รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
แนะนำรายการทีวี พื้นที่ชีวิต ที่ TPBS

วันนี้ได้ดูทีวีรายการพื้นที่ขีวิต ทาง TPBS ออกอากาศเวลา 10.05-11.00 น. เป็นรายการทีผู้ดำเนินเรื่องได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศษ เพื่อหาคำตอบเรื่องของ.ความคิด.

ผมได้ดูตอนนี้ ผมยอมรับเนื้อหาในตอนนี้ว่าเป็นเรื่อ่งที่น่าสนใจมาก และ สอดคล้องกับสิ่งที่ผมพบในการภาวนา และ ผมขอแนะนำให้ท่านที่อ่าน blog ของผมประจำดู ท่านอาจเข้าใจอเะไรได้มากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องการภาวนา เรื่องของทุกข์และการดับทุกข์

สำหรับสัปดาห์หน้าจะเป็นตอนที่ไปที่หมู่บ้านพลัม

นอกจากจะออกอากาศวันพุธ เวลา 10.05-11.00 น.แล้ว
ยังมีทุกวันพฤหัสบดี เวลา 22.30 น.อีกด้วย

//www.thaipbs.or.th/Life/

รายการนี้ ผมยกนิ้วให้ครับ

***********************
วิธีดูรายการย้อนหลัง พื้นที่ชีวิต ในกลุ่มเรื่อง ความคิด

Step1 >>> ให้เข้าหน้า internet ไปที่
//www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=307478&content_category_id=1076

Step2 >>> เลือก.ตอน.ที่จะดูว่าตอนใด

Step3 >>> กดปุ่ม Play Video

ถ้าต้องการชมภาพใหญ่ขึ้น ให้กดปุ่มขยายภาพ




Create Date : 08 มิถุนายน 2554
Last Update : 29 มกราคม 2555 14:46:51 น. 16 comments
Counter : 1386 Pageviews.

 
ขอขอบพระคุณมากครับ


โดย: poohpp IP: 125.27.176.204 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:11:11:13 น.  

 
ขอบคุณที่แนะนำรายการคะ
ดูแล้วเห็นความชัดเจนเรื่องสติ ความรู้สึกตัวผ่อนคลายและสบายๆจริงๆคะ สาธุ


โดย: Nim IP: 110.168.15.226 วันที่: 9 มิถุนายน 2554 เวลา:23:26:07 น.  

 
ผมได้ดูตอนหมู่บ้านพลัมแล้ว ตอนนี้ก็ดีมากครับ


โดย: นมสิการ วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:18:44:58 น.  

 
เจ๋งจริงๆครับรายการนี้ดูแล้วมีประโยชน์ครับ


โดย: คนไม่ธรรมดา IP: 49.48.185.100 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:20:10:21 น.  

 
ตอนท้ายมีพระเตะบอลด้วยอะ เจ๋งจริงๆครับ


โดย: คนไม่ธรรมดา IP: 49.48.185.100 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:20:36:25 น.  

 
ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ. ที่แนะนำสิ่งดีๆให้


โดย: จิตติ IP: 124.122.193.113 วันที่: 11 มิถุนายน 2554 เวลา:22:44:03 น.  

 
การดำเนินเรื่องของสารคดี เริ่มต้นเกี่ยวกับชีวิต แต่ละตอนๆ จนงวดเข้ามาถึงตอนนึง มีบทเขียนถึง การจะรู้ความคิดต้อง ออกมาดูอยู่ห่างๆ ผมคิดว่าผู้กำกับสารคดีคงรู้อะไรมากๆเลยทีเดียว

ขออนุโมทนากับผู้กำกับสารคดีครับ

อาจารย์นมสิการครับ กิจกรรมครั้งที่ 3 จัดแบบหมู่บ้านพลับ คงจะดีไม่น้อยเลย อันนี้ผมคิดเล่นๆนะครับ -@^_^@


โดย: Littleyogi IP: 223.206.126.127 วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:19:32:14 น.  

