|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
พระนางอุทัยภัทรา (ถือพรหมจรรย์ตามสู่สวรรค์)
นางแก้วคู่บารมี เรียบเรียง โดย อังคาร
ตอนที่ 14 ถือพรหมจรรย์ตามสู่สวรรค์
ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดเป็นราชโอรสอัครมเหสีของพระเจ้ากาสี พระนามว่าอุทัยภัทร ส่วนพระนางพิมพามาเกิดพระกนิษฐาต่างมารดา พระนามว่า อุทัยภัทรา
เมื่ออุทัยภัทรกุมารเจริญวัยขึ้นและเรียนจบศิลปะศาสตร์ทั้งหลายแล้ว พระเจ้ากาสีก็จะให้อภิเษกสมรสแล้วจะมอบราชสมบัติให้ แต่อุทัยภัทรกุมารไม่ประสงค์การครองเรือน ทรงประพฤติพรหมจรรย์มาตลอด จึงหาทางบ่ายเบี่ยง โดยให้ช่างทองสร้างรูปสตรีด้วยทองคำสุกปลั่ง และกราบทูลพระราชาบิดาว่าหากมีหญิงใดงามเสมอเหมือนรูปทองคำนี้จึงจะอภิเษกด้วย
พระราชาจึงให้อำมาตย์นำรูปทองคำนั้น เที่ยวตระเวณหาหญิงงามไปทั่วชมพูทวีป แต่ไม่พบหญิงใดงามเสมอรูปทองคำ ยกเว้นพระราชธิดาอุทัยภัทราเพียงพระองค์เดียวที่ข่มจนรูปทองนั้นหมองไป
พระราชาจึงมอบราชสมบัติให้อุทัยภัทรกุมาร และอภิเษกให้พระราชธิดาอุทัยภัทราเป็นอัครมเหสี
พระเจ้าอุทัยภัทรและพระนางอุทัยภัทรา ประทับอยู่ร่วมห้องเดียวกัน แต่ทั้งสองก็ทรงประพฤติพรหมจรรย์ เนื่องจากจุติมาจากพรหมโลกทั้งคู่ จึงต่างไม่ปรารถนาในกามสุข
ทั้งสองพระองค์ตกลงกันว่าหากใครสิ้นพระชนม์ลงไปก่อน และไปอุบัติในที่ใด ผู้นั้นต้องกลับมาบอกอีกฝ่ายด้วย
กาลล่วงมาได้อีก ๗๐๐ ปี พระเจ้าอุทัยภัทรก็สวรรคต พระนางอุทัยภัทราทรงเป็นผู้สำเร็จราชการ โดยมีหมู่อำมาตย์ร่วมกันปกครองราชสมบัติสืบต่อมา
พระเจ้าอุทัยภัทรเมื่อสวรรคตแล้วได้ไปอุบัติเป็นท้าวสักกเทวราชในดาวดึงส์ แต่พระองค์ไม่สามารถจำความหลังได้ตลอดสัปดาห์หนึ่ง เมื่อเวลาล่วงไป ๗๐๐ ปีมนุษย์ พระองค์จึงทรงระลึกได้ ทรงดำริว่าจะมาทดลองพระมเหสีอุทัยภัทรา
คืนวันนั้น ท้าวสักกเทวราชก็ทรงถือถาดทองคำ ๑ ถาด บรรจุเหรียญมาสกมาเต็มถาด เข้าไปหาพระนางอุทัยภัทราในห้องบรรทม และตรัสกับพระนางว่า
"ดูก่อนนางผู้งดงามหาที่ติมิได้ ตลอดราตรีนี้ เราทั้งสองพึงอยู่ร่วมอภิรมย์กันในห้องพระบรรทมอันอลงกตนี้"
พระนางอุทัยภัทราแปลกพระทัยถามว่า
"ท่านเป็นใคร เหตุไฉนจึงมาหาเรา"
ท้าวสักกเทวราชตรัสตอบว่า
"เราเป็นเทวดาประจำตำหนักนี้ หากพระนางยินดีร่วมอภิรมย์ด้วย เราจะมอบถาดทองคำนี้ให้พระนาง"
พระนางอุทัยภัทราทรงสดับแล้วก็ตรัสตอบว่า
"อย่าเลย นอกจากพระเจ้าอุทัยภัทรแล้ว ข้าพเจ้าไม่พึงปรารถนาเทวดา ยักษ์ หรือมนุษย์ผู้อื่นเลย ดูก่อนเทพบุตรผู้มีอานุภาพมาก ท่านจงไปเสียเถิด อย่ากลับมาอีก"
