I'm not perfect but I'm limited edition.
|
||||
เมื่อสมองรวนและรอยหยักเริ่มคลายตัว
กระแสเรยา เป็นดั่งคลื่นสึนามิขนาดย่อมพัดโหมเข้าสู่จอทีวี ตัวสั่น ใจสั่น ความกระเหี้ยนกระหือรือเต็มสี่สูบ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กับคนที่ไม่ติดละครอย่างฉัน กดรีโมทเสตย์จูน ไว้ที่ช่องสาม ตั้งแต่ข่าวในพระราชสำนักนัก ในทุกวันพุธ พฤหัส โลกของเรยา มายาที่เราได้เห็น และอินไปกับบทละครที่เขียนขึ้นมา คำพูดเสียดแทงใจหลายประโยค ที่ทำให้เราทึ่ง ประหนึ่งคนเขียนบทมานั่งที่กลางใจ... นี่คือสิ่งที่มนุษย์หลายคนรู้สึก แต่ในโลกความเป็นจริงมันไม่มีใครมานั่งประดิษฐ์คำขนาดนั้น เพราะสมองมันคิดเร็ว ทำงานเร็วกว่า กล่องเสียง และปากที่เป็นทางออกของคำที่จะสื่อสาร เราไม่สามารถด่าโดยใช้ประโยคหรูหรา ทว่าเจ็บแสบไปถึงโลกหน้าได้อย่างเด่นจันทร์ เราไม่สามารถมีสมาธิ ข่มหิริโอตัปปะ เมื่อรู้ว่าสามีที่ไว้ใจ ไปมีผู้หญิงอื่น อย่างคุณดี๋ได้ขนาดนั้น และถึงแม้ บทสุดท้ายของเรยา คือ การไม่เหลือใคร ตามไสตล์ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ที่ละครบ้านเราถูกบีบให้มันจบแบบนี้ ทุกๆครั้งไป ถึงละคร เรื่องนี้จะเผ็ดร้อนขนาดไหนก็ตาม ในความไม่มี ที่ซ่อนเร้น ของละครบทเรื่องนี้ ในชีวิตจริงของคน ... มันเผ็ดแสบสันต์ ทะลุปอด ย้อนเข้าม้าม ลามไปถึงไต ใคร่อยากจะสำรอกออกมาเหลือทน คนอย่างเรยาในชีวิตจริงบางคน ไม่เห็นจะมีจุดจบแบบไม่เหลือใครอย่างในละคร ส่วนที่เหมือน ก็จะมีแค่..เมื่ออยากได้ เธอก็แย่ง ต่อสู้มาไม่ว่าจะต้องฟัดกับใครหน้าไหน ไม่คิดถึงใจใคร มาก่อนก็เจ็บก่อนไปสิ มาทีหลังแล้วไง ใครอดทนได้กว่า คนนั้นก็คว้าผู้ชายไป ... เพราะรัก เลย "ต้ อ ง แ ย่ ง ชิ ง" ... บางครั้งฉันก็สับสนเหมือนกันนะ หากฉันอยากจะมีแฟนสักคน วิธีนี้ก็มีคนทำจนประสบความสำเร็จ จนถึงขั้นได้แต่งงานกันมาแล้ว จะไม่ลองหน่อยเหรอ ... ทำดีได้ดี ทำชั่วแล้วยังได้ดี ก็มีนี่นา.. สมองเริ่มรวน รอยหยักเริ่มคลายตัว ... นี่เราจะอินกับเรยา เกินไปรึเปล่านะ พอดีกว่า เลิกเสพดราม่า หันหน้าไปหาหนังสือธรรมะ เข็ดแล้วกับเรยาในชีวิตจริงที่ได้เจอ... "แด่ความลวงหลอกในรักที่หลอกลวง"
อีกคืนที่ความเหงา เข้ามาทำเราต้องนอนไม่หลับ
นี่มันก็ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แต่..ภาพของคุณยังอยู่ทุกครั้งที่หลับตา เบื่อมั้ยก็เบื่อนะ เบื่อที่ทำไมถึงต้องยังคิดถึง เบื่อที่ยังมีรอยความทรงจำหลงเหลืออยู่ในความคิด บางครั้ง เวลาที่ความคิดแวบฉายความทรงจำระหว่างคุณกับฉันขึ้นมา เสมือนใครบางคนมาแอบตั้งเวลาเปิดไว้โดยที่ไม่รู้ตัว ก็เคย สบถ ขึ้นมาดังๆเพื่อดึงความรู้สึกตัวเองออกมา ว่า "ไร้สาระว่ะ มันไปอดีตไปแล้ว" หึหึ.. อยากโทรไปคุยกับเพื่อน แต่เราก็รู้ว่า สุดท้าย คำปลอบใจเดิมๆ พล็อตเดิมๆ มันจะเริ่มต้นอีกครั้ง ไม่โทรดีกว่า .. อีกอย่าง นี่มันก็ดึกแล้วด้วย อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว จะเอาอะไรกับอารมณ์เหงาให้มันมากนัก จะอ่อนไหว ก็ดูเวล่ำเวลานิดนึง มาอ่อนไหวตอนดึก เพื่อนก็เพลียที่จะมานั่งแหกรูหูฟังเรื่องเดิมๆ .... อ่านะ จำได้ๆๆ จำคำพูดนี้ของนังเพื่อนซี้คนสนิทได้ แต่จะว่าไป แกก็ทนฟังพร่ำบ่นมาตั้งหลายปี นี่ถ้าไม่ได้แก ฉันคงจะแย่น่าดู ... เอ้า เริ่มจากเหงาคิดถึงอดีตแฟน ไหงวกมาคิดถึงเพื่อนวะ นี่แหละน๊า ความคิดคน มันก็วกวนอยู่แบบนี้ล่ะ ไม่มีอะไรเสถียรนักหรอก พอพ้นคืนเหงาๆคืนนี้ พรุ่งนี้ก็มีเรื่องให้เราต้องเจออีก จะได้หัวเราะ หรือร้องไห้ หรือกลับมาเหงา อันนี้ก็ไม่รู้หรอก แต่ก็ไม่เห็นจะต้องมา นั่งคิดล่วงหน้า หนักสมองชิบเป้งเลย ไปนอนดีกว่า ถึงยังไม่หายเหงาเท่าไหร่ แต่ก็ดีเหมือนกัน ถึงจะนอนคนเดียว แต่ก็ยังมีความเหงาเป็นเพื่อน ก็โอเคนะ... สมอง และ หัวใจ ในวันเหงาๆ
เมื่อวานฝนตก วันนี้ก็เช่นกันนี้
เป็นคนแพ้"บรรยากาศ"ขณะฝนตก ภูมิต้านความเหงา ติดลบศูนย์ ทุกครั้ง ที่เห็นหยาดน้ำฝนเกาะที่กระจก "ฉันเหงา" ความเหงา เป็นแกนนำ ปลุกระดม ความทรงจำ(บางอย่าง)เราที่ซุกซ่อนไว้ ที่ก้นบึ้งของจิตใจ.... ให้ลุกฮือขึ้นมาประกาศอิสรภาพ ตะโกนกู่ก้องร้องว่า "คุณไม่สามรถซ่อนพวกเราไว้ได้อีกแล้ว เราพร้อมที่จะบุกยึดพื้นที่ในสมอง และแน่นอน หัวใจของคุณคือเป้าหมายที่เราจะรุกฆาต" ฉันต้องยอมจำนนให้กับ "ความเหงา" ที่ยกพวกถาโถมเข้ามา โดยไร้ซึ่ง "คนของหัวใจ" อันเป็นศาสตราวุธชั้นเยี่ยม ที่พึงจะมี "ฉันสับสน" เขาว่ากันว่า "สมองมนุษย์เก็บข้อมูลได้เยอะกว่าและสามารถประมวลข้อมูลที่มีความสลับซับซ้อน ได้รวดเร็วดีกว่าคอมพิวเตอร์" ตอนนี้ สมองของฉัน คง errer การประมวลผลความความคิด จึงช้ากว่าความรู้สึกที่มีอยู่ ถ้าความเร็ว 8 Mbps. ถือว่าเร็วที่สุด ความรู้สึก(หลายอย่าง)ของฉันคงเดินทางพอๆกับความเร็วของแสง มันปรู๊ดปร๊าด พุ่งทะยาน มาจ่อรอที่สมอง เพื่อรอการประมวลผลทางความคิด ว่า จะจัดการ การความรู้สึกที่มีอยู่อย่างไร เป็นเรื่องที่แปลกดี เหมือนกัน ถือเป็นความอัศจรรย์ของชีวิตมนุษย์ ที่สามารถรู้สึก ได้หลายอย่างในคราวเดียวกัน สมัยนี้ ศัพท์ทาง วันรุ่น คงเรียกว่า "ติสท์แตก" แต่ฉันกลับชอบที่จะเรียกว่า "อารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย" มากกว่า ก็ยังไม่อยากแก่.. วันนี้ เลยขอเนียน ใช้คำว่า "ติสท์แตก" ให้ดูลดอายุลงหน่อย 25 ปี วัยเบญเพส ... ทำเอารู้สึกว่าตัวเองแก่แล้ว ได้เหมือนกัน ในเมื่อแอ๊บเนียนเป็นวัยรุ่น แล้ว ก็จะทำตัวเป็นวัยรุ่น เขียนแบบวัยรุ่น สักวันละกัน 'ไรว๊า..'ไมวันนี้ มันสับสน จริงวุ้ย~~ ฝนตกก็อยากร้องไห้ หวั่นไหวไม่ปรึกษาเพื่อน... คิดถึงแฟนเก่า จะคิดถึงไปทำไมก็ไม่รู้ ชีวิตมีเรื่องให้คิดร้อยแปด แต่ดันคิดถึงคนเก่า เรื่องเก่า จะคิด ขุด คุ้ย ออกมาทำพระแสงของ้าว'ไมเนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ............ ข่มตาหลับ สักคืน ..
