จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ ... จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาให้ ... สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ ... การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 

เจ้าหญิงประภาวดี (ด้วยจิตคิดเกลียดชัง)





นางแก้วคู่บารมี
เรียบเรียง โดย อังคาร



ตอนที่ 4 เจ้าหญิงประภาวดี


ในอดีตกาล พระนางพิมพา ได้เกิดเป็นสตรีผู้เป็นพี่สะใภ้ ส่วนพระโพธิสัตว์เกิดเป็นน้องสามี ทั้งสองอยู่ร่วมบ้านกันเนื่องจากพระโพธิสัตว์นั้นยังไม่มีภริยา


วันหนึ่ง พี่สะใภ้ทอดขนมที่มีรสชาติอร่อยยิ่งนัก และแจกบริโภคกันจนหมด โดยแบ่งส่วนหนึ่งเก็บไว้ให้น้องสามีที่ไปป่า ขณะนั้น มีพระปัจเจกพุทธเจ้ามาบิณฑบาต พี่สะใภ้จึงนำขนมที่เก็บไว้มาถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า คิดว่าเดี๋ยวค่อยทำให้ใหม่ แต่ยังไม่ทันได้ทำน้องสามีก็กลับมาจากป่าเสียก่อน พี่สะใภ้จึงบอกกับน้องสามีว่า

"น้องชายเอ๋ย จงทำจิตใจให้ผ่องใสเถิด ขนมอันเป็นส่วนของน้อง พี่ได้ถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว"
ฝ่ายน้องสามีกลับโกรธว่า

"เจ้ากินขนมอันเป็นส่วนของเจ้าหมดแล้ว กลับมาเอาขนมอันเป็นส่วนของข้าไปถวายพระ ชิชะแล้วข้าจักกินอะไรเล่า" แล้วเขาก็รีบตามพระปัจเจกพุทธเจ้าไปทวงขนมทอดในบาตรกลับคืนมา


ฝ่ายพี่สะใภ้ก็รีบไปยังเรือนมารดา ไปเอาเนยใสที่ใหม่และใสสะอาด มีสีคล้ายดอกจำปามาใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้าแทนขนมทอดจนเต็มบาตร และเมื่อได้เห็นเนยใสแผ่เป็นรัศมีออกไปนางจึงตั้งความปรารถนาว่า

"ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อใดที่ดิฉันได้ไปเกิดในเบื้องหน้า ขอให้ร่างกายของดิฉันจงปรากฎมีรัศมีเปล่งปลั่ง และมีรูปร่างสดสวยงดงามเป็นอย่างยิ่งเถิดอนึ่ง ขออย่าให้ดิฉันได้อยู่ร่วมในที่แห่งเดียวกันกับคนที่เป็นอสัตบุรุษ ดังน้องผัวของดิฉันคนนี้เลย"


ฝ่ายน้องสามีเห็นดังนั้น จึงเอาขนมทอดของตนใส่ลงในบาตรที่เต็มด้วยเนยใส แล้วตั้งความปรารถนาว่า
"ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พี่สะใภ้ของข้าพเจ้าคนนี้ แม้จะอยู่ในที่ไกลแสนไกลตั้งร้อยโยชน์ก็ตาม ขอให้ข้าพเจ้าพึงมีความสามารถไปนำเธอมาเป็นบาทบริจาริกาของข้าพเจ้าให้จงได้เถิด"


เมื่อละอัตภาพจากชาตินั้นแล้ว พี่สะไภ้และน้องสามีต่างก็ไปตามกรรม



กาลเวลาล่วงมาถึงสมัยหนึ่ง ณ นครกุสาวดี แคว้นมัลละ

มีพระราชาปกครองทรงพระนามว่า พระเจ้าโอกกากราช มีพระอัครมเหสีทรงพระนามว่า สีลวดี และมีสนมนางในแวดล้อมอีก ๑๖,๐๐๐ นางพระนางสีลวดีกับพระสนมทั้งหมด ไม่มีผู้ใดเลยที่ให้กำเนิดราชโอรสหรือราชธิดาแก่พระราชา ชาวเมืองทั้งหลายจึงมาร้องเรียนพระราชา ขอให้พระองค์ทรงปล่อยพระสนมทั้งหมดไปเป็นนางฟ้อนโดยธรรม ๗ วัน เผื่อว่าพระสนมจะได้มีบุตร ซึ่งพระราชาก็ทรงยอมกระทำตามคำของชาวเมือง แต่ก็ไม่มีพระสนมคนใดให้บุตรแก่พระองค์เลย


ชาวเมืองจึงกราบทูลว่า เพราะนางเหล่านั้นไม่มีบุญจึงไม่มีบุตร แต่พระอัครมเหสีสีลวดีนั้นทรงสมบูรณ์ด้วยศีล ขอให้พระราชาปล่อยพระนางไปเป็นนางฟ้อน คงจะได้พระโอรสเป็นแน่แท้


พระราชาจึงรับสั่งให้ตีกลองร้องเป่า ประกาศว่าพระราชาจะทรงปล่อยพระนางเจ้าสีลวดีให้เป็นนางฟ้อนโดยธรรมเพื่อให้ได้บุตร บรรดาผู้ชายทั้งหลายจึงมาประชุมกันเนืองแน่น


ด้วยเดชะแห่งศีลของพระนางสีลวดี พิภพของท้าวสักกเทวราชก็แสดงอาการร้อน ท้าวสักกะทรงทราบเหตุจึงแปลงกายเป็นพราหมณ์แก่ไปรอรับพระนางสีลวดีด้วยเมื่อพระนางสีลวดีเสด็จออกมาหน้าประตูพระนคร ท้าวสักกะก็ใช้อานุภาพไปอยู่ข้างหน้า บดบังชายอื่นเสียหมดสิ้น แล้วจูงมือพระนางสีลวดีไป ฝ่ายพระราชาและชาวเมืองเห็นพระนางสีลวดีไปกับพราหมณ์แก่ ก็เสียใจว่าพราหมณ์นั้นไม่สมควรแก่พระนางเลย


ท้าวสักกะทรงพาพระนางสีลวดีไปยังวิมานในเทวโลก แล้วตรัสให้พรพระนางข้อหนึ่งตามแต่จะขอ พระนางสีลวดีจึงทูลขอพระโอรส ๑ องค์ ท้าวสักกะตรัสว่าจะให้ ๒ องค์ โดยองค์หนึ่งมีปัญญาแต่รูปไม่งาม กับอีกองค์หนึ่งรูปงามแต่ปัญญาน้อยกว่า พระนางจะเลือกองค์ไหนให้ไปประสูติก่อน พระนางสีลวดีก็เลือกโอรสที่มีปัญญาก่อน

ท้าวสักกะตรัสให้พรนั้น แล้วทรงประทานสิ่งของ ๕ อย่างแก่พระนาง คือ หญ้าคา ผ้าทิพย์ จันทน์ทิพย์ ดอกปาริฉัตรทิพย์ และพิณ แล้วทรงพาพระนางเหาะกลับไปคืนในห้องบรรทมพระราชา แล้วทรงลูบท้องพระนางให้บังเกิดบุตร


ฝ่ายพระราชาทรงตื่นจากพระบรรทม ทอดพระเนตรเห็นพระอัครมเหสี จึงตรัสถามความเป็นมา พระนางสีลวดีก็กราบทูลตามความเป็นจริงพร้อมแสดงของ ๕ อย่างนั้น พระราชาจึงทรงเชื่อต่อมาพระนางสีลวดีก็ประสูติพระราชโอรส ๒ องค์ พระโพธิสัตว์มาเกิดเป็นพระราชโอรสองค์โตมีนามว่า กุสติณ ส่วนองค์เล็กมีนามว่า ชยัมบดี

กุสติณราชกุมารนั้น เมื่อเจริญวัยขึ้นก็มีปัญญามาก ทรงสำเร็จในศิลปศาสตร์ทั้งหมดได้ด้วยพระปัญญาของพระองค์เอง แต่พระองค์นั้นรูปไม่งาม ด้วยอกุศลกรรมจากชาติที่ไปทวงขนมคืนจากในบาตรของพระปัจเจกพุทธเจ้า