ท้าวสักกเทวราชก็หายวับไปจากที่นั้น
วันรุ่งขึ้นเวลาเดิม ท้าวสักกเทวราชก็กลับมาอีกครั้งพร้อมถาดเงินเต็มเปี่ยมด้วยเหรียญทองคำ ตรัสกับพระนางอุทัยภัทราว่า
"พระราชธิดาผู้เจริญ อันว่าเมถุนกามนั้นชื่อว่าเป็นความยินดีสูงสุด ขอพระนางโปรดอย่าพลาดจากความยินดีนั้นเสียเลย วันนี้เราจะมอบถาดเงินเต็มด้วยเหรียญทองนี้แด่พระนาง"
พระนางอุทัยภัทราทรงดำริว่า ถ้าสนทนาปราศรัยด้วยเทพบุตรนี้คงมาบ่อยๆ พระนางจึงเงียบเสีย ท้าวสักกเทวราชทรงทราบความที่พระนางไม่ตรัส จึงหายวับไปจากที่นั้น
วันรุ่งขึ้นเวลาเดิม ท้าวสักกเทวราชก็ถือถาดโลหะเต็มด้วยเหรียญกระษาปณ์ ตรัสว่า
"พระนางผู้เจริญ เชิญพระนางปรนเปรอด้วยกามเถิด เราจะมอบถาดโลหะ เต็มด้วยเหรียญกระษาปณ์แด่พระนาง"
พระนางอุทัยภัทราตรัสตอบว่า
"ธรรมดาชายหมายจะให้หญิงเอออวยด้วยทรัพย์ ย่อมประมูลราคาสูงขึ้นจนให้ถึงความพอใจ ของท่านกลับตรงกันข้าม ท่านประมูลราคาลดลง"
ท้าวสักกเทวราชจึงตรัสว่า
"ดูก่อนพระนางผู้มีพระวรกายอันงดงาม อายุและวรรณะของมนุษย์โลกย่อมเสื่อมทรามลง แม้ทรัพย์สำหรับพระนางก็จำต้องลดลงด้วย เพราะวันนี้พระนางชราลงกว่าวันก่อน
ดูก่อนพระราชบุตรีผู้ทรงพระยศ เมื่อเรากำลังเพ่งมองพระนางอยู่อย่างนี้ พระฉวีวรรณของพระนางย่อมเสื่อมไป เพราะวันคืนล่วงไป
ดูก่อนพระราชบุตรีผู้มีพระปรีชา เพราะเหตุนั้น พระนางพึงประพฤติพรหมจรรย์เสียแต่วันนี้ทีเดียว จะได้มีพระฉวีวรรณงดงามยิ่งขึ้นอีก"
พระนางอุทัยภัทราจึงตรัสถามว่า
"เทวดาทั้งหลายไม่แก่เหมือนมนุษย์หรือไร? เส้นเอ็นในร่างกายของเทวดาเหล่านั้นไม่มีหรือไร? ดูก่อนเทพบุตร ข้าพเจ้าขอถามท่านผู้มีอานุภาพมาก ร่างกายของเทวดาเป็นอย่างไรเล่า?"
ท้าวสักกเทวราช จึงตรัสบอกแก่พระนางว่า
"เทวดาทั้งหลายไม่แก่ชราเหมือนพวกมนุษย์ เส้นเอ็นในร่างกายของเทวดาเหล่านั้นไม่มี ฉวีวรรณอันเป็นทิพย์ของเทวดาเหล่านั้นผุดผ่องยิ่งขึ้นทุกๆ วัน และโภคสมบัติก็ไพบูลย์ขึ้น
ในหมู่มนุษย์ ความเสื่อมถอยทางรูปเป็นประจักษ์พยานว่าเกิดแล้วมานาน แต่ในหมู่ทวยเทพ รูปสมบัติที่ละเอียดงามยิ่งขึ้น และบริวารสมบัติที่มากขึ้น เป็นประจักษ์พยานว่าเกิดมานานแล้ว
เทวโลกนั้นไม่เสื่อมถอยเป็นธรรมดาด้วยประการฉะนี้ เหตุนั้น พระนางจงเสด็จออกผนวชเสียเถิด ครั้นจุติจากมนุษย์โลกอันมีแต่ความเสื่อมถอยนี้แล้ว จะได้ไปสู่เทวโลกอันมีแต่สิ่งที่ไม่รู้จักเสื่อมถอย"
พระนางอุทัยภัทราจึงตรัสถามทางไปเทวโลก
ท้าวสักกเทวราชตรัสบอกแก่พระนางว่า
