Bloggang.com : สงบใจ : 20090914 วิพากษ์ SPURS vs UNITED

20090914 วิพากษ์ SPURS vs UNITED

อีกครั้ง...กับการคัมแบ๊คที่ไวท์ ฮาร์ท เลน

สวัสดีครับ กลับมาพบกันหลังจากห่างหายกันไปสองสัปดาห์ เนื่องจากภารกิจการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ที่เริ่มจะโชกเลือดกันบ้างแล้ว หลังจากโปรตุเกส และอาร์เจนติน่า ออกอาการลูกผีลูกคนและอาจจะถึงขั้นพลาดการโชว์ตัวที่แอฟริกาใต้ในปีหน้าก็เป็นได้ เรื่องนั้นเอาไว้ติดตามกันต่อไปนะครับ เรามาดูกันที่เกมที่คลับไก่ ณ ลอนดอน ของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส กันดีกว่า ซึ่งจะเป็นการวัดใจป๋าเฟอร์กี้เป็นอย่างดี กับเกมคัมแบ๊คหลังเข้าแคมป์ทีมชาติของบรรดาลูกๆป๋า บวกกับโปรแกรมออกศึกเติร์กในวันอังคาร ที่คร่อมตารางการแข่งกับสเปอร์ส น่าคิด...ว่าป๋าจะหลุดสมาธิ หรือนักเตะจะหลุดฟอร์มกันหรือไม่

ก่อนแข่ง ก็เป็นที่ทราบกันดีครับ ว่า สเปอร์สกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มสุดยอด กวาดชัยชนะร้อยเปอร์เซนต์ตั้งแต่เปิดซีซั่นมา รวมทั้งอัดลิเวอร์พูลกลิ้งมาแล้วด้วยซ้ำ ข่าวร้ายเพียงอย่างเดียวของพวกเขาคงมีแค่การเจ็บยาวของลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวกลั่นของทีม แต่จ่าแฮร์รี่แกก็ไวครับ ไปสอยเอาเด็กจากคลับเก่าของตัวอย่าง นิโก้ ครานชาร์มาได้ทันที เกมนี้ แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ สามารถส่งตัวหลักๆลงสนามได้เกือบครบ ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู คาร์โล คูดิชินี่ คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเป็น เล็ดลี่ย์ คิง กับ เซบาสเตียน บาสซง แบ๊คซ้ายได้ เบอร์นัว อัสซู เอก็อตโต้ และแบ็คขวาก็มีเวดราน ชอร์ลูก้า ประจำตำแหน่ง กองกลางวันนี้เลือกคู่กลางเป็นทอม ฮัดเดิลสตัน และวิลสัน ปาลาซิออส ริมเส้นด้านขวาเป็นอารอน เลนน่อน (ของแสลงเอวร่า) และด้านซ้ายเลือก ร็อบบี้ คีน คู่หน้าแฮร์รี่จิ้มไปที่ ปีเตอร์ เคราช์ และเจอร์แมน เดโฟ

ส่วนทางด้านป๋าแพนด้ามหาภัยนั้น คิดมากหน่อย เพราะมีเกมกลางสัปดาห์รอคอยอยู่ แถมกลับมาก็ต้องเซิ้งกับแมนฯ ซิตี้ ต่อทันที ทำให้เลือกดร็อปไมเคิล คาร์ริค, อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ หลุยส์ นานี่ เป็นสำรองข้างสนาม ส่งเบน ฟอสเตอร์ยืนเฝ้าเสา แผงหลังสี่ตัวได้จอห์น โอเช กลับมาจากอาการเจ็บน่อง ยืนฟูลแบ๊คด้านขวา ด้านซ้ายได้ ปาทริซ เอวร่า คู่เซ็นเตอร์กลับมาเป็น ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานย่า วิดิช อีกครั้ง มิดฟิลด์คู่กลางส่งพอล สโคลส์ และอันแดร์สันลงคู่กัน ให้ไรอัน กิ๊กส์ ลากเลื้อยทางซ้าย และดาร์เรน เฟล็ทเชอร์อยู่ทางขวา คู่กองหน้าให้ เวย์น รูนี่ย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟค้ำไว้

