รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
ผมจะขู่ให้ท่านกลัวแล้วนะ ถ้ากลัวก็อย่าเข้ามาอ่านเลย

บทความนี้ ผมจะเขียนขู่ให้ท่านกลัวแล้วนะ ถ้าท่านกลัวก็อย่าเข้ามาอ่าน
ผมย้ำอีกครั้ง ถ้าท่านกลัวอย่าได้อ่านต่อไป ผมเตือนท่านแล้ว
ถ้าท่านตัดสินใจอ่านต่อไป มันเป็นสิ่งทีท่านตัดสินใจเอง
************************************
**********************************
*******************************
*****************************

ถ้ามีคนบอกท่านว่า อย่าคิดถึง.ช้าง.นะ คนทั่ว ๆ ไป 100 ทั้ง 100 จะมีภาพช้างปรากฏในจิตใจทันที ทั้ง ๆ ที่เขาบอกว่า อย่าไปคิดถึง

แต่คนที่ได้ยินกลับไปคิดถึงกันทั้งนั้น...

ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

นี่เป็นกลไกการทำงานของจิตใจ ที่คนทั่ว ๆ ไปเป็นแบบนี้ ไม่อาจหลีักเลี่ยงได้

แต่ถ้าท่านได้หมั่นฝึกฝนการเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ และได้ผลเป็นอย่างดี
กลไกนี้ ไม่อาจเกิดขึ้นกับคน ๆ นั้นได้เลย
เพราะผู้ที่มีสัมมาสมาธิชั้นยอดจะสามารถควบคุมความคิดนี้ได้ เขาจะคิดก็ได้ ไม่คิดก็ได้
เมื่อเขาได้ยินว่า อย่าไปคิดถึง.ช้าง. เขาสามารถไม่คิดถึงได้ จะคิดถึงก็ได้

กลไกนี้ร้ายนัก...

ในยามที่กลไกนี้ทำงานแบบไม่ตั้งใจ คนทั่ว ๆ ไปก็จะเกิดสุขเกิดทุกข์ไปตามเรื่องราวที่คิดถึงมันเสมอ และโดยทั่ว ๆ ไปเมื่อได้เริ่มต้นคิด จะหยุดคิดก็ยากมาก ๆ ที่จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดคิด

เมื่อคนใกล้จะถึงเวลาสิ้นใจ

**ถ้าเขาไปคิดถึงเรื่อง.ดีหรือไม่ดี.ที่เขาเคยทำไว้ ทางที่จะไปย่อมไปในทางที่เขากำลังคิดอยู่


คนส่วนมากกลัวในความตาย ..
แน่นอนว่า ถ้าทางเดินไม่ดี ย่อมน่ากลัว
แต่ถ้าทางเดินดีแล้ว ย่อมไม่น่ากลัวอะไรเลย

การหมั่นเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ เมื่อได้ผล ผู้เจริญย่อมได้รับผลแห่งการพากเพียรนี้เอง

สิ่งที่ผมเขียนนี้ จะเป็นการขู่ ถ้าท่านไม่มีความเพียรในองค์มรรค
แต่จะเป็นกำลังใจ ถ้าท่านมีความเพียรอยู่

ท่านมีสิทธิเลือกทางเอง เพียงแต่ว่า ท่านเลือกแบบใดกันละ.....

******************
เรื่องท้ายบท

การพัฒนาการของการคิด หยุดคิด เป็นดังนี้

1..คนธรรมดาทั่ว ๆ ไป ไม่เห็นความคิด ไม่รู้จักความคิดว่าไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา
เมื่อความคิดเกิด ก็จะเข้าไปยึดติดกับความคิดทันที และมักจะหยุดคิดไม่ได้ เพราะได้ยึดติดกับความคิดนั้น ๆ ไปแล้ว

การยึดติดในความคิด ทำให้คนเกิดทุกข์ขึ้นมา

2..เมื่อคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป เข้ามาฝึกฝนในองค์มรรคตามคำสอนแห่งพุทธศาสนา.อย่างถูกต้อง. กำลังแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ได้เริ่มเกิดและเติบโตขึ้นในจิตใจทีละนิด ทีละนิด

