การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
เมื่อท่านเข้าใจหลักการปฏิบัติที่ถูกต้องแล้ว และได้ลงมือฝึกฝนการปฏิบัติในรูปแบบไปสักระยะหนึ่ง ขอให้ท่านสังเกตตนเองในขณะที่ท่านกำลังปฏิบัติในรูปแบบอยู่นั้นว่า 1.ลักษณะการรับรู้สภาวะต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา ทางกาย ทางตา ทางหู 2.ลักษณะอาการของสภาพของจิตใจในขณะที่ปฏิบัติอยู่
เมื่อท่านได้สังเกตแล้ว ทีนี้ในชีวิตประจำวันของท่านเอง เช่น การอาบน้ำ แปรงฟัน รับประทานอาหาร ซักผ้า ถูบ้าน ทำอาหาร ใส่เสื้อผ้า เดินไปทำธุระ นั่งรถเมล์ไปธุระ และอื่น ๆ จิปาถะ ขอให้ท่านฝึกฝนพร้อมกันไปในขณะที่ทำกิจวัตรประจำวันของท่าน
ใหม่ ๆ ท่านจะเผลอบ่อย เผลอมาก ซึ่งเป็นของธรรมดาสำหรับคนฝึกใหม่ แต่ถ้าท่านไม่ฝึกในกิจวัตรประจำวันเลย สัมมาสมาธิของท่านจะก้าวหน้าได้ช้ามาก ดังนั้น การเผลอบ่อย เผลอมาก จึงดีกว่าการไม่ฝึกฝนเลย
ทีนี้ ท่านลองเปรียบเทียบดูครับว่า ระหว่างฝึกฝนในรูปแบบและในกิจวัตรประจำวันนั้น มันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร นอกจากอาการเผลอทีผมได้เขียนไว้ ผมจะไม่บอกท่าน แต่ท่านควรหาด้วยตนเอง เพราะถ้าท่านหามันพบถึงความต่างได้ ท่านก็จะเป็นคนช่างสังเกตเอง การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ใช่สักแต่ว่า ฝึก ๆ ไปอย่างกะคนไม่รู้เรื่อง ราวอะไร แต่ท่านต้องเป็นคนช่างสังเกตอีกด้วย จึงจะไปได้ดี
แต่ว่าอย่าไปตั้งเป้าสังเกตจนเกินไป เพราะจะกลายเป็นความเครียด ซึ่งเป็นผลเสียอีกเช่นกัน
นี่คือความพอดีแห่งการปฏิบัติ สังเกตแต่ไม่เครียด ครับ
แต่ทว่า..ก่อนจะมาถึงตรงนี้ ท่านลองทบทวนหลักการปฏิบัติก่อนครับว่า วิธีการปฏิบัตินั้นคืออย่างไร ถ้าท่านไม่แน่ใจ ก็ให้ไปดู DVD หรือ ฟังเสียงอีกครั้ง วิธีปฏิบัติอยู่ต้น ๆ เลยครับ
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:12:35 น. |
Counter : 1229 Pageviews. |
|
|
|
ระหว่างการดำรงตนในชีวิตประจำวันมันมีคำพูด/ความคิดหนึ่ง ที่เกิดจาการการฟังธรรมของครูอาจารย์ทั้งสายปริยัติ+ปฏิบัติมานานว่า "รู้สึกตัวบ้างไหม ?" แล้วผมก็สังเกตความรู้สึกตัวได้ไม่เิิกิน 15 วินาที แล้วก็ถูกความดิดลากเข้าไปเรื่องอื่นสลับกัน โดยเฉพาะเวลาอาบน้ำ, กินข้าว ฯ
มีข้อแนะนำประการใดและขอขอบพระคุณมากครับ