ยังไม่ทันจะได้เริ่มละเมียดละไม แบล๊ก เลเบิ้ลลงลำคอ (ความสามารถเฉพาะตัว ผู้ปกครองควรพิจารณา//ฮ่าฮ่าฮ่า) ผมก็แทบสำลักน้ำลาย เมื่อจังหวะที่เราจ่ายขึ้นหน้าพลาดแล้วโดนตั้งเกมสวนกลับ บอลถูกโยนเข้ามาที่เสาโทรเลขยี่ห้อเคราช์ ซึ่งมีวิดิชพยายามตะเกียกตะกายขึ้นเทคสู้อยู่ข้างหน้า แต่ทำได้แค่เสียหลักโหม่งตั้งกลับมาตรงกลางเข้าล็อคของเดโฟที่ยืนโล่งพอดี ริโอปราดเข้ามาบล๊อคแต่ไม่ทัน เดโฟที่หันหลังอยู่ก็ตีลังกาตวัดยิงผ่านตัวฟอสเตอร์จ่อๆเข้าไปตั้งแต่ยังไม่ห้าสิบวินาที ทำเอาผมต้องสบถในใจว่า เล่นกะสเปอร์สทีไร ทำไมต้องให้เขายิงก่อนทู้กที...สิน่า มันเสียวนาว้อย แต่หลังจากได้ประตูขึ้นนำเร็ว เกมก็เปิดทันทีครับ ยูไนเต็ดค่อยๆตั้งเกมรุกขึ้นมาและเริ่มบดเข้าใส่เจ้าบ้าน เกมมักจะขึ้นจากตรงกลาง โดยอันแดร์สันและพอล สโคลส์ ก่อนจะหาช่องแจกจ่ายให้เพื่อนๆได้เข้าทำ

เกมเริ่มสนุกขึ้นมาทันที และอาจเป็นปัญหาที่จ่าแฮร์รี่วางแท็คติคมาถูกครึ่งผิดครึ่งในสายตาของผม ส่วนที่ถูกก็คือ การวางผู้เล่นแนวรุกอัดกันมาข้างหน้าสามตัวคือ เคราช์, เดโฟ, คีน ซึ่งทั้งสามคนต่างสามารถสลับกันเล่นได้อย่างสอดคล้อง กลมกลืน โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรก ผนวกกับการมีเลนน่อนยืนค้ำทางขวา ทำให้เอวร่าช่วงแรกๆไม่กล้าผลีผลามขึ้นเกมสูง เพราะความหลังฝังใจมันเยอะกับคนคนนี้ การวางหมากยัดผู้เล่นแนวรุกมาค้ำเช่นนี้ งานหนักก็คือคนประกบเคราช์นี่แหละ ซึ่งเป็นวิดิช งานนี้ทำเอาวิดิชเหนื่อยสายตัวแทบขาด และคนอื่นก็ไม่สามารถมาช่วยประคองได้ด้วย เนื่องจากภาระแต่ละคนก็หนักหนาสาหัส เดโฟเจอกับริโอ คีนกับโอเช และเลนน่อนกับเอวร่า ปัญหาหนักอกที่กองหลังเราประสบก็ต้องยกความดีความชอบให้กับแฮรรี่ เร้ดแนปป์ที่วางหมากแนวรุกมาได้ดีจริงๆ

