Once Man United, Always Man United
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
20090921 วิพากษ์ UNITED vs CITY

What the hell is this game!!!


สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับเช้าวันจันทร์อันแสนสดใสสำหรับชาวเราแฟนผีแดง ส่วนอีกฝั่งเมืองแมนเชสเตอร์น่ะ เขาไม่คิดเช่นนั้นเหมือนเราแน่ๆ เพราะนอกจากผลแพ้-ชนะในเกมแล้ว เกมนี้ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างให้พูดถึงมากมาย นอกจากประตูที่เกิดขึ้นถึงเจ็ดลูก ก็ยังมีเรื่องราวของผู้ตัดสินในช่วงทดเวลาบาดเจ็บให้ได้วิพากษ์วิจารณ์กันต่ออย่างเมามัน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

การจัดทัพนัดนี้ หลังจากเจ้าหมูบินถูกถอดออกมาจากเกมกลางสัปดาห์ที่ตุรกี แถมถูกก้อนน้ำลายไม่ปรากฏสัญชาติเจ้าของปลิวมาใส่ให้เสียอารมณ์ จนน้องหมูต้องออกอาการคนหมูเดือด เกมนี้ก็เท่ากับเป็นการยืนยันในความคิดของป๋าเรา ว่าที่ถอดน้องหมูนัดที่แล้ว ก็เพื่อเก็บความสดเอาไว้ในเกมนี้นั่นเอง นัดนี้เจ้าหมูบินจึงได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงคู่กับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วนผู้รักษาประตูยังคงไว้ใจเบน ฟอสเตอร์ แผงแบ๊กโฟร์ประกอบไปด้วยจอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช และปาทริซ เอวร่า แผงมิดฟิลด์สี่คนนัดนี้ประกอบไปด้วย ไรอัน กิ๊กส์, อันแดร์สัน, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และ พาร์ค ชี ซอง

สำหรับทางฝั่งผู้มาเยือนนัดนี้ นอกจากจะต้องขาดโรบินโญ่ และโรเก้ ซานตา ครูซ จากอาการบาดเจ็บแล้ว ยังต้องขาดเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่เริ่มติดโทษแบนเป็นนัดแรก แต่ได้คาร์ลอส เตเวซ กลับมาจากอาการบาดเจ็บ และลงยืนเป็นหน้าเป้าได้ในเกมนี้ ผู้รักษาประตูยังเป็น เชย์ กิฟเว่น แผงแบ๊กโฟร์ไล่เรียงไปด้วยเวย์น บริดจ์, โจลีออน เลสคอตต์, โคโล่ ตูเร่ และ ไมกาห์ ริชาร์ดส์ มิดฟิลด์สามคน ประกอบไปด้วย แกเร็ธ แบร์รี่, ไนเจล เด ยองก์ และสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ส่วนตัวรุกริมเส้นสองข้างใช้ ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ ทางขวา มีเคร็ก เบลลามี่ ลากทางซ้าย

