พรุ่งนี้เป็นวันหยุดติดกัน 4 วัน เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าของฝรั่งเขา เด็กๆดีใจที่จะได้หยุดยาว ตอนเช้าฉันหยิบเอกสารไปถามครูที่ห้องประชุมผู้ปกครองเพื่อประกอบการตัดสินใจสมัครย้ายโรงเรียนให้นิก รวมถึงการอยากรู้ที่มาที่ไปของคะแนน 99.8% ที่มันโผล่มาให้งงเล่นคำตอบที่ได้ในช่วงเช้า เป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ใหญ่สองคนเห็นควรที่จะสมัครแต่ก็มีมุมมองที่ต่างกันไป คนหนึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะไม่มีโอกาสอย่างนี้ลอยเข้ามาบ่อยนัก ส่วนอีกคนให้ระมัดระวังว่ามันจะหนักเกินไปสำหรับลูก และลูกจะปรับตัวไม่ได้ แต่กระนั้นก็ตาม เราก็สามารถดึงลูกกลับมาที่โรงเรียนเดิมได้หากนิกไปไม่ไหวจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังมีคำถามที่คาใจว่า คะแนน99.5-99.8% นั้นมันมาจากไหน วัดจากอะไร ความสงสัยฉันมีอยู่เต็มเปี่ยม ซึ่งก็ไม่มีใครให้คำตอบได้ ฉันกลัวว่า เขาพิมพ์ชื่อผิดและส่งผิดบ้านประมาณนี้แหละ กลัวหน้าแตก จะถามใครก็กล้าๆกลัวๆ ไม่ถามก็ อดรู้ เลยหน้าด้านส่งๆไปเผื่อจะคำตอบที่น่ายินดี ปกติฉันก็ไม่ใช่คนขี้อายอยู่แล้วล่ะเมื่อวานฉันถามครูประจำชั้นของนิกเรื่องนี้ แต่ไม่ได้เอาจดหมายไปให้ครูดู ครูบอกครูไม่มีความรู้เรื่องนี้ ให้ไปถามครูเฟลแม่นครูเกรด 3 ของนิกดีกว่า ฉันก็ยังไม่กล้าไปถามอีก อีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้ไม่กล้าก็คือ ไม่มีแม่ของเด็กเก่งกว่านิกคนไหนได้จดหมายอย่างที่ฉันได้รับ เด็กคนไหนเรียนเก่งกว่านิก ฉันก็ถามแม่เด็กว่า ได้รับจดหมายบอกคะแนนหรือปล่าว เขาก็บอกว่าไม่ได้ เลยทำให้ฉันงงว่า เอ๊ะ..มันเรียนเก่งกว่าลูกเราอีก แล้วทำไมมันไม่ได้ล่ะ แล้วทำไมต้องเป็นลูกเราได้คนเดียววะ แล้วถ้าไม่เอาไปให้เขาดูเป็นหลักฐานในการถาม แล้วฉันจะได้คำตอบที่อยากรู้มั๊ย ถ้าเอาไปก็กลัวคนจะหาว่าอวด บ่าย..ไปรับนิก ฉันคิดว่า ไหนๆมันก็จะหยุดสี่วันแล้ววะ เดินไปหาครูเฟลแม่นซะหน่อยก็แล้วกัน เจอก็ถาม ไม่เจอก็แล้วไป อ้าว..ดันเจอครูอยู่ที่ห้องซะอีก แต่ฉันไม่ได้เอาจดหมายไปด้วยหรอกนะ เก็บไว้ที่บ้านไว้บูชามั๊ง! ฉันบอกครูเฟลแม่นว่าอ่า..หนูมีคำถามค่ะ คือหนูได้จดหมายจากเขตเขาบอกว่า อนิกได้สกอร์อยู่ที่ 99.5-99.8% จดหมายบอกว่า ให้หนูสมัครโรงเรียน highly gifted ให้นิกได้ค่ะนี่คือ..สีหน้าของครูเฟลแม่นตามที่ได้เห็นนะจ้ะ..ครูทำหน้าแบบ..เธอพูดอะไรเนี่ย?หน้าอย่างอนิกเนี่ยนะ ได้คะแนน99.8 คะแนนอะไรเหรอ? มาจากไหนเหรอ?ฉันก็เลยอธิบายให้ครูฟังว่า หนูก็ไม่เคยเห็นอีจดหมายนี่มาก่อนค่ะ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่ามันบอกให้หนูสมัครโรงเรียนแบบนี้ให้ลูกได้ หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคะแนนนี้มันมาจากไหน นิกสอบไปเมื่อไหร่..ครูคงจะถึงบางอ้อพอสมควรล่ะ ครูบอกว่า เราเคยสมัครโรงเรียนแม๊กเน็ทให้ลูกมั๊ย ฉันก็บอกว่า ไม่เคยค่ะ ครูบอก..