การทำอาณาปานสติพร้อมไปกับชีวิตประจำวันทำอย่างไร
ผมเห็นในกระทู้ห้องศาสนา มีผู้เข้ามาเขียนถามว่า งงมากวิธีการทำอาณาปานสติไปพร้อมกับชิีวิตประจำวัน ทำได้อย่างไร และมีการยกตัวอย่าง การหั่นผัก การขับรถไป พร้อมกับทำอาณาปานสติไปด้วย
มาดูความเห็นของผมในเรื่องนี้ครับ
ถ้าท่านตั้งเป้าหมายว่า ในชีิวิตประำจำวัน ทำกิจกรรมไปด้วยทำอาณาปานสติไปด้วย นี่คือท่านเป้าหมายผิดครับ ผิดทั้งทางโลกและทางธรรม
1..ในทางโลก เมื่อท่านทำกิจกรรมสิ่งใดในทางโลก ท่านควรสนใจกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ ไม่ใช่ไปทำอย่างโน้นอย่างนี้มาเสริมในขณะทำกิจกรรมนั้น ๆ ถ้าท่านกำลังหั่นผัก ท่านควรสนใจการหั่นผัก ไม่ควรไปสนใจอย่างอื่น ถ้าท่านขับรถ ยิ่งอันตรายมากสำหรับท่านและผู้ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกับท่าน ท่านควรสนใจการขับรถไม่ใช่ไปทำอย่างอื่นประกอบอีก
2..ในทางธรรม ที่ผมว่าผิด เพราะว่า ถ้าเป็นการกระทำก็ผิดแล้ว ในการปฏิบัติธรรมแบบสติปัฏฐานนั้น ท่านต้องสมบูรณ์ด้วยสติสัมปชัญญะที่เป็นธรรมชาติในตัวท่าน แล้วลมหายใจจะปรากฏให้ระลึกรู้ด้วยสติเอง ไม่ใช่ไปทำอะไรเพื่อที่จะรู้ลมหายใจ
ท่านมองข้อแตกต่างออกไหมครับว่า ผิดคืออย่างไร ถูกคือ อย่างไร
*********
ทีนี้ จะมีบางท่านที่อาจมีข้อโต้แย้งผมว่า ในพระไตรปิฏกมีกล่าวไว้ว่า เมื่ออาณาปานสติสมบูรณ์แล้วสมาธิจะสมบูรณ์ ซึ่งเรื่องนี้พระไตรปิฏกกล่าวไว้ถูกต้องชัดเจนครับ
ในการปฏิบัติธรรมแบบสติปัฏฐาน 4 นั้น ข้อสำคัญในการปฏิบัติคือ การมีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ (อาตาปี สัมปชาโน สติมา ) นี่คือสิ่งทีเป็นธรรมชาติที่นักภาวนาสมควรมีความเพียรในเรื่องนี้ เมื่อนักภาวนาฝึกฝนโดยการมีความเพียรอย่างไม่ย่อท้อในการมีสัมปชัญญะมีสติ ผลแห่งการมีความเพียรแบบนี้จะเข้าไปในนิสัยของท่านเองทีละนิด ทำให้ท่านเปลี่ยนไปเป็นคนมีสัมปชัญญะและสติเป็นนิสัย เมื่อท่านเปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นคนที่มีสัมปชัญญะและสติเป็นนิสัยอย่างต่อเนื่อง ผลก็คือ กำลังแห่งสัมมาสติและสัมมาสมาธิจะต่อเนื่องและตั้งมั่น
เมื่อสติและสัมมาสมาธิต่อเนื่องอย่างตั้งมั่นขึ้นมาเมื่อไรนั่นแหละครับ เวลาท่านทำกิจกรรมในชีิวิตประำจำวันอยู่ ท่านจะสามารถระลึกรู้ถึงลมหายใจพร้อมกันไปในคราวเดียวกันทีเดียว เ็ป็นการรู้ลมหายใจแบบไม่ใช่ทำอะไรเพื่อให้รู้ลมหายใจ แต่เป็นการรู้ลมหายใจได้เองเพราะการมีสัมมาสติที่มีกำลังและสัมมาสมาธิที่ตั้งมั่น เมื่อท่านเป็นอย่างนี้ได้ งานทางโลกท่านก็ไม่เสีย งานทางธรรมท่านก็ได้ดีอีกด้วย
แต่ถ้าท่านยังไม่สามารถก้าวเข้าสู่สภาวะแห่งการความตั้งมั่นแห่งสัมมาสมาธิ ท่านสมควรแยกแยะงานทางโลกและทางธรรมออกจากกันก่อน ค่อยเป็นค่อยไป ฝึกฝนไปเรื่อย ๆ งานจะได้ไม่เสีย และยิ่งถ้าเป็นการขับรถยนต์ ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:11:19 น. |
Counter : 1266 Pageviews. |
|
|
|
ท่านที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม กรุณาลงชื่อได้ที่หน้ากิจกรรม