โครงการตะพาบที่ 113 "ตั้งแต่วันนั้น"
จากความเดิมของโครงการตะพาบที่ 108 เรื่อง ข่าวลือ กลุ่มเพื่อนๆของโต้ง ได้เข้าไปพิสูจน์คำเล่าลือว่าตาม้วนเป็นผีโพง จริงหรือไม่นั้น ก็ปรากฏว่า เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้นตอนแรกไม่มีใครกล้าพิสูจน์
เพราะต่างก็ขลาดกลัว จนกลุ่มเด็กๆเพื่อนของโต้งได้พากันแอบเข้าไปถึงบ้านตาม้วนจึงได้รู้ความจริง ที่ชาวบ้านลือกันว่าดวงไฟที่ลอยวั๊บๆแวมๆ ออกจากบ้านตาม้วนในตอนกลางคืนทุกวันนั้นแท้ที่จริง ตาม้วนใช้กระบอกไฟฉายกระบอกใหญ่รัดหัวแล้วเดินก้มๆเงยๆหากบเขียดไปตามท้องทุ่ง เพื่อนำมาเป็นอาหารและนำไปขายเพื่อเลี้ยงตัวเอง
เมื่อรู้ความจริงเด็กๆต่างพากันโห่ร้องและวิ่งไล่จับเอาเงินพนัน 200 บาทจากอึ่งเสียงดังระงมไปเต็มทุ่ง
ตาม้วนจึงเดินออกมาดูอย่างสงสัยว่าเด็กๆที่ไหนมาวิ่งไล่ส่งเสียงดังใกล้บ้านแก เพราะแต่ก่อนๆมาไม่มีใครจะกล้ามาบ้านแกเลย มีแต่คนรังเกียจ จนตาม้วนต้องอยู่คนเดียว มีเมียก็หนีไปซะอีกคน ตั้งแต่นั้นมาตาม้วนจึงเหมือนถูกตัดออกจากโลกภายนอก
ตาม้วนไม่กล้าออกจากบ้านไปหาใครในหมู่บ้านนี้เลย ได้แต่เก็บตัวอยู่คนเดียวอย่างขมขื่นในบ้านหลังน้อยนั้นบางวันพอหาได้กบเขียดหรือบางวันโชคดีได้ปลาไหลตามรูในท้องทุ่งนาก็เอาไปขายต่างหมู่บ้านที่ไม่มีใครรู้จักตาม้วนแล้วก็ซื้อสัมภาระของกินของใช้มาเก็บตุนไว้อยู่อย่างนี้มาแสนนาน
แต่วันนี้....มันเกิดอะไรขึ้น ตาม้วนฉงนสนเท่ห์เป็นกำลัง จึงออกเดินไปดูหน้าบ้านก็เห็นกลุ่มเด็กๆวัยรุ่นในหมู่บ้านกำลังวิ่งไล่กันอยู่ เจ้าตัวอ้วนถูกเพื่อนๆวิ่งไล่เป็นวงในหมู่เพื่อนก็สงสัยจึงยืนดูอย่างแคลงใจว่าทำไมเด็กๆพวกนี้จึงไม่กลัวแก เมื่อก่อนแค่เดินใกล้เด็กๆก็พากันวิ่งหนีแล้ว ยิ่งเด็กเล็กก็จะร้องไห้จ้าเลยทีเดียว
ขณะกำลังยืนดูเพลินๆเจ้าตัวอ้วนก็วิ่งมาแอบข้างหลังตาม้วนร้องให้ช่วยยิ่งทำให้ตาม้วนงงไปใหญ่
"ลุงๆๆช่วยฉันที ไอ้พวกนี้มันจะเอาเงินพนันจากฉัน"
ตาม้วนรีบกางแขนกันเด็กๆที่วิ่งไล่เจ้าอ้วนไว้ พร้อมร้องถาม
"เอ็งจะเอาเงินพนันอะไรกัน เจ้าพวกนี้เป็นเด็กเป็นเล็กหัดเล่นการพนันแล้วรึ"
