แล้วเด็กบ้านนอกคอกนา ก็บินมาอยู่ถึงนิวยอร์ค
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ตอน 17 รวมมิตรลูกค้านานาชาติ



ตอน 17 รวมมิตรลูกค้านานาชาติ

นิวยอร์คเป็นเมืองที่มีความหลากหลายของมวลมนุษยชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งบนโลกใบนี้ก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่ในแต่ละวันฉันต้องรองรับอารมณ์อันหลากหลายที่เป็นนิสัยดั้งเดิมสืบทอดต่อๆกันมาดั่งทายาทอสูร

คนไทยเรานี่ก็เก๋นะ สรรหาชื่อเล่นมาเรียกแบบไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ตัวว่าเรากำลังสรรเสริญถึงเขาอยู่ อาทิ “โก้” น่าจะมาจากเม็กซิโกนะ ไว้ใช้เรียกพวกเพื่อนๆแรงงานต่างด้าวด้วยกันที่มาจากทวีปอเมริกาใต้ คนเหล่านี้หนีเข้ามาจนกลายเป็นพลเมืองอันดับ 2 ของเมกาไปแล้ว เพราะชายแดนอันกว้างใหญ่ ในครัวร้านฉันมีพี่โก้คนหนึ่งเคยวิ่งมาราธอนข้ามชายแดนเข้ามาเมกาด้วยล่ะ น่าส่งไปแข่งโอลิมปิกเหรียญทองแน่ๆ
“เกา” เกาหลี ความภาคภูมิใจแห่งความเป็นเอเชีย เป็นส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ทำให้แม่พิมพ์ที่ออกมาบิดเบี้ยว

“ผิณ” ฟิลิปปินส์ แถวร้านที่ฉันอยู่ สงสัยคงมีชุมชนชาวผิณอยู่ด้วย ทำให้ในแต่ล่ะวัน จะเจอลูกค้ามากลุ่มใหญ่หน้าตาเหมือนคนไทย สั่งอาหารเยอะ กินช้า ทิปน้อย

เด็ดสุดที่เป็นตำนานคู่ร้านอาหารไทย นั่นก็คือ “ไบ๋” ฉันพยายามถามหลายๆคนเหมือนกันว่าคำนี้มีที่มาจากไหน เพราะเรียกแล้วมันได้ใจมาก ไบ๋ ไบ๋ ไบ๋ ลองโยกคอยึกยักไปมาสิ มันเข้าจังหวะอย่างประหลาด

เที่ยงวันจันทร์ ฉัน ก้อบ และพี่เบน 3 คนอลเวงทำงานอยู่ในร้าน เหมือนมีลางสังหรณ์บอกล่วงหน้า เพราะตั้งแต่นั่งรถมาทำงานฉันเขม่นตาข้างขวาตลอดเวลา ขวาร้าย ซ้ายดี จะเจออะไรอีกนี่ เพียงกลับป้ายว่าเปิดเท่านั้น ร้านของฉันเหมือนถูกเกาหลียกพลขึ้นฝั่งโจมตี