เมื่อกุสติณราชกุมารอายุได้ ๑๖ ชันษา พระราชบิดาจะมอบราชสมบัติพร้อมจัดหาพระชายาและพระสนมให้ แต่กุสติณกุมารดำริว่าตนเองรูปไม่สวย แม้ได้พระธิดาที่สวยไปด้วยรูปมาเป็นชายา นางก็คงจะหนีไป พระองค์จึงทรงปฏิเสธพระราชบิดาและพระราชมารดาไปถึง ๓ ครั้ง


ต่อมาครั้งที่ ๔ กุสติณกุมารคิดว่าไม่สมควรที่จะปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผล พระองค์จึงได้นำทองคำมาปั้นเป็นรูปหญิงสาว ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ ทองคำนั้นก็เป็นรูปหญิงสาวสวยงามปานเทพอัปสรในสรวงสวรรค์ มีผิวพรรณเปล่งปลั่งดั่งมีชีวิตจริง จนแม้แต่ช่างทองยังเข้าใจผิดว่าเป็นเทพธิดาจริงๆ


กุสติณกุมารให้ช่างทองนำรูปทองไปถวายพระราชา และทูลว่าพระองค์จะครองเรือนและรับราชสมบัติ หากได้อภิเษกกับหญิงงามเสมอรูปปั้นนี้


พระราชาจึงให้อำมาตย์นำรูปทองแห่ไปตามเมืองต่างๆ เพื่อเสาะหาหญิงสาวที่งามเสมอรูปทองนั้นอำมาตย์พร้อมขบวนบริวารจึงนำรูปปั้นทองขึ้นตั้งไว้บนยาน แล้วเที่ยวเสาะหาไปทั่วชมพูทวีป โดยเมื่อขบวนมาถึงที่ที่มหาชนชุมนุมกัน ก็จะปล่อยยานนั้นไว้ และคอยฟังมหาชนว่าเขาจะพูดอย่างไรเกี่ยวกับรูปปั้นนั้น


ฝ่ายมหาชนทั้งหลาย ครั้นมองดูรูปทองนั้น คิดว่าเป็นหญิงจริงๆ จึงพากันชมเชยว่า หญิงผู้นี้งามประดุจเทพอัปสร นางมาจากไหนกัน เหตุใดจึงมายืนอยู่ในที่นี้ หญิงงามปานเทพธิดานี้ในเมืองเราไม่เคยมี เมื่อได้ยินว่าเมืองนี้ไม่มีหญิงใดงามเท่ารูปทอง อำมาตย์ก็จะเคลื่อนขบวนไปเมืองอื่น


จนกระทั่งไปถึงเมืองสาคละ แคว้นมัททะในครั้งนั้น พระนางพิมพา ได้มาเกิดเป็นพระราชธิดาองค์โตในจำนวนราชธิดา ๘ พระองค์ของพระเจ้ามัททราช มีนามว่า เจ้าหญิงประภาวดี พระราชธิดาของพระเจ้ามัททราชนั้น แต่ละองค์มีรูปโฉมงดงามเปรียบประดุจนางฟ้า แต่พระธิดาประภาวดีนั้นทรงมีความงามเลิศกว่าพระธิดาองค์ใด เพราะพระนางมีพระรัศมีแผ่ซ่านออกจากพระสรีระ คล้ายแสงดวงอาทิตย์อ่อน ด้วยกุศลกรรมจากการใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยเนยใส


วันหนึ่ง พระนางประภาวดีตรัสสั่งให้นางทาสี ๘ คน ไปตักน้ำมาสำหรับสรงสนาน โดยมีพระพี่เลี้ยงคนหนึ่งที่เป็นหญิงค่อมตามออกมาดูที่ท่าน้ำ นางพี่เลี้ยงมองไปเห็นรูปทองคำที่ตั้งอยู่ริมทาง เข้าใจว่าเป็นพระนางประภาวดี จึงเข้าไปหา กราบทูลว่าพระธิดาใช้นางทาสีมาตักน้ำ แล้วเหตุใดจึงมายืนดักอยู่ที่นี้ ถ้าพระราชาทรงทราบพวกนางจะเดือดร้อน พูดแล้วก็เอามือแตะรูปนั้นจึงได้รู้ว่าเป็นทอง ไม่ใช่พระราชธิดา


ฝ่ายอำมาตย์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ เข้ามาสอบถามนางพี่เลี้ยงค่อมจนรู้ความ จึงนำรูปทองนั้นและเครื่องราชบรรณาการทั้งหลายเข้าไปถวายพระเจ้ามัททราช กราบทูลว่า พระเจ้าโอกกากราชประสงค์จะสู่ขอพระนางประภาวดีให้แก่พระโอรสองค์โต และจะมอบราชสมบัติให้พระโอรสนั้น


พระเจ้ามัททราชก็ทรงรับด้วยความยินดี พระเจ้าโอกกากราชและพระนางสีลวดีจึงเสด็จมารับพระนางประภาวดีกลับนครกุสาวดีด้วยพระองค์เอง พระนางสีลวดีนั้น เห็นว่าลูกสะใภ้ของตนมีความงามปานเทพธิดา หากได้แลเห็นพระโอรสกุสติณเต็มตาก็คงรังเกียจ และหนีไป พระนางจึงออกอุบายหลอกพระนางประภาวดีว่า ตามธรรมเนียมของมัททราชสกุล ห้ามพระชายาพบหน้าพระสวามีในเวลากลางวันอย่างเด็ดขาดจนกว่าจะตั้งพระครรภ์เสียก่อน พระนางประภาวดีไม่รู้ก็ทรงรับอุบายนั้นไว้


แล้วพระเจ้าโอกกากราชก็ทรงแต่งตั้งให้เจ้าชายกุสติณขึ้นครองราชสมบัติสืบแทน และตั้งพระนางประภาวดีเป็นพระมเหสี โดยทั้งสองต่างยังไม่เคยเห็นหน้ากันในเวลากลางวันเลย เมื่ออยู่ร่วมกันในเวลากลางคืนนั้น รัศมีแห่งพระนางประภาวดีก็ไม่มากพอจะทำให้เห็นพระพักตร์พระสวามีได้


ผ่านไป ๒-๓ วัน พระเจ้ากุสราชก็อ้อนวอนพระมารดา อยากดูหน้าชายาของตน พระมารดาก็บอกให้รอไปก่อน แต่อ้อนวอนหนักเข้า พระมารดาจึงออกอุบายให้พระเจ้ากุสราชไปรอที่โรงช้าง ทำตัวเหมือนคนเลี้ยงช้าง แล้วพระนางจะพาพระนางประภาวดีเสด็จไป


ระหว่างเสด็จดูโรงช้าง พระเจ้ากุสราชก็หยิบมูลช้างก้อนหนึ่งขว้างไปที่หลังพระนางประภาวดีเพื่อจะได้ให้นางหันมา พระนางประภาวดีทรงกริ้วเป็นอย่างมาก ทูลพระมารดาให้ลงโทษ ฝ่ายพระมารดาก็ทรงปลอบประโลมให้หายกริ้ว


ต่อมาพระเจ้ากุสราชอยากเห็นหน้าพระชายาอีก พระมารดาจึงพาพระนางประภาวดีเสด็จดูโรงม้า พระเจ้ากุสราชก็เอามูลม้าขว้างไปเหมือนเดิม พระนางประภาวดีก็ทรงกริ้วใหญ่ แต่พระมารดาก็ทรงปลอบประโลมเหมือนเดิม

วันต่อมา พระนางประภาวดีทรงใคร่จะได้เห็นหน้าพระสวามีบ้าง จึงทูลบอกแก่พระมารดา แต่พระนางสีลวดีก็บอกให้รอไปก่อน เมื่อรบเร้าหนักเข้า พระมารดาจึงบอกว่าพรุ่งนี้พระเจ้ากุสราชจะเสด็จเลียบพระนคร ให้พระนางประภาวดีไปแอบดูเอาเอง


วันรุ่งขึ้น พระมารดาก็สั่งให้ พระชยัมบดีอนุชา ทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์ ประทับนั่งบนหลังช้าง แล้วให้พระเจ้ากุสราชประทับนั่งบนอาสนะข้างหลัง แล้วทรงพาพระนางประภาวดีไปประทับยืนดูที่สีหบัญชร