เริ่มเกม ยูไนเต็ดตั้งเกมรุกบุกใส่ทันที และแค่สองนาทีก็ได้ประตูออกนำจากลูกทุ่มทางซ้าย เอวร่าแลบขึ้นมารับลูกทุ่มจากกิ๊กส์ ทะลุเข้าไปในกรอบจนสุดเส้นหลังก่อนตวัดกลับมาให้รูนี่ย์ เจ้าหมูบินดึงจังหวะก่อนแหวกฝ่าสองกองหลังซิตี้เข้าไปดวลกับกิฟเว่น และกองหลังอีกตัวที่สไลด์เข้ามาบล็อค แต่ไม่ทันการ รูนี่ย์จิ้มสวนนายทวารซิตี้เข้าไปได้ก่อน ส่งให้ยูไนเต็ดออกนำแต่ไก่โห่ หลังจากได้ประตูเร็ว เกมของยูไนเต็ดก็ได้ใจ กางตำราเพรสซิ่งเข้าเล่นงานผู้มาเยือนอย่างต่อเนื่องและกดดันได้น่ากลัว แอนนี่และเฟล็ทช์ ไล่ตัดไล่แย่งบอล เข้าประกบเร็วและพัวพันจนซิตี้ตั้งเกมไม่ค่อยถนัด แต่ปัญหาของยูไนเต็ดเริ่มถูกเปิดออกมาทีละน้อย เมื่อฟอสเตอร์เริ่มแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจออกมาเตะเปิดเกมนี้ยังห่วยแตก ครั้งแรกฟอสเตอร์รอจังหวะซะจนเตเวซปรี่เข้ามาโดดบล็อคได้ทัน ส่วนครั้งที่สองนี้ไม่มีการแก้ตัว ฟอสเตอร์รอจนบอลไหลมาเข้าทาง(ทำไม?) แต่ไม่ทันเตเวซที่เข้ามาชาร์จปั๊มบอลในจังหวะเตะ ฟอสเตอร์รีบล้มตัวตะครุบแต่ไม่อยู่โดนเตเวซจิ้มไปได้ แล้วไหลย้อนให้แบร์รี่ที่วิ่งตามมา แปหนีวิดิชเข้าไปได้ง่ายๆ ให้ซิตี้ตีเสมอได้สำเร็จ

เกมหลังจากนั้น ยูไนเต็ดช็อคไปดื้อๆ ไอ้ที่เค้าว่ากันว่า วินัยเริ่มที่บ้าน นั้นมันเป็นเช่นนี้นี่เอง เมื่อฟอสเตอร์แสดงให้เห็นว่าไม่นิ่ง และพลาดในจังหวะส่งคืนหลังอย่างต่อเนื่อง ทำให้เพื่อนๆในแผงแบ๊กโฟร์ไม่สามารถวางใจและเล่นนิ่งๆได้อีก ต้องพะวักพะวงกับบอลตลอด ทำให้ตัวรุกสามคนของซิตี้ดันเกมขึ้นมากดดันได้ตลอด และกลางของยูไนเต็ดก็ต้องลงมาต่ำเพื่อช่วยเกมรับในการต่อบอลหนีการไล่กดดันของบรรดาผู้เล่นซิตี้จนเสียโอกาสในการตั้งเกมรุกตามปกติ รูนี่ย์ที่ฉีกออกมาช่วยเกมริมเส้นก็ไม่สามารถต่อบอลกับเพื่อนได้ถนัด ทั้งรูนี่ย์, กิ๊กส์ และเบอร์บาตอฟ ทำได้ดีในการเก็บบอลจังหวะแรกและดึงจังหวะรอเพื่อนเติม แต่จังหวะให้ของทั้งสามคนกลับเสียบอลบ่อยๆ จนโอกาสเข้าทำไม่ค่อยมี รูปเกมหลังจากที่ซิตี้ได้ประตูตีเสมอมาจนจบครึ่งหลังนี้กลายเป็นว่าซิตี้ทำเกมได้เหลื่อมๆกว่าด้วยซ้ำไป ทั้งการทำเกมของเบลลามี่, SWP และเตเวซในแดนหน้า อีกทั้งเด ยองก์ กับแบร์รี่ก็สามารถปิดการขึ้นเกมของเจ้าบ้านได้ค่อนข้างดีทีเดียว แผงกองหลังซิตี้ก็กลับมาปักหลักได้ดีขึ้นกว่าช่วงแรกเยอะ