ครึ่งชั่วโมง ก่อนล้มตัวลงนอนคืนนี้ วันนี้ไปอยุธยา กับพี่สาว(ลูกพี่ลูกน้อง) และแฟนพี่สาว ไปรับน้องชายกลับมากรุงเทพฯ... น้องชายฝึกงานเสร็จแล้ว .. หวังว่า การฝึกงานครั้งนี้ คงเป็นประสบการณ์ให้น้องได้เรียนรู้ชีวิตการทำงาน ในระดับเบสิก .. พี่หวังว่าแกคงจะเข้าใจ คำว่า "เหนื่อยขนาดไหนกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท" นะ ^^ อีก 1 ปี แกก็จะเรียนจบแล้ว การทำงานอย่างเต็มรูปแบบที่แกต้องเผชิญ ไม่ว่ายังไง พี่ก็จะคอยเฝ้าดู และเป็นกำลังให้เสมอนะ .......... วันนี้สนุกดี ได้นั่งรถไปเที่ยววัดด้วย แต่แย่ตรงที่จำชื่อวัดไม่ได้นี่สิ T^T ดูเหมือนความจำสั้นลงไปเยอะเหมือนกันนะเราเนี่ย ใช้ฃชีวิต Hardcore มานานเหลือเกิน เคยมีคนเตือนหลายครั้งแล้ว กับการที่ใช้ชีวิต อย่างสียสุขภาพ เอาเวลาชีวิตล่วงหน้ามาใช้ อย่างไม่เคยดูดาย ตั้งแต่ ปี 1 ก็เริ่มนอนดึก เริ่มจากเที่ยงคืน เป็น ตี 1 2 และจำนวนตัวเลขก็มากขึ้นเรื่อยๆ บางคืนก็เกือบรุ่งสาง ตื่น 7 โมง เหมือนนาฬิกาชีวิตปลุกอัติโนมัติ ผลจากการนอนหลับยากมาเป็นเวลานาน ไม่เคยได้รีบการแก้ไข ปี 2 เป็นไข้เลือดออก ต้องนอนโรงพยาบาล เจาะเลือดตรวจตามปกติ คุณหมอเจอเกล็ดต่ำกว่าปกติ สุดท้ายจึงได้รู้ว่า เป็น ทาลัสซีเมียแฝง ด้วย เรียกว่า ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง กันเลยทีเดียว บางครั้งก็นั่งถามตัวเองว่า ทำไมเราถึงใช้ชีวิตแบบนี้ อยากไปหาหมอ อยากใช้ชีวิต นอน 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม กับคนอื่นบ้าง แต่น้อยครั้งมากที่จะทำได้ ถ้าไม่ปราศจากการใช้ยานอนหลับ โชคดี ที่เป็นคนเกลียดยานอนหลับ ไม่งั้น สุขภาพคงทรุดหนักกว่าที่เป็น หลับยาก บวกกับการเป็นไมเกรน และเป็น ทาลัสซีเมียแฝง อืม... เยี่ยมจริงๆ เขียนเรื่องนี้ ครั้งที่ ร้อย ได้แล้วมั้ง ในไดอารี่ หลายๆเล่มที่กองอยู่ที่ห้อง เอาเถอะ.. จะพยายามดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีกว่านี้ เพื่อตัวเอง และเพื่อพ่อแม่และน้องชาย ฉันยังต้องแบกภาระอีกเยอะ ถ้าวันนี้ เราเป็นอะไรขึ้น คนที่เสียใจที่สุด นอกจากพ่อแม่ คงเป็น เรานี่ล่ะ เพราะยังไม่ทันได้ทำอะไร ให้ ครอบครัว ได้ครบอย่างที่ตั้งใจไว้เลย ข่มตาหลับคืนนี้ เพื่อครอบครัว.... ราตรีสวัสดิ์ค่ะ อยากมี อยากทำ อยากได้ อยากเป็น...
up blog ทั้งทีต้องมีความหมาย
เหมือนชีวิตที่ใช้ไปทุกวัน ต้องให้มันคุ้มค่า เกิดมาจะมีอายุขัยได้กี่ปี ก็ไม่รู้.. แต่ที่รู้ เวลาที่มีอยู่บนโลกใบนี้ เราต้องทำอะไรที่เป็นสาระ ให้สาธารณะชนได้รู้ ว่ามีตรูอยู่หนึ่งชีวิตบนโลกใบนี้นะเฟ้ย!! วันสองวันที่ผ่านมา "ฝนตก" อากาศที่ร้อน ก็เย็นลง.. ชื่นใจดีแท้ ในสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังร้อนระอุกว่าแดดตอนนี้ ก็มีแต่ น้ำที่ตกลงมาจากฟ้า...เป็นเพราะอะไรไม่รู้ แต่ไม่ใช่ ฝนเทียม เฉกเช่น แดงเทียม แน่นอน เอ้า!!ก่อนจะออกทะเลมุ่งหน้าสู่ราชดำเนิน ขอชักใบเรือกลับมาก่อนแล้วกัน!!
|
หิ่งห้อยดาวพฤหัส
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] บางครั้งการให้โอกาส ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม... Group Blog All Blog Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |