แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
ตอน 13 วันว่างของชาวต่างด้าว




หลังจากความผิดพลาดด้านการอบผ้านานเกินควรครั้งก่อน ทำให้เสื้อผ้าหดกลายเป็นของเด็กเล่น ทำให้ฉันต้องรีบเว้าวอนก้อบ ช่วยพาไปซื้อเสื้อผ้ามือสอง เพราะครั้นจะไปซื้อของใหม่ก็แพงแสนแพง เสื้อธรรมดาบ้านเราก็ตัวล่ะอย่างต่ำ 10 เหรียญเข้าไปแล้ว กางเกงยิ่งไม่ต้องพูดถึง 30 เหรียญเป็นว่าเล่น

ทุกวันอังคารเป็นวันหยุดของฉันกับก้อบ ตอนนี้สองสาวกำลังนั่งอยู่บนรถใต้ดิน ลงจากสถานี Roosevelt เลือกสาย G ปลายทางที่สถานี Steinway St อันเป็นแหล่งช็อปสินค้ามือสองที่ก้อบชอบไปคุ้ย

“ช่วยซื้อลูกอมช่วยผมเพื่อเป็นการกุศลหน่อยครับ”
“โฮลา.....ดึ๊กดั๋ยด่ำดึ๋ง.......ฟังไม่รู้เรื่อง” ขายถ่านไฟฉายตรากบเฉพาะคนฟังภาษาสเปนเข้าใจ
“ช่วยผมหน่อยเถอะครับ สงสารผมเถอะ” เดินเข้ามาขอเงินดื้อๆ

นี่คือภาพอันคุ้นเคยของสังคมเมืองนิวยอร์ค ที่ขอทาน คนจรจัด นักดนตรีวณิพก สามารถขึ้นมาทำกิจกรรมดูดเงินได้อย่างสบายใจ
“ก้อบ ดูสิ ตัวใหญ่กว่าเราอีก ร่างกายก็สมบูรณ์แข็งแรงกลับมาขอทาน ฉันไม่ให้หรอก”
“ก็ว่า ไม่รู้จักทำมาหากิน”

“กล้ามก็ใหญ่ เส้นเอ็นก็มี ไม่รู้จักเอาไปยกจานแลกเงิน”
“อูย...ด่าไปถึงเส้นเอ็นเลยหรือแก”

“แน่สิ ฉันนะกว่าจะได้เงินแต่ล่ะเหรียญยกจานจนมือแทบหัก อีนี่เดินลอยชายไปมา งอมืองอเท้า ฝันไปเถอะว่าจะให้ ชิ”
“ฉันก็ให้บ้างนะ พวกนักดนตรี”
“เหมือนกัน อยากได้เงินคนอื่นก็ต้องพยายามหน่อย”

แค่ 3 สถานีจากบ้าน ฉับกับก้อบโผล่ขึ้นมาจากใต้ดินแล้วเดินไปข้างถนนแล้วเลี้ยวเข้าร้านขายของมือสอง เสื้อผ้าสารพัดยี่ห้อ ของจริง ของปลอม วางแขวนอยู่เต็มลานห้อง รองเท้า กระเป๋า ทีวี ตู้เย็น พัดลม สารพัดสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีหมด

ฉันตกตะลึงในความมหาศาลของจำนวนสินค้าที่มีให้เลือก เข้าใจแล้วที่ก้อบบอกว่าต้องใช้เวลาคุ้ยกันเป็นวันๆมันอย่างนี้เอง
“แก....แยกกันนะ แล้วมาเจอกัน เอาเสื้อมาคอนเทสต์ด้วยว่าผลิตที่ประเทศไหน”
“ได้ๆ”

จากนั้นฉันกับก้อบก็ตระเวณคุ้ย เขี่ย หาเสื้อที่ถูกใจ สนนราคาก็ 1.99 เหรียญเป็นส่วนมาก ฉันเลือกเสื้อสีดำมาได้ 5 ตัว กะใส่วันล่ะตัว เพราะว่างอาทิตย์ล่ะวันเท่านั้นที่จะได้ซักผ้า

“ไง ของแกได้ประเทศไหนมาบ้าง” ก้อบเริ่ม
“นี่ของบานาน่า จากฮอนดูรัส”
“อุ๊ย...ไม่แปลกเลย ดูของฉันก่อนศรีลังกา”
“หาได้ไงนี่ ไหนๆมีประเทศไรอีก ของฉันจีน”
“โอย...ของทั่วโลกตอนนี้ผลิตจากแรงงานราคาถูกในจีนทั้งนั้นล่ะ”

“อ้าว...นึกว่าเจ๋งแล้วนะ”
“ตัวนี้สิ ฉันว่าแกต้องยอมแพ้แน่ๆ”
“ไหนดูสิ Made in Cambodia” เริ่ดมาก เปรงโมงสุดๆ แมเอวบองประโอน(เขมร=เยี่ยมสุดๆจ้าพ่อแม่พี่น้อง)

“น่าจะมีผลิตในไทยบ้างนะ อยากได้จัง”
“เสื้อผ้าผลิตในไทยนะ ของดีที่สุดแล้ว ไม่ค่อยมีใครเอามาทิ้งหรอก”
“นั่นสิ”

“ฉันนะเคยซื้อผ้าปูที่นอน พอคลี่ออกมาเจอว่าผลิตในประเทศไทย ฉันนี่ขนลุกรีบตัดสินใจซื้อเลย”
“แกนี่มันนิยมไทยจริงๆ ดีแล้วล่ะ ไทยช่วยไทย”