เกมมาถึงครึ่งหลัง หลังจากที่ป๋าได้จัดการอะไรไปพอสมควรในช่วงพักครึ่ง ถ้าให้ผมเดา ก็คงเป็นการอบรมฟอสเตอร์พอหอมปากหอมคอ และป๋าเองก็คงดูออก ว่าเกมในครึ่งแรกบรรดาตัวรุกและแบ๊กของซิตี้ต่างขึ้นเติมกันได้สะดวกโยธินชนิดโอเช และเอวร่าไม่สามารถหยุดยั้งได้ง่ายๆ อีกทั้งยังกดดันจนฟอสเตอร์ไม่สามารถประคองสมาธิได้ดีนัก ป๋าจึงทำการปรับแท็คติคใหม่หมด ซึ่งผิดไปจากที่ผมคาดเดาเยอะทีเดียว ผมเองยังแปลกใจว่าป๋าปรับแท็คติคมาแบบนี้ได้ด้วยหรือ นั่นก็คือ การกลับมาใช้แผน “เกมรุก คือเกมรับที่ดีที่สุด” หลังจากลมปากของ มาร์ติน แอ็ตกินสัน ถูกพ่นออกมาผ่านนกหวีดเพิ่อเริ่มเกมครึ่งหลัง ยูไนเต็ดก็เดินเครื่องเต็มสูบ พาเหรดกันดันเกมรุกขึ้นทั้งแผง กดดันอย่างต่อเนื่องจนได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ไรอัน กิ๊กส์ เปิดบอลจากกราบซ้ายเข้ามาเสาสอง ดาร์เรน เดอะลูกรัก เฟล็ทเชอร์สอดมาจากนอกกรอบโถมเข้าโหม่งตัดหน้าแบร์รี่ ส่งบอลเสียบเสาสองในนาทีที่ 48 อย่างงดงาม

แต่ไม่ทันไร แผงหลังยูไนเต็ดก็ก่อความผิดพลาดอีกครั้ง คราวนี้กลายเป็นจอห์น โอเช ที่ไม่ยอมเข้าไปปิดทางของเคร็ก เบลลามี่ ทั้งๆที่มีเพื่ออีกคนยืนซ้อนอยู่ด้วย เบลลามี่จึงมีเวลา และมีพื้นที่พอที่จะลากหาจุดที่ตัวเองถนัดตรงกรอบเขตโทษทางซ้าย ก่อนจะวางเท้าและซัดอย่างเมาะเหม็ง บอลพุ่งวาบหนีมือฟอสเตอร์เสียบสามเหลี่ยมอย่างสุดสวย หลังจากเจ้าบ้านขึ้นนำไปแค่สามนาทีเท่านั้น หลังจากได้ประตูตีเสมอ ซิตี้ทำท่าว่าจะฮึดขึ้นมาได้อีก แต่ยูไนเต็ดไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยครึ่งแรกอีก คราวนี้จึงรีบตั้งสติและเซ็ตเกมรุกเปิดเกมบุกแหลกอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ทำได้ดีมาก ยูไนเต็ดเปิดเกมรุกและขึงซิตี้ซะจนไม่สามารถตั้งเกมได้เลย แอนนี่ และเฟล็ทเชอร์ เป็นคีย์แมนคอยคุมพื้นที่ตรงกลางสนามได้เป็นอย่างดี ในขณะที่รูนี่ย์และกิ๊กส์ สลับบทบาทกันเจาะทางริมเส้นฝั่งซ้ายและตรงกลางอย่างเมามัน โดยมีพาร์คคอยเติมและสกรีนเกมริมเส้นให้

เกมของยูไนเต็ดถึงแม้จะดูข่มทีมเยือนอยู่เยอะมากๆ แต่เชย์ กิฟเว่นก็ปฏิเสธโอกาสของเจ้าบ้านได้หมดจด ทำให้สกอร์ยังคงถูกตรึงไว้ที่ 2:2 ท่านเซอร์เริ่มร้อนใจ ทำการแก้เกมก่อนด้วยการส่งวาเลนเซียลงมาแทนพาร์ค ซึ่งวาเลนเซียก็เพิ่มความวูบวาบทางริมเส้นได้มากขึ้น ทำให้แบ๊คของซิตี้ถูกถ่างออกมาริมเส้นมากขึ้น บวกกับการที่เกมนี้ มีเพื่อนคอยเติมทางนี้สองสามคนตลอด ทำให้ซิตี้ต้องเสียผู้เล่นสามสี่คนมาพะวงริมเส้นด้านนี้อย่างช่วยไม่ได้ เกมรุกของยูไนเต็ดจึงเท่ากับเป็นการตัดกำลังรุกของซิตี้ไปในตัว เมื่อเตเวซต้องเล่นอยู่แค่กลางสนาม เพื่อไล่บอลในครอบครองของเจ้าบ้านที่ครองเกมได้อย่างต่อเนื่อง ส่วน SWP และเบลลามี่ ก็ต้องง่วนกับการไล่บอลทางริมเส้น และป้องกันไม่ให้ตัวริมเส้นของยูไนเต็ดทำเกมได้ถนัด

