ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 198 "ทำบุญ" โจทย์ครั้งนี้ คุณ อาจารย์สุวิมล เป็นคนกำหนด ไม่จำกัดรูปแบบงานเขียน โจทย์คราวนี้หัวข้อคือ "ทำบุญ" สวัสดีค่ะเพื่อน บุญ เป็นสิ่งที่ทุกคนใขว่คว้าหา ลองมาอ่านบทสนทนานี้สักหน่อยนะคะแล้วเพื่อนๆ อาจจะเข้าใจเรื่องของบุญยิ่งขึ้น ********************************* อยากได้บุญ ต้องใช้เงินแลกมาด้วยหรือ? โยม : หลวงปู่ครับ ทำไมศาสนาพุทธถึงมีแต่เชิญชวนให้ทำบุญด้วยการใช้เงิน เดี๋ยวก็ถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าอาบน้ำ ถวายผ้าป่า ถวายผ้ากฐิน ทำบุญสร้างพระ สร้างวัด สร้างโบสถ์วิหารศาลาการเปรียญ มีแต่ถวายปัจจัยเต็มไปหมด แสดงว่าจะได้บุญมาต้องเสียเงินใช่ไหมครับ หลวงปู่ : บุญ เป็นชื่อของความสุข ถ้าเมื่อไร ทำแล้วจะเป็นทุกข์อย่าทำ โยม : โยมก็ไม่ได้ทุกข์ แค่สงสัยว่าทำไม วัดต่างๆ จึงมีแต่เชิญชวนให้ทำบุญด้วยเงิน บางวัดถึงกับบอกว่า "ถ้าอยากรวย ต้องทำบุญ" ถ้าไม่มีเงิน ก็ควรไปกู้เงินมาทำบุญ จึงจะรวย หลวงปู่ : การทำบุญในพระศาสนาหน่ะมีหลายแบบ มีหลายระดับ ระดับทำบุญด้วยการให้ทาน ถือว่า เป็นบุญระดับต้น ทำบุญด้วยการถือศีล ถือเป็นบุญระดับกลาง ทำบุญ ที่ได้บุญมากที่สุด คือ ทำบุญระดับภาวนา - คนทั่วไป ที่ใจยังไม่สูง ก็ย่อมมัววุ่นอยู่กับการทำบุญให้ทาน หรือ การใช้เงินทำบุญอย่างเดียว คนที่ใจสูงขึ้นมาอีกหน่อย ก็ทำบุญด้วยการรักษาศีล เมื่อใจถึงระดับสูงแล้ว เขาจะทำบุญด้วยการภาวนา จะเป็นสมาธิภาวนา หรือ วิปัสสนาภาวนาก็ได้ - เพราะทาน เป็นการกำจัดกิเลสอย่างหยาบ ศีล เป็นการกำจัดกิเลสอย่างกลาง ส่วน ภาวนา เป็นการกำจัดกิเลสอย่างละเอียด ซึ่งได้ผลบุญแตกต่างกัน - บางคนทำบุญแล้ว ไม่รู้เรื่องบุญที่ถูกต้อง ก็คิดแต่ว่า มีแต่การทำบุญด้วยเงินเท่านั้น - คนที่ทำบุญด้วยเงิน ที่ทำเพื่อหวังเอาหน้า หวังเอาเครื่องราชฯ หรือ เพื่อหาเสียง หรือ เพื่อโฆษณาความเป็นตัวตนให้คนรู้จัก ทำบุญแบบนี้ ไม่ได้บุญ - แท้จริงแล้ว จุดประสงค์ในการทำบุญ โดยใช้เงินนั้น เพื่อสละสิ่งของทรัพย์สินที่เรามี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น สังคม หรือ สาธารณะ และ เพื่อการละตัวเรา เพื่อลดความเห็นแก่ตัว มิใช่ ทำบุญเพื่อหวังรวย วัดไหนสอนให้ลงทุนทำบุญ เพื่อหวังรวย เป็นการสอนผิดจากคำสอนของพระบรมศาสดา พระองค์มิได้สอนให้ทำบุญ เพื่อเพิ่มกิเลส เพิ่มตัณหา และ/หรือ เพิ่มอุปาทาน - บางคนทำบุญให้ทานไม่เป็น ทำบุญให้ทานแล้ว ก็ยังถือว่า ของนั้นเป็นของเราอยู่ เช่น ถวายอาหารพระ ก็ต้องการให้พระตักอาหารของเรา บางคนก็ประสงค์นั่น อธิษฐานขอนี่ วุ่นวายไปหมด อันนี้ เป็นการทำบุญให้ทาน เพื่อเพิ่มกิเลส มิใช่ ทำบุญ เพื่อละกิเลสตัณหา การทำบุญ ประเภทลงทุน เพื่อหวังได้สิ่งตอบแทน จะไม่ได้บุญเอาไปใช้ในชาติหน้า แต่ จะได้กำไร/ขาดทุน