แต่...สิ่งที่อาจจะผิดในสายตาของผมก็คือ การที่จ่าแฮร์รี่เลือกฮัดเดิลสตันมายืนคู่กับปาลาซิออสเนี่ยแหละ มันทำให้เกมตรงกลางของสเปอร์สขาดจินตนาการไปเยอะ เกมตรงกลางมุ่งแต่จะบดบี้เกมของยูไนเต็ดเสียจนขาดการสร้างสรรค์เกมและเซ็ตเกมรุกในรูปแบบที่ตัวเองคุ้นเคย การมีปีเตอร์ เคราช์และคีนค้ำข้างหน้านั้นกลายเป็นดาบสองคมครับ เพราะทักษะของทั้งคู่ในการเก็บบอลดูเหมือนจะทำให้เพื่อนๆวางใจในการฝากบอลยาวข้ามตรงกลางไปให้ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เกมรับของยูไนเต็ดสามารถจัดการได้ง่ายกว่าการที่สเปอร์สจะเซ็ตบอลภาคพื้นเข้าทำ เกมรับยูไนเต็ดอาจจะดูเสี่ยงพอสมควรกับการเลือกมาร์ควันทูวันในกรอบแล้วเข้าบอลทันทีที่บอลถูกวางเข้ามา แต่นั่นก็น่าจะดีที่สุดแล้ว เพราะสเปอร์สวันนี้ไม่ได้เล่นเท้าสู่เท้าเหมือนเมื่อตอนมีโมดริชยืนกำกับเกม บอลจากกลางหรือหลังมักจะถูกวางข้ามมาที่เคราช์กับคีนซะมาก ทำให้หลังเราเลือกที่จะปักหลักสู้ตรงนั้นเต็มที่ แต่ แหม...แค่นี้ก็เล่นเอาพี่วีวี่ของเรางานเข้ากระจายเชียวครับ กับการคุมเคราช์

แต่ไม่ใช่ว่าเราจะป้องกันได้หมดจดซะทีเดียวนะครับ อย่างที่บอกไป ว่าการเลือกเล่นแบบนี้ มันก็มีความเสี่ยง เพราะการเข้าบอลในจังหวะมาร์คคน หากพลาดก็หมายถึงคู่ต่อสู้หลุดไปได้ และคนซ้อนนั้น จะอยู่ห่างออกไป แถมยังคุมคนอื่นอยู่ด้วย และไอ้จังหวะแบบนี้ ก็เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่โชคดี ที่สเปอร์สไม่คมพอจะทำประตูที่สองเพิ่มได้ โดยเฉพาะเคราช์ ที่มักจะสลัดวิดิชหลุดได้หลายครั้ง จากรูปร่างที่สูงมากๆที่ทำให้วิดิชต้องเทคจนตัวเองเสียหลักบ่อยๆนั่นเอง แต่เคราช์กลับบวกสกอร์เพิ่มอีกไม่ได้จากหลายๆจังหวะที่เอื้อให้ ในขณะที่คีนกับเลนน่อน ยิ่งเล่นยิ่งดาวน์ลงไป มีเพียงเดโฟที่ช่วยกดดันริโอได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่มากพอที่จะเปิดโอกาสให้จบสกอร์ได้บ่อยๆ แถม ฟอสเตอร์ก็ไม่ยอมพลาดอีกต่างหาก