"บุคคลผู้ตั้งวาจาและใจไว้โดยชอบ ไม่ทำบาปต่างๆ ประพฤติมั่นในกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ เป็นผู้เชื่อมั่นศรัทธาในวิบากแห่งทาน ชอบสงเคราะห์ทาน อ่อนโยน มีวาจาน่าคบหาเป็นสหาย บุคคลดำรงอยู่ในคุณธรรมนี้พึงไปเทวโลก"
พระนางอุทัยภัทราชื่นชมในคำสอนนั้น จึงตรัสถามว่า
"ข้าแต่ท่านผู้มีผิวพรรณงดงามยิ่ง ข้าพเจ้าขอถาม ท่านเป็นใครกันหนอจึงมีร่างกายสง่างามนัก"
ท้าวสักกเทวราชจึงตรัสตอบว่า
"ดูก่อนพระนางเจ้าผู้เลอโฉม ข้าพเจ้าคือพระเจ้าอุทัยภัทร มาที่นี่ตามที่เคยตกลงกันไว้ บัดนี้ข้าพเจ้ามาบอกพระนางแล้วก็จะขอลาไป"
พระนางอุทัยภัทราทรงดีพระทัยจนน้ำพระเนตรไหล เปล่งวาจาว่า
"ทูลกระหม่อม พระองค์คือพระเจ้าอุทัยภัทร หม่อมฉันไม่สามารถจะอยู่ห่างพระองค์ได้ โปรดสอนหม่อมฉันด้วยวิธีที่เราทั้งสองจะได้พบกันใหม่อีกเถิดเพคะ"
ท้าวสักกเทวราชจึงตรัสสอนพระนางว่า
"ดูก่อนพระน้องนาง
ทรัพย์ทั้งแผ่นดินของพระราชานั้น ที่สุดพระราชาก็ต้องทิ้งทรัพย์นั้นไป มารดา บิดา พี่ชาย น้องชาย พี่สาว น้องสาว ภริยาและสามี พร้อมทั้งทรัพย์ แม้เขาเหล่านั้น ต่างก็จะละทิ้งกันไป
ดูก่อนพระน้องนาง
ร่างกายนี้เป็นเพียงที่พักพิงชั่วคราว วัยย่อมล่วงไปรวดเร็วประดุจกระแสเชี่ยวของแม่น้ำ ขึ้นชื่อว่าความหยุดอยู่แห่งวัยนั้นไม่มีเลย แม้ปรารถนาว่า สังขารทั้งหลายที่เกิดขึ้นแล้ว อย่าแตกสลาย ก็ไม่เป็นไปได้
ดูก่อนพระน้องนาง
เธออย่าถึงความประมาทเลย จงเป็นผู้ไม่ประมาท จงเป็นผู้ประพฤติกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการให้สมบูรณ์ คือ เป็นผู้เว้นจากการฆ่าสัตว์ เป็นผู้เว้นจากการลักและฉ้อฉลทรัพย์ เป็นผู้เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เป็นผู้เว้นจากการพูดเท็จ เป็นผู้เว้นจากการพูดส่อเสียด เป็นผู้เว้นจากการพูดคำหยาบ เป็นผู้เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ เป็นผู้ไม่โลภอยากได้ของเขา เป็นผู้ไม่คิดร้ายพยาบาทปองร้ายเขา และเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิไม่หลงผิดจากหลักธรรม กุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการนี้ เป็นหนทางให้พระน้องนางไปสู่สวรรค์"
ท้าวสักกเทวราชประทานโอวาทแด่พระนางอุทัยภัทราแล้ว ก็เสด็จกลับสู่ดาวดึงส์
วันรุ่งขึ้น พระนางอุทัยภัทราก็ทรงมอบราชสมบัติให้พวกอำมาตย์ แล้วออกบวชประพฤติพรตอยู่ในพระราชอุทยาน เมื่อสิ้นอายุก็ไปบังเกิดเป็นบาทบริจาริกาของท้าวสักกเทวราชในดาวดึงส์
โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ ...