เมื่อพระนางประภาวดีเห็น ก็สำคัญผิดว่าเราได้พระสวามีที่มีความงามสมควรกันแล้ว ก็ทรงมีพระทัยโสมนัส

ฝ่ายพระเจ้ากุสราช เมื่อทรงทอดพระเนตรขึ้นมาเห็นพระนางประภาวดี พระองค์ก็แสดงอาการยั่วเย้า พระนางประภาวดีไม่พอพระทัย ทูลพระมารดาให้ลงโทษ แต่พระมารดาก็แก้ต่างให้ พระนางประภาวดีจึงเริ่มสงสัยว่านายควาญช้างคนนี้คงจะเป็นพระเจ้ากุสราชเป็นแน่ แต่เพราะพระองค์มีหน้าตาน่าเกลียด จึงไม่ยอมแสดงองค์

พระนางประภาวดีจึงทรงกระซิบสั่งนางค่อมพี่เลี้ยง ให้ไปคอยดูว่าองค์ไหนคือพระเจ้ากุสราช โดยหากเป็นพระเจ้ากุสราช พระองค์จะต้องเสด็จลงจากหลังช้างก่อน


นางค่อมก็ตามไปแอบดู จึงรู้ความจริงว่าพระเจ้ากุสราชนั้นคือองค์ที่ประทับด้านหลัง ฝ่ายพระเจ้ากุสราช เมื่อลงจากหลังช้าง มองมาเห็นนางค่อมก็รู้ว่านางมาแอบดูจึงรับสั่งให้เรียกนางค่อมมา แล้วตรัสกำชับห้ามนางบอกเรื่องนี้แก่พระนางประภาวดีอย่างเด็ดขาด นางค่อมนั้นจึงกลับไปทูลพระนางประภาวดีว่า พระเจ้ากุสราชผู้เสด็จประทับอยู่บนอาสนะข้างหน้าเสด็จลงก่อน พระนางประภาวดีก็ทรงเชื่อถ้อยคำของนางค่อมนั้น


วันต่อมา พระเจ้ากุสราช ประสงค์จะได้ทอดพระเนตรเห็นหน้าพระชายา จึงทรงทูลอ้อนวอนพระราชมารดา พระมารดาจึงพาพระนางประภาวดีเสด็จไปยังอุทยาน ส่วนพระเจ้ากุสราช ลงไปแอบอยู่ในสระบัว และเอาใบบัวกำบังไว้เมื่อพระนางประภาวดีเห็นสระโบกขรณีอันดารดาษไปด้วยดอกบัวสีสวย จึงเสด็จลงสรงน้ำพร้อมด้วยนางบริจาริกาทั้งหลาย ครั้นทอดพระเนตรเห็นดอกบัวที่พระเจ้ากุสราชถือซ่อนอยู่ก็อยากได้ จึงทรงเอื้อมพระหัตถ์ออกไปลำดับนั้น พระเจ้ากุสราช จึงทรงเปิดใบบัวออก แล้วคว้าพระนางด้วยพระหัตถ์พลางร้องว่า เราคือพระเจ้ากุสราช พอพระนางประภาวดีได้ทอดพระเนตรเห็นพระพักตร์ของพระสวามีเต็มตาก็ตกใจ ทรงร้องขึ้นด้วยสำคัญว่าเป็นยักษ์ แล้วทรงถึงวิสัญญีภาพ อยู่ในที่นั้นเอง


ครั้นพอพระนางประภาวดีรู้สึกพระองค์ก็ทรงเสียพระทัยว่า คนอัปลักษณ์ที่เอามูลช้างขว้างเราที่โรงช้างคือพระเจ้ากุสราช คนอัปลักษณ์ที่เอามูลม้าขว้างเราที่โรงม้าคือพระเจ้ากุสราช คนอัปลักษณ์ที่หยอกล้อเราบนหลังช้างคือพระเจ้ากุสราช คนอัปลักษณ์ที่จับมือเราในกอบัวคือพระเจ้ากุสราช เราไม่ต้องการพระเจ้ากุสราชที่มีพระพักตร์อัปลักษณ์เช่นนี้ เราจะทิ้งพระองค์ไป


ดำริดังนั้นแล้วจึงตรัสสั่งอำมาตย์ที่ตามเสด็จมากับพระนาง ให้จัดเตรียมพาหนะเสด็จกลับสาคละนคร อำมาตย์เหล่านั้นจึงไปกราบทูลให้พระเจ้ากุสราชทรงทราบพระเจ้ากุสราชทรงดำริว่า หากพระนางไม่ได้กลับ ดวงหทัยของพระนางคงจะแตกเป็นแน่ จึงควรปล่อยให้พระนางกลับไปก่อน แล้วค่อยไปนำพระนางกลับคืนมาภายหลัง ดำริดังนี้แล้วจึงทรงอนุญาตให้พระนางประภาวดีเสด็จกลับไปได้


แต่เมื่อพระนางประภาวดีเสด็จจากไปแล้ว พระเจ้ากุสราชก็ทรงเศร้าโศกเสียพระทัย เฝ้าแต่รำพึงคิดถึงพระชายา พระองค์ไม่ได้สนพระทัยพระสนมนางอื่นแม้แต่เพียงนางเดียว พระราชนิเวศน์ที่เคยรุ่งเรืองของพระองค์จึงเงียบสงัดวังเวงคล้ายไม่มีใครอยู่ พระเจ้ากุสราชทรงรำพึงว่า บัดนี้ พระนางประภาวดีคงกลับถึงเมืองสาคละแล้ว จึงเสด็จไปเฝ้าพระมารดา กราบทูลว่า พระองค์จะไปตามพระนางประภาวดีที่รักคืนมากราบทูลลาแล้ว พระเจ้ากุสราชก็ทรงเหน็บพระแสงอาวุธ ๕ อย่าง กหาปณะพันหนึ่ง พร้อมทั้งภาชนะพระกระยาหาร และทรงถือพิณเสด็จออกจากพระนคร


ด้วยพละกำลังของพระองค์ เพียง ๒ วันก็เสด็จถึงเมืองสาคละ พระเจ้ากุสราชได้ถือพิณไปบรรเลงที่โรงช้างต้น พระนางประภาวดีได้ยินเสียงพิณก็รู้ว่าพระเจ้ากุสราชเสด็จมาตาม แต่นางไม่ยอมออกมาพบหน้า พระเจ้ากุสราชดำริว่าวิธีนี้คงไม่ได้ผล พระองค์จึงเอาพิณไปเก็บ


วันรุ่งขึ้น พระเจ้ากุสราชได้ไปยังบ้านนายช่างหม้อ ขอฝากตัวเป็นศิษย์ และเพียงวันเดียวเท่านั้น ก็ทรงขนเอาดินมาจนเต็มเรือน และทรงปั้นภาชนะเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง หลายชนิดหลากสี สำหรับส่วนที่ปั้นให้พระนางประภาวดีโดยเฉพาะนั้น ได้ทรงกระทำให้มีลวดลายเป็นรูปต่างๆ ที่ทำให้พระนางประภาวดีมองเห็นได้แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น เมื่อเผาภาชนะนั้นแล้ว นายช่างหม้อก็นำไปยังราชตระกูล พระเจ้ามัททราชทอดพระเนตรเห็นจึงตรัสถามว่าใครทำ นายช่างหม้อกราบทูลว่า ศิษย์ของข้าพระองค์ทำ พระราชาจึงตรัสว่า ผู้นั้นไม่สมควรเป็นศิษย์ของเจ้า ผู้นั้นจงเป็นอาจารย์ และเจ้าจงศึกษาศิลปะในสำนักของเขาเถิด