จากที่เป็นคนที่ไม่รู้จักความคิด ไม่เห็นความคิด ดังข้อ 1 เขาก็เริ่มจะเห็นความคิดได้บ้าง ไม่ได้บ้างแล้ว อาการยึดติดในความคิดก็จะเริ่มลดลง โดยการสลัดหลุดออกได้จากความคิดได้เร็วขึ้น จากที่คิดไม่หยุด ก็อาจเป็นว่า คิดอยู่เป็น 1 ชั่วโมงแล้วหยุึดได้ ยิ่งฝึกไป การยึดติดในความคิดก็ยิ่งสั้นลง สั้นลง จนเป็นว่า ไม่ยึดติดในความคิดอีกเลย และ เขาจะสามารถควบคุมความคิดได้ว่า จะให้คิดก็ได้ ไม่คิดก็ได้ ดังเช่นในเรื่องที่ว่า ถ้ามีคนพูดถึง.ช้าง. เขาจะคิดก็ได้ ไม่คิดก็ได้

3..ในข้อ 2 นี่คือผลของการปฏิบัติตามมรรค8.อย่างถูกต้อง. คือ ความสามารถในการควบคุมจิตใจของนักภาวนาเอง






Create Date : 21 ธันวาคม 2553
Last Update : 29 มกราคม 2555 15:10:27 น. 7 comments
Counter : 1027 Pageviews.

 
สาธุครับ

ในอัฎฐสาลินี อรรถกถาธัมมสังคณีปกรณ์ จิตตุปปาทกัณฑ์ อธิบายจิตตนิทเทส มีข้อความว่า "ธรรมชาติที่ชื่อว่า จิต เพราะจิตเป็นธรรมชาติวิจิตร"


โดย: ลุง 'บุรีราช' IP: 125.27.181.204 วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:9:33:21 น.  

 
รับทราบครับ


โดย: pippojuve วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:12:35:10 น.  

 
พระบรมศาสดาได้ประทานปัจฉิมโอวาทความว่า "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอเตือนท่านทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา ท่านทั่งหลายจงบำเพ็ญไตรสิกขาคือ ศีล สมาธิปัญญา ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

สาธุ..สาธุ..สาธุ


โดย: cakecode วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:14:31:21 น.  

 
หลายสิ่งหลายอย่ามันก็เป็นเช่นนั้นเอง


โดย: อัสติสะ วันที่: 21 ธันวาคม 2553 เวลา:20:08:50 น.  

 
ขอบพระคุณเจ้าค่ะ

ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
ธรรมชาติ คือ ความจริง
ความจริงต้องพิสูจน์ได้

เมื่อเราได้สะสมบุญถึงพร้อม... เราจะเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้น...

เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ...บนเส้นทางกลับบ้านที่แท้จริง...


โดย: บนเส้นทางกลับบ้าน IP: 118.175.86.113 วันที่: 28 ธันวาคม 2553 เวลา:16:33:26 น.  

 
ก่อนเดินทางสายนี้ดิีชั้นเคยคิดว่าไอ้ที่มันวิ่งๆๆ อยู่ในหัวนี่มันคือตัวเรา แต่ตอนนี้ได้รู้แล้วนั่นไม่ใช่ แสดงว่าเมื่อก่อนไม่รู้ ไม่รู้นี่คืออวิชชาใช่มั้ยคะอาจารย์ เคยอ่านคำสอนของพุทธองค์ว่าความไม่รู้นี่และ น่ากลัวยิ่งกว่าอะไร แม้แต่ในกฏแห่งกรรม ความไม่รู้ยังมีโทษสถานหนักที่สุด หนักกว่าเจตนาที่จะกระกระทำอิก เพราะเมื่อเจตนาแสดงว่ารู้ แสดงว่ายังมีสติ ทำผิด ก็รู้่ว่าทำผิด แต่ถ้าไม่รู้นี่คือทำผิดก้อไม่รู้ก้อจะทำอยู่ร่ำไป


โดย: แม่ลูกสอง IP: 180.183.242.135 วันที่: 15 มีนาคม 2554 เวลา:16:11:16 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:15:26:11 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.