สำหรับชาตินี้เท่านั้น ขอย้ำว่า อาจกำไร และ อาจขาดทุน จากเงินลงทุนก็ได้ ซึ่งมีให้เห็นเป็นตัวอย่างในสังคมไทยมาแล้ว - การทำบุญให้ทานที่แท้จริง ต้องทำ เพื่อละ เพื่อทิ้งกิเลสของตนให้ลดลง - คนที่เอาข้าวให้หมากิน เขายังได้อานิสงค์มากว่าคนพวกนี้ เพราะเขาให้ทานเพื่อละ ให้ทานเพื่ออนุเคราะห์สัตว์ตกยาก เขาให้ทานโดยไม่ถือความเป็นตัวเป็นตน เขาไม่อธิฐานขออะไรจากหมา ไม่ต้องบอกหมาว่า ต้องกินของผม/ของหนู/ของฉัน เพราะ เขาให้ทานเพื่อละเพื่อวาง ยังจะได้บุญมากกว่า - การทำบุญ ให้ทาน ที่ไม่ยึดตัวตนเป็นหลัก ไม่ถือของเขาของเรา จะเป็นคนที่มีทุกข์น้อยลง ทำบุญให้ทานแล้ว สบายใจ สุขใจ ปริมาณมากน้อยไม่สำคัญ ทำแล้วสบายใจทั้งก่อนทำ ขณะทำ และ หลังทำไปแล้ว เท่านี้ ก็ได้ผลานิสงส์เต็มที่แล้ว เพราะเราได้สละในสิ่งที่เราได้ให้ไปแล้ว - จากการทำบุญให้ทานด้วยการใช้เงิน อันเป็นการทำบุญในระดับต้นแล้ว - ท่านต้องทำบุญด้วยการถือศีล ที่ถือเป็นบุญระดับกลาง และ ต้องทำบุญ ที่ได้บุญมากที่สุด คือ ทำบุญระดับสมาธิภาวนา และ/หรือ วิปัสสนาภาวนา โดยเริ่มจากการสวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ จนจิตรวมเป็นหนึ่ง มีสติสมบูรณ์ อย่างน้อยที่สุด ทำครั้งละ 5 นาที อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง - เมื่อมีสมาธิดีแล้ว ก็ไปพิจารณาให้เห็นจริงว่า สรรพสิ่งล้วนเป็นสิ่งสมมุติ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีตัวตน คนสิ่งของที่จะไปยึดมั่นถือมั่น เพราะ จะต้องมีอันเป็นไปที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป สลับหมุนเวียนตลอดไป ทำใจให้ตระหนักในความเป็นจริงที่แท้จริงดังกล่าว จนเกิดความเบื่อหน่ายในวัฏสงสาร สามารถมองทวนกระแสโลกได้ชัดเจนเมื่อไร เมื่อนั้น ท่านอาจพ้นจากอาสวกิเลสอนุสัยได้ ขอให้ทุกท่านมีความเจริญในทางธรรม ธรรมะ จากหลวงปู่ พระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น จขบ.มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรม เดินจงกรม นั่งสมาธิ อยู่เสมอ เพราะได้ปวารณาตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์หลวงพ่อ วิริยังค์ สุรินทโร พร้อมทั้งได้อุทิศตนเป็นอาจาริยสา บรรยายหลักสูตรครูสมาธิให้กับนักศึกษาครูสมาธิมาตั่งแต่ปี พศ 2553 จนถึงปัจจุบัน |
ที่ผม เข้าเรียน โดยการที่คุณนุ้ยแนะนำผมให้ เข้าเรียน มีส่วน
มากจริง ๆ ที่ทำให้ผม เข้าสู่แวดวงที่ดี สงบ...
ยังจำที่คุณนุ้ยมิได้ เรียนต่อเป็นอาจาริยาสา.. แต่ ความมุ่งมั่น
และบุญที่คุณนุ้ยได้สร้างมานาน เลยได้เป็นอาจาริยสา.. สอน
คนธรรมดาให้เป็นคนดี... นี่ได้บุญมากจริง ๆ ครับ
ผมไป หัวหิน หรือ เชียงใหม่ หรือระยอง เห็น สถาบันพลังจิต
ผมนึกถึง พระอาจารย์หลวงพ่อ กับคุณนุ้ยตลอดเวลา..
ผมมักจะไปนั่งสมาธิ ถ้าไม่มีเวลาก็เพียงได้ เดินเข้าไป ก็ปลื้มสุดๆ
v