น่าจะถูกกุนซือกำชับลงมาทันทีว่า ไม่ต้องเน้นเติมเกมสูง อันจะทำให้วาเลนเซียวิ่งสวนง่ายๆ ทำให้เกมรุกของโคลวันนี้ดูเงียบๆไป ผิดจากรูปเกมปกติของเชลซี ส่วนทางด้านอิวาโนวิชนั้นปัญหามีน้อยกว่า เพราะกิ๊กส์ไม่ได้เร็วมากมายเหมือนก่อน ทำให้อิวาโนวิชพอจะควบแซงกลับมาตั้งรับหรือป้องกันได้บ่อยๆ แถมยิ่งเล่นอิวาโนวิชเหมือนจะยิ่งมั่นใจและกลายเป็นแบ๊กข้างที่เติมเกมให้เชลซีเป็นหลักในเกมนี้และเท่ากับช่วยกดเอวร่าไปในตัวด้วย แต่การที่โคลเติมเกมไม่ได้สุดเหมือนเคยนั้น กลับทำให้แผงหลังของยูไนเต็ดทำงานได้ง่ายขึ้น โอเชไม่ต้องพะวงเกมริมเส้นมากนักและสามารถหุบมาช่วยบราวน์ได้บ่อยๆ อีกทั้งเมื่อมิดฟิลด์ตรงกลางช่วยไล่บดบี้ทำลายเกมของเชลซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งทำให้งานของแผงหลังวันนี้ ดูมั่นคงและไม่ได้ถูกโจมตีหนักหน่วงนักอย่างที่คาดไว้ก่อนเกมแต่อย่างใด

ยิ่งเกมผ่านไป การครองบอลของเชลซียิ่งเจาะเข้ามาไม่ได้ ถึงแม้จะมีโอกาสจากการรุกทางริมเส้นด้านขวาของอิวาโนวิชบ่อยๆ และการถ่างออกไปเล่นด้านนั้นร่วมกันจากอาเนลก้า ตรงนี้ยังพอทำให้เกมรุกของเชลซีเข้าทำได้บ้าง แต่ด้วยการที่ความคมในการจบสกอร์ของผู้เล่นเชลซีดูจะเหลื่อมๆกว่าเราพอสมควร ลูกยิงของเชลซีแต่ละครั้ง จึงดูจะน่าหวาดเสียวสำหรับน้าซาร์ไม่น้อย แต่น้าก็ยังไม่พลาดสักลูกในครึ่งแรก และแผงหลังก็เบียดกดดันในกรอบได้ค่อนข้างดี จะมีหวาดเสียวหน่อยก็ลูกที่อาเนลก้าลากมาจากทางขวาก่อนจะปั่นด้วยซ้ายให้น้าซาร์ต้องบินปัดออกไปอย่างสุดยอด ในขณะที่เกมรุกของเชลซีอาศัยการคอนโทรลบอลและเคลื่อนที่เป็นทอดๆนั้น เมื่อยูไนเต็ดไล่บี้แย่งบอลมาได้ ก็จะสวนเร็วตลอดโดยอาศัยการให้บอลไม่กี่จังหวะก็ได้จบ เพียงแต่การจบของยูไนเต็ด เนื่องจากใช้ตัวเข้าทำน้อยจึงมักจะจบด้วยการยิงไกลหรือรีบยิงก่อนจะถูกแซะซะมากกว่า ทำให้ถึงแม้จะได้ยิงมาก แต่ความหวาดเสียวและโอกาสยิงเข้ากรอบนั้น มีลุ้นน้อยกว่าทางฝั่งเชลซี แหม...พูดก็พูดเถอะ ยังเสียดายลูกหลุดเดี่ยวของรูนี่ย์อยู่เลย ถ้าผู้กำกับไม่เส้นบ้าจี้ยกธงทั้งๆที่ไม่ล้ำนะ มันแน่ๆครับ