กลับกัน...เกมของยูไนเต็ดเลือกขึ้นเกม เซ็ตเกมจากตรงกลางได้ตลอด แม้จะถูกฮัดเดิลสตันกับปาลาซิออสไล่บี้กดดันตรงกลาง รวมกับการที่คีนและเดโฟไล่กดดันการถ่ายบอลของเราตรงกลางสนาม แต่ด้วยการที่วันนี้พื้นที่ที่จะให้บอลมีค่อนข้างมาก สเปอร์สเมื่อไล่แล้วไม่จนก็มีช่องให้เราคายบอลได้เรื่อยๆ และสามารถเซ็ตกันไปจนถึงกรอบจนมีจังหวะจบได้บ่อยๆ รูนี่ย์ และเบอร์บาตอฟยังมีพื้นที่ให้ลากหน้ากรอบเรื่อยๆด้วยซ้ำไป แถมการขึ้นเกมของเลนน่อนที่พอขึ้นแล้วจบไม่ได้ ไม่ค่อยได้บอล ยังทำให้โดนกิ๊กส์ และเอวร่าสวนขึ้นมากระจายกันเพลิดเพลินทางฝั่งนี้ ทำให้เลนน่อนไม่สามารถขึ้นเกมได้อย่างอิสระนัก กลับต้องพะวักพะวงการโดนสวนทางนี้ด้วยซ้ำไป และที่สำคัญ เมื่อสเปอร์สไม่ใช้การเซ็ตบอลเท้าสู่เท้า ไม่ใช้การขึ้นเกมทางปีก การมีเลนน่อนอยู่ทางขวาก็ไร้ประโยชน์ การมีคีนอยู่ทางซ้ายก็หมดพิษสง ทำให้เรามักจะเห็นคีนหุบเข้าไปเล่นตรงกลางกับเดโฟ กับเคราช์อยู่บ่อยๆ ส่วนเลนน่อนก็มักจะหายไปจากเกม

ทีนี้ พอสเปอร์สไม่สามารถเซ็ตเกมแบบเป็นชิ้นเป็นอันได้ เกมของแมนฯยูไนเต็ด ก็เริ่มกล้าเล่นมากขึ้น โดยเฉพาะการเซ็ตบอลจากหลังจากกลาง ผ่านสโคลส์และอันแดร์สัน รวมทั้งออกปีกฝากที่กิ๊กส์, เอวร่า และเฟล็ทเชอร์ จังหวะจบของผู้มาเยือนเริ่มที่จะเหลื่อมกว่า และหวุดหวิดจะตีคืนได้หลายครั้ง จนเบอร์บาตอฟสบช่อง ลากแหวกฝ่าผู้เล่นสเปอร์สเข้าไปตรงกลาง แล้วถูกปาลาซิออสเกี่ยวคว่ำไป ปาลาซิออสก็ถูกไข้เหลืองจากจังหวะนี้ด้วย หลังรอดมาได้หลายครั้งจากการตัดเกมหนักๆ กิ๊กส์ปั่นฟรีคิกจากจังหวะนี้ส่งลูกพุ่งวาบข้ามกำแพงโค้งหนีมือคูดิชินี่ตุงตาข่ายได้สำเร็จอย่างสวยงามในนาทีที่ 24 และประตูนี้ ก็ยังเป็นประตูที่ทำให้กิ๊กส์เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถยิงประตูในลีกติดต่อกันได้เป็นปีที่ 20 แหม... ผมเนี่ยหวังถึงป๊อกเลยนะ ขอปีหน้าอีกสักลูกดิครับน้ากิ๊กส์

หลังจากนั้น เกมของสเปอร์สก็ดูผีเข้าผีออก เดี๋ยวขึ้นมากดดันได้น่ากลัวจนหวุดหวิดจะยิงประตูเพิ่มได้ แต่ก็กลับยุบไปอีกจนโดนผู้มาเยือนขึงพืดต่อได้ คือสเปอร์สไม่สามารถรักษาแพสชั่นในการกดดันเอาไว้ได้นานพอเพื่อให้แมนฯยูไนเต็ดเสียขบวนอย่างต่อเนื่องจนเป๋ และเมื่อยังไม่เสียขบวน เกมของยูไนเต็ดก็สามารถเซ็ตขึ้นมากดดันเจ้าบ้านต่อได้ทันทีและทำให้กลายเป็นเจ้าบ้านเองที่เริ่มเสียขบวนไปทีละเล็กทีละน้อย เกมของยูไนเต็ดกดดันจนมาได้ประตูขึ้นนำปลายครึ่งแรก จากลูกคอร์เนอร์ เอก็อตโต้เคลียร์ออกมานอกกรอบ สโคลส์ตั้งป้อมยิงสวนเข้าไปทันที เคราช์สกัดบอลออกมาเข้าทางอันแดร์สัน อันแดร์สันปรี่เข้ามาวางเท้าขวาอย่างเหมาะเจาะ ก่อนจะซัดด้วยอีซ้ายเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งต่ำก่อนจะฮุคลงพื้นตรงคูดิชินี่ พุ่งเข้าสู่ก้นตาข่าย ส่งให้ยูไนเต็ดออกนำได้สำเร็จ