เกมยังคงเป็นของยูไนเต็ดแบบวันเวย์ แต่การขึงก็เริ่มออกอาการตื้อลงเรื่อยๆ กิฟเว่นที่ปฏิเสธโอกาสของเจ้าบ้านตลอดเวลา ก็เริ่มทำให้เจ้าบ้านหมดมุขไปเรื่อยๆ ท่านเซอร์เริ่มร้อนใจอีกครั้ง ต้องสั่งโอเว่นลงมาวอร์มข้างสนาม กลับกัน ฮิวจส์กลับยังไม่ได้แสดงท่าทีจะเปลี่ยนตัวแต่อย่างใด ท่านเซอร์จึงรีบปล่อยโอเว่นลงน้ำ และถอดเบิร์บจิต้าที่ค่อนข้างผิดหวังกับการถูกกิฟเว่นหยุดโอกาสไปสามสี่ครั้งออกมาพัก โอเว่นเข้ามาได้ไม่ทันไร ยูไนเต็ดก็ได้ประตูออกนำอีกครั้ง เมื่อกิ๊กส์เปิดบอลจากกราบซ้ายอีกแล้ว คราวนี้ก็เป็นเฟล็ทเชอร์อีกนั่นแหละ ที่เทคขึ้นโหม่งเต็มๆส่งบอลผ่านมือกิฟเว่นตุงตาข่ายอีกครั้งในนาทีที่ 80 หลังจากนั้น เจ้าบ้านทำท่าจะปิดเกมตามถนัด จึงผ่อนเกมลงและเน้นที่การครอบครองบอลกับการหาจังหวะสวนกลับเพื่อยิงเพิ่ม โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นการเสี่ยงอย่างที่สุด เมื่อแนวรับวันนี้เราไม่นิ่ง บวกกับผู้เล่นแนวรุกที่คล่องมากๆของซิตี้ แถมฮิวจส์ก็ปรับทันทีเช่นกัน ส่งเปตรอฟลงมาเพิ่มเกมรุกแล้วถอดเอาตัวรับอย่างเด ยองก์ออก

ในที่สุด สิ่งที่ผมกลัวก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่วันนี้ดูจะออกอาการแอ็คต์เกินเหตุในหลายๆจังหวะ ตลอดเกม ตั้งแต่ลูกแรกที่เสียประตู ผมมองว่าริโอมีส่วนผิดยี่สิบกะโหลกส์ ที่ไม่ยอมสกรีนเตเวซให้ฟอสเตอร์ได้เตะสะดวกๆ ทั้งๆที่ตังเองยืนอยู่หน้าข้างหน้าเตเวซแท้ๆ คราวนี้ก็เหมือนกัน ริโอที่ครองบอลอยู่ ทำให้ตัวเองจนตรอกด้วยการดึงบอลสองสามครั้งจนผู้เล่นซิตี้เริ่มเข้ามาปิดทางจ่ายบอล ริโอจึงพยายามช้อนบอลกะให้ข้ามหัวผู้เล่นซิตี้เพื่อส่งให้เพื่อน แต่กลายเป็นว่า สูงไม่พอ ถูกผู้เล่นซิตี้โดดบล็อคได้ก่อนจะแทงให้เบลลามี่ที่พุ่งออกตัวสวนริโอ ริโอพยายามกวดแต่ไม่ทัน สุดท้ายเบลลามี่วิ่งพรวดๆเข้าเขตโทษก่อนจะปาดหนีฟอสเตอร์และแปมุมแคบสุดๆเข้าไปได้ในช่วงนาทีที่ 90 ทำเอาผมเซ็งจิตไปเลยทีเดียว