ได้เสื้อถูกใจแล้ว ถึงคราวไปจ่ายเงิน ด้วยใบหน้าอันหมวยลำเค็ญของก้อบหรืออย่างไรไม่ทราบ ทำให้พอรับเงินทอนมา ก้อบบอกฉันว่า อาซิ้ม แคชเชียร์ลดให้อีก สรุปได้เสื้อใส่ในราคาตัวล่ะ 1 บาท

หลังจากนั้นช็อปได้เสื้อผ้าที่ถูกใจแล้ว ฉันเอาเสื้อผ้าฝากไว้ที่บ้านก้อบ วันหยุดแบบนี้เป็นโอกาสอันมีค่ายิ่งของแรงงานต่างด้าวอย่างพวกฉัน วันนี้ฉันตั้งใจจะเลี้ยงขอบคุณก้อบที่ช่วยเหลือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ร้านอาหารเกาหลี

ย่านเกาหลี เป็นชุมชนใหญ่ที่เข้มแข็งมากทางด้านเศรษฐกิจในนิวยอร์ค ตั้งอยู่ในเกาะแมนฮัตตัน อันหรูหราน้อยนักที่คนไทยอย่างเราๆจะสามารถเข้าไปพักอาศัยได้ ฉันกับก้อบเลือกร้านบุฟเฟ่ เพราะประโยชน์สูง ประหยัดสุด กินให้ชูชกท้องแตกตายแค่ไหน ก็ไม่เกิน 20 เหรียญ

“นี่แก..หยุดเลยนะ ห้ามจับจานแบบคีบ”
“ทำไมล่ะ ยกทีเดียวได้หลายจาน”
“แกดูสิ พวกโก้มองกันใหญ่แล้ว”
“อิอิ แหม...รู้กันหมดว่าเราทำงานร้านอาหารเหมือนกัน”

อยู่ร้านกินแต่อาหารไทย ผัดไทย ผัดซีอิ้ว ผัดขี้เมา กินซ้ำๆจนเห็นอาหารเส้นแล้วเบื่อหน่าย พอมาเจอซูชิบ้าง กิมจิ วาซาบิ เปลี่ยนบรรยากาศนานๆทีทำให้มื้อนี้เจริญอาหารเป็นพิเศษ
“เท่าไหร่แก”

“32 เหรียญ”
“แทคเท่าไหร่”
“2.56”
“งั้นแกต้องให้ขั้นต่ำ 2 เท่าก็ 6 เหรียญนะ”

ก้อบสอนวิธีการให้ทิปตามวัฒนธรรมของฝรั่ง ปกติการส่งบิลไปที่โต๊ะทุกครั้งจะมีราคาอาหารบอกไว้และแทค(ภาษี)ที่ต้องจ่าย เขาก็เอาหลักการง่ายๆนี้มาใช้ในการให้ทิป ถ้าดูดีมีชาติตระกูลก็ให้ 2 เท่า ถ้าสถุลชั้นต่ำก็ไม่ให้เลยสักเหรียญก็มี

“ไม่ต้องทอนเลยหรือแก”
“ใช่ 40 เหรียญ”
“ป๋ามากเลยนะ ให้ทิป 3 เท่า”
“แน่นอน สร้างกรรมดีไว้แก เวลากลับไปทำงานแล้วจะได้ไม่ถูกลูกค้าโกงทิป”

“ใช่ๆ พอมาทำงานร้านอาหารนะ ไปกินข้าวที่ไหน ฉันไม่เคยให้ทิปต่ำกว่า 2 เท่าเลย เข้าใจว่าความลำบากมันเป็นไง”

“ดีแล้วแก แต่ก่อนนะ เด็กชาวเขายกเตาปิ้งหมูกะทะมาให้ฉันช้า ฉันวีนสนั่นร้าน มานึกถึงตอนนี้แล้ว ฉันอยากกลับไปขอโทษน้องคนนั้นจังเลย”
“กรรมEMS จริงๆ อิอิ”
“ว่าล่ะ”

แล้วฉันกับก้อบก็เดินออกจากร้านมาด้วยจิตใจที่แช่มชื่น ฉันยังจำรอยยิ้มและเสียงขอบคุณของพนักงานเสิร์ฟที่ดูแลโต๊ะของฉันได้ดี พร้อมทั้งแววตาที่คุ้นเคย เพราะมันเป็นแววตาเดียวกันที่ฉันเคยสื่อไปถึงลูกค้า เวลาได้ทิปเยอะ



Create Date : 30 มีนาคม 2550
Last Update : 30 มีนาคม 2550 10:05:10 น. 4 comments
Counter : 625 Pageviews.

 
Where is Chapter 11, Nang Sming?

Chapter 11 is still missing !


โดย: Preyachit IP: 202.50.90.9 วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:13:23:22 น.  

 
ตอน 11 อิอิ เป็นการสาธิตการจับจานเวลาเสริ์ฟอ่ะ ไม่ได้เอาลงจ้า อุอิ


โดย: สหมิว สยอง2007 IP: 58.9.40.131 วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:15:09:10 น.  

 
จิงคับ
ถ้าไม่ได้เจอกับตัวจะไม่เข้าใจอย่างงี้



โดย: Kurt Narris วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:6:54:22 น.  

 


ตอนที่ 11 นี่สำคัญนะคะเอามาลงนะคะจะรออ่าน อิอิ


โดย: onelove01 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:13:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.