คิ้มรีบบอก "ลุงม้วน ไอ้อึ่งมันหาว่าลุงม้วนเป็นผีโพง พวกฉันไม่เชื่อจึงพนันกะมันและตอนนี้พวกฉันก็รู้ก็เห็นกันแล้วว่าลุงม้วนไม่ได้เป็นผัโพงสักหน่อย มันพนันฉันว่าถ้าลุงเป็นมันจะยอมจ่าย 200 ฉันจึงวิ่งไล่เอาตังค์มันนี่แหละ ลุงจับตัวมันมาให้ฉันทีลุง"
ตาม้วนได้ยินดังนั้น ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวพระมาโปรดแล้ว เด็กพวกนี้มาช่วยลุงแล้ว ตาม้วนดีใจแทบร้องไห้ต่อไปนี้คงไม่มีใครมาว่าเราเป็นผีโพงอีกแล้ว ต่อไปนี้ไม่มีใครรังเกียจเราอีกแล้ว อารามดีใจ ตาม้วนรีบยกมือขึ้นบอกเด็กๆทันที
"พวกเอ็งพูดกันจริงๆรึ ว่าลุงไม่ใช่ผีโพง เอ็งเชื่อจริงๆรึ แล้วเอ็งเชื่อได้ไง ในเมื่อชาวบ้านเค้าเล่าลือว่าลุงเป็น ทั้งๆที่ลุงไม่ได้เป็นผีนั้นเลย "
เด็กๆจึงเล่าเรื่องราวให้ตาม้วนฟังจนหมดสิ้น ตาม้วนได้ฟังดังนั้น ก็ดีใจเรียกเด็กๆเข้ามาหาแกใกล้ๆยกมือขึ้นลูบหัวลูบไหล่แต่ละคนน้ำตาแทบไหลหลั่ง
"พวกเอ็งเอ๋ย....รู้มั๊ยว่าลุงแทบตายทั้งเป็นเพราะคำเล่าลือ ลุงไม่รู้เรื่องอะไรเลย ว่าทำไมชาวบ้านเค้าถึงว่าลุง ในที่สุดพวกเอ็งก็มาคลายปริศนานี้ให้ลุง ทำให้ลุงเป็นไทแก่ตัวแล้ว ลุงขอบใจพวกเอ็งมากนะ เรื่องเงินนั้นพวกเอ็งไมต้องห่วงเลยนะ ไม่ต้องไปเอาที่ไอ้อึ่งมันแล้ว มาเอาที่ลุงนี้แหละลุงจะพาพวกเอ็งไปเลี้ยงให้อิ่มหนำใจไปเลย ขอแต่เพียงพวกเอ็งช่วยไปบอกพวกชาวบ้านให้เข้าใจลุงซะทีเถิดนะ ลุงอยากไปวัด ไปฟังธรรม ไปทำบุญใส่บาตรบ้าง ไหนๆเอ็งก็ช่วยลุงแล้วช่วยต่ออีกนิดเถิดนะ"
เด็กๆ คิ้ม แซม อึ่ง ด้วง เคี้ยง และ โต้ง ต่างมองหน้ากันและพากันสงสารลุงอย่างจับใจ
คิ้มเอ่ยขึ้นว่า
"ลุงครับพวกเราจะไปบอกให้ผู้ใหญ่บ้านได้รับรู้และบอกพ่อแม่พี่น้องของเราให้เค้ารู้ ต่อไปนี้ลุงจะไม่มีใครรังเกียจอีกแล้วครับ"
"ใช่ลุง ฉันด้วย ฉันด้วย " เสียงเด็กร้องสนับสนุนกันเซ็งแซ่ตาม้วนแทบจะร้องไห้ ขมขื่นมานานเหลือทนตาม้วนเอ๋ยต่อนี้ไปคงได้มีความสุขกะเค้าซะทีไม่ต้องหลบๆซ่อนๆไปขายของไกลๆหมู่บ้านอีกแล้ว ตาม้วนคิดรำพึงอยู่ในใจอย่างตื้นตัน เด็กๆพวกนี้เป็นเด็กดีก็มี ไม่ใช่เกเรไปเสียทั้งหมด
"เอาละตอนนี้ไปกินอะไรในบ้านลุงก่อนเดี๋ยวลุงจะจ่ายตังค์ให้แทนอึ่งเองนะ ไม่ต้องไปเอาของอึ่งแล้ว ลุงขอบใจทุกคนมาก "
ว่าแล้วตาม้วนก็เดินนำเด็กๆเข้าไปในบ้าน