แต่หลังจากนั้น มาร์ติน แอ๊ตกินสัน ก็ดันให้เล่นต่อไปอีกโดยบวกเวลาเพิ่มจากสี่นาทีออกไปอย่างได้ใจเจ้าบ้าน ซึ่งภายหลังเจ้าตัวบอกว่า เขาบวกเพิ่มเนื่องจากผู้ตัดสินที่สี่ทดเวลาที่ผู้เล่นซิตี้ดีใจกันนาน บวกกับการที่ป๋าเปลี่ยนตัวเอาคาร์ริคลงมาแทนแอนนี่ในช่วงทดเจ็บ ทำให้เวลามันเนิ่นนานออกไป นับว่าแปลกประหลาดอย่างที่สุด ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นก็ตาม และในช่วงนาทีที่ ห้าครึ่ง ของการทดเวลานั้นเอง กิ๊กส์ก็เก็บบอลทะลักได้ที่ตรงกลางสนาม ก่อนจะเห็นโอเว่นโบกมือหยอยๆอยู่ทางซ้าย กิ๊กส์ไม่รอช้า แทงบอลทะลุพรวดไปทันที โอเว่นหลุดเข้าไปดวลกับกิฟเว่นโดยมีผู้เล่นซิตี้ตามไปบล็อค แต่ไม่ทัน โอเว่นล้มตัวจิ้มบอลสวนกิฟเว่นตุงเสาสองได้สำเร็จ ชนิดที่ฮิวจส์ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองและกรรมการ สุดท้ายกลายเป็นเจ้าบ้านเก็บชัยชนะได้สำเร็จในเกมสุดมัน ที่มีเรื่องการทดเวลาให้ต้องพูดถึงกันไปอีกนานครับ

มาดูกันถึงนักเตะ ฟอสเตอร์นัดนี้กลับมาตื่นเวทีอีกครั้ง หากเป็นสมัยห้าปีที่แล้ว ผมว่าอนาคตบิ๊กเบนดับแน่ๆ เกมนี้คงต้องเดาใจป๋าแล้วว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร โอเชมีพลาดในจังหวะเสียลูกที่สอง แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐาน เอวร่าหยุด SWP ไม่ค่อยได้ในครึ่งแรก แต่หลังจากตั้งลำได้ ก็สามารถปิดเกมทางนี้ของซิตี้ได้สนิท และเติมเกมรุกได้สะเด่าอีกครั้ง ริโอเกมนี้ผมถือว่าพยายามโชว์เหนือเกินไป หากจบเกมไม่ได้สามแต้ม คาดว่าจะโดนไม่ใช่น้อย แต่ถึงได้สามแต้มคิดว่าจะรอดป๋าได้เหรอ วิดชทำผลงานได้ตามมาตรฐาน ซึ่งสามลูกที่เสียไป ไม่ใช่ความผิดเขาเลย แอนนี่ ทำผลงานได้ดี พล่านตัดเกมและคุมพื้นที่ได้เด่น เฟล็ทช์นี่ผมให้ MOM ด้วยซ้ำ กับผลงานคุมเกมตรงกลางและสองประตูในเกมเดียว พาร์คยังคงมีลูกขยันแต่ประสิทธิภาพโดยรวมยังดร็อปไปจากช่วงพีค กิ๊กส์ก็โดดเด่นมากๆ มีส่วนกับทั้งสี่ประตูที่ได้ ส่วนเบิร์บนั้นผมว่าโชคร้ายที่ไม่สามารถส่งบอลผ่านกิฟเว่นได้ ทั้งๆที่ได้ยิงจ่อๆสามครั้ง โอเว่นถือเป็นซูเปอร์ซับ ในขณะที่วาเลนเซียก็ลงมาพลิกเกมได้ดี คาร์ริคไม่มีอะไร เปลี่ยนลงมาเพื่อหวังลูกกลางอากาศในจังหวะเซ็ตพีซ

