แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ตอน 22 มือใหม่หัดเวท


ตอน 22 มือใหม่หัดเวท

“พูดให้เก่งเอ็งต้องมีวิญญาณของนักขาย”  
“บุคลิกภาพก็สำคัญนะ ต้องให้เนี๊ยบ ห้ามหน้ามัน”
“ท่องไว้เลยนะ นี่คือรายการอาหารพิเศษของร้าน เวทที่ดีต้องขายของแพงๆให้ได้”
“ขายดริ้งด้วยนะ เพิ่มแทค จะได้ทิปมาก”
“เอาลิปไหม ปากแห้งนะ”
พอทุกคนในร้านรู้ว่าฉันจะได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นเวทหน้ามน คนหน้าใหม่ ความมุ่งมาดปราถนาดี ตลอดจนประสบการณ์ต่างๆที่สั่งสมกันมาเป็นกระบุง จึงเอามาเทกระจาดสอนกันอย่างไม่มีเม้ม ถึงแม้ฉันจะทำงานที่นี่มากว่า 5 เดือน แต่หน้าที่ของรันเนอร์ มักสิ้นสุดตรงการยกอาหารวางลงต่อหน้าลูกค้า ขานชื่ออาหารแล้วบอกเอ็นจอย แต่สำหรับเวทแล้ว ต้องเสนอหน้าตลอดเวลาร้านเปิดทำการ เพื่อรอลูกค้าเรียกใช้ในทุกวินาที เอาเข้าจริงงานที่ฉันคิดว่าง่าย ไม่ต้องออกแรงมาก กลับมีขั้นตอนยุ่งยากและเต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบายต่างๆที่ต้องงัดออกมารับมือกับลูกค้า
“สมิง เริ่มเลยนะ ไหนๆก็วัยรุ่นอยู่ ต้องลองโต๊ะเด็กๆด้วยกัน” สุ เวทรุ่นพี่ยุแกมบังคับให้ฉันเข้าไปฝึกเทคออเดอร์
“อูย...สุ เด็กแซ้บทั้งนั้นเลยจะไหวหรือ”
“เอาน่า” ฉันเดินเข้าไปหาโต๊ะลูกค้าอย่างตื่นเต้น มือเย็นเฉียบเหมือนตอนครูบอกให้ออกไปพูดรายงานหน้าห้อง ฉันมองหน้าเด็กๆวัยใสสายตา 6 คู่จ้องตอบกลับมา ฉันเลยเงียบ
“Hi”
“Hi how are you”
“I am fine thank you and you?
“so so” นึกๆในใจโซโซแปลว่าไรนะ ไม่เคยได้ยินมาก่อน อันที่เคยเรียนมาแล้วท่องขึ้นใจไม่มีแบบนี้นี่นา
“ให้ฉันสั่งเครื่องดื่มก่อนได้ไหม”
“ได้ๆดื่มไรดี”
“ซีแกรมร็อกทวิสลาม” ชิ้งเงียบไป 3 วิ ก่อนยิ้มแห้งๆ
“เขียนให้หน่อยได้ไหม”
“โอเค”
หลังได้ชื่อเครื่องดื่มแสนประหลาดแล้ว ฉันเดินกลับไปที่บาร์ ก่อนยื่นให้พี่หนุ่มบาร์เทนเดอร์รับช่วงต่อ พี่หนุ่มแอบขำนิดๆก่อนบอกว่า หมิวคงต้องมาเรียนรู้เรื่องเครื่องดื่มเพิ่มแล้วนะ จะเป็นเวทที่ดีต้องรู้เรื่องเหล้าด้วย
“เช็คไอดียังว่าอายุถึงหรือเปล่า”
“ไม่ได้เช็คพี่”
“งั้นไปเช็คก่อน อายุ 20 ขึ้นนะ ถึงดื่มได้”
“ได้ครับ” ฉันเดินกลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง เพื่อขอดูบัตร พ่อหนุ่มผมเปียมองหน้าฉันอย่างอารมณ์เสีย ก่อนยื่นบัตรให้ ฉันก้มหน้าไม่กล้าสบตาก่อนเดินกลับมาเอาเหล้าไปเสิร์ฟ