ไม่รู้ว่าอะไรไปเข้าฝันเมื่อคืน ทำให้ชาวเกาพร้อมใจกันออกมากินข้าว แทบจะทุกโต๊ะในร้านจึงมีแต่หัวดำนั่งพรึบ ฉันยกอาการออกมาเสิร์ฟโต๊ะแล้วโต๊ะเล่า พี่เบนก็ไปเทคออเดอร์ ส่วนก้อบกำลังยกแก้วน้ำใส่ถาดใหญ่ลงเสิร์ฟ 3 คน มี 6 มือ ทำให้บางครั้งการบริการอาจล่าช้า
“หมดแน่ๆวันนี้” พี่เบนเดินส่ายหัวผ่านไป
“แก...ไปดูโต๊ะนั้นสิ เอาพริกส้มออกมากินเฉยเลย”
ฉันเดินเฉียดไปดู ไม่รู้ว่าแม่สาวเกาหล่อนไปตายอดตายอยากมาจากไหน พอนั่งลงก้นไม่ทันร้อน น้ำเนิ้มไม่ทันเสิร์ฟ หล่อนก็ขอพวงพริก(แบบที่ใช้ปรุงก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา)แล้วเทออกมากินอย่างเมามัน คงนึกว่ากำลังกินผักดอง ร้านทั้งร้านมีพวงพริกอยู่ 4 อัน ตอนนี้กระจายไปอยู่ตามมุมต่างๆ
“ขอพวงพริกหน่อย”
“ได้ครับ รอสักครู่นะครับ” ฉันเดินส่ายสายตาหาพวงพริก อยู่นี่เอง
“ใช้เสร็จหรือยังครับ ขอผมเอาไปให้ลูกค้าโต๊ะนั้นด้วยนะครับ”
“ซอรี่จ๊ะ ฉันใช้อยู่”
สรุปแม่พวงพริกไม่ยอมให้ฉันพรากเอาไปจากเธอได้ พอไปอีกโต๊ะใจดีให้มา มองดูเครื่องปรุงทุกอย่างที่ใส่ไว้เต็มตอนเช้า หมดเกลี้ยงแทบขอดก้น ร้านก็วุ่นวายอยู่แล้ว แต่ฉันต้องรีบวิ่งเข้าครัว เพื่อผสมพวงพริกอันใหม่ ซึ่งคาดว่าพอเอาออกไปก็คงหมดในเวลาอันรวดเร็ว เห็นบริการแบบถวายมดลูกอย่างนี้ อย่าแอบดีใจไปนะว่าจะได้ทิปเยอะ แทค 2 บาท น่าจะให้ขั้นต่ำที่ 4 บาท เอาเข้าจริงๆได้ 1 บาทก็บุญหอยแล้ว
ทีนี้มากันล่ะอีนาย ดึ๊ก ดึ๊ก ยึกยักโยกคอหน่อยให้เข้ากับบรรยากาศของการต้อนรับลูกค้าจากแดนภารตะ มากันเป็นครอบครัวเลย พี่เบนมองหน้าฉันก่อนส่งซิกให้เข้าไปจัดการ ก้อบหลีกหนีไปหลบอยู่หลังบาร์ ทำให้ฉันต้องเต้นส่ายสะโพกโชว์ดือเข้าไปหา

“สวัสดีจ้า อินาย กินไรดีจ๊ะ”
“สักครู่นะจ๊ะ เอาน้ำเปล่ามาก่อนได้ไหม”
“ได้จ้า” แล้วฉันก็ยกน้ำ 4 แก้ว ไปลงเสริ์ฟอย่างสวยงาม
“พร้อมหรือยังจ๊ะ ที่จะสั่งอาหาร” เงียบไม่มีเสียงตอบรับใดๆ แก้วน้ำถูกกระดกรวดเดียวเกลี้ยง
“อินาย ฉานอยากได้น้ำเพิ่ม ได้ไหมจ๊ะ”
“แฮะ แฮะ ได้สิจ๊ะ ทำไมล่ะ”
ฉันยิ้มแห้งเดินกลับมาอีกครั้ง เอาเหยือกใส่น้ำไปรินให้ทุกคนในโต๊ะ ไม่รู้ไปหิวน้ำมาจากไหนกัน กินน้ำยังกะอูฐ
“นี่อินาย ฉันเคยไปเที่ยวเมืองไทยด้วยนะ”
“ดีจัง ไปเที่ยวไหนมาหรือ”
“ภูเก็ต ฉันชอบมากเลย ทะเลสวยดี อาหารก็อร่อย ราคาถูกมาก”
“เหรอๆ”
“ทำไมราคาอาหารแพงจังล่ะนาย”