ส่วนทางด้านผู้โชคร้ายประจำสัปดาห์อย่างซิตี้ แพ้แบบนี้ก็น่าเสียดายไม่น้อย เพราะการต่อเวลาออกไปหกเจ็ดนาทีแบบนี้ ถ้าพูดตามตรงก็ถือว่าไม่เป็นธรรมกับเขานัก ปกติผมเองก็ไม่เคยเห็นว่าช่วงทดเจ็บจะมีการทดเพิ่มอีก แต่ก็อย่างว่า นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเหมือนกัน ที่ผมเห็นการทดลักษณะนี้เกิดขึ้น ถือเป็นความโชคร้ายของซิตี้ครับ เกมนี้หากจะว่าไป กิฟเว่นควรเป็น MOM ของฝั่งซิตี้ร่วมกับเบลลามี่ ทั้งคู่ทำผลงานได้ดีมากๆในเกมนี้ สี่ประตูที่เสียไป ต้องบอกว่าแผงหลังของซิตี้คุมไม่ดีเอง จะโทษกิฟเว่นทั้งหมดคงไม่ได้ SWP เองก็ทำผลงานได้วูบวาบ ก่อนจะหายไปในช่วงหลัง ในขณะที่เตเวซดูหมือนยังไม่ฟิต ช่วงท้ายก็เนือยและหายไปอีกคน เลสคอตต์เล่นได้ค่อนข้างดีนะในแผงหลัง แต่ยังเด่นน้อยกว่าบริดจ์ที่ปิดเกมรุกเจ้าบ้านได้ดี และเติมเกมสวยๆหลายครั้ง

หลังจากจบเกมนี้ ผมเองต้องมองป๋าใหม่อีกครั้ง กับการแก้เกมช่วงพักครึ่ง ที่เรียกได้ว่าป๋ากระชากวัยตัวเองได้ด้วยแฮะ ผมไม่เห็นการแก้เกมแบบกลับมารุกเต็มตัวนานมากแล้วหลังหมดยุค 1999 และเกมนี้ป๋าคงมองแล้วว่านี่คงเป็นวิธีเดียว ที่จะหยุดเกมรุกของซิตี้ได้ นั่นก็คือการชิงรุกแทนและขึงให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อกดกองกลางซิตี้ไว้หน้ากรอบตัวเอง เพื่อดึงตัวรุกริมเส้นของซิตี้ให้ถอยลงมาช่วยเกมรับเต็มที่ แล้วเตเวซก็จะถูกโดดเดี่ยวจนต้องถอยตัวเองมาไล่ตรงกลางสนามแทน พอรูปเกมเป็นแบบนี้ ซิตี้เมื่อตัดบอลได้ก็จะอยู่ในโซนหน้ากรอบตัวเองแทบทุกคน การต่อบอลขึ้นหน้าเป็นทอดๆจึงต้องรอเพื่อนเติม แล้วก็ถูกยูไนเต็ดบีบจนต้องคายบอลเสียในที่สุด หรือไม่ก็คือการสาดยาวขึ้นหน้าให้ตัวรุกความเร็วสูง แต่เมื่อเทียบกับการปักหลักป้องกันแล้ว การสาดบอลให้ผู้เล่นที่เสียเปรียบด้านความสูงก็ไม่ช่วยอะไร แถมถูกแผงหลังซ้อนเอาไปกินง่ายๆด้วยซ้ำ เกมในครึ่งหลังงานของฟอสเตอร์จึงเบาลงพอสมควร

