รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
10 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

อาการเห็นความคิดที่ไม่ยอมหยุดคิด

เมื่อท่านนักภาวนาได้เจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ด้วยหลักการแห่ง อาตาปี สัมปชาโน สติมา
หรือจะพูดอีกอย่างก็ได้ว่า การรู้ทุกข์ด้วยการละตัณหา ซึ่งจะตรงกับอริยสัจจ์ 4 ข้อ 1+ข้อ 2
สิ่งที่เกิดขึ้นกับนักภาวนาก็คือ กำลังแห่งสัมมาสมาธิจะค่อย ๆ ก่อตัวตั้งมั่นขึ้น

จะรู้ได้อย่างไรว่า นี่คือการก่อตัวตั้งมั่นขึ้นแล้ว...
สิ่งที่จะบอกแก่นักภาวนาก็คือ การแยกตัวของจิต ออกจาก อาการของขันธ์
นักภาวนาจะพบกับ จิตและสิ่งทีจิตไปเห็นเข้า และ อาการนี้จะปรากฏตัวในลักษณะของการเห็นความคิดที่เกิดขึ้นตลอดไม่ขาดสาย พอเรื่องนี้คิดก็เห็นแล้วหยุดไป เรื่องใหม่ก็มาคิดต่อแล้วเห็นแล้วหยุดไปอีก แล้วก็คิดอีกเห็นอีก วนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ อาจกินเวลานานถึง 1 นาทีหรือมากกว่าก็แล้วแต่ นี่คือสิ่งบอกเหตุว่า ท่านนักภาวนาได้เริ่มมีกำลังแห่งความตั้งมั่นของสัมมาสมาธิขึ้นมาแล้ว

ทำไมผมจึงว่าอย่างนั้น..
เพราะกำลังแห่งสัมมาสมาธิที่เริ่มจะมีขึ้น สามารถชนะแรงดึงอันร้ายกาจของตัณหาได้บ้างแล้ว
ทำให้จิตสามารถประคองตัวเอง ไม่ให้ลงไปยึดในความคิดได้อีก นี่คือสิ่งบอกเหตุว่าท่านนักภาวนากำลังจะเริ่มไปได้ถูก ไปได้สวยแล้ว แต่เนื่องด้วยกำลังแห่งสัมมาสมาธิยังไม่เด็ดขาดพอ จึงทำให้การคิดอันเป็นจิตปรุงแต่ง คิดต่อไปได้เรื่อย ๆ เป็นระยะเวลาพอสมควร แล้วความคิดจึงจะหยุดไปเอง

การเห็นความคิดแบบนี้ นักภาวนาจะรู้ได้เลยว่า อันความคิดนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของ ๆ เรา
นักภาวนาจะเห็นของจริงที่เห็นได้นานพอสมควร เป็นการตอกย้ำแห่งปัญญาให้แก่จิตในเรื่องไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรานี้

เมื่อพระพุทธองค์ทรงโปรดปัญจวัคคีย์ในปฐมเทศนา พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนแก่เหล่าปัญจวัคคีย์ว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นสมควรหรือที่ว่าเป็นเรา เป็นของเรา การที่นักภาวนาเห็นอาการความคิดเกิดแล้วดับไปนี้คือการเห็นความไม่เที่ยงและเห็นความไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ตรงตามคำสอนในปฐมเทศนานี้ การภาวนาจะต้องออกมาแบบนี้จึงจะเข้าทางตามคำสอนของพระพุทธองค์

ต่อเมื่อนักภาวนาได้ฝึกฝนต่อไปอีก กำลังจิตตั้งมั่นมากขึ้นอีก กำลังแห่งการตัดของสัมมาสมาธิจะยิ่งสูงขึ้น ต่อไป อาการคิดไม่หยุดอย่างนี้ ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก แต่จะเป็นลักษณะที่ว่า คิดแล้วหยุดคิด มีช่องว่างที่ไม่คิด แล้วก็คิดอีก มีช่องว่างที่ไม่คิดอีก แล้วความคิดก็จะสั่นลง สั้่นลง ไปเรื่อย ๆ นี่คือสิ่งบอกว่า กำลังสัมมาสมาธิของท่านนักภาวนากำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
(Tip... อาการคิดแล้วหยุดคิด สลับไปมาเช่นนี้ ในขณะที่หยุดคิดนั้น ขอให้นักภาวนาสังเกตตำแหน่งที่ความคิดมันหยุดไป ท่านอาจเห็น มโน ได้ในจังหวะที่ความคิดหยุดลงไป )

ในระยะนี้ เมื่อจิตไม่คิด ขอให้นักภาวนาจับอาการทางกายต่อไป อาการทางกายนี้จะช่วยพัฒนากำลังสัมมาสติให้แก่ท่านเอง เมื่อกำลังสัมมาสติมีการพัฒนาต่อ่ไป กำลังสัมมาสมาธิสูงขึ้น
เมื่อถึงจุุดหนึ่ง ท่านนักภาวนาจะพบกับ มโน อันเป็นความว่างที่ยังเป็นรูปอยู่ของตัวจิต

ท่านที่เดินถึงทางนี้ได้แล้ว ผมขอแสดงความยินดีแก่ท่านเป็นอย่างยิ่ง เมื่อท่านพบหลักการภาวนาแล้ว ก็ขอให้หมั่นเพียรในการฝึกฝนเพื่อความเจริญก้าวหน้าและพลังความตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิของจิตของท่านเอง จนก้าวพ้นความทุกข์ทั้งปวง




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2555
2 comments
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2555 5:40:13 น.
Counter : 1512 Pageviews.

 

กิจกรรม ครั้งที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2555
ท่านที่สนใจเข้าร่วม กรุณาลงชื่อได้ที่


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=02-2012&date=05&group=14&gblog=9

 

โดย: นมสิการ 11 กุมภาพันธ์ 2555 12:32:06 น.  

 

ความแตกต่างระหว่าง ฟุ่งซ่านและปัญญา

ถ้าคิดไม่หยุดในเรื่องนี้

ถ้าเห็นความคิดได้ว่าจิตคิดไม่หยุด นี่เป็นปัญญาของจิต

แต่ถ้าไม่เห็นความคิด นี่เป็นความฟุ่งซ่าน

 

โดย: นมสิการ 13 กุมภาพันธ์ 2555 6:04:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.