เกมของสเปอร์สกลายเป็นรอถูกกระทำไปแล้ว จากเกมนี้ก็ต้องยอมรับว่าแอนนี่คัมแบ๊คกลับมาสู่ฟอร์มที่ร้อนแรงได้อีกครั้ง กับการลงไปช่วยเกมรับ การต่อเกมรุก และหาจังหวะจ่ายทะลุสวยๆ หากเข้าที่เข้าทางและเล็งเป้าการจ่ายให้แม่นยำได้กว่านี้ ผมว่าแอนนี่จะกลายเป็นตัวจ่ายชั้นยอดให้เราได้ไม่ยากเลยครับ เกมนี้แอนนี่เล่นดูสบายอกสบายใจมากๆ และโชว์ฟอร์มเด็ดซะจนทำให้สโคลส์ไม่ต้องพะวงกับเกมรุก สามารถปักหลักตรงกลางได้อย่างแน่นหนา มั่นคง โดยมีเฟล็ทเชอร์คอยหุบเข้ามาช่วยเป็นระยะๆ เฟล็ทเชอร์นี่ก็ร้ายมากๆในเกมนี้ ทั้งคุมเกมตรงริมเส้นด้านขวา แถมยังหุบเข้ามาช่วยเกมรับตรงกลางได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งคุมจังหวะ และดึงบอล บังบอล เรียกว่าเหลี่ยมบอลมาเต็มๆในเกมนี้ ในสายตาผม หากวันนี้แอนนี่ไม่ได้สกอร์นะ ผมให้เฟล็ทเชอร์เป็นแมน ออฟ เดอะ แมทช์ไปแล้ว

ครึ่งหลัง จ่าแฮร์รี่ถอดปาลาซิออสออก แล้วส่งจีนาสลงมาแทนเพื่อปิดโอกาสโดนเหลืองแดง เนื่องจากตำแหน่งปาลาซิออสต้องตัดเกมรุกของยูไนเต็ด การส่งจีนาสลงมาช่วยให้เกมของสเปอร์สดีขึ้นมาพอสมควร มีคนเชื่อมเกมขึ้นหน้าได้ดีขึ้น และจีนาสก็เกือบจะตีเสมอได้ จากจังหวะได้บอลหน้ากรอบทางซ้าย ล็อกและแต่งบอลก่อนจะบรรจงปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยมเสาสอง แต่ฟอสเตอร์ครับ ที่บินสุดเหยียดพุ่งไปปัดไว้ได้แบบปลายนิ้ว ทำให้สกอร์ยังคงเป็นเจ้าบ้านตามหลัง เกมเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เล็ดลี่ย์ คิงเรียกใบเหลืองออกจากกระเป๋าอังเดร มาริเนอร์ ได้ และคงกลัวจะน้อยหน้า เพราะก่อนหน้านั้น พอล สโคลส์ได้เรียกให้ตัวเองด้วยอีกใบหนึ่ง ซึ่งอาจจะยังไม่พอ สโคลส์จึงเรียกมาอีกใบจากมาริเนอร์ เป็นอันต้องถูกส่งไปอาบน้ำแต่หัววันก่อนเพื่อนๆ โดยเป็นเหลืองแดงที่เร็วมากเลยนะ เกิดขึ้นแค่ฟาล์วสองครั้ง โมเมนตัมเริ่มเหมือนจะเทกลับมาทางสเปอร์สแล้ว