จะว่าไป เกมของซิตี้ที่ยิงได้สามประตูวันนี้ นอกจากจะต้องชมลูกขยันของเตเวซกับไหวพริบและความคมของเบลลามี่ แล้วผมว่าเราต้องตำหนิตัวเองมากๆเลย กับทั้งสามประตูที่เสียไป บอลโอเพ่นเพลย์ที่ควรต้องเสียให้ซิตี้นั้น จริงๆผมให้แค่ลูกเดียว คือลูกท้ายเกมที่แบร์รี่ยิงจากทางซ้ายเข้ามา แล้วริชาร์ดส์ชาร์จไม่โดน ลูกนั้นสมควรเป็นประตูมากๆ ส่วนสามลูกที่เสียไป ป๋าควรต้องตำหนิกันเป็นรายตัวครับ ลูกแรกเริ่มจากริโอควรสกรีนทางไล่บอลของเตเวซไว้ ไม่ให้เข้าถึงง่ายๆแบบนั้น อีกทั้งฟอสเตอร์ก็ควรจะออกมาเตะทิ้งไปเลย ไม่ต้องรอให้บอลไหลมาเข้าทางแล้วไปล็อกเข้าในจนเสียบอลอย่างนั้น ลูกที่สองโอเชควรปรี่เข้าไปบังทาง เพื่อนซ้อนก็มีอยู่แล้วอีกคน ทำไมพากันถอยกรูดๆเปิดทางให้เบลลามี่ได้ลากแล้วยิงโล่งๆแบบนั้น ส่วนลูกที่สามนี่ต้องเรียกริโอไปเบิร์ดกะโหลกอย่างเดียวเลย ทำไปได้

มาดูภาพรวมกันบ้าง ผมเองตอนแรกก็ไม่คิดว่าเราจะผ่านสามเกมล่าสุดมาได้แบบเก้าแต้มเต็ม แถมเป็นสามเกมที่เราไปควักสามคะแนนมาจากทีมที่มีสถิติชนะรวดอีกต่างหาก นับว่าเป็นผลการแข่งขันที่ค้อนข่างเหลือเชื่อไม่น้อย หากมองสภาพทีมและความลงตัวที่ยังไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่นัก น้าซาร์ยังไม่ได้ลงสนามแม้แต่นาทีเดียว ฮาร์กรีฟส์ยังไปเที่ยวเข้าๆออกๆตามคลินิกชนิดไม่ยอมคิดจะกลับมาลงสนาม ส่วนนานี่, วาเลนเซีย, พาร์ค สามคนนี้ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มที่ดี รวมทั้งประสิทธิภาพดีๆมาสู่เกมของตัวเองได้เลย คีย์แมนในช่วงนี้คงมีเพียง กิ๊กส์, แอนนี่, เฟล็ทเชอร์ และสโคลส์เท่านั้น ส่วนมาสเตอร์คีย์ก็ต้อง รูนี่ย์คนนี้นี่เอง....

มาพูดถึงฝั่งซิตี้กันสักเล็กน้อย เกมนี้ หากเรามองความผิดพลาดของเราว่าเป็นสิ่งที่ซิตี้กดดันให้มันเกิดขึ้น นั่นก็คือถือเป็นผลงานของซิตี้ที่บีบให้เราพลาดได้สำเร็จ ก็คงพูดได้คำเดียวว่า ซิตี้ทีมนี้มีโอกาสมากมายที่จะสอดแทรกเข้ามาเป็นหนึ่งในหกทีมหัวตารางเมื่อจบซีซั่นได้ ส่วนจะถึงหนึ่งในสี่ไหม อันนั้นต้องดูที่ว่า ฮิวจส์มีวิธีที่จะบริหารจัดการนักเตะในทีมอย่างไร เมื่อต้องหมุนเวียนนักเตะจากอาการบาดเจ็บ โทษแบน หรือการไปเล่นศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ หากมาร์ค ฮิวจส์ยังรักษาความต่อเนื่องไว้ได้ พลาดแล้วคัมแบ๊คเร็ว ไม่เป๋ยาว ตบเด็กได้เรื่อยๆ รวมทั้งเล่นกับทีมใหญ่ๆได้ลุ้นเช่นนี้ ผมว่ามีโอกาสสูงมากที่จะสอดเข้ามาเป็นบิ๊กโฟร์ ตอนนี้ฮิวจส์ตอบโจทย์เกมรุกตัวเองได้แปดสิบเก้าสิบเปอร์เซนต์แล้ว กับการจัดการแผงรุกและกองกลางของทีม ส่วนแผงหลังผมยังให้แค่ห้าสิบเปอร์เซนต์ เนื่องจากต้องปรับหากันอีกพอสมควร เซ็ตพีซยังเสียง่าย การคุมคนยังหลวม และโซนยังไม่แน่นพอ ซึ่งตรงนี้ ครึ่งฤดูกาลก็เพียงพอที่จะขันน๊อตได้ หากได้เล่นร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โจทย์ที่เหลือที่ฮิวจส์ต้องผ่านให้ได้นั่นก็คือ การหมุนนักเตะอย่างเหมาะสมและยังได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ กับการคัมแบ๊คเพื่อเน้นผลการแข่งขันหลังจากพ่ายแพ้ สองข้อนี้เท่านั้นที่ถ้าหากฮิวจส์ผ่านไปได้ โอกาสติดหนึ่งในสี่ผมว่ามีสูงนะ