เกมยังคงออกลูกอึดอัดต่อไปสำหรับทางอันเชล็อตติ ที่ลูกทีมไม่สามารถขึ้นเกมได้ตามถนัดแม้แต่ครั้งเดียว เดโก้มีปัญหาค่อนข้างมากกับการถูกตามบี้ถึงเนื้อถึงตัวของมิดฟิลด์เจ้าบ้าน อันเชล็อตติปรับเกมเล็กๆด้วยการถ่างอาเนลก้าออกมาริมเส้น และถอยกองหน้าทั้งคู่ลงมาช่วยต่อบอลกลางสนาม แต่ก็ยังไม่เป็นผล เซ็นเตอร์ยูไนเต็ดวันนี้ไม่ดันสูงลอยตามขึ้นมาด้วย จะมีก็เพียงบราวน์เท่านั้นที่อาจจะดันขึ้นมาประกบสูงในบางจังหวะ แต่จะห้อยเอแวนส์ไว้ต่ำตลอดเวลาเพื่อป้องกันการพลิกทะลุหลุดไลน์เข้าไป ซึ่งต้องบอกตรงๆว่า แท็คติคเกมรับวันนี้ ท่านเซอร์ทำการบ้านมาดีมากๆ หลายครั้งที่ผมเห็นดร็อกบาหรืออาเนลก้าสลัดไลน์ตัวสุดท้ายหลุดเข้าไปได้ ผมงี้เสียววาบเลย แต่ทุกครั้งก็จะมีเอแวนส์โผล่มาเป็นตัวสุดท้ายเก็บบอลหรือสกัดเอาไว้ได้ทุกที นี่คือการตัดสินใจของป๋าที่วันนี้ไม่ใช้การเช็คออฟไซด์เลย ซึ่งอาจจะเพราะเกรงความคมของกองหน้าคู่ของเชลซี ที่หากเช็คพลาดแม้ครั้งเดียวย่อมหมายถึงหายนะทันทีก็เป็นได้ ป๋าจึงเปลี่ยนมาเน้นระบบคล้ายๆสวีปเปอร์แทนในเกมนี้

ดร็อกบาและอาเนลก้าถูกแผงกลางทีมเยือนตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงเกือบตลอดเกมจนทั้งคู่ต้องลงมาเล่นเกมต่ำ และกลายเป็นถูกกดดันให้รีบเล่น รีบยิงตลอดจนไม่ค่อยได้ลุ้น โดยเฉพาะจากดร็อกบาซึ่งถูกเบียด ถูกแซะและถูกดักจิ้มบอลทิ้งก่อนตลอดโดยเวส บราวน์ เกมนี้ต้องชมท่านเซอร์จริงๆว่าเลือกแท็คติคได้ถูกต้อง และกำชับนักเตะให้มีวินัยได้ดีมากๆ เล่นไม่มีเสี่ยง บราวน์ไม่มีเปิดยาวแม้แต่ครั้งเดียว แต่เน้นเปิดสั้นให้เอแวนส์และโอเชเป็นหลัก บรรดาผู้เล่นทุกคนเมื่อไม่แน่ใจก็คืนหลังให้น้าซาร์ทุกครั้ง ไม่มีการเล่นเสี่ยง การต่อบอลหน้ากรอบของเชลซีจึงทำได้ค่อนข้างลำบาก เมื่อผู้เล่นยูไนเต็ดเพรสซิ่งเร็วและถึงตัวทุกจังหวะ พยายามแหย่ พยายามจิ้มบอลก่อนบอลจะถึงเท้านักเตะเชลซีเสมอๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ความขยันและมุ่งมั่นของนักเตะทีมเยือนที่วันนี้มาดีเป็นพิเศษกลับกันเป็นคนละทีมกับเกมแดงเดือดเลยทีเดียวครับ อีตรงนี้แหละที่ช่วยให้การเข้าถึงบอล และบอลจังหวะสองมักจะถูกครอบครองโดยนักเตะทีมเยือน และพยายามต่อบอลทะลุเข้ากรอบเชลซีอย่างรวดเร็วทุกครั้ง