แล้วพระเจ้ามัททราชก็ให้ช่างหม้อนำภาชนะเล็กๆ ไปถวายพระธิดาเมื่อพระนางประภาวดีทรงรับภาชนะที่พระเจ้ากุสราชทำขึ้นโดยเฉพาะ พระนางก็เห็นรูปพระเจ้ากุสราชบนภาชนะ จึงได้ขว้างภาชนะนั้นทิ้งลงบนพื้น พระเจ้ากุสราชทรงดำริว่าหากพระองค์ยังอยู่เรือนช่างปั้นหม้อ ก็จะไม่มีโอกาสพบหน้าพระชายา พระองค์จึงเสด็จไปขอเป็นศิษย์นายช่างสาน แล้วนำใบตาลมาประดิษฐ์เป็นของใช้ให้พระนางประภาวดี


พระนางประภาวดีก็เห็นรูปพระเจ้ากุสราชอีก จึงทรงกริ้วและขว้างลงบนพื้น รับสั่งว่าใครอยากได้ก็จงเอาไปเถิด
พระเจ้ากุสราชจึงไปยังสำนักของนายช่างร้อยดอกไม้ ทรงร้อยพวงมาลาที่สวยงามถวายพระนางประภาวดี ก็ถูกพระนางประภาวดีจับขว้างทิ้งลงพื้นอีก


พระเจ้ากุสราชจึงไปขอทำงานในห้องต้นเครื่องพระราชา พระราชาทรงชอบฝีมือการปรุงอาหาร จึงรับสั่งให้พระเจ้ากุสราชเป็นพ่อครัวทำเครื่องเสวยประจำพระองค์วันรุ่งขึ้น พระเจ้ากุสราชจัดแจงเครื่องเสวยเสร็จแล้ว ก็จัดเครื่องเสวยใส่หาบเสด็จไปยังปราสาทของพระนางประภาวดี


พระนางประภาวดีไม่ยอมเปิดทวารรับ ทรงตรัสว่านางไม่ปรารถนาผู้มีผิวพรรณชั่วเช่นพระเจ้ากุสราช ขอให้พระองค์เสด็จกับกุสาวดี และไปหานางยักษ์ที่มีรูปชั่วเสมอกันมาเป็นมเหสีเถิดอาหารที่พระเจ้ากุสราชทำมาให้นั้น พระนางประภาวดีไม่ยอมแตะต้องเลย พระนางแลกอาหารนั้นกับอาหารผักต้มของนางค่อม แล้วกำชับไม่ให้นางค่อมบอกใครว่าพระเจ้ากุสราชเสด็จติดตามมาหลายวันผ่านไป พระเจ้ากุสราชทรงอยากรู้ว่าพระนางประภาวดีมีความเสน่หาอาลัยในพระองค์บ้างหรือไม่ เมื่อหาบเครื่องเสวยผ่านหน้าปราสาทของพระนาง พระองค์จึงแกล้งกระทืบบาทเสียงดัง แล้วทำทีเป็นสลบล้มลงอยู่ที่หน้าทวารนั้นเอง


พระนางประภาวดีได้ยินเสียง เปิดทวารออกมาดู เห็นพระเจ้ากุสราชสิ้นสติอยู่จึงได้เข้าไปช้อนพระเศียรตรวจดูลมหายใจ พระเจ้ากุสราชได้ทีจึงถ่มน้ำลายถูกตัวนาง พระนางประภาวดียิ่งโกรธพระเจ้ากุสราชมากยิ่งขึ้น ทรงด่าว่าพระองค์อย่างรุนแรงแล้วเสด็จกลับเข้าพระตำหนัก แม้พระเจ้ากุสราชจะพูดง้องอนอย่างไรพระนางก็ไม่หายโกรธ


ฝ่ายนางค่อมก็ช่วยเกลี้ยกล่อมพระนางประภาวดี กราบทูลให้พระนางมองความงามที่ความดีและพระปรีชาสามารถของพระเจ้ากุสราช อย่ามองที่พระรูปโฉมเพียงอย่างเดียว แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

เวลาผ่านไป ๗ เดือน พระเจ้ากุสราชก็ทรงเบื่อระอาที่ไม่ได้เห็นหน้าพระชายาของตนเลย จึงคิดจะเสด็จกลับกุสาวดี


ขณะนั้น ท้าวสักกเทวราชทรงทราบว่าพระเจ้ากุสราชทรงเบื่อระอาพระทัย จึงดำริว่าจะต้องช่วยให้พระองค์สมประสงค์ จึงเนรมิตทูต ๗ คน ส่งสาส์นไปยังกษัตริย์ ๗ นคร ว่าพระนางประภาวดีทรงละทิ้งพระเจ้ากุสราชกลับมาแล้ว ถ้าพระราชาองค์ใดมีพระประสงค์ในพระนาง ก็จงเสด็จมารับเอาพระนางประภาวดีไปเถิด

พระราชาทั้ง ๗ นครนั้น ต่างองค์ต่างนำขบวนมารับพระนางประภาวดี เมื่อมาถึงสาคละ ขบวนของพระราชาทั้ง ๗ นครก็ได้มาพบกัน ต่างองค์ต่างโกรธ เข้าใจว่าพระเจ้ามัททราชดูถูกที่ยกราชธิดาองค์เดียวให้กับกษัตริย์ถึง ๗ องค์


พระราชา ๗ นครจึงพร้อมใจกันยกพลล้อมพระนครสาคละ แล้วส่งสาส์นไปหาพระเจ้ามัททราชว่าจะออกรบหรือจะส่งพระนางประภาวดีออกมา
พระเจ้ามัททราชเมื่อได้รับสาส์นก็ทรงกริ้วพระธิดา ว่านางมีพระสวามีผู้เป็นเลิศในชมพูทวีปแล้วยังละทิ้งพระองค์มา รังเกียจว่าพระสวามีมีหน้าตาอัปลักษณ์ บัดนี้สมควรแล้วที่จะตัดร่างพระธิดาเป็น ๗ ท่อน แล้วส่งไปให้พระราชาทั้ง ๗ นคร


พระนางประภาวดีทรงสดับแล้วก็ตกพระทัยกลัว เสด็จไปหาพระมารดากรรแสงไห้คร่ำครวญอยู่พระมารดาจึงเสด็จไปหาพระเจ้ามัททราช แต่พระเจ้ามัททราชก็แจ้งโทษพระธิดาว่า เพราะพระธิดาไม่ทำตามคำของมารดาบิดา ละทิ้งพระสวามีมา ทำให้มีศึกมาติดพระนครเช่นนี้ บัดนี้พระธิดาเป็นผู้ทำให้ตระกูลเสียหาย ก็ต้องแก้ไขด้วยตัวของพระธิดาเอง


พระมารดาหมดทางช่วยจึงกลับมาหาพระธิดาประภาวดี บอกว่าหากนางไม่หลงมัวเมาในรูปโฉมจนละทิ้งพระเจ้ากุสราชมา วันนี้พระเจ้ากุสราชก็คงจะประทับอยู่ที่นี้และช่วยขับไล่ทัพของกษัตริย์ ๗ นครนี้ไปได้
พระนางประภาวดีจึงกราบทูลความจริงว่า พระเจ้ากุสราชนั้นประทับอยู่ในนครนี้แล้วถึง ๗ เดือน

พระมารดาไม่เชื่อ พระนางประภาวดีจึงเปิดบานพระแกล ชี้ให้พระมารดูว่าพระเจ้ากุสราชนั้นปลอมพระองค์เป็นพนักงานต้นเครื่อง ผู้ที่บัดนี้กำลังก้มพระองค์ทำงานล้างหม้ออยู่
พระมารดาจึงรีบไปกราบทูลพระเจ้ามัททราชให้ทรงทราบ พระเจ้ามัททราชจึงรีบไปหาพระเจ้ากุสราช และรับสั่งให้ตามพระธิดามาขอขมา


พระเจ้ากุสราชนั้นมีพระประสงค์จะทำลายมานะของพระชายา จึงได้ราดน้ำบนพื้นรอบตัวจนเป็นโคลนไปหมด เมื่อพระนางประภาวดีมาถึง พระนางก็ละทิ้งทิฏฐิมานะหมอบกราบขอขมาโทษบนพื้นโคลนที่แทบพระบาทของพระเจ้ากุสราช กราบทูลวิงวอนให้พระองค์ทรงช่วย และพระนางจะไม่ชิงชังพระองค์อีกแล้ว
เมื่อพระเจ้ากุสราชทรงเห็นว่าพระชายาทรงละมานะแล้ว จึงตรัสกับพระนางว่า