“จะสั่งอะไรดีครับ วันนี้เรามีเมนูพิเศษคือ...”
“ไม่ต้อง...เอาผัดซีอิ้วมา 6 จาน น้ำเปล่าอีก 6 แก้ว โอเค้”
“ครับ รอสักครู่”
ฉันเดินกลับมาจากโต๊ะด้วยอาการหงอยๆ อุตส่าตั้งใจจะขายสเปเชี่ยวอาหารแพง พวกสเต็ก กุ้ง หอย ปู ปลา สรุปออเดอร์แรกในชีวิตของฉันคือผัดซีอิ้ว
“ลูกค้าเด็กๆก็แบบนี้ล่ะ ไม่มีเงินเยอะหรอก กินแต่ก๋วยเตี๋ยว”
“เสียดาย เขาคงอารมณ์เสีย หมดมู้ดกินของแพง”
“ไม่หรอกน่า”
สุให้กำลังใจ ผ่านช่วงเวลากลางวันซึ่งไม่ค่อยยุ่งไปแล้ว เข้าสู่ตอนกะเย็นตอนกลางคืน ชัยรับหน้าที่รันเนอร์ ส่วนฉันได้ลงฟลอเต็มตัว วันนี้ปกติใช้เวท 4 คน แต่น้องอีกคนลาป่วยเลยเหลือเวท 3 คน ทั้งร้านมี 23 โต๊ะ แยกรับผิดกันเป็นโซนๆไป ฉันได้ไปเต็มๆ 7 โต๊ะใหญ่
“หมิว ใจเย็นๆนะ สบายๆเป็นตัวของตัวเอง” พี่แอ๊ด เวทวัย 43 แนะนำ
“ถ้ามีไรไม่ทัน ออยจะมาช่วยเอง” กำลังใจมาเต็มที่ ฉันพร้อมลุย ไหนๆก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว ขอแต่งหน้าลงฟลอซะหน่อย เผื่อสะกดจิตลูกค้าให้หลงกินของแพงได้บ้าง คริคริ
1 ทุ่มตรง เหมือนลูกค้าพร้อมใจกันมาทานอาหารไทย แต่ละโต๊ะถูกจับจองเรียบร้อย รวมถึงด้านหน้าร้านก็มีลูกค้ายืนรอคิวเข้ามาทานอีกเพียบ ฉันสูดลมหายใจลึกๆเข้าเต็มปอด พยามนึกเข้าข้างตัวเองว่านี่มันคือละครเวที หากฉันแสดงดี ค่ำคืนนี้ต้องได้รับเสียงปรบมือกึกก้อง ตอนฟินาเร่
“ทานไรดีครับ วันนี้เรามีล็อบสเตอร์ตัวใหญ่สดมากๆเอามาย่างหอมๆแล้วผัดไทยใส่เข้าไปตรงกลางตัว เป็นการผสานกันของสองรสชาติอาหารอย่างลงตัว อยากให้ลองทานมากๆเลยครับ”
“อืม...สดจริงเปล่า”
“โส้ด สด สดมากเลยครับ กุ้งนี่เพิ่งมาเมื่อเช้านี้เลยนะ เมื่อวานยังว่ายน้ำทะเลอยู่เลย”
“555555น่ากินนะ งั้นเอา 1 ตัว”
กรี๊ด.....35 เหรียญ ฉันขายสเปเชี่ยวออกแล้ว พอขายได้ตัวแรก เหมือนกำลังใจเพิ่มขึ้นมาเป็นกอง ฉันเริ่มจับทิศทางการขายได้ คนแก่ไม่ขายสเต็ก เพราะฟันก็แทบไม่มีแล้ว คงไม่อยากเคี้ยวเนื้อเหนียวๆ ต้องเสนอเมนูสุขภาพพวกปลาแทน วัยทำงานหน่อย ยุให้กินเหล้า เบียร์ ส่วนเด็กๆถ้ามากับพ่อแม่ต้องตีซี้ไว้ เพราะถ้าเด็กถูกชะตาเรา พ่อแม่ก็จะต้องสั่งให้เด็กทาน ไม่งั้นมีร้องไห้งอแงในร้าน