วันรุ่งขึ้นข่าวลือแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วข่าวลือว่าตาม้วนไม่ใช่ผีโพงดังไปทั่วหมู่บ้าน จากนั้นบ้านตาม้วนเริ่มมีเพื่อนบ้านไปมาหาสู่มากขึ้น ตาม้วนเริ่มมีความสุขมากขึ้น ตาม้วนได้ไปวัดแล้ว ได้ไปทำบุญอย่างที่ตั้งใจแล้ว และแล้ววันหนึ่ง ก็เป็นวันที่ตาม้วนแทบจะไม่เชื่อสายตา
สาวใหญ่นางหนึ่งนุ่งผ้าถุงสีลายขวางแดงดำ และเสื้อเข้ารูปสีแดงเดินเข้ามาหาตาม้วนที่บ้านในมือหิ้วกระเป๋าใบใหญ่มายืนตรงหน้าบันไดบ้านรีๆรอๆอยู่
"จันทร์ นั่นเอ็งจริงๆรึ ใช่เอ็งเอ็งจริงๆด้วยจันทร์"
จ้าพี่ม้วน ฉันกลับมาแล้ว ฉันมาขอโทษพี่ ที่หนีพี่ไป เพราะแม่ไม่ยอมให้ฉันมาอยู่กับพี่เค้าหาว่าพี่เป็นผี "
นางจันทร์ ร้องบอกพลางน้ำตาไหลริน แต่เดี๋ยวนี้เค้ารู้กันหมดทั้งหมู่บ้านแล้วว่าพี่ไม่ได้เป็นผีฉันถึงขอแม่มาหาพี่ พี่จะให้ฉันอยู่ด้วยหรือเปล่า"
จันทร์ เอ็ง อย่าหนีข้าไปไหนอีกนะ ข้าเหงาข้าอยู่คนเดียวมาตลอดข้าดีใจที่เองกลับมา กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะ ข้าจะเลี้ยงดูเองไม่ให้ลำบากเลย"
ในที่สุดข่าวลือก็คงเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง ชาวบ้านต่างหลงเชื่อจนแทบจะทำให้คนดีๆอย่างตาม้วนต้องเสียคนไป ดีที่ตาม้วนอดทน ไม่สติแตกประชดตัวเองจนเสียคน ไม่อย่างนั้นถ้าตาม้วนกลายเป็นคนสติแตกบ้าไปแล้วใครจะรับผิดชอบกันกับข่าวลือนี้ เฮ้อ....มนุษย์กะข่าวลือนี้ไม่จบสิ้นซะที
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาตาม้วนก็กลับมามีชีวิตอยู่อย่างสุขสมบูรณ์ทำมาหากินขยันขันแข็งพร้อมเมียคู่ใจคือนางจันทร์ เรื่องนี้ต้องยกความดีให้กลุ่มเด็กๆที่ท้าพิสูจน์กันจนทำให้คนดีๆอย่างตาม้วนได้กลับมาใช้ชีวิตในหมู่บ้านอย่างมีความสุขอีกครั้ง
คราวนี้จบลงอย่างแฮปปี้นะคะเพื่อนๆ อิอิ
******************************
ขอขอบคุณเพื่อนทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจค่ะ
ขอขอบคุณโค๊ดบีจีสวยๆจากน้องญามี่และขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ด
ขอขอบคุณโค๊ดเพลงจากคุณYAOVARIT เพื่อนบล็อกและขอบคุณเพลงประกอบจากยููทูบเพลงฝนเดือนหก
Create Date : 09 กันยายน 2557 |
Last Update : 23 กันยายน 2557 13:15:31 น. |
|
50 comments
|
Counter : 3025 Pageviews. |
|
|
HAPPY ending หุหุหุ