เกมในครึ่งหลังก็ยังคงออกน่าอึดอัดสำหรับเจ้าถิ่นเหมือนเดิม แถมทีมเยือนยังเริ่มหาโอกาสจบได้น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆด้วยซ้ำไป แต่อย่างว่าครับการจบสกอร์ของเราไม่ใช่ว่าจะได้จบเหน่งๆเสียวๆมากนัก มันเป็นการยิงไกลหน้ากรอบจากผู้เล่นมิดฟิลด์ซะแปดสิบเก้าสิบเปอร์เซนต์เข้าไปแล้วซึ่งมันยังไม่สาหัสสากรรจ์สำหรับเช็คมากนัก แถมนกตายเพียบอีกต่างหาก แต่กับการเจาะทะลุเข้าในกรอบก็ยังขาดๆเกินๆแทบทุกครั้งไป สำหรับผมวันนี้ค่อนข้างอึดอัดกับเกมทางซ้ายของเราพอสมควร เนื่องจากอิวาโนวิชนั้นเป็นตัวทำให้เกมรุกทางด้านนี้ตะกุกตะกักรวนเรไปตลอด แม้ว่าอิวาโนวิชจะไม่ได้เล่นเกมรับได้สุดยอดหรือเวิลด์คลาสอะไรนัก แต่สามารถบล๊อกลูกเปิด พันแข้งพันขา หรือพัวพันเอวร่ากับกิ๊กส์ได้เรื่อยๆจนลดความอันตรายทางด้านซ้ายของเราได้พอสมควรเลยทีเดียว แถมยังขึ้นเกมรุกได้สุดเส้นหลังแทบตลอด ประสานงานกับอาเนลก้าได้เป็นอย่างดี ส่วนทางขวา ถึงจะไม่เข้าไปดวลกับ แอชลี่ย์ โคล แต่วาเลนเซียก็ยังมีทางเลือกน้อยอยู่ แท็คติคหน้าเดี่ยวทำให้เป้าในการโยนถูกจำกัด สุดท้ายก็ต้องหักเข้าในมาเล่นกับมิดฟิลด์ทุกครั้งไป

ผมยอมรับว่าเกมผ่านไปเรื่อยๆกลับยิ่งสบายอกสบายใจมากขึ้น เพราะดูแล้วเกมรุกของเชลซีในครึ่งหลังน่าจะเนือยๆลงไปกว่าครึ่งแรกเสียอีก แถมกลับเป็นฝั่งเรา ที่สามารถขึ้นเกมบุกได้เรื่อยๆด้วยซ้ำไป ถึงแม้จะจบไม่เสียวแต่ก็ดีที่ได้ครองบอล ยิ่งผ่านไปเฟล็ทเชอร์ยิ่งโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ เขาพล่านซ้ายที ขวาที กลางที ประสานกับแอนนี่กับคาร์ริคได้ดีมากๆ แถมมีการเปิดบอลจากแดนกลางได้ดีวันดีคืน นับว่าเป็นบิ๊กแมทช์เพลย์เยอร์อย่างที่ป๋าบอกเลยนั่นแหละครับ อันเชล็อตติชักอดรนทนไม่ไหว ต้องขยับก่อนด้วยการส่ง โจ โคลลงมาแทนเดโก้ แต่เกมของเชลซียังไม่ดีขึ้นมากนัก เพราะบอลก็ยังไปไม่ค่อยถึงข้างหน้าอยู่ดี ดร็อกบาและอาเนลก้ายังคงต้องลงมาล้วงบอลต่ำหรือถ่างออกด้านกว้างอยู่ร่ำไป การประสานงานของบัลลัค-แลมพส์-โจ โคล เพื่อต่อบอลขึ้นหน้าก็ถูกทำลายเกมโดยผึ้งงานแมนฯยูไนเต็ดทุกจังหวะจนการต่อบอลทำไม่ได้สะดวก ในขณะที่การจบสกอร์ของทีมเยือนที่มีมาเรื่อยๆแต่ก็ยังดูไม่เหลือบ่ากว่าแรงของปีเตอร์ เช็ค แอนด์ โค. เท่าไหร่ ซึ่งส่วนหนึ่ง ผมมองว่า รูนี่ย์ที่วันนี้ถูกวางบทบาทมาเป็นหน้าเป้าที่ต้องทำทุกอย่างนั้น ขยันเกินไปหน่อย เป็นการขยันจนอาจลืมดูเพื่อนๆรอบข้างไปเลยในหลายๆจังหวะ ที่หากมองสักนิด เพื่อนๆที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่านั้น มีสองสามคนครับ แต่อาจเป็นเพราะรูปเกมยังเหลื่อมๆอยู่พอสมควร ผมจึงไม่ได้อนาทรร้อนใจกับเรื่องนี้เท่าไหร่ อีกทั้งการวางหน้าเดี่ยว อาจไปเสริมให้เจ้าตัวคิดเพียงแค่ว่าต้องทำให้ได้ ก็เป็นได้

แต่แล้วก็เหมือนฟ้าฟาดลงมากลางกระบาลผม เรากำลังบุกมันๆอย่างต่อเนื่อง โมเมนตัมกำลังเทมาเต็มที่ ก็ต้องมาเบรกเกมร่วมๆสามสี่นาที จากการปะทะกันระหว่างดร็อกบาและเอแวนส์ บอลนั้นหลุดจากจังหวะแรกที่ดร็อกบาเทคขึ้นแย่งกับบราวน์ไปแล้ว บอลลอยมาถึงเอแวนส์ที่ตั้งหลักจะโหม่งเคลียร์ออกไป แต่ดร็อกบากลับกระโจนเข้ามาใส่เอแวนส์เต็มที่ ทั้งๆที่ไม่มีทางทันลูกบอลแน่ๆอยู่แล้ว เอแวนส์ตั้งตรีนรอรับทันทีในจังหวะโหม่งสกัด แต่เมื่อเห็นดร็อกบาไม่หยุดหรือยั้งตัวไว้ จึงยันปุ่มออกไปเต็มที่ปะทะเอายอดอกกองหน้าไอวอรี่ โคสต์เต็มๆ จนลงไปนอนกองกับพื้น แต่กรรมการกลับมาให้ใบเหลืองดร็อกบาซะงั้น ซึ่งลูกนี้ผมมองว่าหนึ่ง กรรมการอาจไม่เห็นจังหวะเท้าที่เปิดปุ่มยันเข้าไปของเอแวนส์ ประกอบกับสองคือดูจากเจตนาของดร็อกบาที่โถมทั้งตัวเข้าใส่เอแวนส์ทั้งๆที่จังหวะขาดไปแล้วนั่นเอง ซึ่งผมคิดว่า ถ้ากรรมการเห็นจังหวะเท้าของเอแวนส์ด้วยล่ะก็...งานนี้ขั้นต่ำคงมีใบเหลืองบ้างแหละครับ เพราะจริงๆแล้วแค่ตั้งเข่ากันไว้เหมือนนายทวารก็น่าจะเซฟได้ระดับหนึ่งแล้ว ไม่ต้องถึงกับเปิดปุ่มยันเขาขนาดนั้นหรอก แต่ก็นะ...เป็นผมก็คงคิดไม่ทันเหมือนกัน เมื่อใจนึงก็พุ่งสมาธิไปที่การโหม่งบอลที่ลอยมา ส่วนหางตาก็เห็นถึกๆดำๆพุ่งเข้ามาใส่ตัวอย่างกับรถพ่วงแบบนั้น

จากการเบรกเกมจังหวะดังกล่าว ผมเองยังบอกกับตัวเองอยู่เลย ว่าโมเมนตัมกำลังมาแท้ๆ ต้องมาเบรกแบบนี้เดี๋ยวก็เสียศูนย์หรอก แล้วก็จนได้ครับ ฟ้าผ่าลงมาอย่างที่บอก จากจังหวะต่อเนื่องจากตรงนั้น เชลซีมาได้ฟรีคิกทางซ้ายของกรอบโทษ แลมพส์เปิดเข้ามาหน้ากรอบ เทอร์รี่ขึ้นเช็ดบอลมุดลงโคนเสาสองอย่างสุดสวย แต่มีปัญหาตรงที่บราวน์ฟ้องว่าถูกดร็อกบาเหนี่ยวจนล้ม ทั้งๆที่ยืนขวางไลน์บอลของเทอร์รี่อยู่ มาร์ติน แอ๊ตกินสัน ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เป่านกหวีดปรี๊ดดดดยาวให้ทีมเยือนไปเขี่ยลูกกลางสนามทันที ท่ามกลางการประท้วงของบรรดาแข้งทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูจากภาพช้าแล้วก็เห็นไม่ชัดครับ และโดยทั่วๆไปกรรมการหลายๆท่านก็ไม่ได้ให้ฟาล์วลูกแบบนี้ อันว่าลูกฟรีคิกลักษณะนี้มันรับมือยากมากๆอยู่แล้ว น้าซาร์ต้องปิดเสาแรกเผื่อเขาจะลักไก่ยิงยัดเข้ามา ทำให้เสาสองจะเปิดโล่งซึ่งเป็นจุดที่ปกติผู้ยิงมักจะยิงโค้งหาหน้าต่างเสาสองเป็นหลัก โดยมีผู้เล่นโถมเข้าไปเผื่อเช็ดเปลี่ยนทางหน้ากรอบ จะสังเกตว่าลูกฟรีคิกลักษณะนี้จะเป็นประตูได้บ่อยมากๆ และเมื่อเราเจอแบบนี้ ก็ต้องยอมล่ะครับ ชไมเคิลเองสมัยอยู่กับเราก็เคยโดนมาหลายครั้งเหมือนกัน

จะว่าไป มาร์ติน แอ๊ตกินสัน ผู้ตัดสินเกมนี้ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดีนะครับ จะมีนกหวีดหวานให้เจ้าบ้านพอหอมปากหอมคอตามวัฒนธรรมและแรงเชียร์ของแฟนๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใด เพียงแต่บางจังหวะเท่านั้น ที่ออกจะค้านๆสายตาไปหน่อย เช่นในครึ่งแรก นอกจากลูกล้ำหน้ารูนี่ย์แล้วนั้น ยังมีจังหวะที่เทอร์รี่ไปปะทะกับแอชลี่ย์ โคล กันเอง แล้วโดนโคลตุ๊ยเอาจ๊างแมมมอธเต็มๆจนเทอร์รี่ลงไปนอนกองกับพื้นนั่นแหละ จังหวะนั้นแทนที่จะเป่าหยุดเกม เพราะไม่ใช่ลูกได้เปรียบอะไรของใคร แต่แอ๊ตกินสันกลับปล่อยให้ผู้เล่นเชลซีลากบอลลุยพรวดๆเข้าหาทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จนแมนฯยูไนเต็ดต้องสกัดสองสามครั้ง กว่าจะได้บอลคืนมา แต่พอได้บอลคืนมาแล้วจะสวนเร็วบ้าง แอ๊ตกินสันกลับเป่าหยุดเกมให้ดูอาการเทอร์รี่ซะงั้น ช็อตนี้เล่นเอาป๋าเคืองมากๆจนหน้าแดงก่ำเป็นกวนอูเลยทีเดียว แต่ภาพรวมๆแล้ว ผมถือว่าแอ๊ตกินสันไม่ได้ผิดพลาดอะไรมากมายครับ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เราๆท่านๆเห็นกันเป็นปกติ