"ที่เรา พระเจ้ากุสราช ทิ้งกุสาวดีนครติดตามน้องประภาวดีมาก็เพราะอำนาจแห่งความรัก พี่ทนทำงานหนักไร้เกียรติและยศศักดิ์อยู่ที่นี่ ไม่ใช้กำลังหาญหักทำลายสาคละนครให้ราบและฉุดคร่าน้องกลับคืนไป ก็เพราะความรัก

ดวงหทัยของพี่ได้มอบความรักให้น้องประภาวดีแล้วทั้งสิ้น พี่จึงไม่เหลือใจไว้โกรธเคืองหรือเกลียดชังน้องเลย ไม่ว่าเรื่องใด และไม่ว่าเวลาใด และพี่จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาย่ำยีที่รักของพี่เป็นอันขาด"



แล้วพระเจ้ากุสราชก็ตรัสสั่งให้ทหารจัดแจงเทียมรถ พระองค์จะเสด็จออกไปจับกษัตริย์ทั้ง ๗ นครนั้นมาให้ได้

พระเจ้ากุสราชทรงชำระล้างองค์และทรงฉลองพระองค์เสียใหม่ และให้พระเจ้ามัททราชเสด็จดูพระองค์ออกศึกอยู่บนพระราชวัง

พระเจ้ากุสราชทรงยกทัพออกจากพระนคร ทรงเปล่งพระสุรเสียงประกาศดังก้องไปทั้งชมพูทวีปว่า

เราคือพระเจ้ากุสราช ใครรักชีวิต ก็จงยอมอ่อนน้อมกับเราเสียเถิด"

กษัตริย์ ๗ นคร ได้ยินเสียงประกาศของพระเจ้ากุสราช ก็ตกใจกลัว กองทัพแตกกระจายเหมือนฝูงเนื้อแตกหนีราชสีห์


พระเจ้ากุสราชจับกษัตริย์ทั้ง ๗ นครนั้นได้ ท้าวสักกเทวราชจึงได้ประทานแก้วมณีให้พระองค์ดวงหนึ่ง จากนั้นพระเจ้ากุสราชก็นำตัวกษัตริย์ ๗ นคร มาถวายพระเจ้ามัททราชให้ทรงลงพระอาญา แต่พระเจ้ามัททราชตรัสว่ากษัตริย์ทั้ง ๗ นี้ ไม่ได้เป็นศัตรูของพระองค์ แต่เป็นศัตรูของพระเจ้ากุสราชโดยตรง จึงขอให้พระเจ้ากุสราชตัดสินพระทัยเอง


พระเจ้ากุสราชจึงกราบทูลขอพระราชธิดาอีก ๗ องค์ของพระเจ้ามัททราชให้แก่กษัตริย์เหล่านั้น ซึ่งพระเจ้ามัททราชก็ตกลงและจัดพิธีอภิเษกสมรสให้


หลังพิธีอภิเษกสมรสกษัตริย์ ๗ นคร กับพระธิดาทั้งหลายแล้ว พระเจ้ากุสราชก็พาพระนางประภาวดีเสด็จกลับกุสาวดี ทั้งสองพระองค์ทรงประทับนั่งเคียงข้างกันบนราชรถ และด้วยอานุภาพของแก้วมณี พระรูปโฉมของพระเจ้ากุสราชก็หายอัปลักษณ์ แต่กลับงดงามดังเทพบุตรเหมาะสมกับพระสิริโฉมของพระนางประภาวดีผู้เป็นพระชายา


เมื่อพระเจ้ากุสราชและพระนางประภาวดีเสด็จกลับถึงกุสาวดีแล้ว ก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองตลอด ๗ วัน แล้วทั้งสองพระองค์ก็ปกครองกุสาวดีให้รุ่งเรืองตลอดมา


ชยัมบดีอนุชา มาเกิดเป็น พระอานนท์
นางค่อม มาเกิดเป็น นางขุชชุตตราอุบาสิกา
พระเจ้ากุสราช มาเกิดเป็น พระพุทธเจ้า
พระนางประภาวดี มาเกิดเป็น พระนางพิมพา



โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ...

ที่มา : //bannpeeploy.exteen.com/20080130/entry
เพลงบรรเลง ลาวม่านแก้ว จาก 4shared.com

--------------------------------------

เป็นไงกันบ้างคะ ตอนนี้ยาวหน่อยนะคะ แต่เห็นว่าสนุก จขบ.ก็เลยไม่อยากตัดเป็นสองตอน เด๋ว คนอ่านจะเกิดโทสะจริต กับจขบ.ค่ะ

เพื่อนๆ ท่านใด ที่ประสงค์จะร่วมทำบุญทอดผ้าป่า กับจขบ.ขอเชิญนะคะ
จขบ.จะปิดรับการร่วมสมทบบุญ ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2552 นี้ค่ะ
ร่วมบุญทอดผ้าป่า




 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2552
56 comments
Last Update : 6 พฤษภาคม 2552 21:40:39 น.
Counter : 1040 Pageviews.

 

ตอนนี้สนุกดีนะครับ

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อใดที่ดิฉันได้ไปเกิดในเบื้องหน้า ขอให้ร่างกายของดิฉันจงปรากฎมีรัศมีเปล่งปลั่ง และมีรูปร่างสดสวยงดงามเป็นอย่างยิ่งเถิดอนึ่ง ขออย่าให้ดิฉันได้อยู่ร่วมในที่แห่งเดียวกันกับคนที่เป็นอสัตบุรุษ ดังน้องผัวของดิฉันคนนี้เลย"


ฝ่ายน้องสามีเห็นดังนั้น จึงเอาขนมทอดของตนใส่ลงในบาตรที่เต็มด้วยเนยใส แล้วตั้งความปรารถนาว่า
"ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พี่สะใภ้ของข้าพเจ้าคนนี้ แม้จะอยู่ในที่ไกลแสนไกลตั้งร้อยโยชน์ก็ตาม ขอให้ข้าพเจ้าพึงมีความสามารถไปนำเธอมาเป็นบาทบริจาริกาของข้าพเจ้าให้จงได้เถิด"

ยาวมากครับ แต่ก็อ่านจนจบ

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ เมื่อใดที่ดิฉันได้ไปเกิดในเบื้องหน้า ขอให้ร่างกายของดิฉันจงปรากฎมีรัศมีเปล่งปลั่ง และมีรูปร่างสดสวยงดงามเป็นอย่างยิ่งเถิดอนึ่ง ขออย่าให้ดิฉันได้อยู่ร่วมในที่แห่งเดียวกันกับคนที่เป็นอสัตบุรุษ ดังน้องผัวของดิฉันคนนี้เลย"


ฝ่ายน้องสามีเห็นดังนั้น จึงเอาขนมทอดของตนใส่ลงในบาตรที่เต็มด้วยเนยใส แล้วตั้งความปรารถนาว่า
"ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พี่สะใภ้ของข้าพเจ้าคนนี้ แม้จะอยู่ในที่ไกลแสนไกลตั้งร้อยโยชน์ก็ตาม ขอให้ข้าพเจ้าพึงมีความสามารถไปนำเธอมาเป็นบาทบริจาริกาของข้าพเจ้าให้จงได้เถิด"

โมทนาด้วยนะครับ พ่อระนาดแววไว
_/|\\_ _/|\\_ _/|\\_

ขอให้พ่อระนาด มีความสุข ทุกขณะจิต นะครับ

 

โดย: ไผ่สีทอง IP: 118.174.139.56 6 พฤษภาคม 2552 21:36:25 น.  

 

ขอบคุณนะคะ คุณไผ่สีทอง
ตามมาอ่านทุกตอนแบบนี้ น่าพาไปออกรายการแฟนพันธุ์แท้นะคะ

ขอให้คุณไผ่สีทอง มีความสุข ทุกขณะจิต เช่นกันค่ะ

 

โดย: พ่อระนาด 6 พฤษภาคม 2552 21:49:40 น.  

