รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
3 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

ความเครียด ตอนที่ 3 - โรคย้ำคิดย้ำทำ

ผู้ที่ศรัทธาในศาสนาแล้วเกิดป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ มักเป็นประเภทย้ำคิดในเรื่องที่ตนเองเชื่อว่า ได้ทำสิ่งเลวร้ายลงไปตามคำสอนของศาสนา เช่น การนึกคิดในใจที่ด่าทอลบหลู่ครูบาอาจารย์ ลบหลู่พระพุทธเจ้า ถือศีลแล้วเกิดผิดศีลที่ตนได้ตั้งใจไว้ การได้ลงมือทำกรรม เช่น ฆ่าสัตว์ลงไปแล้ว การพาเพื่อนไปทำแท้ง การเป็นกิ๊กกับคนที่มีเจ้าของแล้ว และอื่น ๆ อีกมาก

สิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป ได้ก่อให้เกิดการคิดวน ๆ ซ้ำ ๆ ในสิ่งนั้น อาการที่คิดและจิตลูกโป่งเข้าไปติดกับความคิดนี้ ภาษาของนักปฏิบัติเรียกว่า การเข้าไปในความคิด ผลที่ตามมาก็คือ คนผู้นั้นจะเกิดความรู้สึกว่า ความคิดนั้นเป็นของเขา เขาเองเป็นคนคิดความคิดนั้น

ผลแห่งการเข้าไปในความคิดนั้น เกิดการกลัวตกนรกเป็นอันมาก บางคนเครียดหนักจนเป็นบ้าไปก็มี

ความเครียดประเภทนี้ มักเป็นกับสตรีเป็นส่วนมาก แต่บุรุษก็มีเช่นกัน แต่เป็นน้อยกว่าสตรี

เมื่อเครียดขึ้นมา หาทางออกไม่ได้ ก็ลงเอยด้วยกันไปเข้าทรงดูหมอ ให้เขาหลอกเอาสตางค์ไปอีก ทำให้เสียทรัพย์โดยไม่จำเป็น บางรายถึงกับเสียตัวให้กับคนทรงคนดูหมอเจ้าเล่ห์

คนที่เป็นโรคประเภทนี้ เกิดจากการไม่ได้ศึกษาศาสนาให้ลึกลงไปถึงแก่นแห่งศาสนา และมักไม่ได้ลงมือปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง จึงทำให้ไม่เข้าใจกลใกของจิตใจของตนเอง ทำให้เกิดทุกข์และเครียดขนาดหนัก คล้าย ๆ ก้บว่า ได้ตกนรกตั้งแต่ตัวเองยังไม่ตายเลยทีเดียว

พระพุทธองค์ทรงสอนว่า สิ่งที่ล่วงมาแล้ว สิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไม่ควรไปคำนึงถึง ให้ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ให้ถึงพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ

พระพุทธองค์ยังทรงสอนอีกว่า สรรพสิ่งเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล

คำสอนของเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ชาวพุทธต่างก็ได้ยินได้ฟังกันมาเสมอ แต่ก็เป็นปัญญาในระดับนึกคิด หรือ ภาษาพระเรียกกันว่า สุตมยปัญญา จิตมยปัญญา

แต่ปัญญาในระดับนึกคิดนี้ ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อในเรื่องที่ตนเองได้ลงมือกระทำอะไรลงไปแล้ว และเกิดกลัวจนเครียดขึ้นมา ที่เป็นดังนี้ เพราะปัญญาที่จะเปลี่ยนแปลงนี้ได้และน้อมรับคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างสนิทใจ ก็คือ ภาวนามยปัญญา ไม่ใช่เพียง ปัญญาระดับนึกคิด !

เมื่อนักภาวนาได้ลงมือเจริญสัมมาสติสัมมาสมาธิจนจิตมีกำลังพอในระดับหนึ่ง เมื่อเกิดความคิดขึ้นในจิตใจ นักภาวนาจะเห็นความคิดที่เกิดนั้นด้วยจิตลูกโป่ง เมื่อจิตลูกโป่งเห็นความคิด ความคิดนั้นก็จะดับลงไปเองเป็นไตรลักษณ์ นี่คือ จิตลูกโป่งเริ่มเห็นขบวนการของความคิดแล้วว่า ความคิดนั้นไม่ใช่เขา ไม่ใช่ของตัวเขา

เมื่อ จิตลูกโป่ง ได้เห็นขบวนการทำงาน ของ ขันธ์ 5 / ของ กิเลส / ของ มโน ได้อย่างโจ่งแจ้ง จิตลูกโป่ง จะปฏิวัติตนเองให้น้อมรับกฏแห่งไตรลักษณ์ แล้วความกลัว ความเครียด ที่เกิดจากโรคย้ำคิดย้ำทำ ก็จะหายไปได้เอง

นี่คือ ผลแห่งการภาวนาที่ถูกทางตามที่พระพุทธเจ้าทรงบอกทางไว้แก่พุทธบริษัท

น่ากลัวมากครับ โรคย้ำคิดย้ำทำนี้ อย่าเป็นได้จะดีที่สุดครับ

*******
ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ขอให้อ่านข่าว update ในหัวข้อกิจกรรมด้วยครับ ซึ่งจะทำให้ท่านทราบความเคลื่อนไหวบางอย่าง ขอบคุณครับ




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2553
11 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:13:19 น.
Counter : 1513 Pageviews.

 

เรียนอาจารย์ครับ
ทำไมช่อง All Blogs ไม่มีช่องเลื่อนขึ้นลงครับ

 

โดย: คนใหม่ IP: 223.207.0.44 3 พฤศจิกายน 2553 21:20:40 น.  

 

มันยังไม่เต็มครับ จึงยังไม่มี
พอเต็มแล้วก็จะมีเองครับ

 

โดย: นมสิการ 3 พฤศจิกายน 2553 23:04:50 น.  

 

เรียนคุณ นมสิการ
อยากทราบข่าว Up date ความเคลื่อนไหวในหัวข้อกิจกรรมวันที่ 31 ตุลาคม แต่ไม่สามารถเข้าไปในหัวข้อนั้นได้เนื่องจากใน All Bloge ไม่มีหัวข้อกิจกรรม และไม่มีช่องเลื่อนกรุณาตรวจสอบ All bloge ให้ด้วยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ

 

โดย: บุษบา IP: 202.12.97.100 6 พฤศจิกายน 2553 14:14:44 น.  

 

กิจกรรม อยู่ที่นี่ครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=10-2010&date=17&group=8&gblog=142

 

โดย: นมสิการ 6 พฤศจิกายน 2553 14:37:44 น.  

 

เรียนถาม คุณ นมสิการ ว่าถ้าเกิดเราเกิดอาการอย่างที่คุณนมสิการเขียนอย่างนี้ขึั้นมานั้น แล้วเราควรจะทำอย่างไร ส่วนตัวเองปัจจุบันก้อยังย้ำคิดย้ำทำถึงเรือ่งเดิมๆ ที่คิดไม่ดีตลอด ถึงจะบอกตัวเองว่ามันผ่านไปแล้ว ก้อยังไม่หยุดคิด ไม่ทราบว่ามีวิธีใดที่พอจะช่วยได้บ้างคะ

 

โดย: salapao IP: 68.5.77.37 14 เมษายน 2554 2:38:57 น.  

 

เรื่องนี้ ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ

..ตอนนี้ให้เชื่อพระพุทธเจ้าไว้ก่อนว่า ขันธ์ 5 คือสิ่งที่ประกอบเข้าเป็นตัวตนที่เราเข้าใจว่าเป็นเรานั้น ที่แท้ มันไม่ใช่ตัวตนของเราเลย ดังนั้นความคิดที่ย้ำคิดย้ำทำ ก็เป็นสิ่งหนึ่งของขันธ์ 5 ที่มันไม่ใช่เรา

ใหม่ ๆ ความเชื่อนี้ที่ว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่เราจะขัดแย้งกันเองภายในจิตใจว่าจริงหรือที่ไม่ใช่เรา แต่ก็ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าดีกว่าครับ ขอให้ทำใจให้สบาย เมื่อมีอาการย้ำคิดย้ำทำขึ้นมา ก็ขอให้หยุดคิด โดยการหยุดคิดนั้น จะไปทำอะไรก็ได้ เช่นการทำงานบ้าน การออกกำลังกาย การไปซื้อของ เมื่อเรามีกิจกรรมทำ เราจะยุ่งกับกิจกรรม ทำให้เราไม่คิดเรื่องนั้นหรือถ้าคิดก็จะคิดน้อยลงกว่าการนั่งว่าง ๆ ซึ่งถ้าว่างเมื่อใร จิตใจจะคิดทันที

ในการแก้ปัญหาถาวร ผมแนะนำให้ฝึกการเจริญสติปัฏฐาน เพราะถ้าเจริญสติปัฏฐานได้ผลแล้ว เราจะยอมรับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเลยว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา ซึ่งการฝึกฝนนี้จะใช้เวลานาน แต่เป็นการแก้ใขปัญหาอย่างถาวรต่อไป

 

โดย: นมสิการ 14 เมษายน 2554 5:34:18 น.  

 


ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ แต่ส่วนตัวเองไม่เข้าใจที่คุณนมสิการแนะนำค่ะ คำว่าขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวเรา แปลว่าอะไร คือ มีความรู้ในการปฎิบัติน้อยมาก เพราะว่าเวลาจะนั่งสมาธิก้อจะเกิดอาการกลัว เพราะมีคนมาเล่าโน่นนี่ให้ฟังว่า นั่งไปแล้วเห็นคนมาผูกคอตายตรงหน้าบ้าง มีกลิ่นลอยมาบ้าง อะไรบ้าง แล้วประกอบกับเป็นคนกลัวผีมาก เลยกลัวที่จะสัมผัสตรงนั้นเลยไม่กล้าลองที่จะปฏิบัติอะไรเลย ส่วนมากก็จะแค่สวดมนต์ค่ะ รบกวนขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะคะ ขอบคุณอย่างมากๆเลยค่ะ ตอนนี้ทุกข์มาก ๆ ย้ำคิดย้ำทำ จนเป็นโรคหลายโรคมากๆ กังวลไปเรือ่ย จนชีวิิตไม่มีความสุขเลยค่ะ

 

โดย: salapao IP: 68.5.77.37 14 เมษายน 2554 7:56:04 น.  

 

1..คำว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่เรา หมายความว่าอย่างไร

คนทั่ว ๆ ไป เวลาเกิดเจ็บป่วย ก็จะเข้าใจว่า ตัวเราเองนั้นเจ็บป่วย ตัวเราเองไม่สบาย เวลาคนกลุ้มใจ ก็จะเข้าใจว่า ตัวเองกลุ้มใจ ความกลุ้มใจนั้นเป็นของตัวเอง ซึ่งพูดง่าย ๆ ก็คือ ทุกอย่างนั้นเป็นของตัวเรา เป็นของเราทั้งสิ้น นี่คือความเข้าใจของคนทั่ว ๆ ไป

แต่พระพุทธเจ้าสอนว่า ที่คนทั่ว ๆ ไปเข้าใจนั้นมันคลาดเคลื่อน ที่จริงนั้น ทุกสิ่งเช่นอาการเจ็บป่วย อาการกลุ้มใจ มันเป็นอาการไม่ใช่ของเราเลย ซึ่งพระองค์ทรงแจกแจงว่า อาการทุกอย่างนั้นคนนั้น เรียกเป็นกลุ่ม ๆ ว่าขันธ์ 5 ซึ่งมีทั้งหมด 5 กลุ่ม ซึ่งเจ้า 5 กลุ่มนี้แหละ ที่มันเจ็บป่วย ที่มันเป็นทุกข์ ที่มันไม่เที่ยงแท้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ตัวตนของเราทั้งสิ้น

การที่จะเห็นตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ขันธ์ 5 ไม่ใช่ตัวตนของเราได้จริง ๆ ก็จะมาจากการปฏิบัติธรรมที่เรียกว่า การปฏิบัติสติปัฏฐาน 4

2..การปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 จะทำได้อย่างไร
ก่อนอื่น ผมจะบอกว่า ถ้าคุณกลัว อย่าได้ไปนั่งหลับตาทำสมาธิทำจิตนิ่ง เพราะนั้นจะทำให้เกิดภาพหลอนที่เรียกว่า นิมิต แต่การปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 มีแนวทางอื่น ที่ไม่ต้องไปหลับตานั่งสมาธิแบบนั้น
ผมมีเขียนไว้แล้วขอให้ศึกษาวิธีการดู
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=20-01-2010&group=5&gblog=69

ในบทความสำหรับมือใหม่ข้างต้น ในนั้นมี link ที่อ้างอิงไปหลายที่ ขอให้ค่อย ๆ ศึกษาให้เข้าใจ แล้วลงมือปฏิบัติตามไป นอกจากนี้ ผมยังมีเสียงวิธีการปฏิบัติไว้ สามารถ download มาฟังได้ โดยไปที่

Download เสียงบรรยายได้ที่

//www.4shared.com/audio/A2nobdvQ/31-10-53_full.html

วิธีการ download
1. เข้า Link ข้างต้น
2. กดปุ่มสีฟ้า "ดาวน์โหลดเดียวนี้ ไม่พบ virus ใด ๆ" แล้วรอเวลานาฬิกาที่หมุนไปที่หน้าจอต่อไป
3. กดปุ่ม ."ดาวน์โหลดไฟล์เดียวนี้". แล้ว Save ลงในที่ต้องการ

***ผมแนะนำว่า อย่าไปนั่้งสมาธิหลับตา*****

 

โดย: นมสิการ 14 เมษายน 2554 8:17:11 น.  

 

ขอบพระคุณมากค่ะ หวังว่าคงจะสามารถทำได้ โดยไม่คิด negative ย้ำๆ คิดชั่วร้ายใดๆ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ

 

โดย: salapao IP: 68.5.77.37 16 เมษายน 2554 5:02:13 น.  

 

คุณซาลาเปาหายหรือยังคะ เข้าใจว่าทรมานมาก ยิ่งคนที่เป็นคนดีมากจนยึดติด เวลาเป็นจะยิ่งทรมาน เข้าใจมากๆ แทบบ้าค่ะ บางครั้งอาจคิดจนไม่อยากมีชีวิตต่อไป แต่จะไม่กล้าฆ่าตัวตายเพราะบาปมาก คนทีทำอย่างนั้น ไม่ใช่ทางแก้ปัญหา จิตจะอ่อนแอ ติดตามไปในภพหน้า ขอบคุณนมสิการทีี่ให้คำแนะนำดีๆ

 

โดย: Timsum IP: 122.60.163.50 12 กันยายน 2554 8:34:49 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 15:31:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.