หลังจากเสียประตูไปแบบช็อคอารมณ์แฟนๆแล้วนั้น ยูไนเต็ดก็โหมทันที และเปิดเกมบุกชนิดเชลซีกางตำราไม่ทันเลยทีเดียว อันเชล็อตติรีบส่งกาลูลงมาแทนดร็อกบาก่อน หวังใช้ความเร็ว และความสดของกาลูในจังหวะสวนกลับที่ยูไนเต็ดโหมบุกจนหลังลอยแล้วนั่นเอง แต่รูปเกมไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะบรรดาแผงมิดฟิลด์แมนฯ ยูไนเต็ดยังคงสามารถเก็บบอลจังหวะสองได้เรียบวุธ และขึงเชลซีได้อย่างต่อเนื่อง เกมตอนนี้เชลซีพยายามเล่นกับเวลาทุกช็อตสวนทางกับทีมเยือนที่ต้องการเล่นให้เร็วที่สุด จนมีเรื่องมีนราวกันเล็กน้อย ก่อนเอแวนส์และคาร์วัลโญ่จะรับไปคนละเหลือง ท่านเซอร์ขยับเปลี่ยนตัวทันที ส่งโอแบร์กตองลงมาแทนกิ๊กส์ และโอเว่นลงมาแทนอันแดร์สัน ถือเป็นการปรับระบบทีมมาเล่นหน้าคู่เพื่อทวงประตูให้ได้นั่นเอง ซึ่งโอแบร์กตองลงมาก็ปั่นป่วนอิวาโนวิชได้ทันที การลากเลื้อย ความพริ้ว และความเข้าใจในการเล่นเป็นทีมของเขา ช่วยให้เกมรุกทางซ้ายมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เสียแต่ว่าเวลามีน้อยไปหน่อยสำหรับเขาและโอเว่น ที่จะสร้างปาฏิหารย์จากทีมระดับเชลซี

คาร์โล เผาเวลาอีกรอบ โดยคราวนี้ส่ง อเล็กซ์ กองหลังลงมาช่วยแนวรับโดยถอดศูนย์หน้าอย่างอาเนลก้าออก ยูไนเต็ดโหมเกมเต็มที่แต่ก็ทำได้แค่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาชนิดแฟนๆเจ้าถิ่นหายใจไม่ทั่วท้อง ยูไนเต็ดทำได้แค่นั้นจริงๆครับ จนจบเกมที่มีการต่อเวลาเจ็บออกไปอีกห้านาที ก็ยังตีเสมอไม่ได้ ทำให้เกมจบลงไปด้วยชัยชนะและสามแต้มของเชลซีเจ้าบ้าน ที่ช่วยให้ฉีกหนีอันดับสองอันดับสามอย่างอาร์เซน่อล และแมนฯยูไนเต็ดเป็นห้าแต้มเต็มๆแล้วในขณะนี้ ผมรีบปิดทีวีนอนทันที แต่ทั้งๆที่ง่วงมากมาย ผมกลับต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมง กว่าจะข่มใจให้หลับลงไปได้ เนื่องจากความพ่ายแพ้แบบนี้ ถึงจะน่าภูมิใจที่เราเล่นงานเชลซีได้ขนาดนั้น แต่อีกใจหนึ่งก็เสียดายโอกาสที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาที่เปลี่ยนให้เป็นประตูไม่ได้ คือมันทั้งดีใจภูมิใจกับความมุ่งมั่น กับวินัย กับรูปเกม แต่เสียดาย ที่ไม่สามารถกระหน่ำตาข่ายได้แม้สักลูกนั่นแหละครับ