 

ขอบคุณนะครับ พ่อระนาดแววไว

"ที่เรา พระเจ้ากุสราช ทิ้งกุสาวดีนครติดตามน้องประภาวดีมาก็เพราะอำนาจแห่งความรัก พี่ทนทำงานหนักไร้เกียรติและยศศักดิ์อยู่ที่นี่ ไม่ใช้กำลังหาญหักทำลายสาคละนครให้ราบและฉุดคร่าน้องกลับคืนไป ก็เพราะความรัก

ดวงหทัยของพี่ได้มอบความรักให้น้องประภาวดีแล้วทั้งสิ้น พี่จึงไม่เหลือใจไว้โกรธเคืองหรือเกลียดชังน้องเลย ไม่ว่าเรื่องใด และไม่ว่าเวลาใด และพี่จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาย่ำยีที่รักของพี่เป็นอันขาด"

ซึ้งๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: ไผ่สีทอง IP: 118.174.139.56 6 พฤษภาคม 2552 21:59:30 น.  

 

ตามมาอ่านต่อค่ะพี่ปุ๊ก

 

โดย: tukta IP: 125.24.207.203 6 พฤษภาคม 2552 22:21:37 น.  

 

ตามมาอ่านต่อค่ะ
และมาฟังเพลงหวานๆด้วย

 

โดย: busabap 6 พฤษภาคม 2552 22:50:02 น.  

 

แจ่มได้ใจ

จากหนังสือพระเจ้าห้าร้อยชาติ หรือป่าว

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ

 

โดย: บ้าได้ถ้วย 6 พฤษภาคม 2552 22:54:46 น.  

 

ตามมาอ่านแล้วค่ะ ..

และจะรออ่านตอนต่อไปด้วยนะคะ

ขอบคุณนะคะ ที่นำบทความดีๆ มาให้อ่าน

 

โดย: Yeesz 6 พฤษภาคม 2552 23:06:17 น.  

 

พี่ปุ๊กขา ยังไม่ทันได้หนังสือก็มีน้องๆ ที่ทราบข่าวขอหนังสือมาแล้วค่ะ แต่ที่น่าปลื้มคือมีเพื่อนของน้องเพื่อนอีกที เป็นเด็ก ม.6 ค่ะ เดิมทีคุณแม่เป็นอิสลาม แต่มาเข้าพุทธ ซึ่งหายากมากๆค่ะ น้องเค้าเลยนับถือพุทธ เค้าก็มาขอด้วยค่ะ พอส่งเวบให้น้องเค้าอ่านไปพลางๆก่อน วันนี้น้องเค้ามาบอกว่าเค้าขอเพิ่มได้มั๊ยจะเอาไปเผื่อเพื่อนๆเค้าด้วย

สงสัยคราวหน้าหนูต้องขอเพิ่มแล้วหละคะ


พี่ปุ๊กขาหนูลืมบอกไปว่า หนูชอบนางแก้วคู่บารมีตอนนี้จังเลยค่ะ

 

โดย: tukta IP: 125.24.207.203 7 พฤษภาคม 2552 0:44:52 น.  

 


[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]
[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]



เพลงบรรเลง ฟังดีจังเลย เย็น สงบ สบาย

คุณปุ๊ก สบายดีนะครับ

ตอนนี้พี่หมูกำลังกลายเป็นหมูตอนแล้ว ฮ่า ฮ่า



emo

กินกะนอน

 

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส 7 พฤษภาคม 2552 0:45:53 น.  

 

รีบมาอ่านก่อนบล็อกปิดจ้า

รอติดตามตอนต่อไปนะ ..ยิ้มกว้าง..

 

โดย: ปลิวตามลม 7 พฤษภาคม 2552 1:22:21 น.  

 

สนุกจังเลย

แต่สงสัยอีกแล้วค่ะว่า ใครต่อใคร ก็ไปอธิษฐานจิตขอเกิดมาโน่น ไปนี่ ต่อหน้าพระปัจเจกพระพุทธเจ้า แล้วพระปัจเจกพระพุทธเจ้าว่าไงบ้างไม่รู้

แล้วพระเจ้ากุสราช นึกยังไง๊ถึงไปถ่มน้ำลายใส่พระชายาอันเป็นที่รัก

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เพราะต้องใช้ความพยายามพิมพ์ตั้งยาวแน่ะ

 

โดย: Mermaid AI 7 พฤษภาคม 2552 2:59:11 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณปุ๊ก

แวะมานั่งอ่านไป ดื่มกาแฟเช้าไปค่ะ

 

โดย: I_sabai 7 พฤษภาคม 2552 7:21:14 น.  

 

สวัสดีเช้าวันพฤหัสค่ะคุณปุ๊ก
มาอ่านสิ่งดี ๆ ที่มีมาฝากกันเสมอ
ขอบคุณนะค่ะemo

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 7 พฤษภาคม 2552 7:26:12 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณปุ๊ก


การ์ตูนจะมาอาทิตย์ละ 3 บล้อกครับ
ที่เหลือก็เป็นพู่กันเดียวและงานอื่นๆของผมเองครับ อิอิอิ














 

โดย: กะว่าก๋า 7 พฤษภาคม 2552 7:37:03 น.  

 







สวัสดีครับ ปุ๊ก

แต่ละนางยาวจัง หมายถึงเรื่องราวอ่ะนะครับ

เรื่องเ่ก่ายังไม่ได้อ่านเลยน่ะ
มีความสุขกับการทำงานครับ รักษาสุขภาพ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 7 พฤษภาคม 2552 7:53:01 น.  

 



 

โดย: tanjira 7 พฤษภาคม 2552 8:08:10 น.  

 



หวัดดีค่ะคุณปุ๊ก
ตอนแรกก็ว่า โห..ยาวจัง
แต่อ่านไปเรื่อย ๆ กลับน่าติดตาม
จนวางไม่ลงอ่ะค่ะ
แล้วไม่รู้ว่า พระสวามีในชาติก่อน
ไม่มีบทมาเกิดในชาตินี้เลยหรือคะ ฮ่า ๆ ๆ
ปล.รักษาสุขภาพ และ มีความสุขมาก ๆ นะคะ

 

โดย: มินทิวา 7 พฤษภาคม 2552 8:39:29 น.  

 

ตอนนี้สนุกจริงๆครับ อ่านแล้วก็ทำให้รู้ว่าคนเรานั้นคุณค่าอยู่ที่ตัวไม่ใช่หน้าตา แต่ถ้ารูปร่างหน้าตาดีด้วย เก่งด้วยก็ยิ่งดีครับ เพราะยังไงๆคนเราก็มองรูปร่างภายนอกก่อนเสมอ

เพลงยังเพราะเหมือนเดิม ฟังแล้วเคลิ้มเลยครับ

 

โดย: JohnV 7 พฤษภาคม 2552 11:10:56 น.  

 




ซาหวัดดีก๊าบพ่อระนาด....



ขอให้มีความสุข...สนุกสนาน นะ ก๊าบ...จุ๊บุ ๆ

แวะมาอ่านเรื่องของนางแก้วต่อค่ะ


จากบล๊อก ปลื้มค่ะปลื้ม อิอิemo

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 7 พฤษภาคม 2552 11:58:58 น.  

 

"เมื่อละอัตภาพจากชาตินั้นแล้ว พี่สะไภ้และน้องสามีต่างก็ไปตามกรรม"

สรุป สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนะคะ

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 7 พฤษภาคม 2552 16:34:14 น.  

 

ขอบคุณนะคะคุณพี่ ที่แวะมาอวยพรน้องหนูตัวเล็กๆ คนนี้

ขอฝากตัวฝากใจไว้ในอ้อมกอดด้วยจ้า

กราบ...
(ทำหัวกระด๊อดกระแด๊กแบบสายัณห์)

วะฮะฮ่า

emoemoemo

 

โดย: HastaLaVista 7 พฤษภาคม 2552 17:37:22 น.  

 

แวะมาอ่านเเล้วจร้า..
กว่าจะจบ ใช้เวลาไปเกือบ ชม.

สมราคาคุยคะ สนุกดี

 

โดย: อาลีอา 7 พฤษภาคม 2552 20:34:58 น.  