ป๋าแพนด้ารีบส่งคาร์ริคลงมา โดยถอดเบอร์บาตอฟที่เล่นได้ค่อนข้างดีออกไป คาร์ริคมายืนตรงกลางคู่แอนนี่ แล้วทิ้งรูนี่ย์ไว้ข้างหน้าคนเดียว เกมยังคงผ่านไปโดยที่สเปอร์สไม่ได้ใช้ความได้เปรียบตรงตัวผู้เล่นให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด กลับถูกยูไนเต็ดโต้เอาเจ็บๆปวดๆได้มากกว่าเสียอีก และเร้ดแนปป์ก็เปลี่ยนอีกครั้งโดยถอดชอร์ลูก้าออกแล้วส่งฮัตตันลงมา (ซึ่งผมไม่เห็นประโยชน์อะไรตรงนี้ นอกจากซะว่าชอร์ลูก้าจะเจ็บ) ในที่สุดจ่าแฮร์รี่ก็เปลี่ยนครั้งสุดท้ายโดยส่งครานชาร์ลงมาแทนคีน ที่ครึ่งหลังดูจะเงียบสนิท แต่ผมก็อดดูการดวลระหว่างครานชาร์กับสโคลส์อยู่ดี และจากจังหวะโต้กลับจากหน้าประตูตัวเอง รูนี่ย์ได้บอลเร็วจากกลางสนามฝั่งขวา ลากเข้าไปหากรอบโดยมีผู้เล่นสเปอร์สวิ่งประกบสองคน รูนี่ย์ลากตัดเข้าในฝ่าผู้เล่นสเปอร์สได้สำเร็จ ก่อนจะยิงลอดขาคูดิชินี่ที่ปรี่เข้ามาบล็อคได้ ส่งให้ยูไนเต็ดออกนำเป็น 3:1 ในนาทีที่ 78

เกมมาถึงตรงนี้ดูเหมือนสเปอร์สจะถอดใจเสียแล้ว ท่านเซอร์ถอดแอนนี่ออกแล้วส่งนานี่ลงมาแทน เกมหลังจากนั้นก็มีแต่ยูไนเต็ดที่หวิดจะบวกสกอร์ได้อีก แต่ยังติดคูดิชินี่ สุดท้ายเกมก็จบลงด้วยสกอร์เท่านี้ เป็นชัยชนะอีกครั้งของยูไนเต็ดที่มีต่อสเปอร์ส เกมนี้ผลออกมาแบบนี้ก็คงต้องบอกว่าสเปอร์โชคร้ายไปหน่อยที่มาเสียเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญเอาในช่วงนี้พอดี เพราะมันส่งผลต่อรูปเกมมากเลยทีเดียว ผมจำได้ว่าโมดริชนี่เป็นตัวสร้างสรรค์เกมที่สำคัญที่สุดของสเปอร์ส ในเกมที่จอกันก่อนหน้านี้ และเป็นคนสร้างจินตนาการ สร้างไอเดียเกมรุกให้เพื่อนๆได้เล่นบทเข้าจบสกอร์กันอย่างเพลิดเพลิน ถึงขนาดว่าช่วงที่มีข่าวลือว่ายูไนเต็ดจะส่งคาร์ริคพร้อมเงินอีกก้อน ไปแลกโมดริช ผมยังคิดในใจว่า เอานะ เอานะ //ฮ่าฮ่าฮ่า

การขาดโมดริชไปในเกมสำคัญๆแบบนี้ ในขณะที่จีนาสเองยังสร้างสรรค์อะไรได้ไม่เท่ากับสิ่งที่โมดริชทำได้ ส่วนปาลาซิออสกับฮัดเดิลสตันก็ไม่ใช่มิดฟิลด์ที่เล่นในสไตล์สร้างสรรค์เกม ออกจะเป็นพวกฮาร์ดแมน หรือพวกเล่นด้วยควมได้เปรียบทางกายภาพและการอ่านเกมมากกว่า เกมนี้มิติตรงกลางของสเปอร์สจึงหายไปกลายเป็นพื้นที่ของทีมเยือนตลอดทั้งเกม เมื่อไหร่ที่สเปอร์สตัดเกมไม่สำเร็จ ก็เตรียมตัวรับมือลูกจบสกอร์ได้เลย และสถิติหลังเกมก็บ่งบอกข้อเท็จจริงอันนี้ไว้ด้วยครับ