จากเกมนี้ ก่อนอื่น ก็คงต้องยกย่องเชลซีก่อน ที่ถึงแม้จะถูกทีมเยือนที่ขุมกำลังไม่สมประกอบนัก ใช้ลูกหนัก ลูกขยัน บดบี้ทำลายเกมจนเสียหายต่อไม่ค่อยติด แต่เชลซีก็ยังเป็นเชลซี โอกาสที่มีจะจะแค่ครั้งเดียว ก็ทำได้ ตรงนี้ครับ ที่เราต้องย้อนมามองตัวเอง โอกาสที่เราสร้างขึ้นมา ถ้าจะเนียนๆสักหน่อย ผมว่าเราสามารถสร้างความหวาดเสียวได้มากกว่านี้นะครับ จังหวะสุดท้ายที่อาจจะเกร็งๆกันไปจนขาดๆเกินๆ หรือตั้งอกตั้งใจยิงแถวสองหน้ากรอบมากจนลืมที่จะมองว่า เพื่อนๆอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าก็มี แต่บทเรียนคราวนี้ จะช่วยสอนให้เด็กๆของเราได้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น อย่าลืมว่านักเตะอย่างรูนี่ย์, วาเลนเซีย, อันแดร์สัน และเฟล็ทเชอร์ นั้น ยังไม่ถึงช่วงพีคของอาชีพตัวเองเลยนะครับ ถ้านำบทเรียนและประสบการณ์ตรงนี้ มาปรับปรุงเหลี่ยมบอลและเชิงบอลโดยเฉพาะในจังหวะหน้ากรอบให้ได้ดีกว่านี้ ผมว่าเด็กพวกนี้ยังสามารถรีดฟอร์มขึ้นไปได้อีก

พูดถึงทีมเราบ้าง วันนี้ขอยกย่องสปิริตของทุกๆคน ที่พกความมุ่งมั่น และความกระหายในชัยชนะมาอย่างเต็มเปี่ยม รวมทั้งแสดงมันออกมาเต็มร้อยได้ในสนามแบบไม่มีกั๊ก ฟอร์มและทีมสปิริตแบบนี้แหละครับ ที่ผมบอกเป็นประจำว่า อยากเห็นบ่อยๆ และอีกจุดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ มันสมองของป๋า ที่หาทางเอาชนะแท็คติคของอันเชล็อตติจนได้ จากที่เคยโดนเหลี่ยมเพชรอิตาเลียนเล่นงานจนงอมพระรามมาก่อน วันนี้ ท่านเซอร์วางหมากมาได้แบบสุดยอดจริงๆ และที่สำคัญกว่านั้น คือท่านเซอร์ปลุกเร้าแพสชั่นลูกศิษย์ได้แบบถึงแก่นเลยครับ แต่ละคนวิ่งกันลืมตายทุกลูก คุณๆเห็นรูนี่ย์ควบจากข้างหน้าสุดตามมาแซะบอลจากผู้เล่นเชลซีที่สุดเส้นหลังเราไหม นั่นแหละครับ คืออารมณ์ที่ป๋าปลุกมาให้นักเตะทุกคนก่อนเกม และผมหวังว่า ความพ่ายแพ้นัดนี้ จะยิ่งจุดไฟนักสู้ของพวกเราให้ลุกโชนยิ่งกว่าเก่า เพราะฟอร์มของพวกเราในเกมนี้มัน...สุโค่ยยยย เกินกว่าจะได้เพียงศูนย์แต้ม และผมเชื่อว่า นักเตะของเรานั้น ต้องการพิสูจน์เหลือเกิน ว่ามีดีเกินกว่าจะจบซีซั่นด้วยการเป็นเพียงแค่ที่สอง

แล้วมาลุ้นกันครับ

สงบใจ



Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2552 11:15:41 น. 2 comments
Counter : 406 Pageviews.

 
สมควรเเล้วที่เเมนยูเเพ้


โดย: ไอซ์ IP: 172.16.3.77, 202.129.12.194 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:48:01 น.  

 
สมควรเเล้วที่เเมนยูเเพ้


โดย: ไอซ์ IP: 172.16.3.77, 202.129.12.194 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:48:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.