“ขอน้ำเพิ่มหน่อย”
“ทำไมอาหารช้าจัง”
“บอกเชฟด้วยนะ เอาเหมือนครั้งก่อน”
“ดริ้งเข้มมาก ขอเปลี่ยนได้ไหม”
สารพันปัญหาให้ได้แก้ไขตลอดเวลา จากบรรดาลูกค้าทั้ง 7 โต๊ะที่ฉันดูแล ไหนจะต้องเทคออเดอร์ จากนั้นวิ่งเข้าไปเอาเครื่องดื่ม คีย์ข้อมูลส่งอาหารเข้าไป กลับมาอีกครั้ง กินเสร็จแล้ว เก็บจาน โต๊ะไหนลุกเก็บเงิน เซ็ตโต๊ะใหม่อย่างรวดเร็ว ยิ่งวันนี้แขกเยอะ งานล้นมือ เดินไป เดินมา เข้าออกครัวกับบนฟลอ ทำโน้น ทำนี่ ไม่ได้หยุดเลย
“ชัย อาหารโต๊ะนี้ทำไมไม่ได้ซะที”
“ฉันยกไม่ทันแก”
ฉันรีบเข้าไปในครัว ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เข่าแทบทรุด กองทัพอาหารจำนวนกว่า 20 จานวางเกลื่อนไปทั่ว ฉันลืมนึกไปว่าชัยออกได้แค่ครั้งละ 3 จาน เท่านั้น ทำให้แต่ละเที่ยวของการเดินจะสามารถกำจัดจานออกได้ในสถิติน้อยกว่าที่ฉันเคยทำไว้
“มาฉันช่วยแกเอง”
“ขอบใจมาก”
ฉันช่วยออกอาหารให้ชัยในโซนโต๊ะที่ฉันรับผิดชอบ  งานนี้ไม่ต่างอะไรกับเตี้ยอุ้มค่อม พอออกไปอีกที ก็เห็นลูกค้าชะเง้อชะแง้แลหาฉันหลายโต๊ะ
“ใจเย็นๆนะครับ อาหารใกล้เสร็จแล้ว”
“อ๋อ น้ำเปล่าหรือครับ ได้ๆครับ”
“เห็นลูกฉันไหม”
อ้าว...จู่ๆโต๊ะคุณแม่ยังสาวก็ถามฉันขึ้นมา จากนั้นฉันจึงก้มลงมองหาใต้พื้นโต๊ะ เจอแต่ความว่างเปล่า ฉันเดินเข้าไปตามหาที่ห้องน้ำ เคาะๆห้อง คนที่ออกมาไม่ใช่เด็กแน่ๆแก่หงักเชียว รีบเดินกลับมาอีกครั้ง ขณะกำลังจะผ่านยังจุดที่ตั้งของโคลงช้างไม้แกะสลักจากเชียงใหม่ หนูน้อยวัยซ่าส์กำลังสมมุติตัวเองว่าเป็นควานช้าง พยายามป่ายปีนขึ้นไปขี่บนหลังช้าง
“เหอ เหอ เล่นไม่ได้นะหนู”
“ไม่เอา เค้าจาขี่ช้าง”
“มาขี่คอพี่ดีกว่า มาม๊ะพี่อุ้ม” ฉันรีบจับตัวหนูน้อยก่อนอุ้มกึ่งบังคับไปส่งที่แม่ สองผัวเมียเฮฮากันใหญ่เมื่อรู้ว่าลูกแอบหนีไปเป็นทาร์ซานมา พ่อแม่ฝรั่งนี่ก็แปลกนะ เป็นคนไทยป่านนี้ตีลูกขาลายไปแล้ว
“ไม่เอา ไม่เอา จาขี่ช้าง” เริ่มงอแง
“โอ....ไม่ได้นะ เดี๋ยวตก” แม่ปลอบ
“มาม๊ะ พี่ดูลายมือให้ ไหนๆแบมืออกมาสิ” ฉันเริ่มอุปโลกตัวเองเป็นอับดุลย์หลอกเด็ก
“หนูนี่ฉลาดนะ โตขึ้นเป็นผู้ชายแน่ๆ”
“5555555555555555555555555555555” เสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีๆของสองผัวเมีย
“ดูให้ฉันมั้ง”
“ไหนๆคุณนี่เก็บเงินไม่ค่อยเก่งนะ เส้นลายมือบอกว่าชอบช็อปปิ้ง”
“ก๊ากๆๆๆๆ” เสียงฮาของผัว
แล้วคืนนั้นก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทำให้ฉันมีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น แม้ฉันจะไม่เก่งภาษาเท่าคนอื่นๆที่อยู่มานาน ฉันก็จะขอขายความโปกฮาและความจริงใจต่อลูกค้า ฉันจะไม่เลียนแบบใคร จะเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เพราะนี่คือเสน่ห์ส่วนตัวของคนแบบฉัน




Create Date : 18 เมษายน 2550
Last Update : 18 เมษายน 2550 23:34:29 น. 2 comments
Counter : 573 Pageviews.

 
น่ารักจังคับ


โดย: Kurt Narris วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:30:33 น.  

 


มันต้องอย่างงี้สิ ใช่ไม๊ เราใช้แม่ไม้มวยไทยเราเข้าแลกเลยได้เสียงก๊ากลูกค้าชื่นชอบถูกใจ อิอิ อ่านแล้วตื่นเต้น เห็นอนาคตัวเองรำไร แล้วเราจะเอาหมิวเป็นแบบอย่าง


โดย: นก (onelove01 ) วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:34:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.