Tottenham Hotspur Team Statistics Manchester United
1 Goals 3
1 1st Half Goals 2
6 Shots on Target 10
5 Shots off Target 5
3 Blocked Shots 3
3 Corners 9
17 Fouls 13
0 Offsides 9
3 Yellow Cards 1
0 Red Cards 1
76 Passing Success 77.2
24 Tackles 20
66.7 Tackles Success 75
49.3 Possession 50.7
49.8 Territorial Advantage 50.2
credit: //www.skysports.com/football/match_report/0,19764,11065_3149461,00.html

สำหรับสเปอร์ส ยังคงน่าเป็นห่วงหากโมดริชต้องพักฟื้นนานเป็นเดือนๆ ลำพังครานชาร์เองฝีไม้ลายมือผมยอมรับว่าไม่ธรรมดา ผมเองก็เคยอยากให้ป๋าเราชายตามองเหมือนกัน แต่ลักษณะการเล่นในบทบาทเพลย์เมกเกอร์ มันก็มีความเสี่ยงในตัวเอง โดยเฉพาะในอังกฤษที่นิยมเกมเร็ว เกมหนัก เพลย์เมกเกอร์ก็จะมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บถี่กว่า หนักกว่า ซึ่งครานชาร์เองก็มีประวัติเรื่องอาการบาดเจ็บติดตัวมาพอสมควร ตรงนี้แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ต้องพิจารณาหาทางออกให้ดี เพราะจีนาสเองก็ไม่ธรรมดา เคยมีดีกรีถึงแคนดิเดตทีมชาติมาแล้ว เพียงแต่ขาดโอกาสได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทีมชุดใหญ่ ทำให้ผลงานไม่คงเส้นคงวา ยืนระยะไม่ค่อยได้ และตอนนี้ ในคลับของจ่าเองก็มีกองกลางเพ่นพ่านกันมากเหลือเกิน โมดริช, ครานชาร์, ปาลาฯ, ฮัดเดิล, จีนาส เป็นต้น การจะแก้ปัญหาโดยทำให้ทุกๆฝ่ายพอใจ ก็คงเป็นเรื่องยากพอๆกับที่ยูไนเต็ดประสบอยู่

ส่วนทางฝั่งยูไนเต็ด ผมเองยังลุ้นอยู่สองเรื่องครับ เรื่องแรกคือความต่อเนื่องของอันแดร์สัน ผมหวังว่าอันแดร์สันจะรักษาฟอร์มของตัวเองเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ตารางแข่งเริ่มชุกอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ก็คงต้องปรึกษาป๋าเฟอร์กี้ด้วยว่าป๋าจะจัดแอนนี่ลงอย่างต่อเนื่องได้ขนาดไหน แต่อย่างน้อยๆ ผมว่าทุกสัปดาห์ถ้าแอนนี่ได้ลงตัวจริง เขาต้องพัฒนาตัวเองขึ้นไปได้อีกระดับแน่ๆ เหมือนกับเฟล็ทเชอร์ที่มาถึงวันนี้ ต่อให้พักไปหนึ่งหรือสองสัปดาห์ เขาก็ยังรักษามาตรฐานตัวเองเอาไว้ได้ เพียงแต่เขายังไม่สามารถก้าวขึ้นไปถึงการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ได้ทุกๆระดับเท่านั้นเอง อีกเรื่องที่ลุ้นก็คือการเบรกสถิติของเรือใบ ที่ผ่านมาเราเพิ่งเบรกไปสองทีมคืออาร์เซน่อลกับสเปอร์สที่ชนะรวดมา สุดสัปดาห์นี้ เราต้องเจอกับเรือใบที่ชนะรวดมาเช่นกัน ผมถึงลุ้นอยากให้เราเบรกได้อีก