สำหรับยูไนเต็ดเรา ถึงแม้จะโชคร้ายกับประตูแรกและสาม ทีเสียแบบน่าเขกกะโหลก แต่สามแต้มที่ได้ กับเวลาที่ทดมาหกนาทีกว่าๆ ต้องมองว่าเราโชคดีมากๆแล้วต่างหาก และต้องภาวนาต่อไปว่าขอให้โชคดียังอยู่กับเรา และไม่หมดไปง่ายๆ


แล้วมาลุ้นกันครับ

สงบใจ



Create Date : 21 กันยายน 2552
Last Update : 21 กันยายน 2552 10:42:49 น. 3 comments
Counter : 500 Pageviews.

 
ช่วงนี้ ผมจะอยู่ตามบล็อก ไม่ค่อยจะได้เข้าห้องศุภฯ แต่ทุกครั้งที่ทีมเราลงเตะ ผมก็นึกถึงคุณสงบใจ เฮียหมู คุณกระแต ว่าป่านนี้คงจะนั่งดู นั่งเชียร์อยู่ที่บ้าน

คุณสงบใจ เขียนวิจารณ์ได้ละเอียด เก็บข้อมูลได้ทุกเม็ด ความคิดเห็นของผมซึ่งปกติจะมีน้อยอยู่แล้ว จึงไม่มีเพิ่ม (พอดีว่าวิจารณ์เกมบอล หรือ วิจารณ์หนังไม่เป็น) ขอบอกว่าเห็นด้วยครับ.. เกมครึ่งหลังของพวกเราดีขึ้น ฟอสเตอร์ลงเล่นทีไร ผมจะนั่งปอดและเกร็ง เบอร์บาตอฟ ยังไม่มีดวง และเฟอร์ดินาน แอ๊คไปนิดนุง ยอมรับครับ

อ้อ เชย์ กิฟเว่น กับ เบลลามี่ ของเขาเล่นดี


โดย: yyswim วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:11:13:34 น.  

 
เกมนี้ สนุกดีมากครับ แต่ เราก็ผ่านมาได้ (ทั้งที่นึกว่าจะไม่รอดซแล้ว ) ต้องขอบคุร กรรมการ และความสารามรถของไมเคิล โอเว่น จริง ต้องบอกว่า โอเว่นของเข้าดีจริง ๆ และเชื่อได้ ว่า จะดีขึ้นเรื่อยๆ ( นึกถึงตอนโอเว่นอยู่ลิเวอร์ แล้ว มายิงประตู แมนยูฯ คล้ายๆกันเลย ) แต่ตอนนี้มาเป็นของเราแล้ว ขอให้ เค้าสู้ต่อไป และที่สำคัญ หัวจิตหัวใจของ แมนยูฯ สุดยอดจริงๆ ไม่ยอมจนกว่าเสียงนกหวีดสุดท้ายจริงๆ มันส์ครับเกมนี้ ....


โดย: แมนยูฯ ทั้งแผ่นดิน IP: 118.173.158.228 วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:11:24:34 น.  

 
ขอแอดเป็งเพื่อนต๋วยเน้อ

โจจังพลังชีวิต


โดย: พลังชีวิต วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:19:24:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สงบใจ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สงบใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.