รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
15 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

เทคนิคสำรวจการเกร็งร่างกาย + เทคนิคการชำเลืองจิต -มุมมือใหม่

ผมเสนอ 2 เทคนิคสำหรับมือใหม่

***********

1..เทคนิค สำรวจการเกร็งร่างกาย ก่อนการลงมือฝึกฝน

เทคนิคนี้ ผมเรียนรู้จากหลวงพ่อวิโมกข์ ( //www.vimokkhadhamma.com )
หลวงพ่อท่่านสอนว่า ก่อนการลงมือปฏิบัติ ให้สำรวจร่างกายก่อนว่าส่วนใดมีการเกร็งบ้าง
การสำรวจนี้ก็เหมือนการมองเข้าไปค้นหาตรง ๆ ถ้าส่วนใดมีการเกร็งก็ผ่อนคลายลง
จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม เมื่อเกิดการเกร็งมักจะเกิดตรงบริเวณหัวไหล่ คอ กระดูกสันหลัง ท่านั่งที่ไม่เข้าที่ ยังไม่สบายพอ นี่ก็ทำให้เกร็ง

เมืี่อพบการเกร็ง ก็ให้ปรับผ่อนให้หายเกร็งก่อน แล้วจึงลงมือฝึกต่อไป

หมายเหตุ หลวงพ่อวิโมกข์ ท่านสอนเทคนิคนี้ก่อนการทำอาณาปานสติ

******************

2..เทคนิค การชำเลืองจิต ก่อนการลงมือฝึกฝน

เทคนิคนี้ ผมเรียนรู้จากหลวงพ่อโพธินันทะ ที่อาศรมศานติ ปทุมธานี คลอง 13
หลวงพ่อสอนว่า ให้ชำเลืองดูจิตใจเหมือนวัวแม่ลูกอ่อนเล็มหญ้า
ผมลองปฏิบัติดู ผมพบว่า เมื่อเราชำเลืองมองเข้าไปในจิตก่อนการลงมือฝึกฝน
ก็คือการมองเข้าไปตรง ๆ แบบจงใจมอง แต่การตั้งใจมองแบบนี้ จะมองไม่นาน มองเพื่อสำรวจจิตใจ ก่อนว่าอยู่ในสภาวะที่ยังดีอยู่ไหม ยังรู้สึกตัวดีอยู่ใหม
พอเราชำเลืองมองเพียง 1 หรือ 2 วินาทีเท่านั้น เราก็จะรู้สภาพจิตใจของเราได้ทันที
แล้วทีนี้ เราก็ไม่ต้องชำเลืองมองอีก เราก็ปฏิบัติต่อไปได้เลย

ผมพบว่า เมื่อเราชำเลืองมองตรง ๆ เข้าไปในจิตเพียง 1 หรือ 2 วินาที เพียงสั้น ๆแบบนี้
ผลของมันจะทำให้เราที่เป็นมือใหม่สามารถรับรู้สภาวะจิตใจต่อไปได้เองโดยที่ไม่ต้องตั้งใจมอง

ทำให้เราก็สามารถฝึกต่อไปด้วยสภาวะแห่งความรู้สึกตัว สบาย ๆ ได้ตามปรกติต่อไป

ถ้าท่านฝึกไปนาน ๆ แล้วสามารถรับรู้สภาพของจิตใจได้โดยไม่ต้องตั้งใจมองแล้ว ก็ไม่ต้องใช้ชำเลืองมองแบบนี้ก่อนการลงมือฝึกก็ได้ครับ

******************

นำมาเล่าสู่กันฟัง ท่านอาจนำไปลองประยุกต์ใช้ดู
สำหรับมือใหม่ เป็นเทคนิคที่ดีครับ





 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2553
6 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:12:08 น.
Counter : 2389 Pageviews.

 

ขอบคุณครับ

 

โดย: เป้ย ธรรมชาติ 15 พฤศจิกายน 2553 17:44:56 น.  

 

ขอบคุณหลายๆครับ

ตามอ่านอยู่ตลอดแม้จะไม่ได้โพส

 

โดย: ขอบฟ้าบูรพา 15 พฤศจิกายน 2553 23:46:20 น.  

 

เป็นเทคนิคที่น่าสนใจมาก ๆ ในบางวันก่อนนอนมีอาการปวดกล้ามเนื้อบ้าง จะนำไปปรับใช้ครับ

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาที่นำรายละเอียดที่ไม่ควรมองข้ามมาเล่าให้เป็นข้อควรปฏิบัติครับ

 

โดย: ลุง 'บุรีราช' IP: 125.27.172.73 16 พฤศจิกายน 2553 8:58:27 น.  

 

อาจารย์คะดิชั้นสังเกตตัวเองเหมือนกันคะ ถ้าช่วงไหนเพ่งเนี่ยจะปวดเมื่อย แต่พอทิ้งกาย(เลิกเพ่ง) ความคิดมันจะวิ่งๆ ขึ้นมาเลยคะ ก้อเลยตามความคิดดู แต่ตอนนี้มันไ่ม่ค่อยวิ่งเหมือนแต่ก่อนแล้วจะโผล่เป็นบางที ให้จับได้ ตอนที่เรียนอาจารย์ว่าเห็นภาพแว๊บๆนี่เลยไปเพ่งภาพอิกแล้วคะ เกร็งอิกแล้วเลยต้องทิ้งค่ะ แต่เทคนิคที่อาจารย์เอามาบอกนี่ดิชั้นจะนำไปปฏิบัติคะ สาธุ

 

โดย: แม่ลูกสอง IP: 180.183.242.135 16 มีนาคม 2554 8:33:08 น.  

 

การเห็นภาพนั้นและดูว่าเพ่งหรือไม่ ให้ดูว่า ต้องการจะดูหรือเห็นได้เอง

ถ้าเห็นได้เอง อย่างนี้ไม่ใช่เพ่ง
ถ้าต้องการจะไปหา ต้องการจะไปดู อย่างนี้คือเพ่ง

การเห็นได้เองนั้น จะคล้ายๆ กับเราลืมตาขึ้นเฉย ๆ แต่ไม่ต้องการมองอะไร แต่ก็เห็นภาพได้เอง

ผมขอเน้นเรืองการปฏิบัติว่า ขอเพียงรู้แล้วไม่ต้องยึดติด คือ เพียงรู้แล้วเฉย ๆ ไม่ใช่ใจในสิ่งที่รู้ อย่างนี้ใช้ได้

ถ้ารู้แล้วใส่ใจในสิ่งที่ไปรู้เข้า อย่างนี้คือ การยึดคิด

ผมยกตัวอย่าง สมมุติว่า เราอ่านหนังสือพิมพ์ ก็อ่านไป รู้เรื่องแล้วก็พอ ไม่ต้องไปคิดต่อ ไม่ต้องไปติดตามเรื่องต่อ ไม่ต้องมีความเห็นใด ๆ ในสิ่งที่ได้อ่านไป ให้ปฏิบัติคล้าย ๆอย่างนี้

การเห็นภาพวน ๆ เห็นก็เห็นไป ไม่ต้องไปใส่ใจ ไมต้องไปคิดว่า นี่คือะไร มันจะเกิดก็ช่าง มันจะหายก็ช่าง ขอให้ปฏิบัติอย่างนี้ครับ

 

โดย: นมสิการ 16 มีนาคม 2554 9:00:12 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 15:29:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.