รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
30 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

การทำอาณาปานสติพร้อมไปกับชีวิตประจำวันทำอย่างไร

ผมเห็นในกระทู้ห้องศาสนา มีผู้เข้ามาเขียนถามว่า งงมากวิธีการทำอาณาปานสติไปพร้อมกับชิีวิตประจำวัน ทำได้อย่างไร และมีการยกตัวอย่าง การหั่นผัก การขับรถไป พร้อมกับทำอาณาปานสติไปด้วย

มาดูความเห็นของผมในเรื่องนี้ครับ

ถ้าท่านตั้งเป้าหมายว่า ในชีิวิตประำจำวัน ทำกิจกรรมไปด้วยทำอาณาปานสติไปด้วย
นี่คือท่านเป้าหมายผิดครับ ผิดทั้งทางโลกและทางธรรม

1..ในทางโลก เมื่อท่านทำกิจกรรมสิ่งใดในทางโลก ท่านควรสนใจกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ ไม่ใช่ไปทำอย่างโน้นอย่างนี้มาเสริมในขณะทำกิจกรรมนั้น ๆ ถ้าท่านกำลังหั่นผัก ท่านควรสนใจการหั่นผัก ไม่ควรไปสนใจอย่างอื่น ถ้าท่านขับรถ ยิ่งอันตรายมากสำหรับท่านและผู้ที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกับท่าน ท่านควรสนใจการขับรถไม่ใช่ไปทำอย่างอื่นประกอบอีก

2..ในทางธรรม ที่ผมว่าผิด เพราะว่า ถ้าเป็นการกระทำก็ผิดแล้ว ในการปฏิบัติธรรมแบบสติปัฏฐานนั้น ท่านต้องสมบูรณ์ด้วยสติสัมปชัญญะที่เป็นธรรมชาติในตัวท่าน แล้วลมหายใจจะปรากฏให้ระลึกรู้ด้วยสติเอง ไม่ใช่ไปทำอะไรเพื่อที่จะรู้ลมหายใจ

ท่านมองข้อแตกต่างออกไหมครับว่า ผิดคืออย่างไร ถูกคือ อย่างไร

*********

ทีนี้ จะมีบางท่านที่อาจมีข้อโต้แย้งผมว่า ในพระไตรปิฏกมีกล่าวไว้ว่า เมื่ออาณาปานสติสมบูรณ์แล้วสมาธิจะสมบูรณ์ ซึ่งเรื่องนี้พระไตรปิฏกกล่าวไว้ถูกต้องชัดเจนครับ

ในการปฏิบัติธรรมแบบสติปัฏฐาน 4 นั้น ข้อสำคัญในการปฏิบัติคือ การมีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ (อาตาปี สัมปชาโน สติมา ) นี่คือสิ่งทีเป็นธรรมชาติที่นักภาวนาสมควรมีความเพียรในเรื่องนี้ เมื่อนักภาวนาฝึกฝนโดยการมีความเพียรอย่างไม่ย่อท้อในการมีสัมปชัญญะมีสติ ผลแห่งการมีความเพียรแบบนี้จะเข้าไปในนิสัยของท่านเองทีละนิด ทำให้ท่านเปลี่ยนไปเป็นคนมีสัมปชัญญะและสติเป็นนิสัย เมื่อท่านเปลี่ยนไปจากเดิม กลายเป็นคนที่มีสัมปชัญญะและสติเป็นนิสัยอย่างต่อเนื่อง ผลก็คือ กำลังแห่งสัมมาสติและสัมมาสมาธิจะต่อเนื่องและตั้งมั่น

เมื่อสติและสัมมาสมาธิต่อเนื่องอย่างตั้งมั่นขึ้นมาเมื่อไรนั่นแหละครับ เวลาท่านทำกิจกรรมในชีิวิตประำจำวันอยู่ ท่านจะสามารถระลึกรู้ถึงลมหายใจพร้อมกันไปในคราวเดียวกันทีเดียว
เ็ป็นการรู้ลมหายใจแบบไม่ใช่ทำอะไรเพื่อให้รู้ลมหายใจ แต่เป็นการรู้ลมหายใจได้เองเพราะการมีสัมมาสติที่มีกำลังและสัมมาสมาธิที่ตั้งมั่น เมื่อท่านเป็นอย่างนี้ได้ งานทางโลกท่านก็ไม่เสีย งานทางธรรมท่านก็ได้ดีอีกด้วย

แต่ถ้าท่านยังไม่สามารถก้าวเข้าสู่สภาวะแห่งการความตั้งมั่นแห่งสัมมาสมาธิ ท่านสมควรแยกแยะงานทางโลกและทางธรรมออกจากกันก่อน ค่อยเป็นค่อยไป ฝึกฝนไปเรื่อย ๆ งานจะได้ไม่เสีย และยิ่งถ้าเป็นการขับรถยนต์ ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่น




 

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553
2 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:11:19 น.
Counter : 1266 Pageviews.

 

กิจกรรมการบรรยายและการปฏิบัติธรรมครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นที่บ้านหนังสือชินเขต 1 ในวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2553 ระหว่างเวลา 13.00 -16.00 น.

ท่านที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม กรุณาลงชื่อได้ที่หน้ากิจกรรม

 

โดย: นมสิการ 30 พฤศจิกายน 2553 9:29:08 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 15:27:30 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.