มาว่ากันถึงฟอร์มนักเตะกันสักเล็กน้อย นอกจากแอนนี่ ที่ผมยกให้เกมนี้เด็ดดวงที่สุด รองลงมาก็มีเฟล็ทเชอร์กับรูนี่ย์ สองคนนี้เป็นหัวใจของเกมนี้ด้วยเหมือนกัน ลูกยิงของรูนี่ย์นั้น ได้ส่งสัญญาณเตือนทุกๆทีมแล้วว่า เวลานี้ เขาอยู่ในฟอร์มที่สุดยอดมากๆ เช่นเดียวกับริโอ และวิดิช แต่ด้วยสภาพของวิดิชจากเกมนี้ ผมคิดว่าป๋าอาจให้เขาพักกลางสัปดาห์นะ หรือไม่ก็ลงไม่เต็มเวลาเพื่อถนอมไว้ซดเรือใบในเกมถัดไปอย่างสมบูรณ์เต็มที่ ไม่งั้น การเดินทางมาตุรกีคราวนี้ อาจต้องแบกเตียงพยาบาลกลับมาด้วยก็เป็นได้ครับ ส่วนคาร์ริค ผมว่ายังไม่กระเตื้องขึ้นเท่าไหร่ ฟอร์มยังคงดร็อปอยู่ น่าจะต้องเคาะสนิมอีกเยอะครับ สโคลส์กับกิ๊กส์ก็ทำหน้าที่ได้ดี ยกเว้นลูกเหลืองแดงของสโคลส์ที่ต้องบอกว่าง่ายไปหน่อย มันเหมือนออกลูกเกเรมากกว่าจะเป็นเหลืองเพราะลูกหนัก ที่เหลือก็โอเคครับ เอวร่าสลัดภาพหลอนของเลนน่อนออกไปได้ โอเชเล่นเหมือนไม่เจ็บ และเบอร์บาตอฟก็โชว์ฟอร์มได้ดีกับการเล่นกับเพื่อนๆในเกมนี้ อ้อ...ฟอสเตอร์เด่นมากด้วยครับในวันนี้

ว่าถึงเกมแชมเปี้ยนส์ลีกคืนพรุ่งนี้ หากมีถ่ายทอดสด ผมก็คงได้มารับใช้ทุกๆท่านเหมือนเดิม แต่เวลาอาจจะเนิ่นนานไปบ้าง เพราะผมติดงานไป ตจว. เช้าวันพุธ ถ้ามีเวลาก็คงได้ส่งงานกันครับ ส่วนโปรแกรมสุดสัปดาห์นี้ เราจะเตะกับซิตี้ค่ำวันอาทิตย์ น่าจะประมาณทุ่มครึ่ง และเป็นการเริ่มต้นตารางแข่งเดือนกันยามหาโหดกันอย่างเต็มที่ น่าเหนื่อยแทนเหลือเกิน

20 Sep Barclays Premier League Man City H 13:30
23 Sep League Cup Wolves H 20:00
26 Sep Barclays Premier League Stoke City A 15:00
30 Sep UEFA Champions League Wolfsburg H 19:45
03 Oct Barclays Premier League Sunderland H 17:30
credit: //www.manutd.com/default.sps?pagegid={34009B66-8C50-42F4-816F-CE57868EDE49}&page=1

เอาไว้มาลุ้นกันนะครับ

สงบใจ

Create Date : 14 กันยายน 2552

Last Update : 14 กันยายน 2552 11:39:08 น.

0 comments

Counter : 457 Pageviews.