มโน ตอนที่ 1 - รูป นาม คือ อะไร
บทความเรื่อง มโน นี้่เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งในระดับปรมัตถ์ธรรม ที่ผมจะพยายามนำมาแสดง เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจ และ เมื่อเข้าใจเรื่องของ มโน นี้ได้ ท่านก็จะเข้าใจการปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น
********************************
ในการภาวนาเพื่อการพ้นทุกข์นั้น มโน คือ ชื่อหนึ่งของจิต ที่นักภาวนา.ต้องเห็น ต้องรู้การทำงานภายใน มโน นั้น. มิฉะนั้น จะไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้
ขบวนการของทุกข์ที่เป็นระดับปรมัตถ์ธรรมนั้น ล้วนเกิดใน มโนทวาร ทั้งสิ้น ถ้านักภาวนาไม่สามารถเห็นขบวนการของการเกิดทุกข์ และ ขบวนการของการดับทุกข์ ที่เกิดขึ้นใน มโนทวาร ได้ นักภาวนาจะไม่เข้าใจในอริยสัจจ์ 4 ได้อย่างลึกซี้งเลย
นักภาวนาจะไม่รู้อย่างแท้จริงว่า ทุกข์ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนว่า อุปาทานขันธ์ 5 เป็นทุกข์ หมายความว่าอย่างไร
นักภาวนาจะไม่เข้าใจว่า ทำไมพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนให้ละ.ตัณหา. ไม่ใช่ละ.กิเลส.
นักภาวนาจะไม่รู้จักกับ นิโรธ คือ การสิ้นสุดแห่งทุกข์ว่ามีลักษณะอย่างไร ทำไมทุกข์ถึงสิ้นไปได้
นักภาวนาจะไม่เข้าใจกับคำว่า สัมมาทิฐิ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ อย่างลึกซึ้ง
เมื่อนักภาวนาลงมือฝึกฝนการเจริญสติปัฏฐานในหมวดกายานุปัสสนาสติปัฏฐานอย่างถูกต้อง สิ่งที่นักภาวนาจะพบเห็นได้ดังที่เขียนไว้ในเรื่อง สภาวะที่จะพบขณะที่ฝึกฝนการปฏิบัติธรรม - มุมมือใหม่ สภาวะที่พบในขณะนั้นคือสภาวะที่เกิดขึ้น .มโนทวาร. และ สภาวะเหล่านี้ ทางศัพท์ภาษาพระ จะเรียกว่า .รูป.
เมื่อนักภาวนาทำการเดินจงกรม หรือ เคลื่อนไหวไปมาเช่นการเคลื่อนมือ หรือ เกิดการกระทบสัมผัสต่าง ๆ ของร่างกาย นักภาวนาจะพบว่า นักภาวนาจะพบกับอาการของการเกิด.วูบวาบ. ขึ้นตลอดเวลา การเกิด.วูบวาบ.นี้แหละ คือ การที่.รูป.เป็นไตรลักษณ์ ไม่คงทน แปรเปลี่ยนไปมา นักภาวนาพบกับไตรลักษณ์ของรูปแล้ว เพียงแต่ว่า เมื่อไม่มีใครบอก ก็จะไม่ทราบในเรื่องนี้
ในขณะฝึกฝน.ที่ถูกต้อง. (ถูกอย่างไร คงทราบกันดีอยู่แล้ว) นักภาวนายังคงสภาพจิตใจเช่นเดีมที่เป็นปรกติอยู่ ที่ถึงพร้อมด้วยความรู้สึกตัวได้ดีอยู่ นักภาวนาจะพบกับไตรลักษณ์ของ.รูป.ทีมัน.วูบวาบ.ไปมา
สิ่งที่ไปรับรู้อาการของ .รูป. ที่วูบวาบไปมานี้ คือ .จิตลูกโป่ง. หรือ ศัพย์ภาษาพระ เรียกว่า .นาม.
เมื่อ.จิตลูกโป่ง.ยังคงรับรู้.รุป.วูบวาบ.ไปมาได้ดีอยู่ นี่คือเครื่องบ่งชี้ว่า ในขณะนั้น .จิตลูกโป่ง.ยังตั้งมั่นอยู่ในฐานได้ดีอยู่ ไม่ถูกอำนาจของ.ตัณหา.ดึงไปเกาะยึดกับ.รูป.ที่กำลังวูบวาบนั้น นี่คือการฝึกฝนที่ตรง ๆ ให้.จิตลูกโป่ง.ตั้งมั่น เป็นการฝึกที่ไม่โยกโย้เฉไฉอ้่อมไปอ้อมมาเลย ความตั้งมั่นแห่ง.จิตลูกโป่ง.ที่ถูกฝึกเพราะการรู้.รุป.ที่วูบวาบนี้เมื่อเกิดขึ้นได้เมื่อไร เมื่อนั้น นักภาวนาก็จะพร้อมที่จะลุยต่อกรกับกิเลสที่เกิดขึ้นใน มโนทวาร ได้แล้ว
ถ้าท่านยังว่ายน้ำไม่เป็น และต้องการหัดว่ายน้ำ มีคนบอกท่านว่า การว่ายน้ำ ร่างกายต้องแข็งแรงถึงจะว่ายน้ำได้ ท่านฟังแล้วก็เข้าใจในเรื่องความแข็งแรงนี้ ท่านลงทุนไปหัดวิ่ง หัดเล่นกล้าม จนกล้ามเนื้อขึ้นเป็นมัด ๆ สามารถใช้มือหักงอเหล็กที่หนา ๆ ได้อย่างสบาย เมื่อท่านแข็งแรงมากแล้วตามที่คนเขาบอกเล่ามา เมื่อท่านลงน้ำครั้งแรก ความแข็งแรงที่ท่านได้มาจากการหัดวิ่ง เล่นกล้าม ไม่ช่วยให้ท่านว่ายน้ำได้เลย ท่านอาจจมน้ำตาย ได้ในครั้งแรก เฉกเช่นกับคนธรรมดาคนหนึ่งที่ว่ายน้ำไม่เป็น แล้วต้องการจะเล่นน้ำ
ในการภาวนานั้น จิตมีกำลังพร้อมจะสู้กับกิเลสก็เช่นกัน การฝึกฝนที่ตรงทางเท่านั้น จึงจะทำให้เกิดจิตมีกำลังที่ถูกที่ควรในการต่อสู้กับกิเลส ถ้าจิตมีกำลังแบบผิดที่ผิดทาง มันไม่ได้ช่วยอะไรท่านเลย
************* เพิ่มเติมความรู้ด้านพระอภิธรรม
จากรูป ถ้าว่ากันไปตามตำราพระอภิธรม
ส่วนที่เป็นรูป คือ ปรมัตถ์ของกาย ที่เป็น ดิน ไฟ ลม ส่วนที่เป็นนาม คือ เวทนา และ จิตปรุงแต่ง ซึ่งตำราเรียกชื่อว่า เจตสิก ส่วนที่เป็นนาม คือ จิตลูกโป่ง หรือ จิตรู้ ที่ตำราเรียกว่า จิต
เมื่อ จิตลูกโป่ง เข้าไปรู้ ปรมัตถ์ของกาย เช่น รู้กระทบ รู้ไหว อย่างนี้จะเรียกว่า นามรู้รูป เมื่อ จิตลูกโป่ง เข้าไปรู้เวทนา หรือ รู้จิตปรุงแต่ง อย่างนี้เรียกว่า นามรู้นาม
ท่านจะเห็นว่า ในสภาพปรมัตถ์ จะมีแต่ รูป และ นาม ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน ไม่มีเราเขา ที่คนทั่ว ๆ ไปเห็นว่า มีคน มีเรา มีเขา นั้นเป็นการรู้ระดับทางโลก ที่เรียกกันว่า สมมุติบัญญัติ
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:12:48 น. |
Counter : 2637 Pageviews. |
|
|
|