“เออ...เรานำเข้าวัตถุดิบจากเมืองไทยนะครับท่าน ส่งมาไกลมันเลยแพง” ว่าแล้วเชียวมัวแต่ดูราคาอาหารนี่เอง
“เอาผัดไทยล่ะกันนาย”
“ผัดไทยไรดี กุ้งหรือไก่”
“ผัดไทยกุ้งแพงกว่าไก่ไหม”
“แพงกว่า 3 เหรียญจ้า”
“ผัดไทยไก่ 4 จานจ้า ขอผักเยอะๆใส่น้ำมันน้อยๆ” เห้อ....ก็แค่นี้ล่ะ กว่าจะสั่งอาหารกินได้ก็เล่นเอาเหนื่อย พอส่งอาหารลงไปเสิร์ฟ ทุกคนมองอาหารที่อยู่ต่อหน้าเหมือนของประหลาด จากนั้นก็เขี่ยๆ
“ไม่เห็นเหมือนผัดไทยที่เมืองไทยเลยอินาย”
“คนล่ะสูตรกันจ้า”
“ขอไก่เพิ่มได้ไหม”
“ได้สิจ๊ะ ผัดเพิ่มคิด 2 เหรียญจ้า”
“ผักไม่ค่อยสดนะจ๊ะ”
“เหรอ เหรอ เหรอ”
จากนั้นมหกรรมการขอนั่น ขอนี่ ขอโน้นก็ตามมาติดๆ ฉันกับก้อบเดินสวนกันไปมา แต่จุดหมายปลายทางที่โต๊ะเดียวกัน กว่าจะกินเสร็จฉันก็แทบหมดแรง ปริ้นบิลล์ออกไปวางให้ สนนราคาอาหารรวมแทค 29.90 เหรียญ ฉันกุมเงิน 30 เหรียญมาไว้แน่น เพราะแกบอกว่าไม่ต้องทอน ได้ทิปมาตั้ง 10 เซนต์
“เป็นเหมือนกันหมดล่ะแก ที่ไหนก็เจอ ไอ้พวกเพื่อนๆผู้ชายเราที่ทำงานร้านเผ็ด ยังเคยได้ 2 เซนต์เลย แกได้เยอะกว่านะนี่ น่าภูมิใจมาก”

“น่าตบนะสิ แบบนี้คราวหลังฉันจะเอาแบบลูลู่มั่ง”
“ทำไง”
“มีไบ๋ไม่ให้ทิปมันเลยวิ่งออกไปตามที่นอกร้าน ไปถามว่าทำไม”
“อูย...แรงมาก”
“มันว่าไงรู้ไหม มันบอกว่าอาหารไม่อร่อย ลูลู่ก็เลยเถียงไปว่า แล้วทำไมเสือกแดกจนหมด ถ้ารสชาติห่วย มันเลยบอกลูลู่ว่ามันเสียดายเงิน ดูสิความแถของมัน”
“55555555555555”
“ลูลู่โมโหเลยบอกไปว่า อย่ากลับมาที่นี่ให้ฉันเห็นหน้าอีก”
“เริ่ดมากคะ”
“ดีนะที่ออกไปด่านอกร้าน อิอิ”
“ใช่ๆ ถ้าทำแบบนั้นในร้านแย่แน่ๆ”
“แกก็อย่าเสียงดังไป อย่าลืมนะ ร้านนี้มีกล้องเยอะกว่ารายการบิ๊กบราเทอร์อีกนะ คริคริ”




Create Date : 11 เมษายน 2550
Last Update : 18 เมษายน 2550 21:25:49 น. 3 comments
Counter : 730 Pageviews.

 
เจอลูกค้าสวาปามแบบนี้ก็แย่เลยนะคะ ทำงานหนักแถมไม่ให้ติ๊บอีก


โดย: Complicatedgirl วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:21:51:54 น.  

 
เอ๊ะ รวมกระทู้มาไว้ในบล็อครึเปล่าคะ ไม่ได้เข้า pantip นาน ไม่ update เลย แหะ แหะ

จะได้ตามอ่าน


โดย: asita วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:20:44:48 น.  

 
คล้ายๆกันคับ
แต่พวกแขก
พวกผมเรียกเค้าว่า
แครกเกอร์อ่ะ
(ต้องระวังเดี๋ยวนี้ผู้โดยสารที่เป็นแขกพูดไทยได้เยอะ)


โดย: Kurt Narris วันที่: 28 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:09:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Be a good guy
Location :
New York CityBoy United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กจากทุ่งกุลาร้องไห้ฯฝันไกลในนิวยอร์ค
Friends' blogs
[Add Be a good guy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.