ที่มา : //bannpeeploy.exteen.com/20080130/entry เพลง ลาวม่านแก้ว
Create Date : 29 มิถุนายน 2552 |
|
107 comments |
Last Update : 29 มิถุนายน 2552 13:48:50 น. |
Counter : 2734 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 29 มิถุนายน 2552 13:51:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธู 29 มิถุนายน 2552 14:10:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 มิถุนายน 2552 14:19:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 29 มิถุนายน 2552 14:38:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรหมญาณี 29 มิถุนายน 2552 16:22:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 29 มิถุนายน 2552 16:24:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๊ดีค่ะ (kun_isara ) 29 มิถุนายน 2552 18:11:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: wingang 29 มิถุนายน 2552 18:17:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 29 มิถุนายน 2552 18:34:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: อมิธีสท์ 29 มิถุนายน 2552 18:39:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: มินทิวา 29 มิถุนายน 2552 19:50:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV 29 มิถุนายน 2552 21:09:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 29 มิถุนายน 2552 21:11:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 29 มิถุนายน 2552 21:15:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้วนforest IP: 118.172.208.126 30 มิถุนายน 2552 5:08:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 มิถุนายน 2552 7:09:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: พธู 30 มิถุนายน 2552 7:29:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 30 มิถุนายน 2552 7:35:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 30 มิถุนายน 2552 8:18:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: โอพีเองจ้ะ IP: 63.229.213.65 30 มิถุนายน 2552 9:13:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 30 มิถุนายน 2552 12:47:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 30 มิถุนายน 2552 13:47:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: wingang 30 มิถุนายน 2552 15:21:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: อาลีอา 30 มิถุนายน 2552 16:46:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 30 มิถุนายน 2552 17:29:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: นุ๋ดีค่ะ (kun_isara ) 30 มิถุนายน 2552 18:01:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: อมิธีสท์ 30 มิถุนายน 2552 20:14:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้วนforest IP: 117.47.94.58 30 มิถุนายน 2552 20:36:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 30 มิถุนายน 2552 21:01:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: กัดหมอน 1 กรกฎาคม 2552 7:54:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: tanjira 1 กรกฎาคม 2552 9:05:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 1 กรกฎาคม 2552 10:00:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: tukta (tukta510 ) 1 กรกฎาคม 2552 11:21:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 1 กรกฎาคม 2552 12:47:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nudao or Daoja (satineesh ) 1 กรกฎาคม 2552 13:16:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 1 กรกฎาคม 2552 13:24:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: busabap 1 กรกฎาคม 2552 15:22:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV 1 กรกฎาคม 2552 16:54:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: wingang 1 กรกฎาคม 2552 18:57:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) 1 กรกฎาคม 2552 19:33:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลุงแอ๊ด 1 กรกฎาคม 2552 21:17:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV IP: 125.26.109.88 1 กรกฎาคม 2552 21:34:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 1 กรกฎาคม 2552 21:55:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: JohnV IP: 125.26.109.88 1 กรกฎาคม 2552 21:59:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่อ้วนคนสวย IP: 118.173.32.93 2 กรกฎาคม 2552 6:09:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: d__d (มัชชาร ) 2 กรกฎาคม 2552 7:08:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 2 กรกฎาคม 2552 13:04:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 2 กรกฎาคม 2552 13:10:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดาวจ๋า คนซนๆค่ะ (satineesh ) 2 กรกฎาคม 2552 13:22:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 2 กรกฎาคม 2552 21:30:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อระนาด 2 กรกฎาคม 2552 22:00:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 2 กรกฎาคม 2552 22:03:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: I_sabai 3 กรกฎาคม 2552 9:41:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 3 กรกฎาคม 2552 10:44:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ตัวp_box 3 กรกฎาคม 2552 13:26:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 3 กรกฎาคม 2552 13:51:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมึกสีดำ 3 กรกฎาคม 2552 13:53:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญามี่ 3 กรกฎาคม 2552 15:30:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: numpun IP: 118.172.22.3 31 กรกฎาคม 2552 6:00:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: numpun IP: 118.172.91.32 15 สิงหาคม 2552 21:09:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: numpun IP: 118.172.102.113 23 สิงหาคม 2552 16:30:58 น. |
|
|
|
|
|
|
เพียรฝึกตนใฝ่รู้ หลักธรรม
จิตเพ่งคิดจดจำ บ่มไว้
หมายเพียรมุ่งตัดกรรม วัฏฏะ
หวังสละจิตสุดท้าย ดิ่งเข้านิพพาน..
|
|
|
|
|
|
|
ตอนนี้ อ่านแล้ว ซึ้งใจ ซึ้งๆ ครับ
พระนางอุทัยภัทราทรงดีพระทัยจนน้ำพระเนตรไหล เปล่งวาจาว่า
"ทูลกระหม่อม พระองค์คือพระเจ้าอุทัยภัทร หม่อมฉันไม่สามารถจะอยู่ห่างพระองค์ได้ โปรดสอนหม่อมฉันด้วยวิธีที่เราทั้งสองจะได้พบกันใหม่อีกเถิดเพคะ"
แถมด้วยธรรมะ ด้วยนะครับ
เธออย่าถึงความประมาทเลย จงเป็นผู้ไม่ประมาท จงเป็นผู้ประพฤติกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการให้สมบูรณ์ คือ เป็นผู้เว้นจากการฆ่าสัตว์ เป็นผู้เว้นจากการลักและฉ้อฉลทรัพย์ เป็นผู้เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เป็นผู้เว้นจากการพูดเท็จ เป็นผู้เว้นจากการพูดส่อเสียด เป็นผู้เว้นจากการพูดคำหยาบ เป็นผู้เว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ เป็นผู้ไม่โลภอยากได้ของเขา เป็นผู้ไม่คิดร้ายพยาบาทปองร้ายเขา และเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิไม่หลงผิดจากหลักธรรม กุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการนี้ เป็นหนทางให้พระน้องนางไปสู่สวรรค์"
จะติดตามอ่านตอนต่อไปนะครับ พ่อระนาดแววไว