โครงการตะพาบที่ 108 "ข่าวลือ"
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ต้องขออภัยอย่างมากกกกกค่ะ ที่โครงการตะพาบมาล้าหลังมากกกก ไม่รู้จะทันมั๊ยก็ขอเดินตามหลังก็แล้วกันนะคะ จากโจทย์ของคุณเป็ดสวรรค์ค่ะ "ข่าวลือ" ไปอ่านกันค่ะ อิอิ
**************************************************************
ในหมู่บ้านหนองผักแว่น ที่บ้านของโต้ง ขณะนั้นมีเพื่อนๆของโต้งมานั่งจับกลุ่มกันอยู่ 4-5 คน ทุกคนกำลังถกเถียงกันด้วยเรื่องอะไรสักเรื่องหนึ่งอย่างหน้าดำคร่ำเครียด
"ข้าว่าไม่จริงหรอกว่ะ ผีโพงอะไรมันจะมีสมัยนี้วะ "แซม หรือแซมบ้า พูดขึ้นอย่างไม่เชื่อถือ "เฮ้ย...แกไม่เฃื่อได้ไงวะ ก็ยายแสงแกบอกเห็นชัดเจน ใครๆเค้าก็เห็นกันทั้งนั้นว่ามีแสงไฟลอยๆกลางคืนวับๆแล้วหายไปในบ้านตาม้วน" อึ่ง ผู้ซึ่งอ้วนเหมือนอึ่งขัดขึ้น
"แต่ยังข้าก็ไม่เชื่อ แซมพูดขัดขึ้นอีก เองไปดูใกล้ๆแล้วเหรอถึงได้เชื่อว่าเป็นผีโพงน่ะฮะ"
"ใครจะไปกล้าไปใกล้วะ ขึ้นชื่อว่าผีแล้วแค่เห็นก็วิ่งกันแล้ว" อึ่งพูดขึ้นอีก
"เอาละๆ" คิ้มนั่งฟังสองคนโต้กันอยู่นานขัดขึ้นบ้าง " งั้นเอางี้ เรามาพิสูจน์กันมั๊ยว่าตาม้วนเป็นผีโพงจริงหรือไม่ "
"เอาเล้ยๆๆๆ" เสียงเพื่อนสนับสนุนคิ้มเป็นเสียงเดียว
"ว่าแต่่เอ็งจะพิสูจน์ยังไงวะ " แซมถามขึ้นอย่างสงสัย
"ก็แอบตามไปดูให้รู้จริงไงเพื่อน จะได้รู้กันซะทีว่าไอ้ข่าวลือน่ะมันจริงหรือเปล่า " คิ้มบอกอย่างมั่นใจ
"แล้วจะทำไงวะตามไปใกล้ๆข้าไม่เอานะโว๊ยข้ากลัวผีๆๆๆๆ " อึ่งพูดขึ้นอย่างใจไม่ดี
"เอ็งจะกลัวอะไรวะ ไปกันตั้งหลายคน ใช่ป่ะ เราไปกันทั้งหมดนี้เลยใช่มั๊ยเพื่อน " คิ้มพูดขึ้นพร้อมถามเพื่อนๆ
"ใช่ๆๆๆๆๆตกลงๆๆๆๆเราจะไปพิสูจน์ผีกัน" เสียงเพื่อนสนับสนุนเป็นเสียงเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้น กลุ่มของคิ้ม แซม อึ่ง ด้วง เคี้ยง และ โต้ง รวมหกคนก็พากันวางแผนว่า คืนนี้จะแอบตามแสงไฟแว๊บๆที่เห็นไปจนเข้าบ้านตาม้วนและแอบไปดูในบ้านตาม้วนด้วย ก็เป็นที่ตกลงกันเรียบร้อยแต่อึ่งก็ยังยืนยันเช่นเดิมว่าตาม้วนเป็นผีโพง
แซมจึงท้าพนันว่าถ้าพิสูจน์แล้วตาม้วนเป็นผีโพงจริงๆ เพื่อนๆจะจ่ายให้อี่ง 100 บาท แต่ถ้าตาม้วนไม่ได้เป็นผีโพง อึ่งต้องแก้ผ้ารำรอบต้นแก้วหน้าวัด 3 รอบ อึ่งได้ฟังอย่างนั้นร้องเสียงหลง "ไม่เอาโว๊ย ข้ายอมจ่ายให้ 200 ก็ได้ว่ะ "