รู้มั๊ย ฉันพอจะเข้าใจละ คะแนนนั้นมาจากคะแนนวัดผลไอคิวของอนิกตอนปอสองไง แล้วครูก็อุทานออกมาว่า ว้าว! ไม่น่าเชื่อนะ(อ้าวพูดงี้สวยสิวะ!..ฉันก็แค่คิดอยู่ในใจ) ครูบอก..ยูรู้มั๊ยเท่าที่ฉันรู้ที่ผ่านมา มีเด็กคนเดียวในโรงเรียนนี้ที่ย้ายออกไปแล้ว ทำคะแนนได้สูงสุดก็อยู่ที่ 99%เท่านั้น 99.8% อืม..ไม่น่าเชื่อเลย วันจันทร์เอาจดหมายมาให้ฉันดูนะ ตอบได้ฉันก็จะตอบ ตอบไม่ได้ฉันจะถามเพื่อนให้คิดไปคิดมา อนิกมันทำยังไงของมันวะเนี่ย ทำคะแนนได้ตั้งเท่านี้ ถามลูกว่า นิกอีตอนนิกสอบ มันสอบอะไรบ้างเนี่ย ตอนนั้นนิกยังมีปัญหาโดนแม่ดุอยู่เลยนะ นิกจำได้มั๊ยที่แม่บอกนิกว่า แม่จะไม่บังคับให้นิกต้องทำให้ได้ ได้หรือไม่แม่ไม่โกรธหรอก แต่แม่ขอให้นิกทำข้อสอบให้ดีที่สุดเท่าที่นิกจะทำได้ นิกเล่าว่า..ข้อสอบมันก็ออกมาให้เรียงรูปหกคะเมนตีลังกา มันให้ภาพมาแล้วให้นิกหาภาพต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น สนุกแม่..สนุก..ไอ้สนุกของนิกเนี่ย บางคนไม่ผ่านก็มี และฉันไม่เห็นสนุกเพราะคะแนนมันเกินจริงกับหน้าแบบแอ๊บแบ๊วของเจ้านิกเหลือเกิน เดาเอาว่า เด็กที่เรียนเก่งกว่านิก คงทำคะแนนสอบไอคิวไม่ถึง 99% เขาเลยไม่ได้รับจดหมายอย่างที่ฉันได้รับ ดูเถอะ สถิติที่ผ่านมาของโรงเรียนที่ครูเฟลแม่นรู้ ก็ยังมีเพียงหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ทำได้เพียงแค่ 99%แต่ฉันก็ไม่ได้เครียดกับเรื่องนี้แล้วล่ะ ได้รู้ที่มาที่ไป ได้รู้ว่ามีโอกาสก็พอใจ สิ่งสำคัญคือ นิกได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ให้แม่เห็น ฉันจะสมัครให้ลูกหรือไม่ วันจันทร์ก็คงได้คำตอบจากครูเฟลแม่นว่า เห็นควรอย่างไรที่นิกจะไปเรียน ฉันอยากฟังความเห็นของครูเฟลแม่นมากทีเดียว
การศึกษาบ้านเรา บ่อนทำลายเด็กอัจฉริยะไปแทบทั้งระบบ ไม่ว่าจะวิชาเรียน ครูอาจารย์ แม้กระทั่งพ่อแม่ของเด็กเองก็ตาม เพราะคนในระบบจะคิดว่าเด็ก Gifted คือเด็กที่มีผลการเรียนเป็นเลิศ ซึ่งตามจริงแล้วมันบอกไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเด็กนั้นมีพรสวรรค์จริง (แล้วจริงๆ เด็กพวกนี้ไม่ได้มีพรสวรรค์นะผมว่าคำสาปนรกมากกว่า เพราะเด็กพวกนี้จะมีพฤติกรรมที่ผมจัดอยู่ในระดับที่แย่มาก ไม่ได้แย่ที่ก้าวร้าวหรืออะไรนะครับ แย่เพราะว่าแนวคิดของตัวเด็กเองเลย คือจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ แล้วดูถูกคนอื่นอีกต่างหาก) ปัญหาก็มาตกเอาตอนที่เรียนระดับมหาวิทยาลัยนี่แหละครับ พื้นไม่ดีพร้อม เรียนในแบบที่ไม่ชอบ เขียนข้อสอบไม่เป็น เดี้ยงกันจนถึงเรียนป.โทโน่นแหละถึงเริ่มโงหัวมาได้เพราะความจำเป็นบังคับที่ต้องเขียนตัวจบนี่แหละ
ยังไงก็ยินดีกะนิกด้วยครับ ฝากบอกด้วยนะครับว่าผมดีใจด้วย แล้วก็ขอให้สู้ถึงที่สุดด้วยครับ
แต่ชอบระบบการศึกษาของเขาจริงๆ แฮะ ส่วนบ้านเรา ดีที่สุดคือต้องทำแบบอัจฉริยะของโลกหลายๆ คน คือสอนลูกเองไม่ส่งไปเรียนตามโรงเรียนให้มันบั่นทอนปัญญานั่นแหละ
โดย: Darth Trowa IP: 58.9.165.230 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:4:54:28 น.