 

มองดูดาว พราวดวงเดียว
เหลือบแลเหลียว เปลี่ยวเวหา
รินรินรื้น ขืนนัียนา
วาบอุรา พาเศร้าตรม

ปิ่มปิ่มเผาะ เพาะหยาดหยด
รื้นรื้นรด สลดขม
หลั่งเต็มตื้น ซ่อนขื่นตรม
เหลือจะข่ม ภิรมย์คำ

ดาราราย หมายดวงเดือน
แลร้างเลือน ดั่งเตือนย้ำ
คอยครวญเก้อ เพ้อลำนำ
จารจิตจำ พร่ำเดียวดาย..


แจมบล๊อก ๐ ดาวเดียวดาย ๐ "เซียน_กีตาร์"

 

โดย: พ่อระนาด 7 พฤษภาคม 2552 20:46:50 น.  

 

พี่ปุ๊กขา หนูอ่านตอนนี้แล้วหนูก็ย้อนมาคิดนะว่า เวลาหนูถวายข้าวพระ หนูเผลออธิฐานอะไรไปหรือเปล่า แต่หนุเคยทำบุญแล้วอธิฐานถึงบางคนว่า หนูอโหสิกรรมให้เค้า และขอให้จบกันแต่เพียงชาตินี้ อย่าได้ตามติดไปชาติต่อๆไปเลย พอมาอ่านตอนนี้แล้วก็คิดว่าเอ๊ะเกิดจำเป็นต้องเจอกันจะทำยังไง 5555 หนูจิตตกไปแล้ว

เรื่องหนังสือหนุกำลังคิดว่าหรือหนูจะขอเป็น ดังตฤณวิสัชณา ฉบับรู้จักรักดี เพราะหนูเห็นว่ายังมีเหลือ อยู่จากการจัดพิมพ์เมื่อเดือนกุมภา หนูเองก็อยากได้เล่มนี้เหมือนกัน


เรื่องสี หนูก็ไม่รู้ว่าหนูชอบสีฟ้าหรือเปล่า แต่เวลาซื้อเสือ้ผ้าหนูชอบเลือกสีน้ำตาล หรือเขียวขี้ม้า แต่พอแต่งตัวออกมามันชอบออกมาหวานๆทุกที บางคนก็บอกว่าหนูเป็นมนุษย์ไฟฟ้าสีชมพู แต่บ้านหนูก็มีแต่สีฟ้า หนูเลยสับสนว่าตกลงหนูชอบสีไหนกันแน่

วันนี้ก็พอขายได้ค่ะ แต่รายจ่ายเยอะกว่า 555 เรื่องบ้านหนะค่ะ จ่ายซะมึนเลยค่ะ

 

โดย: tukta IP: 125.24.255.120 7 พฤษภาคม 2552 22:19:06 น.  

 



คุณปุ๊กขา

พูเพิ่งกลับมาค่ะ เหนื่อยมาก
ขออ่านนิดเดียวก่อนนะคะ
พรุ่งนี้พูมาอ่านต่อค่ะ

 

โดย: พธู 7 พฤษภาคม 2552 22:37:13 น.  

 




โลกไม่ตามใจเรา

เราก็ไม่จำเป็นต้องตามใจโลก

ถ้าโลกร้ายเกินกว่าจะเอาตาม

ก็ต้องถามหาสิ่งที่ดีขึ้น

และถ้าอยากเห็นโลกดีขึ้น

ต้องไม่ใช่ด้วยการเฝ้าเรียกร้อง

แต่ต้องด้วยการลงมือทำเอง

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโลก

…………………………


ตามมาอ่านนางแก้ว ตอนเจ้าหญิงประภาวดี
เรื่องยาว แต่อ่านสนุกค่ะ

พรุ่งนี้ปิดถนน – ทำทาง คงจะได้พบกันหลังการจราจรกลับสู่ภาวะปกติ
รักษาสุขภาพนะคะปุ๊ก



คมคำ : ชนะใจตนเองได้ คือผู้ชนะที่แท้จริง


 

โดย: ร่มไม้เย็น 7 พฤษภาคม 2552 22:46:52 น.  

 

จ่ายเงินจนมึนต่างหากค่ะพี่ปุ๊ก กว่าจะย้ายเข้าไปอยู่โน้นหนูคงต้องจ่ายอีกเยอะ ไหน จะบ้านนี้ต้องปลูกใหม่อีก จ่ายไม่รู้เท่าไหร่ค่ะ มึนค่ะมึน


ฉบับรู้จักรัก เพื่อนหนุคนที่เค้าเป็นลูก.....เป็นคนแนะนำให้หนูอ่านค่ะ เค้าบอกว่าเค้าอ่านเล่มนี้แล้วรู้สึกดี แต่วันที่หนูไปเอาที่บ้านอารีย์ เค้าบอกว่าหมด เหลือแค่เล่มตัวอย่าง หนูก็อยากได้ ยืนหน้าละห้อย ใช้สายตาอ้อนวอน พี่เค้าก็เลยสงสาร เอาเล่มตัวอย่างยกให้หนู ทุกวันนี้ยังวางอยู่ที่โต๊ะตลอด แล้วมันก็มีคำว่า ตัวอย่าง ตัวโตๆ ให้เห็น 5555

มีหลายคนอยากได้มาขอหนูอยู่ค่ะ หนูเลยคิดว่าหรือจะทำบุญเอามาแจกเพื่อนๆด้วยดี

 

โดย: tukta IP: 125.24.255.120 7 พฤษภาคม 2552 22:53:03 น.  

 

น้องปุ๊กครับผมอ่านถึงตอน 3แล้วแต่ไม่ได้เม้นท์เรื่องทำบุญจะชอบทำมากบางครั้งใส่ซองก็ไม่เขียนชื่อคือทำเพราะอยากทำหน่ะ

 

โดย: อ้วนforest IP: 124.120.73.100 7 พฤษภาคม 2552 23:05:50 น.  

 

เดี๋ยวหนูขอคิดอีก 2 วันนะคะพี่ปุ๊ก แต่อยากทำอยู่ค่ะ อยากซาวเสียงน้องๆแฟนคลับหนูก่อน5555 คือจะมีน้องๆที่เคยเป็นแฟนคลับนักร้องสมัยหนูทำงาน มาเป็นแฟนคลับหนูอะคะ

หนูอยากรู้ก่อนว่ามีใครอยกาได้อีก จะได้ขอทีเดียว รบกวนพี่ปุ๊กหลายทีเกรงใจค่ะ 555


ฝันดีนะคะพี่ปุ๊ก

ปล. วันพระทีไรหนูขายไม่ดีทุกทีเลยค่ะพี่ปุ๊กไม่รู้ทำไม เป็นมาอย่างนี้จะ 10 ปีแล้ว แรกๆก็ไม่ได้คิดไร หลังๆ เริ่มคิดว่าเอ๊ะทำไม แต่ก็คิดว่าคงคิดมากไปเองคงความบังเอิญ จนวันหนึ่ง ลูกน้องหนูพูดขึ้นมาว่า พี่..หนูถามจริงเหอะ ทำไมวันพระทีไรขายไม่ดีทุกทีเลย เป็นทุกพระเลยนะพี่ หนูก็งงๆเหมือนกัน เลยพูดขำๆว่า พระที่คุ้มครองพี่ไปประชุมวันพระเลยไม่มีคนช่วย


ถ้าพรุ่งนี้เย็นไม่ติดอะไรหนูจะไปสวดมนต์ตอนเย็นที่วัดอะคะ

 

โดย: tukta IP: 125.24.255.120 7 พฤษภาคม 2552 23:46:45 น.  

 

สวัสดีค่ะพ่อระนาด สบายดีรึป่าวคร้า
มาบ้านพ่อระนาดึกทุกทีเรยยย
ต้องมาอ่านวันอาทิตย์อาดิ
คิดถึง ราตรีสวัสดิ์น้า..

Fantasy Myspace Comments


 

โดย: มัททะนะ (mastana ) 8 พฤษภาคม 2552 0:31:50 น.  

 

ตอนนี้สนุกจริงๆค่ะพี่ปุ๊กขา... ซึ้งด้วยสิ ตอนเจ้าชายของเราเฉลยความในใจ ...อิอิ

 

โดย: อมิธีสท์ 8 พฤษภาคม 2552 0:44:30 น.  

 



สวัสดีวันวิสาขบูชาค่ะ คุณพ่อระนาด




ไม่เจอกันสองวัน
มีความสุข รักษาสุขภาพนะคะ
คิดถึงเสมอค่ะ

 

โดย: อิ่ม_Aim 8 พฤษภาคม 2552 6:41:59 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณปุ๊ก


บล็อกปิดทำการปรับปรุงระบบสองวัน
แล้วกลับมาพบกันใหม่เมื่อบล็อกเปิดทำการนะครับ













 

โดย: กะว่าก๋า 8 พฤษภาคม 2552 7:13:45 น.  

 



พ่อระนาดขา
มาบอกว่า คิดถึงๆๆๆ...บอกไว้เยอะๆ..
เพราะเด๋วพรุ่งนี้ไม่ได้มาหากัน
แต่พรุ่งนี้ บ่ายๆมืดๆพันทิพก็น่าจะวางเสริฟเวอร์เสร็จนะคะ
ดาวจ๋าบอกเอง....คิดเองค่ะ 55

 

โดย: ดาวลูกไก่ ตัวที่ 7 ค่ะ (satineesh ) 8 พฤษภาคม 2552 7:22:02 น.  

 



...ไม่พบกัน 2วัน...
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ..มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: tanjira 8 พฤษภาคม 2552 7:49:55 น.  

 

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับคุณปุ๊ก


 

โดย: กะว่าก๋า 8 พฤษภาคม 2552 8:19:00 น.  

 

สวัสดีค่ะ
ไม่ได้คุยกันเลย
คิดถึงมากมาย แถมทางมาคุนก็ถูกปิดอีก สองวันคิดถึงแย่เลย
ดีค่ะถ่ายรูปสวยๆมาฝากเยอะๆนะคะ
รักษาสุขภาพค่ะ มีความสุขและอิ่มบุญนะคะ
โชคดีค่ะ

 

โดย: busabap 8 พฤษภาคม 2552 8:37:30 น.  

 




emoสวัสดีก่อนบล็อกปิดทำการครับ ปุ๊ก


บล็อกปิดทำการสองวัน คิดถึงพี่... บ้างนะครับ



มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ นะครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 8 พฤษภาคม 2552 8:56:04 น.  

 

ขอบพระคุณค่ะพี่ปุ๊กขา... ขอให้เจริญในธรรมนะคะ เเล้วพบกันวันอาทิตย์ค่ะ



 

โดย: อมิธีสท์ 8 พฤษภาคม 2552 9:06:18 น.  

 

ห้ามลืมต่ายด้วย

 

โดย: Moon~JulY 8 พฤษภาคม 2552 9:18:04 น.  

 

จะคิดถึงทุกวินาทีเลย

 

โดย: Moon~JulY 8 พฤษภาคม 2552 9:18:52 น.  

 

สวัสดีจ้าคุณพี่ปุ๊ก
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะ

วันนี้เค้าก็กำลังจะเดินทางไปอ่างทองเหมือนกัน
แล้วจะกลับมารายงานตัวอีกครั้งเน้อ
emoemo

 

โดย: HastaLaVista 8 พฤษภาคม 2552 9:32:38 น.  

 






จะรออนุโมทนาบุญ นะครับ ปุ๊ก

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 8 พฤษภาคม 2552 9:50:55 น.  

 

ถ้ามีผู้นำไปสร้างเป็นละครทีวีคงจะมีผู้ชมติดกันงอมแงมเลยครับ ขอขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มาแบ่งปัน ขอบุญกุศลจงบังเกิดเกิดคุณพ่อระนาดครับ

 

โดย: kanetp007 11 พฤษภาคม 2552 7:33:35 น.  

 





สวัสดีค่ะ...คุณปุ๊กขา

วันนี้มาหากันได้แล้วนะคะ
พี่เลยหอบความสุขมาฝากนะคะ
และอยากบอกว่า..คิดถึงมากๆค่ะ
ทำให้เหงาไปเลยค่ะ..เมื่อ 2-3 วัน
มีความสุขและสดชื่นๆมากๆนะคะ

 

โดย: tanjira 11 พฤษภาคม 2552 7:42:59 น.  

 



สวัสดีค่ะ คุณปุ๊ก

พูตามมาอ่านต่อจนจบแล้วค่ะ
ตอนนี้สนุกมากเลยนะคะ
นี่ถ้าเราสามารถไล่เรียงลำดับ
ชาติต่างๆ ที่พระพุทธองค์ทรงกำเนิด
พร้อมด้วยนางแก้วคู่บุญบารมีแต่ละชาติ
คงทำให้สนุกขึ้นไปอีกนะคะ
เพราะจะได้ทราบว่าชาตินี้อยู่ในลำดับที่เท่าไหร่

บล็อคเปิดแล้ว หลายคนคงคลายเหงา
รวมทั้งพูด้วยค่ะ เพราะคิดถึงเพื่อนๆ
และเรื่องราวที่น่าสนใจที่เอามาฝากกันนะคะ

 

โดย: พธู 11 พฤษภาคม 2552 8:47:21 น.  

 




emoสวัสดีครับ ปุ๊ก


บล็อกปิดสามวัน คิดถึงบ้างป่าว... แทบลงแดงแน่ะ

มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพ นะครับ

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 11 พฤษภาคม 2552 9:21:12 น.  

 

เข้ามาบ้านนี้ครั้งใด
อิ่มใจ เย็นหทัย ออกไปทุกครั้ง
ชอบหลายๆ

พ่อระนาดนี่หนอ
ชื่นหัวใจ

 

โดย: ฟ้าทลายโจร (ป้าอิ่ม ) 11 พฤษภาคม 2552 13:14:03 น.  

 



Miss You Myspace Comments



 

โดย: Moon~JulY 11 พฤษภาคม 2552 15:37:04 น.  

 

แวะมาสวัสดียามสนธยา ใกล้เวลากลับบ้านแล้ว..

เมื่อวานเจอฝนหนักหน่วม อ่วมอรทัย...
ลอ ลุงมะยอมแวะไหนเลย ส่งน้องและเพื่อนเสร็จแล้ว
หอบบุญกลับบ้านเลย...หุหุ

มีความสุขในวันดี ๆ ทุกวัน...นะคะ

 

โดย: พรหมญาณี 11 พฤษภาคม 2552 16:41:47 น.  

 

เมื่อกี้แวะมาทักทายแล้วค่ะพอคอมเมนท์เสร็จปุ๊บ หน้านี้หลุดกระเจิงค่ะ...55555...ก็เลยแวะมาใหม่หลังผ่านไปเป็น ช.มๆ แล้วค่ะ...

เข้ามาอ่านเพื่อประดับความรู้ค่ะ...ดีจัง...ถึงชื่อจะอ่านยากไปนิด ไม่ใช่สิจำยาก แต่ก็อ่านแล้วสนุกดีค่ะ..จะมาติดตามสม่ำเสมอนะคะ

ขอบคุณค่ะที่เอาเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านค่ะ

 

โดย: deeplove 11 พฤษภาคม 2552 17:18:43 น.  

 





จากบล็อก... ชอบเป็นการส่วนตัว ไม่ได้บอกใครครับ ปุ๊ก

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 11 พฤษภาคม 2552 19:09:51 น.  

 

เเวะมาส่งเข้านอนจร้าฝันดีนะจ๊ะ

 

โดย: อาลีอา 11 พฤษภาคม 2552 19:16:25 น.  

 

 

โดย: pet.sp 11 พฤษภาคม 2552 19:45:52 น.  

 

 

โดย: pet.sp 11 พฤษภาคม 2552 19:46:12 น.  

 

ประโยคที่พูดตอนรับตัวพระนางประภาวดีกลับ พูดได้ซึ้งจังค่ะ

 

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (Beee_bu ) 10 กันยายน 2552 2:37:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พ่อระนาด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เพียรฝึกตนใฝ่รู้ หลักธรรม

จิตเพ่งคิดจดจำ บ่มไว้

หมายเพียรมุ่งตัดกรรม วัฏฏะ

หวังสละจิตสุดท้าย ดิ่งเข้านิพพาน..

Friends' blogs
[Add พ่อระนาด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.