 
คนที่เขาเขียนบท ผมคิดว่า เขารู้เรื่องภาวนาดีทีเดียวละครับ

ผมเห็นทางหมู่บ้านพลัม เขาจะมาประเทศไทยทุกปี ปีละครั้ง
และจัดกิจกรรมที่จังหวัดนครนายก ที่สวนสีดา 3วัน (ถ้าผมจำผิดไปก็ขออภัยด้วยครับ ) ถ้าปีนี้มีจัดอีก ถ้าผมได้ข่าว ผมจะแจ้งให้ทราบครับ

มีตอนหนึ่งในภายยนต์ ที่ไปกวาดหญ้า คนใหม่คนไทย พอได้รับหน้าที่ก็รีบทำทันที คนเก่า เขาบอกว่า ที่นี้ไม่ต้องรีบ ให้ทำช้า ๆ ถ้ารีบเป็น idiot
นี่แสดงว่า เขาใช้การทำงานเป็นการสร้างสติไปด้วย จึงให้ทำช้า ๆ แบบนี้


โดย: นมสิการ วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:20:02:27 น.  

 
อาจารย์การปฏิบัติของเขาให้รู้สึกตัวตลอด แต่สงสัยนิดหนึ่งว่าให้นะลึกถึงลมหายใจตลอด หรือหลงลืมไปเมื่อได้ยินเสียงระฆังก็จะกลับมาอยู่ที่ลมหายใจ สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ ของหลวงพ่อเทียนหรือไม่คะ


โดย: เสือสุมาตรา IP: 203.113.0.206 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:8:04:13 น.  

 
หลวงพ่อเทียน ท่านสอนให้มีสติ ก็คือ รู้สึกตัวและระลึกรู้ถึงสภาวะธรรม แต่ท่านไม่ได้ระบุว่า สภาวะธรรมที่ระลึกนั้นคืออะไรบ้าง

แต่ในแง่การปฏิบัติจริงนั้น ถ้านักภาวนาเกิดหลงลืมแล้วรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นไปไม่ได้ครับ ถ้าเขาจะระลึกรู้ถึงลมหายใจได้เองทุกครั้งโดยอัตโนมัติหลังจากมีสติกลับคืนมา แต่ถ้าเป็นว่า เมื่อมีสติหลังจากหลงลืมแล้ว แล้วเจตนาจะมารับรู้ลมหายใจ อย่างนี้ก็ได้ครับ แต่ก็เป็นความตั้งใจที่จะรู้ลมหายใจ จะเป็นสมถะภาวนาครับ

สำหรับผู้ที่ภาวนาจนชำนาญมาก ๆในการรู้ลมหายใจ ถ้าเขากลับมามีสติ เขาจะเก่งในการรับรู้ลมหายใจ ดังนั้น คนพวกนี้ก็จะรับรู้ลมหายใจได้เองแบบอัตโนมัติได้ครับ

แต่ในความเป็นจริงของการภาวนา เมื่อมีสติหลังจากหลงลืม นักภาวนาจะรู้สึกตัวแล้วรับรู้สภาวะธรรมอะไรก็ได้ ซึ่งนักภาวนาไม่จำเป็นต้องไปเจาะจงเลือกว่า ต้องรู้อย่างนั้นหรือรู้อย่างนี้


โดย: นมสิการ วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:10:48:16 น.  

 
ช่วงนี้จิตตื่นไม่หลับอีกแล้วค่ะ. แต่ก็ไม่กังวล. เพียงเกิดคำถามขึ้นมาค่ะว่าจิต
ทิตื่นตัวในภาวะปกติจะเหมือนจิตที่ตื่นตัวในเวลาทีเรานอนหลับมั้ยคะ
อาจารย์ช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ. ขอบคุณค่ะ


โดย: จิตติ IP: 124.121.28.249 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:21:36:17 น.  