จากนั้นคืนแห่งการพิสูจน์ก็มาถึง สาเหตุที่เด็กหนุ่มๆในหมู่บ้านมานั่งถกเถียงกันอย่างนี้ก็เพราะข่าวลือว่าตาม้วนบ้านอยู่ท้ายหมู่บ้านเป็นผีโพง(ดูคำอธิบายด้านล่างค่ะ)
เพราะมีคนเห็นแสงไฟแว๊บๆไปตามท้องทุ่งเวลากลางคืนเดือนมืดๆและชอบลอยเข้าไปที่บ้านตาม้วนทุกที และตาม้วนก็อยู่คนเดียวไม่มีลูกมีเมีย นัยว่าเคยมีเมียแล้วแต่ก็หนีตามผู้ชายไป ตั้งแต่นั้นแกก็อยู่คนเดียวมานานโดยไม่สนใจใคร
พอมีข่าวเล่าลือมากขึ้นก็ไม่ค่อยมีใครกล้าไปทักทายหรือไปเยี่ยมตาม้วนเลย เวลาแกไปไหนคนก็จะเดินหนีแกเด็กๆถึงกับวิ่งหนีเลย ทำให้ตาม้วนเสียใจมากจึงเก็บตัวไม่ยอมไปคบหาใคร เวลามีงานบุญก็ไม่ไป คนก็ยิ่งเชื่อมากขึ้น จนถึงกับจะพากันกำจัดตาม้วนโดยมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งแอบประชุมลับว่าจะจัดการกับบ้านตาม้วนโดยการเผาให้ตาม้วนตายไปพร้อมกับไฟเลย เด็กหนุ่มๆได้ฟังต่างรีบมาปรึกษากันและแผนการพิสูจน์ก็เริ่มขึ้น
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด เวลานั้นตาม้วนเริ่มเตรียมตัวออกหากินตามประสาของแก คืนนี้คงได้กบหลายตัวเพราะฝนเพิ่งตกเมื่อวานดินชื้นแฉะ ตาม้วนบ่นพึมพำไปคนเดียวพร้อมเตรียมสัมภาระเริ่มออกออกหากิน
เด็กหนุ่มทั้งหกพากันมาซุ่มอยู่ตรงป่าละเมาะใกล้บ้านตาม้วน พอเห็นดวงไฟลอยออกมาก็เบียดกันแน่นอึ่งรีบขดตัวไปอยู่ตรงกลางเพื่อนเพราะความกลัว แต่คิ้มกลับยกมือให้สัณญาณเพื่อนๆเงียบๆและค่อยๆย่องออกเดินนำหน้าไป เพื่อนๆเริ่มออกเดินตามไปต่างรีบย่องเบาไปตามพุ่มไม้เวลาที่แสงไฟแว๊บมาทางพวกตนก็แอบหลบพุ่มไม้อยู่ทุกคนใจสั่นใจเต้นระทึกโดยเฉพาะอึ่งใจเต้นแทบระเบิดออกมาจากอกเกาะเพื่อนไว้แน่น
ทุกคนมองเห็นดวงไฟเดี๋ยวต่ำลง เดี๋ยวก็สูงขึ้นวูบๆวาบไปตามคันนาและท้องร่อง บรรยากาศตอนนั้นน่ากลัวมาก เสียงหมาเห่าหอนมาแต่ไกล ทุกคนจับมือกันมือเย็นเฉียบ สักพักแสงไฟก็ลอยวนกลับทุกคนต้องรีบนอนราบแอบตามคันนาโดยเร็ว
จากนั้นแสงไฟก็แว๊บๆไปทางบ้านตาม้วนลอยไปอย่างสม่ำเสมอไม่มีสูงต่ำอีกเลยเหมือนจะลอยไปๆจนกระทั่งถึงบ้านตาม้วน เด็กๆรีบวิ่งตามไปแอบที่ประตูรั้วและค่อยลัดเลาะแฝงตัวเข้าไปในบ้านแสงไฟจากตะเกียงเจ้าพายุที่ตาม้วนจุดขึ้นสว่างโล่งทำให้เด็กๆได้มองเห็นภาพเบื้องหน้าชัดเจน
ตาม้วนบรรจงถอดสายรัดไฟฉายกระบอกใหญ่จากบนหัวออกพร้อมดับไฟ และนั่งลงเปิดดูถุงกบที่แกจับได้ พร้อมพึมพำ เฮ้อ พรุ่งนี้คงได้ขายหลายบาท
เฮ้อ ข้าว่าแล้วตาม้วนไม่ใช่ผี ที่แท้แกเอาไฟฉายรัดหัวนี้เอง ...โธ่....เด็กๆโห่ร้องกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยเสียงอันดัง ฮาาาาาา ไอ้อึ่งแพ้แล้วๆๆๆๆจ่ายมาเลย 200
************************************
จบแล้วค่ะเพื่อนๆ อิอิ เรื่องข่าวลือ บางทีชาวบ้านชอบร่ำลือเรื่องราวปากต่อปากทำให้คนเสียคนได้เยอะเหมือนกันอย่างรายนี้ถ้าเด็กไม่พิสูจน์ตาม้วนคงตายไปพร้อมกับไฟที่เผาบ้านแกแล้วนะคะ
***********************
ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจค่ะ
ขอขอบคุณโค๊ดบีจีสวยๆจากน้องญามี่ค่ะ
ขอขอบคุณเพลงประกอบจากยูทูบและขอขอบคุณโค๊ดเพลงจากคุณ YAOVARIT เพือนบล็อกค่ะ
***************************
ผีโพง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ผีโพง เป็นผีตามความเชื่อพื้นบ้านทางภาคเหนือ ผู้ที่เป็นผีโพงเกิดจากเล่นไสยศาสตร์แล้วควบคุมวิชาในตัวเองไม่ได้ หรือปลูกว่านชนิดหนึ่ง เรียกว่าว่านผีโพง ซึ่งมีสีขาว รสฉุนร้อน เมื่อแก่จะมีธาตุปรอทลงกิน ทำให้เกิดแสงส่องสว่างแบบแมงคาเรือง ผู้ที่เป็นผีโพง ในเวลากลางวันจะเป็นเหมือนผู้คนธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่ตกกลางคืนจะกลายร่างเป็นผีโพง มีจุดเด่นคือ มีแสงสว่างหรือดวงไฟที่รูจมูก ออกหาของกิน ได้แก่ ของสกปรกคาว เช่น กบ, เขียด, ศพ หรือรกเด็กเกิดใหม่ เช่นเดียวกับผีกระสือ, ผีกระหัง หรือผีปอบ โดยปกติแล้ว ผีโพงจะไม่ทำร้ายมนุษย์ แต่ถ้าหากถูกคุกคามก็จะจู่โจมทำร้ายได้เช่นกัน หากมีผู้ใดไปทำอะไรให้ผีโพงไม่พอใจ ผีโพงจะใช้ก้านกล้วยที่ตัดใบออกหมดแล้วพุ้งข้ามหลังคาบ้านผู้นั้น ซึ่งครอบครัวของผู้ที่โดนขว้างจะพบกับภัยพิบัติต่าง ๆ นานา ผีโพงจะตายได้ เมื่อมีผู้ไปพบปะกับผีโพงเข้าอย่างจัง และทักว่าผีโพงแท้จริงแล้วคือใคร หากผ่านพ้นมาได้หนึ่งวันแล้ว ผู้ที่เป็นผีโพงจะตาย ผีโพงสามารถถ่ายทอดให้แก่กันได้ ด้วยพ่นน้ำลายใส่หน้าหรือมีใครไปกินน้ำลายของผีโพงเข้า[1] [2] อ้างอิง[แก้]
| Create Date : 29 มิถุนายน 2557 |
| Last Update : 9 กันยายน 2557 1:15:34 น. |
|
60 comments
|
| Counter : 3185 Pageviews. |
 |
|
height='311' border=0>
อจ.กิ่ง
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [
ถ้าได้พบด้วยตัวเองสักครั้ง แล้วก็จะ
กลัวถ้าผีน่ากลัวและดุร้ายจริงๆ
โหวตให้งานเขียนครับ เล่าเก่ง
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กิ่งฟ้า Literature Blog ดู Blog