 


ผมก็เป็นผู้หนึ่งที่ติดตามการอธิบายของคุณนมสิการ
ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการอธิบายจากประสบการณ์ของตนเอง
จึงไม่มีศัพท์บาลีมากนัก เพราะถ้าอธิบายจากประสบการณ์มันก็สามารถอธิบายด้วยภาษาที่เราเข้าใจ
กันได้ โดยไม่ต้องใช้ศัพท์แสงที่จะต้องมาตีความกันอีก

.....ผมเองก็พอมีประสบการณ์จากการปฏิบัติเหมือน
กันเลยอยากนำมาเสนอเป็นการแลกเปลี่ยน
ว่าการปฏิบัตินั้นถ้าเรามองจากผลที่เกิดขึ้นมันจะ
เป็นอาการของกายกับจิต ที่หยุดการทำงานร่วมกัน
ถ้าจิตหยุดการปรุงแต่งกับกาย มันคือการปล่อยวาง
ที่คุณนมสิการใช้คำว่าจิตแยกตัวออกมา การหยุดไม่ให้จิตทำงานร่วมกับกาย คือจิตไม่แปรปรวนแต่คงที่อยู่
ซึ่งอาจจะตรงกับคำว่าตั้งมั่น ดังนั้นถ้าให้เข้าใจง่ายขึ้น
คือการทำความรู้สึกให้คงที่อยู่เสมอนั่นเอง ไม่ให้มัน
ส่ายไปมา แต่ก็ไม่ถึงกับไปบังคับมัน แต่ใช้ความพยายามไม่ให้มันส่ายหรือแปรปรวนเท่านั้นเมื่อมันนิ่ง
คือตั้งมั่น มันจะเกิดอากการว่างเบา เราก็รักษามันไว้

แต่ก็ต้องฝึกนะครับ คงทำไม่ได้ในทันทีเพราะเราคิดว่า
เรามีเรื่องที่ต้องคิดนั่นเอง มันจึงไม่หยุดแต่ถ้ารักษามัน
ไว้ไม่ให้ส่ายมันจะเริ่มนิ่งและหยุดแปรปรวน
...................................................................
คือประสบการณ์ของผมนะครับ อาจจะไม่ถูกตามความหมายของคุณนมสิการก็ได้ ก็เพียงเสนอตามความเห็นของผมเท่านั้น


โดย: ผู้ติดตามอ่าน IP: 125.25.40.223 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:22:55:36 น.  

 
จิตตื่นตัวนั้น ถ้ามากเกินไปจะนอนไม่หลับครับ เพราะเกิดพลังงานค้างขึ้นมาแล้ว การปรับปรุงตัว ก็คงฝึกด้วยความรู้สึกตัวที่ผ่อนคลายให้มาก ๆ ครับ เพียงรู้สึกตัวอย่างธรรมดานี่เอง อย่าได้อยากรู้อะไร ฝึกสบาย ๆ แบบผ่อนคลาย ก็จะดีขึ้น

แต่ถ้าเป็นหนัก คือค้างหนัก อาจรู้สึกได้ถึงอาการผิดปรกติทางร่างกายด้วย เช่นรูุ้สึกถ่วง ๆ แถวหน้าผาก ถ้าอย่างนั้น ผมแนะนำให้หยุดฝึกสัก 2 - 3 วัน อาการนี้ก็จะหายไปครับ แล้วเมื่อมาฝึกใหม่ ก็ฝึกสบายๆ เหมือนฝึกเล่น ๆ รู้สึกตัวธรรมดาๆ นี่เอง


โดย: นมสิการ วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:0:25:04 น.  

 
เรื่องการใช้ภาษา เป็นสิ่งหนี่งที่ลำบากเหมือนกันในการสื่อสาร
ขอบคุณที่เล่าให้ฟังครับ ก็เป็นอย่างที่เขียนไว้ ซึงก็คือถึงแม้ใช้คำไม่เหมือนกัน แต่การลงมือฝึก มันก็อย่างเดียวกันนั่นเองครับ


โดย: นมสิการ วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:0:28:15 น.  

 
//www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=307478&content_category_id=1076

21 June 2011


โดย: นมสิการ วันที่: 26 มิถุนายน 2554 เวลา:17:47:03 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:14:53:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.